webnovel

          บทที่ 5 ไชยสรวงพญาครุฑ

ลมพายุโหมรุนแรงพัดธันน์จนเกือบปลิว หัวใจเขาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ราวกับจะระเบิดออกมาเสียให้ได้

เขามองซ้ายขวาก็ไม่อาจเห็นเจ้าของเสียงซึ่งเหยียดหยาม สัญชาตญาณเตือนให้เขารับรู้ถึงอันตราย หันหลังวิ่งหนีโดยไม่ต้องคิด

"หนีรึ? มิว่าจักหนีอีกกี่ชาติภพ จักเกิดเป็นมนุษย์หรือเดรัจฉาน เจ้าก็มิอาจพ้นเงื้อมือข้าผู้เป็นองค์พญาแห่งปักษา"

เขาวิ่งสุดกำลัง แต่ยิ่งวิ่งยิ่งเจอกระแสลมตีใส่ ธันน์รีบเปลี่ยนทิศ วิ่งทางตรงข้ามกับทิศลม

เมื่อวิ่งผ่านต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รู้สึกมีเงาทมึนทาบลงมา ธันน์อดเงยหน้ามองไม่ได้ เห็นครุฑร่างสูงใหญ่ผิวสีครามเข้ม จะงอยปากสีทองแวววาว โบยบินเหนือพฤกษา จับจ้องมาด้วยสายตาอาฆาต

ธันน์สะดุ้งเฮือก หันหลังหนีทันที แต่เพียงวิ่งได้สักพัก เบื้อนหน้าพลันปรากฏมนุษย์ปักษาร่างสูงใหญ่ เดินมาหาเขาอย่างใจเย็น

"อะไรเนี่ย"

ไม่รู้ว่าพูดคำนี้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาหิมพานต์ เรื่องที่เขาเจอมีแต่เรื่องเหลื่อเชื่อน่าหวาดหวั่น ธันน์หยุดเท้ากะทันหัน วิ่งไปยังทิศตรงข้ามกับที่พญาครุฑกำลังมา

แม้จะวิ่งสุดฝีเท้า แต่ไม่อาจรอดพ้นเจ้าปักษา เมื่อเงาปีกนกมนุษย์ทาบลงมาจากบนฟ้า มันบินตามติดเขาดุจเงาตามตัว

"น่าสมเพช นวเรศ เมื่อก่อนยังมีความสง่ากว่านี้นับร้อยเท่า"

วูบ!

เพียงพริบตา มนุษย์นกก็เหินลงมา จอมปักษายืนขวางหน้า ธันน์เบรกไม่ทันจึงชนกับร่างอีกฝ่ายซึ่งแกร่งไม่ต่างจากเสาหิน เขาเป็นฝ่ายล้มลงเอง

"โอ๊ย!"

ทว่าชายหนุ่มหาได้อ่อนแอ กำหมัดแน่นพร้อมโถมกายใส่ หมัดอันรุนแรงชกใส่หน้าท้องซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ก็ไม่ต่างจากต่อยใส่กำแพงเหล็ก

ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเจ็บปวดเสียเอง นิ้วบวมแดงเล็กน้อย สะบัดมือเบา ๆ พร้อมเงยหน้าถาม

"ต้องการไรวะ"

พญาครุฑปีกครามผายมือ

"มอบมา"

"มอบอะไร?"

"สิ่งที่เจ้ารับปากจักให้ข้า"

ธันน์มองแหวนในมือ

"หมายถึง...แหวนนี้?"

"มิใช่แหวน ข้าต้องการแค่เพชรนพเก้า"

"ถ้าฉันให้เพชรแก จะเลิกยุ่งกับฉันไหม?"

"มอบมา"

เสียงเย็นชาย้ำ นัยน์ตาดุจพญาอินทรีจ้องเขม็ง แต่ธันน์ยังคงไม่ยอม

"ตอบมาก่อนสิ!"

"อย่าได้ต่อรองกับข้า นวเรศ เจ้ามิได้มีหนทางมากนัก"

"ถ้าแกไม่รับข้อเสนอ ฉันก็ไม่ให้"

ธันน์รู้ดีว่าเพชรนพเก้าคือโอกาสเดียวที่จะช่วยให้เขารอดชีวิต เขาไม่มีวันยอมถอดจากนิ้วแน่

ปีกของพญาครุฑสยายกว้างเล็กน้อย จากนั้นโบกไปเบื้องหน้า กระแสลมพุ่งออกมาอย่างรุนแรง ซัดร่างธันน์ปลิวกระเด็น

ตุบ!

ชายหนุ่มกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง เจ็บปวดแทบจนแทบลุกไม่ไหว ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้นเลยด้วยซ้ำ ครุฑผิวครามก็มายืนอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว

"ไอ้บ้าเอ๊ย"

โทสะปะทุขึ้นถึงที่สุด กระโดดต่อยหน้าครุฑโดยไม่สนใจความเป็นตาย ทว่าไชยสรวงคว้าข้อมือธันน์อย่างรวดเร็ว เหวี่ยงร่างอีกฝ่ายอัดใส่พื้น

อีกครั้งแล้วที่เจ็บเหมือนกระดูกจะแตก แต่สีหน้าธันน์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ครุฑตนนี้ช่างไร้เหตุผล เขาไม่มีวันยอมแพ้มัน

"มาสิวะ!"

ลุกขึ้นวิ่งเข้าใส่ แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ แรงลมก็กระโชกมา ซัดร่างเขาล้มลงพื้นอีกครั้ง

"หากเจ้ามีฤทธาเพียงเท่านี้ เจ้าก็มิใช่คู่มือข้า"

พญาครุฑกระพือปีกเข้าหา คว้าคอเสื้อยกอีกฝ่ายขึ้น

"มอบเพชรนพเก้ามา จากนั้นตามข้ากลับวังสุบรรณเทวะ เจ้าจักต้องเป็นมเหสีบำเรอข้า จนกว่าข้าจักพึงใจ"

"หา?"

ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากค้าง

"กะ...แก...พูดว่าอะไรนะ?"

"เจ้าเคยได้ลั่นสัจจะวาจาไว้ หากข้าช่วยเจ้าค้นหามณีทั้งเก้า เจ้าจักสละซึ่งฐานะแห่งมหาเทวดา ขึ้นครองราชย์เป็นอัครมเหสีแห่งวงศ์ครุฑ"

"จะบ้าเรอะ ฉันเนี่ยนะจะยอมเป็น...เป็นเมียแก!"

คำว่ามเหสีไม่ใช่คำยาก ธันน์เคยได้ยินจากหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ สมัยเด็ก แถมพวกซีรีส์จีนแนวในรั้วในวังก็ใช้คำนี้เช่นกัน

"หากมิยอมกระทำตามวาจาสัตย์ ข้าจักเลาะกระดูกเจ้าออกโดยที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ต้องทนทรมานตราบชั่วนิรันดร์"

แผ่นหลังเย็นวาบเมื่อได้ยินคำขู่ กำลังของเขากับครุฑคลั่งตนนี้ต่างกันเกินไป ไม่ว่าอย่างไรก็สู้ไม่ได้

ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว หรือจะแกล้งยอมมันไปก่อนค่อยหาหนทางเอาตัวรอด

"วัง...วังของแกอยู่ที่ไหน?"

"บนสวรรค์ชั้นฟ้า เหนือท้องนภานับพันโยชน์[1]"

คิ้วขมวดชนกัน กล้ามเนื้อทั่วหน้าเขม็งตึง หากเขาต้องตามครุฑคลั่งตนนี้ไปอยู่บนฟ้า คงไม่มีหวังได้กลับมาบนพื้นดินแน่ แล้วอย่างนี้เขาจะหาหนทางหนีได้ยังไง

ไม่ได้...ยอมไม่ได้เด็ดขาด!

"ฉันจะให้เพชรแกก็ได้ แต่ฉันไม่ไปกับแก"

"เจ้ามิอาจปฏิเสธข้า นวเรศ สิ่งใดที่ข้าปรารถนา ข้าจักต้องได้ตามประสงค์"

แม้จะเจรจากัน แต่ธันน์ก็เอะใจขึ้นมา ครุฑครามตนนี้มีกำลังมากกว่าเขาเป็นร้อยเป็นพันเท่า หากคิดจะถอดแหวนจากมือเขาก็ง่ายนิดเดียว แต่ทำไมต้องบีบให้เขามอบเพชรให้

'เพราะเจ้าเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา แต่มีเจ้าเท่านั้นที่ใช้มันได้'

คำกล่าวของนรสิงห์แวบขึ้นมาในหัว เพราะเพชรนพเก้าเป็นของเขา ต่อให้พญาครุฑช่วงชิงมันไป ก็คงไม่อาจใช้มัน

รอยยิ้มนักธุรกิจหนุ่มผุดขึ้นที่มุมปากทันที

"งั้นเหรอ? แกอยากได้อะไรก็ต้องได้งั้นเหรอ? แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ"

นัยน์ตาเจ้าแห่งปักษาหรี่ลง น้ำเสียงเย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นทุ้มต่ำ

"เจ้าว่ากระไร?"

"ฉันบอกว่า...หากฉันไม่ให้เพชรนี้กับแก แกจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้?"

มืออันแข็งแกร่งกระชากร่างธันน์เข้าใกล้จอมพญาครุฑ

"อย่าได้ลองดีกับข้า เจ้ามิมีแม้กระทั่งมนตราเล็กน้อยปกป้องตัว"

"ถึงไม่มีมนตรา แต่ฉันก็ไม่ให้เพชรแก ทรมานฉันสิ ฆ่าเลยก็ได้ ดูซิว่าจะเอาเพชรไปได้ยังไง"

"บังอาจไปแล้ว!"

มือของจอมพญาสั่นระริก สีหน้าเดือดดาลสุดประมาณ แต่ธันน์กลับฉีกยิ้มกว้าง เขาต่างหากเป็นฝ่ายที่ถือไพ่เหนือกว่า

"รับปากสิว่าจะเลิกยุ่งกับฉัน แล้วฉันจะให้สิ่งที่แกต้องการ"

"มิเคยมีผู้ใดขู่ข้าสำเร็จ นวเรศ แม้แต่องค์อินทราเทวราชแห่งสวรรค์ก็ยังมิกล้าเอ่ยวาจาโอหังเยี่ยงนี้ จงอย่าลืม ยามนี้เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา หาได้มีฤทธาจักต่อกรกับข้าไม่"

"ถึงไม่มีฤทธิ์ แต่ก็ไม่ให้เพชร แกจะทำไม?"

"ตกลง!"

เสียงของมันโหดเหี้ยมอำมหิต จากนั้นพลันกูร้องเสียงแหลม คลื่นเสียงประหนึ่งมีดแหลม กรีดเยื่อแก้วหูธันน์ให้ฉีกไป

พญาครุฑใช้คลื่นเสียงอันทรงฤทธาของวงศ์ปักษา หมายทรมานอีกฝ่ายให้ยอมมอบแหวนเอง

"จักหรือมิให้?"

"ไม่ให้!"

ไชยสรวงตะเบ็งเสียง

"จักให้รึมิให้?!"

"ไม่มีทาง!"

เจ็บจนเหมือนจะเลือดไหลออกมาจากในช่องหู แต่ก็ฝืนทนสุดกำลัง เขาไม่มีทางเอ่ยปากมอบเพชรนพเก้าให้มัน ไม่อย่างนั้นเขาต่างหากที่จะเป็นฝ่ายจบเกม

"จักให้หรือมิให้?!"

"ไม่ให้!"

พญาครุฑร้อง

"นวเรศ!"

เหงื่อผุดเต็มใบหน้า สีหน้าสุดแสนทรมาน คิ้วขมวดชนกัน กล้ามเนื้อบิดเบี้ยวจนน่ากลัว

ธันน์ทนต่อความเจ็บ เค้นเสียงอย่างยากลำบาก

"แก...แก...ต้องรับ...รับปาก...เลิกยุ่ง...กับฉัน"

"มิมีทาง!" พญาครุฑตวาดลั่น เพิ่มเสียงคลื่นแหลมสูงมากยิ่งขึ้น

สติธันน์พร่าเลือน ดวงตาเบลอมองไม่เห็นร่างอีกฝ่ายชัด หูเขาอื้อจนฟังไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ใจท่องไว้อย่างเดียวคือไม่ให้

"ไม่ให้...ฉันไม่...ให้"

แม้เสียงจะอ่อนลง แต่ยังแฝงความเด็ดเดี่ยว ไชยสรวงมีโทสะนัก กรงเล็บในมือซ้ายตวัดใส่คออดีตเทวดาทันที

"โฮก!"

เสียงคำรามแห่งราชสีห์เจ้าป่า ตามด้วยร่างทองอันสูงใหญ่ซึ่งทะยานอย่างรวดเร็วดุจดาวตก ไชยสรวงใจหายวาบ แม้จะรู้สึกตัวแต่ก็สายเกินการณ์

ผลัวะ!

สี่หมัดแห่งราชสีห์ต่อยเข้าที่ใบหน้าและลำตัวจอมปักษาอย่างหนักหน่วง ร่างไชยสรวงลอยละลิ่ว ขณะที่ธันน์ร่วงลงพื้น

นรสิงห์ใช้แขนขวารับธันน์ไว้ สายตาของเจ้าสัตว์ป่าจ้องอย่างเดือดดาล

"ไฉนเจ้าจึงมิฟังข้า!"

แม้ตวาดเสียงดัง แต่แก้วหูธันน์กำลังอื้อ จึงได้ยินเพียงแผ่วเบา

"นาย...นาย..."

ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามมาช่วยตนถูก แม้จะรู้สึกแปลกใจ แต่ความชิงชังที่มีต่อนรสิงห์ตนนี้ก็ลดลงไปมาก

"ไป รีบไป!"

นรสิงห์สั่งเด็ดขาดพร้อมวางร่างธันน์ ชายหนุ่มพยักหน้า ขณะที่เขาจะรีบหนี เสียงแหลมก้องก็ดังทั่วท้องนภา

"จักหนีอีกรึ? มิมีทาง!"

ปีกแห่งพญาครุฑโบกกว้าง แต่แทนที่จะสร้างแรงลม กลับเกิดแรงลมย้อนกลับ สูบร่างธันน์และสีหราชาเข้าไปหามัน

ด้วยกายอันแข็งแกร่งของมนุษย์ครึ่งสิงโต จึงไม่ถูกแรงลมสูบเข้าหา แต่ธันน์ซึ่งมีเพียงกายมนุษย์ธรรมดา ลอยละลิ่วเข้าหาศัตรูอย่างไม่อาจควบคุม

เขาร้องลั่น แต่มือของสีหราชาก็คว้าแขนเขาไว้อย่างรวดเร็ว จากแยกเขี้ยวเปล่งเสียงราชสีห์คำราม คลื่นเสียงอันรุนแรงกระแทกครุฑครามกระเด็นไป

นรสิงห์ประคองร่างธันน์ให้ยืน

"ไปซะ หากยังอยู่ที่นี่ ข้าคงคุ้มครองเจ้ามิได้"

"คุ้มครองฉันเหรอ?"

"เจ้าเคยให้สัตย์ว่าจักมอบชีวิตให้ข้า ส่วนข้าก็เคยให้สัตย์ว่าจักคุ้มครองเจ้าจนกว่าชีวิตจักหาไม่"

นรสิงห์สารภาพ ธันน์อดตะลึงในความหนักแน่นของอีกฝ่ายไม่ได้ คนที่รักษาคำพูดด้วยชีวิตขนาดนี้ ในมนุษย์ภพยุคของเขาเกรงว่าหนึ่งในล้านก็ยังหาไม่ได้

ไชยสรวงตะโกนมา

"เจ้ามันเขลานักนรสิงห์ราชา โดนวาจาปลิ้นปล้อนหลอกลวงจนตกจากบัลลังก์ก็ยังมิเข็ดหลาบ"

ธันน์เอะใจทันที

นรสิงห์ราชา? (ราชาแห่งเผ่านรสิงห์)

ราชา...มนุษย์สิงโตตนนี้เป็นราชาเหรอ?

แล้วทำไมถึงอาศัยอยู่ในถ้ำราวกับคนป่าล่ะ?

เห็นเงายักษ์พุ่งวาบ กระแทกใส่สีหราชาจนกระเด็น แต่นรสิงห์ก็ลุกขึ้นสู้ กวัดแกว่งแขนทั้งสี่โถมเข้าหาศัตรู

การต่อสู้ของสองพญากระเทือนไปทั่วบริเวณ เกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ แผ่นดินและต้นไม้สั่นไหว ราวกับโลกนี้ใกล้จะถึงกาลวิบัติ

ธันน์รู้ตัวว่าไม่อาจเข้าแทรกการต่อสู้อันดุเดือดได้ จึงหันหลังวิ่งหนีตามที่นรสิงห์สั่ง หัวใจเต้นสั่นอย่างรุนแรง นี่เขาไปทำอะไรไว้กันแน่

นรสิงห์ราชาต่อสู้กับองค์พญาครุฑ สี่กรร่ายรำเพลงหมัดอันดุดัน ปะทะกับปีกแห่งพญาปักษาซึ่งสะบัดมานับครั้งมิถ้วน ต่อสู้กันนับร้อยกระบวนเพลง

ต่างทรงฤทธาด้วยกันทั้งคู่ มิมีผู้ใดยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กายสีหราชาแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า แต่พญาครุฑาไชยสรวงก็มีมนตราแห่งวายุ

ฝ่ายหนึ่งคำรามเปล่งคลื่นเสียง อีกฝ่ายโบกปีกเรียกวายุเวท พลังลมและคลื่นเสียงปะทะกัน เกิดคลื่นระเบิดกึกก้องกลางอากาศ

โครม!

ต่างร่างสั่นสะท้าน ถอยกายไปหลายก้าว สีหราชาทรงกายได้เร็วกว่า ทะยานเข้าหาพญาปักษาดุจเหินบิน

ทว่าไชยสรวงพลันแสยะยิ้ม กล่าวระหว่างที่สีหราชาจะใกล้เข้ามา

"เพราะความรักอันงมงายของเจ้า ทำให้ครอบครัวเจ้าต้องสิ้นไป"

สีหราชาถูกวาจารบกวนเสียสมาธิ ชะลอความเร็วเล็กน้อย ชั่วพริบตานั้น ปีกยักษ์ก็ฟาดเขากระเด็น ตามด้วยกรงเล็บเท้าขององค์พญาครุฑที่กดใส่ร่างเขาจมลงดิน

"จงตายเพื่อบูชารักให้สมใจเจ้าเถิด นรสิงห์ผู้โง่เขลา"

แม้จะมีผิวกายซึ่งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก แต่กรงเล็บแห่งองค์พญาครุฑก็แหลมดุจเทพศาสตรา ปลายเล็บเจาะลงช้า ๆ ทะลวงผิวหนังอันแข็งแกร่งของมนุษย์เศียรสิงโต...

------ จบตอน -----

[1] 1 โยชน์เท่ากับ 16 กิโลเมตร , 1000 โยชน์ เท่ากับ 16000 กิโลเมตร