คุณเคยคิดเล่นๆไม๊คะว่า: ในโลกนี้มีผู้วิเศษตัวจริงอยู่บนโลกจริงๆกับพวกเรา?
ผู้ที่ต้องเลือกใช้ชีวิตแนบเนียนสนิทไปกับความเป็นปุถุชนอย่างเราๆท่านๆ
จนไม่มีใครสามารถจับสังเกตุเห็นถึงความพิเศษต่างๆในทางจิตหรือกาย
ของท่านผู้มีพลังหรือพรอันวิเศษจริงๆเหล่านั้นได้
แล้วทำไมเหล่าท่านผู้วิเศษและพิเศษกว่ามนุษย์ทั่วไปอย่างพวกเรา
จึงต้องปกปิดตัวตนและพลังอันอัศจรรย์ของท่านเองเอาไว้?
อะไรคือเหตุผลของการไม่ยอมเปิดเผยตัวตนและนำคุณวิเศษเหล่านั้น
มาใช้เพื่อให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในสังคม?
นิมนิม เดินออกมาจากห้องน้ำสะอาดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งของเมืองชุมแพ
หญิงสาวหน้าตาคมผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่าถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย
ใบหน้าสะอาดหมดจดปราศจากเครื่องสำอางค์แลดูอ่อนวัย
เสมือนหญิงสาวอายุไม่เกิน 25 ปี เธอสวมเสื้อผ้าฝ้ายและกระโปรงผ้าฝ้าย
สีขาวสะอาดและรองเท้าคัทชูแบบสายคาดสีครีม
เธออายุครบ 35 ปีเต็มในวันนี้ วันนี้คือวันครบรอบวันเกิดของเธอ
วันที่หกเดือนหกเวลาเก้าโมงเช้า
เธอเดินออกมายืนหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
เวลาบ่ายโมงของวันพฤหัสบดี(วันครูตามหลักของลัทธิพราหมณ์)
วันนี้ตรงกับวันเพ็ญสิบห้าค่ำ(วันพระใหญ่ พระจันทร์เต็มดวงสว่างไสว)
อากาศยามบ่ายของภาคอีสานค่อนข้างร้อน เธอมองเห็น
คณะเจ้าของรถหรูที่เป็นผู้เชิญเธอมาด้วย ยังไม่ออกมาจากร้านสะดวกซื้อ
นิมนิม จึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ร้อนจนแสบตาด้วยแสงแดด
พลัน!! กายทิพย์แห่งพระแม่มหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร
ปางประทานพรนั่งสมาธิ ก็ปรากฎขึ้นเต็มท้องฟ้าในยามกลางวันแจ้งๆ
ต่อหน้าของเธอที่เงยขึ้นพอดี บดบังดวงอาทิตย์และแสงแดด
ที่ร้อนอบอ้าวไปจนหมดสิ้น นิมนิมกำลังจะพนมมือขึ้นถวายความเคารพ
นมัสการพระองค์ท่าน จิตรู้จิตพลัน!!
กระแสพระสุรเสียงทิพย์อันอ่อนโยนกังวาลไพเราะแจ่มใสยิ่งกว่าเสียงระฆัง
เนื้อดีที่สุดในโลกมิหาญเทียบ ก็ตรัสลอยสู่กระแสจิตของนิมนิมในทันที
"ลูกรักของแม่ จงแสดงความนอบน้อมทางจิต
อย่าแสดงออกด้วยกายหรืออาการมนุษย์ นี่คือสิ่งที่เจ้าพึงสำรวมระวัง
ให้มากที่สุด เพราะย่อมไม่มีใครมองเห็นเช่นเจ้า ได้ยินเช่นเจ้า
ดังนั้นพวกเขาจะคิดเดาเอาเองตามสมองของพวกเขาว่าเจ้าคือจำพวกคนบ้าวิกลจริต
นี่คือเหตุผลแห่งสรวงสวรรค์ที่มีกฎสำคัญให้เจ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด"
นิมนิม จึงลดแขนลง แล้วเปลี่ยนท่าทางเป็นยืนกุมมือทั้งสอง
สำรวมไว้ที่ช่วงเอวแทน ขณะที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มีรัศมีสว่างไสว
สีรุ้งงดงามตาสุดบรรยาย กระแสลมจากพระกรที่ถือกิ่งหลิวโบกไหวไปมา
ของพระแม่มหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวรปางประทานพรนั่งสมาธิ
พัดมาต้องกายของเธอเย็นสบายเหลือเกิน
พระแม่ฯ ทรงตรัสด้วยจิต รูปกายทิพย์ของท่านจึงแย้มพระสรวลน้อยๆ
ให้กับเธอ หญิงสาวชาวมนุษย์ปุถุชนคนนี้ ผู้ซึ่งในอดีตชาติที่แสนยาวไกล
แต่เก่าก่อนเคยเกิดเป็นบุตรสาวที่แสนอาภัพที่สุดของพระองค์ฯ
ในช่วงยุคที่พระองค์ฯยังทรงต้องเวียนว่ายตายเกิด
เพื่อบำเพ็ญบารมีสามสิบทัศน์ให้สำเร็จ เพื่อตรัสรู้เป็น
พระมหาโพธิสัตว์ในอนาคต หลังจากยุคนั้นได้ผ่านไป
"วันนี้ ครบรอบวันเกิดบนโลกในภพชาตินี้ของลูก 35 ปีเต็ม
เป็นวันที่แม่มาแสดงความยินดีที่การเพียรบำเพ็ญอุโบสถศีลติดต่อกัน
นานถึง 8 เดือนของเจ้า สำเร็จได้ด้วยความเพียรที่ไม่ย่อท้อของลูก
แม่ขออำนวยพรประการหนึ่งให้แก่เจ้าดังนี้
จากนี้ไปด้วยพระอานุภาพแห่งศีลพรหมจรรย์อันสะอาดหมดจดบริสุทธิ์
พร้อมทั้งกุศลกรรมทางใจวาจากายที่เจ้าเพียรระลึกสติอยู่เสมอ
อีกทั้งช่วยโปรดสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากนานาประการซึ่งมีบุญวาสนา
ได้มาพานพบเจ้า จนช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ได้ และทำให้พวกเขา
เกิดความเชื่อเคารพศรัทธาในหลักแห่งพุทธรรมว่า เป็นสัจจะธรรม
ที่พึ่งได้จริงแน่แท้แก่สัตว์โลกทั้งปวง
สวรรค์ชั้นฟ้าจึงขอมอบพรให้แก่เจ้า เทวี...
ยิ่งเจ้ามีกาลเวลาอายุทางโลกมากขึ้นเท่าไร ร่างกายและใบหน้าของเจ้า
กลับจะดูผุดผ่องอ่อนเยาว์สดใสสวนทางกับกาลวัยบนโลก
ทั้งหมดนี้คือพระอานุภาพแห่งกุศล อันเจ้าพากเพียรปฏิบัติ
ด้วยการมอบกายถวายชีวิตแด่พระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
จงรับพรจากแม่และจงเป็นไปเช่นนั้น เทอญ"
พลัน!! หยดน้ำทิพย์จากกิ่งใบหลิว
ที่พระแม่มหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวรปางประทานพรนั่งสมาธิ
โบกไหวไปมานั้น ก็หยดลงมาถูกใบหน้าศีรษะลำตัวแขนของนิมนิม
จนมองเห็นด้วยตาเปล่า กระแสความเย็นสดชื่นแห่งหยดน้ำทิพย์
กำซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กายของเธอ
นิมนิม ค้อมศีรษะและย่อเข่าลงแสดงความเคารพเบื้องบน
ที่กำลังเปล่งรัศมีขยายใหญ่ขึ้นๆ จนบดบังผืนฟ้า แล้วค่อยๆ
จางหายไปดั่งควันของหมอกกระนั้น
"ลูกขอน้อมรับพระพรของเสด็จแม่ฯ เพคะ"
น้ำตาแห่งความปิติทางจิต รื้นขึ้นมาเอ่อทั้งสองดวงตาของเธอ
มันคือความลับอันสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ ในภพชาตินี้
ที่แม้แต่บุคคลในครอบครัว ก็มิอาจรับรู้และพิสูจน์เยี่ยงเธอได้
บ่อยครั้ง ที่เธอรู้สึกเสมือนอยู่เพียงลำพังจริงๆ บนโลกใบนี้
ไม่มีแม้แต่ใครสักคนหนึ่ง เพียงคนเดียวจริงๆ ที่จะเข้าใจ
หรือขอแค่เปิดใจยอมรับฟังทุกสิ่งที่เธอเป็นมาตลอดชีวิตในชาตินี้
แล้วเข้าใจเธอ ไม่หัวเราะเยาะคิดว่าเธอสติฟั่นเฟือน หรือดูถูก
ดูแคลนสติอันไม่สมประกอบของเธอ
"การเปิดเผย แล้วทำให้พวกเขาแสดงอาการดูหมิ่นดูแคลน
ความพิเศษทางทิพย์ที่เจ้ามีมาตั้งแต่เกิดและจะมีสั่งสมมากยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ตามอำนาจกุศลกรรมที่เจ้าต้องบำเพ็ญเพียรปฏิบัติมากขึ้นในภพชาตินี้
จะทำให้พวกเขาถูกลงโทษด้วยกฎแห่งจักรวาลโดยไม่มีข้อยกเว้นว่าเป็นผู้ใด
ดังนั้น การไม่เปิดเผยคือหนทางเดียวเท่านั้น ที่ดีที่สุด
ต่อการปกป้องคุ้มครองคนทุกคนที่เจ้ารักห่วงใย โลกใบนี้"
พระแม่มหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวรฯ ได้เคยตรัสสอน
นิมนิมเอาไว้ ตั้งแต่นิมนิมกำลังเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย
นิมนิม มองเห็นคณะเจ้าของรถหรูพากันทะยอยเดินออกมา
จากร้านสะดวกซื้อ เธอจึงเดินตรงไปที่รถ เพื่อขึ้นรถไปทำภาระกิจ
ให้พวกเขา ตามคำเชิญที่ต้องมาด้วยในครั้งนี้
" อ้อ! อาจารย์เทวีมาพอดีครับ เชิญครับอาจารย์ "
เจ้าของรถหรู ซึ่งเป็นหนุ่มวัยกลางคนอายุ 41 ปี รูปร่างสูงสมาร์ท
หน้าตาคมเข้มคล้ายชายไทยสมัยโบราณ ผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรแห่งประเทศไทย ก้าวยาว ๆ เพื่อมาเปิดประตูรถหรู
ให้กับนิมนิม ด้วยความเคารพนอบน้อมจากใจจริง