" ความดี ก็ตาม ความชั่ว ก็ตาม
เป็นสิ่งที่ทำได้ทุกเวลา แต่ทำสองอย่างพร้อมกันไม่ได้
จึงต้องตัดสินใจเลือกว่า.... จะทำความดีหรือความชั่ว "
-- สมเด็จพระญาญสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก --
นิมนิม ชอบเขียนธรรมะคำสอนด้วยลายมือของตนเองบนกระดาษ แล้วนำไป
แปะติดไว้ที่ผนังห้องนอน เพราะชีวิตของเธอในภพชาตินี้นั้น ได้รับแสงสว่าง
ที่มหัศจรรย์มากมายจนไม่สามารถบอกเล่าให้ผู้ใดฟังได้ทั้งหมด จากการศึกษา
เรียนรู้ แล้วลงมือปฏิบัติธรรมตามพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งพระองค์ฯ คือพระพุทธเจ้าพระองค์ที่สี่(พระโคตมพุทธเจ้า) จากจำนวน
ทั้งหมดห้าพระองค์ ที่ซึ่งเรียกขานกันว่า "พระเจ้าห้าพระองค์"
อันหมายถึง : พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ซึ่งเชื่อกันว่าเสด็จมาบังเกิดใน *ภัทรกัป*
คือ กัปปัจจุบัน ได้แก่..... พระกกุสันธพุทธเจ้า(1) พระโกนาคมนพุทธเจ้า(2)
พระกัสสปพุทธเจ้า(3) พระโคตมพุทธเจ้า(4) พระศรีอริยเมตไตรย(5)
การปฏิบัติธรรมสำหรับนิมนิม คือการยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต
ทั้งความทุกข์ และ ความสุข เมื่อจิตของเรายอมรับความเป็นจริงได้เสมอ
ทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ เราจึงสามารถอดทนอดกลั้นและมีสติสัมปะชัญญะ
ในการดำเนินชีวิตในแต่ละช่วงขณะ ให้ผ่านไปได้ด้วยความสงบ เรียบร้อย
ตามสมควรแก่ฐานะและสภาพชีวิตที่แท้จริงบนโลกของเรา
นิมนิม รู้ดีว่าเธอเองจะต้องตั้งสติเพื่อช่วยชีวิตของตัวเอง ให้รอดผ่านจากจุด
ที่กำลังโคม่าขึ้นทุกขณะนี้ไปให้ได้!! เธอวางโทรศัพท์มือถือลงบนที่นอน
จากนั้นเธอพยายามหายใจช้าๆ..... เพื่อให้สามารถสูดอ๊อกซิเจนเข้าสู่ปอด
ให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาการในขณะนี้ธาตุลมในร่างกายของเธอกำลังพุ่งพล่าน
และผลักดันอยู่ภายในร่างกาย จึงทำให้เป็นการยากมาก! ที่เธอจะสามารถหายใจ
เอาลมเข้าไปซึ่งสวนกระแสกับลมที่ พองออก ๆ นิมนิมค่อยๆ ขยับตัวด้วยสติ
ไปบนพื้นของที่นอนซึ่งปูอยู่บนพื้นห้อง บริเวณปลายเท้า(ปลายเตียงพยาบาล)
ของมารดาผู้ให้กำเนิดซึ่งท่านนอนป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง จนกระทั่งเธอ
สามารถคว้าถุงยากับถุงพลาสติกเอาไว้ในมือได้
นิมนิม รีบดึงถุงพลาสติกเปล่าสะอาด กางออกเพื่อครอบจมูกและริมฝีปาก
ของตนเองเอาไว้ ก่อนที่เธอจะพยายามเปล่งเสียงเรียกบุตรชายของเธอ
ที่อยู่ข้างนอกห้องนอน
" น้องณิว ๆ ๆ ช่วยแม่ด้วย! ณัทครับ ๆ ๆ ช่วยแม่ด้วย
ได้ยินไม๊! ณัทณิว ช่วยแม่ด้วยลูก!! "
นิมนิม มีเสียงที่เปล่งออกมาเบามากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเสียงของคน
ที่สามารถใช้เสียงได้ตามปกติแล้ว นั่นคือการตะโกนของเธอตอนนี้จะมีระดับ
ความดังของเสียงอยู่เท่าๆ กับเสียงคนพูดคุยกันตามปกติ แค่นั้นเอง
สาเหตุที่เธอมีเสียงที่เบามากๆ นี้ เกิดจากภาวะหลอดเสียงของเธออักเสบ
เรื้อรังมาตลอดตั้งแต่ 24 ปีก่อนและเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เธอคอบวม
กล่องเสียงบวม ต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางมาโดยตลอด
จนถึงเมื่อ 14 ปีก่อน แพทย์ผู้รักษาเธอได้บอกว่า
: " กล่องเสียงบวมเรื้อรังอักเสบมากๆ ทำให้สายเส้นเสียงบางลงเรื่อยๆ
คนไข้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเสียง เพื่อรักษากล่องเสียงแล้วนะครับ
มิฉะนั้น ต่อไปคนไข้อาจจะไม่สามารถพูดออกเสียงได้ตามปกติ
และต้องหยุดการทำงานทุกอย่างที่ต้องใช้เสียง ตลอดไปครับ!!!! "
เดชะบุญ! และด้วยความเมตตาของเทพเทวาอารักษ์ที่ปกปักรักษาภายใน
บ้านเรือนของผู้ที่มีการไหว้พระ สวดมนตร์ และ เจริญภาวนา แผ่เมตตาจิต
เป็นประจำอยู่เสมอมิได้ขาด จึงดลให้เสียงตะโกนอันเบาหวิวของนิมนิม
ไปกระทบกับโสตประสาทของบุตรชายของเธอทั้งสอง พลัน!
ประตูห้องนอนซึ่งเป็นห้องผู้ป่วยติดเตียงคือคุณยายสุดที่รักของ
หลานชายทั้งสามคน ก็เปิดออก พร้อมกับณัทและณิวหนุ่มน้อย
ตัวผอมสูงเก้งก้างสองคนพี่น้อง รีบเดินเข้ามาหามารดาของพวกเขา
" แม่ครับ แม่จะให้ผมทำอะไรครับ? บอกมาเลยครับแม่ "
ณัท ซึ่งตอนนี้มีอายุ 17 ปี รีบพูด อย่างมีสติที่ดี!
กับมารดาของตน ผู้ที่มีใบหน้าซีดเซียวหมองคล้ำจนน่าตกใจ
"แม่ไม่สบายมากๆ... ลูก... มี.. เวลาไม่นานแล้ว!! ไปตาม.. คนข้างนอก
ให้..มาอุ้มแม่ขึ้นรถไป...โรงพยาบาลด่วนครับ ณิวรีบไปตาม..พี่พรพี่ภา
ให้มาดูแลคุณยาย...ตอนที่เอาแม่ไป..โรงพยาบาล..ครับ"
นั่นคือถ้อยคำสุดท้าย ที่นิมนิมสามารถพูดให้ทุกคนได้ยินได้
หลังจากนั้นความชุลมุนก็เกิดขึ้นรอบตัวของเธอผู้ซึ่งกำลังจะหมดสติ!
แต่พยายามตั้งสติสู้!! ด้วยการหลับตา จับถุงพลาสติกครอบจมูกและปาก
ของตนไว้ตลอดเวลา ในใจเธอน้อมตั้งจิตถึง "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
ด้วยการท่องบทสวดมนต์ : *นะโมสรรเสริญพระพุทธเจ้า* ดังนี้...
" นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ "
จากนั้น นิมนิมจึงท่องบทภาวนาที่เป็นการตั้งจิตขอวางชีวิตทั้งหมดของเธอ
แด่พระรัตนตรัย อันเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงที่สุดของสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้
เธอตั้งจิตภาวนาบทนี้เพียงบทเดียวไปเรื่อยๆ
: " พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ "
* "..................." *
ขณะที่ร่างของเธอถูกอุ้มออกจากบ้านไปขึ้นรถ และถูกนำตัวส่งห้องไอซียู
ของโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 15 นาที จิตของเธอยังคงสวดภาวนา
* ".................. ต่อไปเรื่อยๆ .................................." *
แม้ในขณะที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตสารพัดอย่าง ที่ทางแพทย์
และพยาบาลผู้ซึ่งกำลังพยายามช่วยชีวิตของเธอนั้น กำลังระดม
สรรพกำลังใช้อุปกรณ์ทุกอย่าง อยู่ตามกายเนื้อส่วนต่างๆ ของเธอ
นิมนิม สลบเหมือนคนนอนหลับไปพร้อมๆ กับการยังคงภาวนาถึง
คุณแห่งพระรัตนตรัยอันประเสริฐ.... 3 วันต่อมา เธอสามารถออกจาก
โรงพยาบาลและกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ สิ่งแรกที่เธอเลือกทำคือ
การขอให้น้องณิวชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้ จนแบตเตอรี่เต็ม
แล้วเธอได้ขอให้บุตรชายคนเล็กของเธอ ซึ่งปัจจุบันณิวมีอายุครบ
15 ปีแล้ว ได้พิมพ์ข้อความส่วนตัวส่งไปถึงพีพี
"พีพี ที่รักและผูกพันยิ่ง..... , นายอาจจะเลือกไม่ตอบคำถามของเรา
ตามความเป็นจริง? แต่ในวันนี้เรามีเหตุที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่แท้แล้วว่า
**นายมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวตลอดมา กับผู้จัดการส่วนตัวของนาย**
เรายอมรับความเป็นจริงนี้โดยดุษฎี และอยากบอกนายในฐานะที่เราเป็นลูกผู้หญิง
คนหนึ่งว่า : หากนายพบคนที่เขารักและดีกับนายมาตลอด นายต้องรักษาคนๆ นั้น
เอาไว้ให้ดีที่สุด!! เพราะบนโลกใบนี้การที่เราจะได้พบใครสักคนที่ยอมมอบกาย
ถวายชีวิตตน เพื่อใครสักคนจริงๆ นั้น เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก!!
จริงอยู่ แม้ว่าเราจะต้องสูญเสียและผิดหวังเสียใจมากที่สุดอีกครั้งในชีวิต??
แต่เราก็รู้สึกสบายใจภูมิใจ ที่ตนเองสามารถแยกแยะระหว่างความรัก
กับความถูกต้อง ได้!! ถึงแม้ว่านายจะไม่กล้าบอกความจริงกับเราตรง ๆ
มาตลอดก็ตาม เราขอให้อภัยนาย... จากนี้ไปเราขอจบ และถอย
ออกจากชีวิตของนายในทุก ๆ ด้าน เราคงต้องใช้เวลามากพอสมควรสำหรับ
การทำใจและลบล้างบาดแผลแห่งความรักความผูกพันที่แสนเจ็บปวดในครั้งนี้
สุดท้าย เราขอให้นายรักและจริงใจซื่อสัตย์ต่อเมีย(ลับๆคนนั้น)
ของนายให้ดีที่สุด อย่าทำผิดศีลห้า เพราะชะตาชีวิตของนายเอง
จะตกต่ำแน่นอน ที่จริงแล้ว!! นายควรที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ที่แท้จริง
ของนายกับเธอต่อสาธารณะชนเสียที เพราะการปกปิดมาตลอดแบบนี้
แล้วอ้างเอาเองว่า
*กลัวเรตติ้งตกเดี๋ยวจะงานน้อยลงรายได้ลดลง!!*
มันเป็นเพียงข้ออ้างของคนขี้ขลาด?? แต่กลับกล้าหาญ
ที่ไปออกรายการทีวีหลายต่อหลายรายการ แล้วพูดเองว่า...
: " พีพียังโสดครับ ผมสนใจในพระพุทธศาสนาและการศึกษาพระธรรม
ผมไม่คิดจะแต่งงานครับ บั้นปลายชีวิตผมตั้งใจจะกลับบ้านที่ขอนแก่น
เพื่อไปอยู่กับแม่ดูแลแม่ของผม หลังจากนั้นผมอาจออกบวชตลอดชีวิตครับ "
เราคงไม่ยุ่งกับการให้คำแนะนำอันใดแก่นายอีกต่อไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ
นะพีพี เราขอให้นายพบความสุขและโชคดีกับชีวิตตามความจริงของนาย
"ลาก่อนและตลอดไป" Destiny & Relationship & Love & Memories
... ...
ต่อจากนั้น นิมนิมได้ขอให้บุตรชายสุดที่รักคนเล็กของเธอ พิมพ์โพสท์
ล่าสุดในโปรไฟลท์เฟสบุคส์ส่วนตัวของเธอ ความว่า.....
ความจริงของชีวิต
"ความจริง" นั้น
เหมือนกับน้ำบริสุทธิ์ที่มีรสจืด
แต่รสจืดของ "น้ำบริสุทธิ์" นั่นแหละ
เป็นสิ่งที่ชีวิตต้องการที่สุด
-- สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ --