webnovel

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์ : ตอนที่20 คืนแห่งบทกวี

นิมนิม รู้สึกถึงการได้ปลดปล่อยอดีตอันแสนขมขื่น

และหนักหนาสาหัสจนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ของตัวเธอเอง

ไปพร้อมๆกับ การโยนตัวขึ้น โยนตัวลง ของชิงช้าไม้แผ่นนี้

เธอรู้สึกเหมือนกำลังกลับไปเป็นเด็กหญิงบ้านนอกตัวเล็กๆผอมเก้งก้าง

อีกครั้งหนึ่ง...

คุณพ่อของเธอ เคยผูกชิงช้าไม้แผ่นเดียวคล้ายๆแบบนี้ เอาไว้

ใต้ต้นจามจุรีต้นใหญ่ที่มีก้านแตกกอออกอย่างแข็งแรงด้านข้างลำต้น

พื้นที่ใต้ต้นจามจุรีแห่งนี้จึงเป็นสนามเด็กเล่นและที่รวมพลของนิมนิม กับพี่สาว

น้องชายคนเล็กสุด รวมทั้งเพื่อนเด็กๆจากครอบครัวอื่น ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกแถวนี้

นิมนิม เป็นนักอ่านตัวยงมาตั้งแต่เด็ก

ด้วยความที่คุณพ่อของเธอเป็นคุณครูระดับปริญญาตรีคนแรก ของกิ่งอำเภอแห่งนี้

ในจังหวัดขอนแก่น ทุกคนในพื้นที่แถวนี้จึงรู้จักและให้ความเคารพรัก

ต่อคุณพ่อของเธอ ทุก ๆ วันในช่วงที่ทุกคนในครอบครัวมานั่งล้อมเป็นวงกลม

เพื่อรับประทานอาหารมื้อค่ำกันพร้อมหน้านั้น คุณพ่อของนิมนิม

มักจะสอนลูก ๆ ทั้งสามคนไปด้วยเสมอๆ ว่า : ให้เป็นคนขยันเรียนรู้ และศึกษา

หาความรู้ เพราะความรู้คืออาวุธและเครื่องมือสำหรับการสร้างชีวิตที่ดี

เช่น คุณพ่อของเธอเป็นคนยากจน กำพร้าคุณพ่อ(ปู่)ที่ป่วยหนักจนเสียชีวิตไป

ตั้งแต่ท่านอายุเพียง 4 ขวบ คุณแม่ของคุณพ่อ(ย่า)จึงเลี้ยงดูคุณพ่อมา

อย่างทุกข์ยากลำบาก เพราะภาคอีสานสมัยก่อนนั้นเป็นดินแดนอันแห้งแล้ง

เมื่อเกิดเป็นคนจน ไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง ต้องรับจ้างปลูกข้าวทำนาให้คนที่มีฐานะกว่า

แต่เมื่อเกิดภัยแล้งขึ้นในพื้นที่แถบนั้น ย่าจึงอุ้มคุณพ่อออกเดินไป

ขอข้าวสาร(ข้าวเหนียว) จากในหมู่บ้านอื่นที่ฝนตกแล้วได้ทำนา

เพื่อนำมานึ่งกินประทังชีวิต จนกระทั่งย่าได้พบกับสามีคนใหม่(ปู่คนใหม่)

คุณพ่อเล่าว่า สิ่งเดียวที่ได้ช่วยพัฒนาชีวิตของคุณพ่อ

จนเรียนจบในระดับปริญญาตรี ( ช่วงพุทธศักราช 2508)

สามารถสอบเข้ารับราชการครู ซึ่งถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติได้รับการยกย่อง

เคารพจากสังคมในยุคนั้น สิ่งนั้นคือ เพราะคุณพ่อขยันอ่านหนังสือท่องตำรา

ค้นหาความรู้จากการอ่าน จึงเป็นเด็กเรียนดี ความจำแม่น

จึงได้รับทุนการศึกษา : เด็กเรียนดีแต่ยากจน มาโดยตลอด

คุณพ่อจึงถือว่า : การศึกษาหาความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดของการดำเนินชีวิต

ดังนั้นนิมนิม จึงฝึกอ่านหนังสือ รวมทั้งอ่านทุกสิ่งที่มีตัวหนังสือมาตลอด

ตั้งแต่เริ่มฝึกการอ่านตอนอายุได้ 5-6 ขวบ เธอกลายเป็นหนอนหนังสือ

ประจำห้องสมุดโรงเรียน และห้องสมุดมหาวิทยาลัย

นอกจากนั้นเธอยังใช้เงินที่ค่อยๆเก็บสะสมในแต่ละเดือนหมดไป

กับการเข้าร้านหนังสือและหอบหนังสือชุดใหม่ติดมือออกมาจากร้าน ทุกครั้ง

" หากท่าน

ไม่เชื่อถือผู้อื่น

ผู้อื่นไหนเลย

เชื่อถือท่าน "

นิมนิม กล่าวบทกวีที่กินใจของ "โกวเล้ง" นักปราชญ์ชาวจีนโบราณ ขึ้น

ท่ามกลางความเงียบที่ไม่เงียบมากจนเกินไปนัก นั่นก็เพราะมีเสียงคลื่น

กระทบฝั่งอยู่ไม่ไกล อีกทั้งเสียงเซ็งแซ่ของเหล่าแมลงพฤกษ์ไพรในราตรีกาล

ที่ซึ่งต่างแข่งกันออกมาหากิน ท่ามกลางความมืดใต้แสงแห่งดวงดาว

ระยิบระยับในคืนนี้ ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ตัว ของสตรีสาวอายุมาก

แต่ดูภายนอกแล้วเหมือนเธออายุไม่เกิน 30 ปี ดูมีมนตร์เสน่ห์

น่าค้นหา มิตรแท้คู่ใจสักคน เพื่อนั่งชมแสงจันทรา ด้วยกัน

ต่างรินจอกชาจีน ชนกันประสานใจ จิบชาร้อน ก่อนพร่ำถึง บทกวี เยี่ยงปราชญ์

" ชื่อเสียง คล้ายเป็นแอกอันหนักอึ้ง

สร้างชื่อเสียง ยากเย็นเท่าไหร่

การแบกรับมัน ยิ่งสาหัสกว่า "

เสียงอันนุ่มทุ้มแต่ชัดเจนของบุรุษผู้หนึ่ง ดังขึ้นทางด้านหลังของนิมนิม

ณนนท์ เอ่ยบทกวีอีกบท ของปราชญ์ชาวจีน "โกวเล้ง"

ที่ซึ่งเขาชื่นชอบอ่านและจดจำได้ ประสานต่อเสียงของนิมนิม

ที่พึ่งกล่าวบทกวีจบลง เขาเดินตรงมาที่ชิงช้าไม้ของนิมนิม

แล้วหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังของชิงช้า ซึ่งกำลังโยนตัวลงจากอากาศมาสู่พื้น

นิมนิม ชะงัก! เธอรีบใช้ขาและเท้าทั้งคู่ยันพื้นทรายละเอียดเอาไว้!!

เพื่อบังคับการแกว่งไกวของชิงช้าจนหัวทิ่มไปข้างหน้า!! ก่อนที่เธอจะเอี้ยวตัว

หันมาทางด้านซ้ายของตน ตามกระแสเสียงที่ดังขึ้น ใกล้ๆ นี้

"อ้าว! ตกใจหมดเลยค่ะ!! "

นิมนิม รีบพูดเสียงดังด้วยความตกใจ อีกทั้งเพื่อเป็นการเรียกให้ผู้อื่น

ได้ยินเสียงของเธอจากบริเวณนี้ด้วย เธอเป็นคนระมัดระวังตัวเองสูง

และไม่ประมาทอยู่เสมอ ในขณะที่ชิงช้าไม้กระดานกำลังอยู่

ในช่วงจังหวะของการ โยนตัวลงมา

" สวัสดีครับ คุณ....? จำผมได้ไม๊ครับ ? "

ณนนท์ รับรู้ว่าหญิงสาวผู้นั่งอยู่บนชิงช้ากำลังรู้สึกกลัวและระแวดระวังตัว

เขาจึงรีบกล่าวคำทักทาย พร้อมกับก้าวยาว ๆ ด้วยขาเรียวยาวแข็งแรงทั้งคู่

ไปยืนอยู่บริเวณด้านหน้าของชิงช้าไม้ที่หยุดไกวลงแบบกระทันหัน

" เอ้อ! อ้อ! ค่ะ จำได้ค่ะ คุณก็พักอยู่ที่นี่เหมือนกันหรือคะนี่? "

นิมนิม ยิ้มแบบงง ๆ และรีบตอบตามมารยาทอันควร

เพราะเธอไม่ต้องการทำให้บุรุษผู้มีพระคุณของเธอผู้นี้ ได้รับการปฏิบัติที่ไร้มารยาท

ณนนท์ รู้สึกแปลก ๆ อย่างที่เขาเองก็ไม่สามารถอธิบายแก่ตนเองได้

เขาจึงเสยกแก้วไวน์ที่ถือเอาไว้ในมือขวาขึ้นดื่ม อึกใหญ่! จนเกือบหมดแก้ว

ก่อนที่จะลดแก้วไวน์ลงถือไว้ครึ่ง ๆ และยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับดวงตาคู่โต

ที่เปล่งประกายสวยงามด้วยอารมณ์งุนงงสงสัย ท่ามกลางแสงแห่งราตรีกาล

" ครับ ผมพักที่นี่เสมอ ๆ ครับ ทุกครั้งที่เดินทางมาหลบพักผ่อน

อืม! คุณก็ชอบบทกวีของ โกวเล้ง เหมือนกันใช่ไม๊ครับนี่? "

ณนนท์ รู้สึกถึงความอุ่นแผ่ซ่านจากต้นคอขึ้นไปตามใบหน้าเพราะฤทธิ์ของไวน์?

หรือเพราะฤทธิ์แห่งอารมณ์บางอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านขึ้นเองในใจของเขา ?

" ค่ะ ใช่ค่ะ ฉันชอบอ่านหนังสือและบทกวีค่ะ

หนึ่งในนักประพันธ์ที่ฉันติดตามผลงานของเขานั้น มีท่านโกวเล้ง อยู่ด้วยค่ะ

อ้อ! ฉันชื่อนิมนิม นะคะ ต้องขออภัยมากจริง ๆ ค่ะ ที่ก่อนหน้านั้น

ไม่ทันได้บอกชื่อแก่คุณเลย แหะ ๆ !! "

นิมนิม ได้โอกาสบอกชื่อของเธอและขอโทษไปพร้อม ๆ กัน

นี่คือมารยาทสังคมซึ่งเธอเรียนรู้โดยหลักของมานุษยวิทยามาเป็นอย่างดี

ทั้งจากหลักสูตรในมหาวิทยาลัย รวมทั้งจากประสบการณ์ยาวนาน

ที่เธอต้องทำงานไปด้วยเพื่อหาเงินเรียนหนังสือไปด้วย

" นิมนิม ? "

พระเอกคนดัง เอ่ยทวนชื่อของสตรีร่างสมส่วนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา

" ชื่อน่ารักจังครับ ขอบคุณที่บอกนะครับ

อ้อ! ผมชื่อ นนท์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณนิมนิมอย่างบังเอิญครับ "

ณนนท์ เดาเอาเองว่านิมนิมบอกชื่อเล่นของเธอแก่เขา

เขาจึงบอกแค่ชื่อเล่นของเขาแก่เธอเช่นเดียวกัน

เพราะมันเป็นสถานการณ์อันไม่ปกติเลยสำหรับพระเอกชื่อดังเยี่ยงเขา

ที่ต้องมาแนะนำตัวแบบประหม่าและไม่คุ้นเคยแนวนี้กับผู้อื่น

แถมผู้นั้นยังเป็นสุภาพสตรีรูปร่างหน้าตามีเสน่ห์ดึงดูดใจเขาอย่างไม่รู้ตัว อีกด้วย

次の章へ