webnovel

บทที่ 17

อสุรกายตนหนึ่งที่มีหัวเป็นนกสีดำเหมือนอีกา ตั้งแต่คอลงมาเป็นรูปร่างของมนุษย์ มันพุ่งเข้ามาคว้าคอของหมาป่าจากด้านหลัง แล้วใช้มือที่เหมือนกรงเล็บแทงเข้าไปทางสีข้างของหมาป่า

เจ้าหมาป่าร้องอย่างน่าสงสาร มันเรืองแสงและขนาดเล็กลงกลายเป็นตุ๊กตาและลำแสงนั้นก็พุ่งกลับมาที่ลูกแก้ว

ผมโล่งใจที่มันไม่เป็นไร แต่น่าจะออกมาไม่ได้สักพัก ตอนนี้พวกภูตผีล้อมพวกเราไว้แล้ว

อาจารย์น้ำค้างเรียกกุมารมาอีก 2 ตน เธอให้พวกกุมารคอยคุ้มครองพวกผู้หญิง ซึ่งตอนนี้เหลือแค่ลำธารที่ยังมีสติอยู่

อาจารย์ภูมิสีหน้าซีดมาก เขาต้องควบคุมจิตและท่องคาถาบงกชป้องกันไม่ให้อสุรกายเข้ามาได้มากกว่านี้

ระหว่างที่มัวแต่สนใจพวกภูตผี ผมพึ่งสังเกตเห็นว่าอาจารย์ภัทรได้นำไม้มาปักรอบๆ และเอาสายสิญจน์ผูกเข้ากับไม้ ตอนนี้รอบๆ พวกเขามีสายสิญจน์ ล้อมรอบอยู่ มีเพียงผมและอาจารย์น้ำค้างที่อยู่นอกวงสายสิญจน์

"ฝากคุ้มกัน 1 นาที" อาจารย์ภัทรตะโกนบอก

หลังจากนั้นอาจารย์ภัทรหลับตาลงและเริ่มท่องคาถา

พวกภูตผีชั้นต่ำ โดนสัตว์วิญญาณของผมกินไปเยอะพอสมควร แต่ปัญหาคือพวกอสุรกายที่มีหัวเป็นสัตว์ต่างๆ พวกมันมีแรงเยอะมาก

มีอสุรกายที่มีหัวเป็นมนุษย์แต่ลำตัวลงไปเป็นลิง มันกระโดดขึ้นไปขี่หลังกระทิง เจ้ากระทิงพยายามสะบัดแต่ก็ไม่หลุด เจ้าอสุรกายใช้ปากของมันกัดเข้าไปที่คอของกระทิง เจ้ากระทิงกลายเป็นตุ๊กตาแล้วกลับเข้ามาในลูกแก้ว

ส่วนพวกโหงพรายของอาจารย์น้ำค้างก็ดูจะอ่อนแรงลง อาจเพราะอาจารย์น้ำค้างใช้จิตมาเป็นเวลานานก็ได้

ศัตรูมีเยอะเกินไป ทั้งอาจารย์น้ำค้างและพี่แว่น ต่างวุ่นวายกับการต่อสู้ตรงหน้า

มีผีหัวขาดตนหนึ่งวิ่งไปทางพวกผู้หญิง ผมหันไปตะโกนบอกให้แม่เสือเข้าไปช่วย

แต่แม่เสือเองก็วุ่นวายอยู่กับอสุรกายที่มีรูปร่างมนุษย์ แต่อยู่ในสภาพผิดรูป คือแขนสลับที่กับขา มันล็อกตัวแม่เสือไว้ด้วยแขนขาประหลาด และพยายามใช้ปากกัดคอแม่เสือ

ส่วนกุมาร 2 ตนที่รับหน้าที่ดูแลพวกผู้หญิง พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่วิ่งไปพุ่งชน ซึ่งก็แค่ทำให้ภูตผีกระเด็นไปเท่านั้นเอง และตอนนี้พวกมันก็อยู่ห่างกับพวกผู้หญิงเกินไป

พริบตาที่ผีหัวขาดตนนั้นวิ่งเข้าหาพวกผู้หญิงแบบไม่มีหัว

ลำธารก็มีท่าทีแปลกๆ เธอพุ่งใส่ผีตนนั้น เธอก็ใช้ปากกัดไปที่หัวไหล่ของผี เธอฉีกกระชากเนื้อของผีตนนั้นแล้วเธอก็กินมันเข้าไป...

ผมคิดว่าผมเผลอกรี้ดออกมาตอนที่เห็นลำธารกำลังเคี้ยวเนื้อหัวไหล่ของผีหัวขาด

เพื่อนผู้หญิงที่ผมใช้ชีวิตด้วยมาหลายเดือน 'กำลังกินเนื้อของผีหัวขาดอยู่' ทำให้ผมถึงกับหูอื้อ ขมคอ ผมแอบกลัวเธอจะหันมาไล่กัดผมด้วย

พอสังเกตดีๆ ตอนนี้ลำธารเปลี่ยนไปหลายอย่าง แววตาเธอดุดันแดงก่ำ ราวกับโกรธแค้น ปากที่เคยเป็นกระจับสวยงาม ตอนนี้มีเขี้ยวยาวแหลมงอกขึ้นมาสองฝั่ง เล็บก็แหลมยาวขึ้น

พวกผีเองก็ตกตะลึงที่เห็นลำธาร มันค่อยๆ ล่าถอยออกจากเธอ แต่กลับเป็นลำธารเองที่พุ่งไปไล่กัดพวกมัน

"ลำธารเป็นเด็กที่โดนผีปอบสิง" อาจารย์น้ำค้างหันมาบอกผม ตอนนี้สีหน้าอาจารย์เองก็ซีดมาก

"เธอโดนบังคับให้สืบทอดทายาท แต่พ่อของบุปผาที่เป็นหมอธรรม ได้ช่วยสะกดไว้ให้ ปอบตนนี้เป็นปอบโบราณ จิตอาฆาตรุนแรงมาก ขนาดพวกผีเองยังกลัว" อาจารย์น้ำค้างอธิบายขณะที่เธอก็วิ่งหลบพวกผีไปมา

"ทุกคน กลับเข้ามาในสายสิญจน์" อาจารย์ภัทรตะโกนบอก ตอนนี้สายสิญจน์ส่องแสงออกมา มันคือเขตอาคม เมื่อผีตนใดแตะต้อง ก็จะร้องโหยหวนแล้วถอยไป

พวกเราถอยกลับเข้าไปในเขตอาคม มีเพียงลำธารที่เมื่อโดนสายสิญจน์ก็ร้องกรี้ดออกมา

"ลำธาร เธอต้องตั้งสมาธิดึงร่างปอบกลับเข้าไปก่อน ไม่งั้นเธอจะได้รับผลกระทบจากอาคม" อาจารย์ภัทรบอก

"หนูยังพอสู้ไหว" ลำธารพูดจบก็ไปวิ่งไล่พวกผีต่อ เธอคล่องแคล่วมาก เล็บแหลมยาวกับเขี้ยวของเธอ ทำเอาพวกผีหนีแตกกระเจิง

"ผมน่าจะรั้งเขตอาคมนี้ได้ถึงเช้า ปัญหาตอนนี้เหลือแค่เปรตตนนั้น ถ้ามันย้อนกลับมาเขตอาคมนี้เอาไม่อยู่แน่" อาจารย์ภัทรสีหน้าดูกังวลมาก

"ไม่ต้องห่วงครับ อีกเดี๋ยวมันก็จะโดนสระบัวกลืนลงไปแล้ว" สายหมอกที่นั่งอยู่ พูดออกมาในขณะที่ดวงตาของเขาเป็นสีขาว

ผมลืมไปเลยว่าหมอนี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาเงียบจนผมไม่ทันสังเกตเห็น

"เปรตตนนั้นถึงสระบัวแล้วครับ"

"มันไม่ยอมลงไปในสระบัว"

"มันยืนอยู่ริมสระบัว"

"พี่อัคคีพุ่งโจมตีใส่หัวเข่าขวา"

"เมฆาใช้ตรีเพชรแทงที่ขาซ้าย"

"พี่วายุพุ่งไปถีบขาคู่โดนที่หน้าอกของเปรตเต็มๆ"

"มันล้มลงไปในสระบัว"

"มันพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมา"

"แต่เถาบัวรัดพันมันและดึงมันลงไปใต้สระ"

"ทั้งสามคนกำลังกลับมา"

ทั้งหมดนี้คือการรายงานผ่านดวงตาสีขาวของสายหมอก

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวของเขาเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเป็นลูกหลานของตระกูลโหรเก่าแก่ ถึงแม้หลังๆ มานี้ เขาจะพูดคุยกับเรามากขึ้น แต่ก็ยังไม่เปิดใจถึงขั้นเราเรื่องครอบครัวให้ฟัง

หลังจากนั้นพวกพี่วายุก็กลับมา ในขณะที่ผมกำลังดีใจที่เห็นทุกคนปลอดภัย ก็รู้สึกว่าทำไมภาพตรงหน้ามันค่อยๆ เบลอ ผมพยายามสะบัดหัวเผื่อจะดีขึ้น แต่ขาผมกลับอ่อนลงไม่มีแรง

ลำธารที่ตอนนี้กลับมาเป็นมนุษย์ปกติแล้ว เข้ามาประคองผม เหล่าสัตว์วิญญาณ ค่อยๆ เรืองแสงแล้วกลับเข้าลูกแก้วไป

"ถ้าใช้จิตมากเกินไป มันจะส่งผลกับร่างกายแบบนี้แหละ ในเขตอาคมนี้ปลอดภัย พวกมันไม่มีทางผ่านมาได้ เด็กๆ พักกันเถอะ" อาจารย์ภัทรบอกพวกเรา

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นพวกภูตผีก็กลายเป็นควันแล้วพุ่งลงไปในดิน ค่ำคืนอันน่าสยดสยองของผมก็ได้จบลงแบบที่ไม่มีการสูญเสีย...

次の章へ