ดวงใจปักษา11
ตอน หวนระลึกถึงอดีต 2
..." กัณฑะ...ที่นอกเมืองฟากนั้น เจ้ามองเห็นอะไรรึป่าว เจ้าลองมองดูทีซิ รึว่านั่นคืออะไร!! "
" กลุ่มขบวนนั่นนะรึ..พระเจ้าค่ะ! "
" ใช่!!..เราอยากจะรู้ว่า ผู้คนเหล่านั้น อพยพไปที่ใดกัน!! "
" หม่อมฉัน จักออกไปสืบข่าวให้ พระเจ้าค่ะ "
ณ ที่ราบลุ่มชายป่านอกเมือง ขบวนผู้คนที่ถยอยเดินมาเหล่านั้นตกอยู่ในสายตา ของราชองครักษ์สนิทขององค์จ้าวแสน
ในขบวนได้มีทหารชายคุมขบวนมาราวๆ70คนที่เป็นทหารส่วนที่เหลือก็มีเพียงหญิงชรา กับเด็กๆหญิงชายและผู้ที่บาดเจ็บอีกราวๆ20คน
รวมๆแล้วได้ราว150คนในขบวน กัณฑะมองดูจนขบวนนั้นหยุด เพื่อพักตรงชายป่าห่างจากเมืองราวๆสิบกิโล
หลังจากที่แอบซุ่ม ตรวจดูจนขบวนคาราวานนั้น ตั้งกองพักเรียบร้อย กัณฑะจึงแอบหลบเข้าไปในขบวนคาราวาน เพื่อหวังสืบข่าว เขาได้เจอกับหญิงชราผู้หนึ่ง ที่นั่งอยู่ห่างจากตัวกองขบวนพอสมควร จึงมุ่งตรงไปยังหญิงชราผู้นั้น พร้อมกับแสดงตัวให้เห็นเพื่อสอบถามข่าวคราว...
" ท่านยาย..นี่จักพากันเดินทางไปยังที่ใดกันรึ? แล้วใยในขบวนถึงมีแต่คนชราและเด็ก? พอจักบอกได้รึไม่?!! "
" พวกเราอพยพหลบหนี มาจากเมืองทางใต้ เพื่อหวังจักไปขอพึ่งใบบุญ ต่อองค์ท้าวพญาสุทโธเจ้า
"เพราะบ้านเมืองของพวกเราได้เกิดสงคราม พวกเราที่เป็นชายหนุ่ม ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เพื่อปกป้องเมืองกันหมด จักเหลือก็เพียงคนแก่กับเด็กนี่ล่ะ พ่อคุณ! " หญิงชราบอกกล่าวแก่กัณฑะ
" แล้วนี่พวกท่านยายเดินทางรอนแรมกันมานานรึยัง ใยข้ามิรู้ข่าวว่ามีสงครามเกิดขึ้นที่เมืองใดเลย "
" บ้านเมืองของพวกเรา เป็นเพียงเมืองเล็กๆอยู่กันไม่มาก อยู่กันแบบครอบครัว พี่น้องในชุมชนมีผู้คนในชุมรวมๆกันได้ราวๆหกร้อยครอบครัวเท่านั้น"
"พอขบวนกองทัพผ่านมา ถึงชุมเมืองของพวกเรา พวกเราก็ถูกขับต้อนปล้นสะดม พวกเราต้านไม่ไหว จึงทิ้งชุมเมือง เพื่อหลบหนีมา จึงมีแต่คนแก่และเด็กๆนั่นแล " หญิงชรากล่าว
" แล้วขบวนกองทัพนั่น เป็นของนครใดกันรึ ท่านยายพอจักทราบรึไม่?! " กัณฑะสอบถาม..
" ยายได้ยินจากพวกทหารมาว่า เป็นกองทัพจาก' นครอนันตะศิลาลัย ' ยกไปเพื่อหวังตีเมืองทางใต้ "
" ข้าขอบน้ำใจท่านยายมากนะ ที่แจ้งข่าวให้ข้าได้ทราบ ประเดี๋ยวข้าจักเดินทางเข้าเมืองไปก่อน เพื่อแจ้งข่าวนี้ให้องค์เหนือหัวทรงทราบ และรบกวนท่านยาย แจ้งแก่ผู้คุมกองขบวนด้วยว่า...
"ทางเมืองแสนเพตรา ยินดีต้อนรับทุกคน หากว่าพากันเดินทางไปถึงประตูเมือง ก็บอกแก่ทหารประจำประตูเมืองว่า " ข้ากัณฑะองครักษ์ขององค์จ้าวแสนธนบดินทร์ บอกให้มาที่นี่ อย่าลืมล่ะท่านยาย..ข้าไปก่อนนะ "
..เมื่อรู้ถึงข่าวเหตุการณ์ดีแล้ว กัณฑะจึงแยกออกจากหญิงชรา และถอยหลบออกมา จากขบวนคาราวานอพยพ กลับเข้าเมืองมาเพื่อแจ้งข่าวแก่นายตน..
พอมาถึงประตูหน้าเมือง กัณฑะก็เรียกนายทวารที่เฝ้าประตูพร้อมสั่งกับชับให้ดูแลขบวนอพยพอย่างดี จากนั้นจึงแยกตัวไปยังเรือนของนายตน...
................
ณ เรือนพักขององค์จ้าวแสน กัณฑะมาถึง ก็ขึ้นมาบนเรือนก็มองเห็นองค์จ้าวแสนยืนอยู่ ยังชานเรือน จึงตรงเข้าไปหาเพื่อรายงานข่าว
" องค์จ้าวแสน พระเจ้าค่ะ องค์จ้าวแสน.."
" ว่าไง..กัณฑะ! ได้ข่าวอันใดมารึ?"
" ขบวนกลุ่นนั้นเป็นขบวนคาราวานของผู้อพยพ มาจากทางใต้ พะย่ะค่ะ"
"ในขบวนมีเพียงแค่หญิงชราและเด็กๆ มีทหารคุ้มกันมาด้วยราวๆ70คน และข้าพระองค์ได้สั่งกำชับนายทวาร ที่เฝ้าประตูให้คอยต้อนรับขบวนอพยพนั้นแล้ว พระเจ้าค่ะ"
"นายท่านคงมิว่ากระไรนะ พะย่ะค่ะ ที่ข้าพระองค์ทำเกินคำสั่ง " กัณฑะบอกแจ้งต่อนายเหนือหัวตน..
" มิเป็นไรหรอก..กัณฑะ เจ้าทำดีแล้ว หากเป็นเรา เราก็ทำแบบเจ้า ว่าแต่ว่า..ผู้คนเหล่านั้นจักมาถึงประตูเมืองเพลาใด?! "
" คงมิเกินคืนนี้ พระเจ้าค่ะ หากช้าก็คงวันรุ่ง เพราะท่าทางดูอ่อนเพลียกันทั้งขบวน เพราะมีแต่เด็กกับคนชรา พระเจ้าค่ะ "
" กัณฑะ..ให้เจ้าไปสั่งหมอหลวง และหมอโหรเอาไว้ เพื่อคอยตรวจดูแลผู้คนให้พร้อม แลจัดเตรียมเสบียงเอาไว้ต้อนรับ ผู้คนเหล่านั้นให้ถ้วนถี่
อย่าให้ขาดเหลืออันใด หากสิ่งไหนขาดก็แจ้งกับกรมกองนั้นๆได้เลย ว่าเป็นคำสั่งจากเรา!!.."
" พะย่ะค่ะ พระองค์..หม่อมฉันจักไปเตรียมการให้พร้อม..พระเจ้าค่ะ "
" ดี!!..ส่วนเราจักเข้าไปกราบทูลต่อพระบิดาให้ทรงทราบเรื่อง "
**********************************