พวกคุณไม่ต้องปลอบใจผมหรอกนะ เพราะเรื่องนี้ผ่านไป 8 ปีแล้ว ผมทำใจได้แล้ว หลายคนคงคิดว่าผมโตมาในป่าแบบนี้ ผมจะแก้ผ้าแล้วโหนเถาวัลย์แบบทาร์ซาน
แต่ไม่ใช่หรอกนะ ผมก็ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น แบบวัยรุ่นทั่วไปนั่นแหละ (แต่ผมไม่ชอบใส่กางเกงในมันอึดอัด) ผมรู้จักวิธีการเข้าเมือง พบปะผู้คน เพราะพ่อผมเคยพาผมเอาของในป่าไปขายบ่อยๆ แม้ผมจะใช้ชีวิตคนเดียวแต่ผมก็อยู่มาได้แบบสบายๆ เพราะป่า ดูแลผมอย่างดี
ถึงผมจะบอกว่าผมเข้าเมืองบ่อย แต่ผมก็ไม่มีเพื่อนหรอกครับ ปกติจะเอาแค่ของป่าไปขายให้ลุงแสง
ลุงแสงคือชายวัยกลางคนที่รู้จักตั้งสมัยพ่อยังอยู่ ผิวของลุงแสงจะค่อนข้างดำ ตาจะโปนๆ หน่อย แต่สิ่งที่เด่นที่สุดคือฟัน ฟันของลุงแสงจะยื่นออกมาแบบชัดมาก ลองจินตนาการถึงม้าที่ไว้ผมแสกกลาง นั่นแหละลุงแสง
พ่อมักจะบอกว่าลุงแสงเป็นคนใจดี ไม่เอาเปรียบพ่อ ให้ราคาอย่างเป็นธรรม
จริงๆ หลังพ่อแม่ตายไป ผมก็ได้ลุงแสงที่ช่วยแนะนำเกี่ยวกับการดำรงชีวิตแบบมนุษย์ ประมาณ 1 -2 เดือน ผมจะออกมาเจอกับแกทีหนึ่ง
กลับมาที่ปัจจุบันกันดีกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นการตายของสัตว์ป่า ปกติเวลาสัตว์ป่าตายมันก็จะมีร่างวิญญาณออกมา แล้วก็สลายไปกับอากาศ
เวลาผ่านไปสักพักวิญญาณของชายสองคนนั้นก็ลุกขึ้นมา มันเป็นร่างโปร่งๆ ใสๆ สองคนนั้นท่าทางตกใจมาก มองศพของตัวเองที่นอนอยู่ เขาหันมาเห็นพ่อปู่ พวกเขาก็วิ่งมาคุกเข่า ยกมือไหว้ขอให้ช่วย
"พวกเอ็งไปซะ กรรมที่ก่อไว้กับสัตว์ป่า ตอนนี้พวกเอ็งชดใช้ด้วยชีวิตแล้ว ข้าไม่อาจข้องเกี่ยวกับกรรมของมนุษย์" พ่อปู่บอกพวกนั้น หลังพูดจบ ชายสองคนนั้นก็ค่อยๆ สลายไป
ส่วนแม่เสือตอนนี้วิญญาณของเธอออกมาจากร่างแล้วแต่ไม่สลายไป เธอเดินมาหาลูกเสือน้อยสองตัว เจ้าเสือน้อยทั้งสองพยายามวิ่งไปหาแม่ แต่ร่างก็ทะลุไป
ภาพที่ผมเห็นทำผมใจสลาย ผมหวนคิดถึงตอนที่ผมเห็นวิญญาณของพ่อและแม่ ตอนนี้เจ้าสองตัวน้อยกำลังเผชิญ สถานการณ์เดียวกับผม
ว่าแต่ทำไมแม่เสือยังไม่สลายไปละ ผมนึกขึ้นได้และกำลังจะหันไปถามพ่อปู่
"ปกติเหล่าสัตว์เมื่อตายไป วิญญาณก็หวนคืนกลับสู่ธรรมชาติ ยกเว้นสัตว์ที่มีความนึกคิด หรือสัตว์ที่ยังมีห่วง" พ่อปู่ชิงตอบผมมาก่อน ราวกับรู้ว่าผมคิดอะไร
"มันคงห่วงเจ้าสองตัวเล็กมาก" ผมพูดจบก็เดินไปหาเจ้าสองตัวเล็กที่กำลังพยายามจะเอาหัวไปถูขาของแม่ แต่ก็ทำไม่ได้
ผมอุ้มทั้งสองตัวขึ้น "แม่เสือไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลสองตัวนี้ให้ดีเหมือนที่แม่เสือดูแลผมเลย" ผมพูดด้วยเสียงสั่นเครือ จริงๆผมไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆหรอกนะ แต่สถานการณ์นี้ใครไม่ร้องก็ใจหินเกินไปแล้ว
"มันไม่ได้แค่ห่วงลูกเสือ มันห่วงเอ็งด้วย"
"ไม่ต้องห่วงผม ผมโตแล้วหากินเองได้แล้ว" ผมพยายามอวดเก่งเพื่อให้แม่เสือสบายใจ
"จริงๆ แล้วเอ็งไม่ใช่คนปกติหรอกนะ เอ็งมีพลังพิเศษอยู่ พลังที่ทำให้เหล่าสัตว์ต่างรัก และอยากปกป้อง" พ่อปู่พูดพลางเดินมาอุ้มลูกเสือสองตัวไปจากมือผม
"เอ็งมีชะตาที่ต้องไปเจอเรื่องราวอีกมากมาย อีกไม่นานเอ็งจะได้เจอกับคนที่จะพาเอ็งไปจากที่นี่"
"ผมไม่อยากไป ผมอยากอยู่กับทุกคนที่นี่ ไม่ว่าใครก็มาพาผมไปไหนไม่ได้" ผมเผลอเสียงดังออกไป เพราะผมผูกพันกับที่นี่ ผมไม่ต้องการไปจากที่นี่
พ่อปู่ดูจะไม่สนใจผมเท่าไหร่ ท่านพูดต่อว่า "เดี๋ยวเจ้าสองตัวนี้ข้าจะดูแลเอง ส่วนแม่เสือ มันจะคอยอยู่ใกล้ๆ คุ้มครองเจ้า พูดจบพ่อปู่ก็เรืองแสงแล้วก็หายไป