webnovel

ภาคต่อตอนที่ 22 แพ้ท้องแทนเมีย

ยามเฉินวันต่อมา

เสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ย เดินถือถาดอาหารและน้ำชาเข้ามาวางบนโต๊ะ เมื่อเห็นท่านแม่ทัพและฮูหยินนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากภัยแล้งทำให้อาหารการกิน ค่อนข้างอัตคัดตามไปด้วย ดังนั้นชิงหลินจึงให้สาวใช้ทำข้าวต้มขาว ผักดองเค็มสองสามอย่างและปลาแห้งย่าง เป็นอาหารมื้อเช้าสำหรับนางและสามี ซึ่งพอเห็นผักดองก็น้ำลายสอขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตเอาแต่จ้องมองจานผักดองตรงหน้า

ผิดกับมู่หลิ่งเหวินที่รู้สึกคลื่นเหียนผะอืดผะอมกับกลิ่นปลาที่โชยเข้ามาแตะจมูกจนต้องกลั้นลมหายใจ ชิงหลินเห็นสามีนั่งนิ่งไม่ยอมแตะอาหารตรงหน้าก็อดสงสัยไม่ได้ "เป็นอะไรเจ้าคะ?"ถามด้วยความเป็นห่วง "ท่านชอบกินปลา เช่นนั้นลองชิมปลาแห้งนี่หน่อยสิเจ้าคะ รสชาติดีที่เดียว"ว่าพลางคีบปลาแห้งให้สามีพร้อมรอยยิ้ม

หากเป็นเวลาปกติแม่ทัพหนุ่มคงรีบอ้าปากรับ แต่เวลานี้เขาอยากจะขว้างจานปลาเจ้าปัญหานี่ออกไปให้รู้แล้วรู้รอด! คิดพลางลอบกลืนน้ำลาย กลั้นใจคีบปลาแห้งที่นางบรรจงตักให้เข้าปาก ออกแรงเคี้ยวช้าๆทุกครั้งที่ขยับปากคิ้วเข้มก็เริ่มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าที่เรียบนิ่งเริ่มมีเหงื่อเย็นซึม ความผะอืดผะอมคล้ายกินของแสลงเริ่มโจมตีขึ้นมาถึงคอหอยแล้วความอดทนก็ขึ้นจนถึงขีดสุด

"อุ๊บ...อึก..."ร่างหนาดีดตัวออกมาจากโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า มือข้างหนึ่งปิดปากท่ามกลางความงุนงงตกใจของคนรอบข้าง

"พี่เหวิน เป็นอะไรเจ้าคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือ?"ถามด้วยความเป็นห่วงกับภาพสามีโก่งคออาเจียนจนหน้าซีดเซียว

"อา..พี่สบายดี"ตอบพลางรับน้ำชาที่นางบรรจงยื่นให้กลั้วปากแล้วบ้วนทิ้ง จากนั้นจึงยืดตัวเต็มความสูงแล้วพ่นลมออกมาแรงๆครั้งหนึ่ง พอได้อาเจียนอาการผะอืดผะอม คลื่นเหียนแทบไม่หลงเหลืออีกแล้วแม่ทัพหนุ่มจึงหายใจหายคอคล่องขึ้น

"ไปกินมื้อเช้าต่อเถิด"มือหนาโอบเอวคอดกิ่วของภรรยาพาไปยังโต๊ะอาหาร แต่ยังไม่ทันได้หย่อนตัวลงนั่งกลิ่นคาวปลาก็โชยเข้ามาแตะจมูก และเป็นอีกครั้งที่ชิงหลินเห็นสามีผลุนผลันออกไปโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย

"หมายเลขเก้า"เรียกผู้คุ้มกันของตนน้ำเสียงร้อนรน

"ฮูหยินน้อย"หมายเลขเก้าก้าวเข้ามาที่โต๊ะอาหาร

วันนี้เป็นหน้าที่ของหมายเลขเก้ากับหมายเลขสิบ ในการอยู่คุ้มกันและรับใช้ฮูหยินน้อย บางส่วนกระจายอยู่โดยรอบเรือนพักรับรอง ที่เหลือพักผ่อนรอผลัดเปลี่ยนเวรยามในช่วงกลางคืน

"หมอหานตงมาถึงหรือยัง?"

"มาถึงได้สักครู่แล้ว ยามนี้รออยู่ด้านนอกเรือนรับรองขอรับ"หมายเลขเก้ารายงาน

"เชิญเข้ามาเร็วเข้า"หมายเลขหกโค้งคำนับแล้วรีบทำตามคำสั่งของนางทันที

อาการอาเจียนของเขา สร้างความวิตกกังวลใจแก่ชิงหลินไม่น้อย จึงรีบให้หมายเลขหกไปตามหมอมาดู ส่วนตัวนางหันมาพยุงร่างสูงมานั่งที่โต๊ะอาหาร

"หลินเอ๋อร์ กลิ่นปลาคาวนัก ให้นำออกไปทีเถิด"มู่หลิ่งเหวินกระซิบบอกนางแล้วรีบกลั้นหายใจเมื่อกลิ่นคาวปลาโชยมาแต่ไกล

"เจ้าคะ?"คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเครื่องหมายคำถาม แต่พอเห็นสีหน้าซีดเซียวกอปรกับปากที่เม้มสนิทคล้ายกำลังอดทนกับอะไรบางอย่างจึงหันไปส่งสัญญาณให้เสี่ยวอี้นำจานปลาย่างออกไป

มู่หลิ่งเหวินลอบผ่อนลมหายใจที่เห็นอาหารเจ้าปัญหาถูกนำออกไปรวมถึงอาการคลื่นเหียนผะอืดผะอมก็หายไปด้วย

ว่ากันตามจริงแล้ว แม่ทัพหนุ่มออกจะชื่นชอบอาหารที่ทำจากปลามากกว่าเนื้อสัตว์อื่นแล้วเหตุใดวันนี้ ได้กลิ่นเพียงเล็กน้อยก็ถึงกับอาเจียน ซ้ำยังต่อหน้านาง ช่างน่าอับอายยิ่ง!

"พี่เหวิน ให้ท่านหมอหานตรวจดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ"เสียงของนางดึงสติกลับมายิ้มแล้วว่า "อา...ตามใจเจ้า"

"เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ?"เอ่ยถามหานตงหลังตรวจอาการสามีเสร็จสิ้น จะว่าไปขั้นตอนการตรวจเท่าที่เห็นก็เพียงแค่จับชีพจรและดูสีหน้าประกอบไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น

"เรียนฮูหยินน้อย เท่าที่ข้าตรวจดู ท่านแม่ทัพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ดีขอรับ"หานตงถอยออกมาสองก้าวประสานมือตรงหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วกล่าวรายงานตามจริง

"ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่า แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงได้อาเจียนเล่า?"ถามต่อ คนเราหากไม่เจ็บป่วยอยู่ดีๆจะอาเจียนได้อย่างไร? มันต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่างสิ

"เอ่อ...เรื่องนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ก็เป็นได้ขอรับ"คำตอบของหานตงทำเอาสองสามีภรรยาหันมามองหน้ากัน

"เหลวไหล! ข้าอาเจียนเกี่ยวอันใดกับเรื่องที่นางตั้งครรภ์?"มู่หลิ่งเหวินทุบโต๊ะ ตำหนิหานตงด้วยเสียงค่อนข้างดังและเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ บิดาเจ้าสิ! บังอาจกล่าวโทษหลินเอ๋อร์ของข้าต่อหน้าข้าเชียวรึ?

"พี่เหวินใจเย็นก่อนเถิด"บีบมือสามีพร้อมส่งยิ้มหวานพอใจที่สามียอมทำตามอย่างว่าง่าย

ส่วนหานตงตกใจจนหน้าซีด เหงื่อเย็นไหลอาบทั่วร่างไม่กล้ากล่าวอันใดต่อ นึกประหลาดใจด้วยเป็นหมอจวนแม่ทัพไร้พ่ายมานาน ทำให้ทราบว่า ท่านแม่ทัพเป็นบุรุษที่สุขุม เยือกเย็นเพียงใด แล้วเหตุใดยามนี้จึงกลายเป็นบุรุษใจร้อน หงุดหงิด ถือสากับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไปได้?

"ท่านหมอ"

"ขอรับฮูหยินน้อย"

"ท่านจะบอกว่า สาเหตุที่ท่านแม่ทัพอาเจียนและหงุดหงิดง่าย เป็นเพราะข้าใช่หรือไม่?"ชิงหลินถามหานตง แต่สายตากลับมองคนข้างๆเน้นคำว่า หงุดหงิดง่าย ยามที่พูดทำให้เห็นใบหน้าบูดบึ้งอย่างแง่งอนของอีกฝ่าย

"เอ่อ...คิดว่าเป็นเช่นนั้นขอรับ"หานตงชำเลืองมองท่านแม่ทัพ แล้วต้องรีบก้มหน้าต่ำเมื่อสบเข้ากับสายตาคมกริบน่าหวั่นเกรงคู่นั้น

"อืม..ก็อาจเป็นอย่างที่ท่านว่า เช่นนั้นก็มาพิสูจน์ให้รู้แจ้งกันไปเลยดีหรือไม่?"ถ้อยคำที่แฝงความรื่นเริงและรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ทำเอาแม่ทัพหนุ่มเลิกคิ้วเข้มมองนางอย่างไม่ใคร่ไว้ใจ นางคิดจะทำอันใด?

"พิสูจน์?..อย่างไร?"ถามกลับด้วยใบหน้าติดจะบูดบึ้งจางๆ ส่งสายตากดดันร่างเล็กเตือนว่าอย่าทำอันใดเกินเลยเด็ดขาด

"คิกๆ..เดี๋ยวก็รู้ ขอความร่วมมือหน่อยนะเจ้าคะ"

"...ได้"ตอบตกลงในที่สุด หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่

"เสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ย"

"ฮูหยินน้อย"สองสาวใช้ก้าวเข้ามายืนเบื้องหน้านายสาว

"จัดหา ผักหรือสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนสักสี่ห้าอย่างมาให้ข้าที"

"เจ้าค่ะฮูหยินน้อย"สองสาวใช้รับคำสั่งแล้วรีบตรงไปยังโรงครัว

พอลับร่างสวาใช้มู่หลิ่งเหวินก็หันมาส่งสายตาถาม แต่ชิงหลินทำเมินไม่ยอมสบตามุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหล ที่หน้าประตูยังมีสายตาหมายเลขเก้ากับหมายเลขสิบชำเลืองมองด้วยสงสัย

สองเค่อต่อมา

"สรุปว่า ท่านแม่ทัพมีอาการคล้ายคลึงกับอาการแพ้ท้องของสตรีเวลาตั้งครรภ์ขอรับ"หานตงตอบอย่างมั่นใจภายหลังการพิสูจน์อย่างถี่ถ้วนแล้ว

แม่ทัพหนุ่มที่ถูกทดสอบให้สูดดมกลิ่นพืชผักสมุนไพรกลิ่นเหม็นฉุนหลายอย่างจนอาเจียนไปหลายรอบ ใบหน้าหล่อเหลายามนี้ซีดเซียวเล็กน้อย พอได้ฟังถ้อยคำแสลงหูของหานตงถึง กับหน้ากระตุกกล่าวไม่ออก

หมายความว่าอย่างไร? มีอาการคล้ายกับสตรียามตั้งครรภ์? ตนเป็นบุรุษชาตินักรบ เป็นแม่ทัพที่ศัตรูหวาดเกรงเพียงแค่ได้ยินชื่อ แต่กลับมีอาการคล้ายสตรียามตั้งครรภ์? อา..หากบุคลภายนอกรู้เข้าข้าจะกล้าสู้หน้าใครได้?

"อาการนี้เรียกว่า แพ้ท้องแทนเมีย เอ๊ย..แพ้ท้องแทนภรรยา เจ้าค่ะ"ชิงหลินกลั้นหัวเราะสุดชีวิตจนใบหน้าแดงก่ำแต่หัวใจอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความสุข

แพ้ท้อง?..แทนภรรยา? หมายความว่า ข้ากำลังแพ้ท้องแทนนาง? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? เกิดมาก็พึ่งจะเคยได้ยิน

"ฮูหยินน้อยกล่าวถูกต้อง อาการแพ้ท้องแทนภรรยาพบเห็นได้น้อยนักในแคว้นฉีเรา ข้าจึงไม่มั่นใจในคราแรกขอรับ"

"สาเหตุเล่า?"แม่ทัพหนุ่มถามหาสาเหตุที่ทำให้แพ้ท้องแทนภรรยา เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุและผลเสมอ

"เอ่อ...สาเหตุคงเป็นเพราะ..."หานตงอ้ำอึ้งใบหน้าปรากฏริ้วแดงจางๆ เหลือบมองฮูหยิน น้อยอย่างขอความช่วยเหลือ

"เพราะพี่เหวิน รักและเป็นห่วงหลินเอ๋อร์มากกว่าสามีคนอื่นๆหลายเท่านักอย่างไรเล่าเจ้าคะ"คำตอบของภรรยาทำเอาแม่ทัพหนุ่มอึ้งเป็นคำรบที่สอง หันขวับมาทางหานตงเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าสนับสนุนถ้อยคำของนางจึงหลุดยิ้มออกมาน้อยๆความอับอายหายไปและไม่คิดปฏิเสธด้วยรู้สึกเช่นที่นางกล่าวทุกประการ

เสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ยที่ยืนฟังตั้งแต่ต้นน้ำตาคลอด้วยความปลาบปลื้มใจแทนฮูหยินน้อย ที่ท่านแม่ทัพรักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้งถึงขั้นแพ้ท้องแทนได้

"อาการนี้จะกินเวลานานเพียงใด?"แม่ทัพหนุ่มถามแม้จะยินดีแพ้ท้องแทนนาง แต่หากกินเวลานานเกินไปก็คงไม่ดีต่อตัวเขาเป็นแน่

"กลัวหรือเจ้าคะ?"ยิ้มเย้าจึงถูกสามีคาดโทษทางสายตา

"หานตง คำตอบ?"คาดโทษภรรยาเสร็จก็หันมาเร่งเอาคำตอบกับอีกคนกลบเกลื่อนความคิดในใจ

"เอ่อ...เรียนท่านแม่ทัพ อาจจะสามวัน เจ็ดวันหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคนขอรับ"หานตงตอบกว้างๆ

".....อืม ข้ารู้แล้ว"พยักหน้าหนักใจแล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติพลางกล่าว "ตอนนี้เจ้าควรมาตรวจฮูหยินของข้าได้แล้ว"

ในขณะที่หานตงกำลังชีพจรให้ฮูหยินน้อยอยู่

"หลินหลิน พวกเรามาแล้ว"เสียงร้องคล้ายเสียงแมวพร้อมร่างสีขาวคาดดำของลูกพยัคฆ์ขนาดแมวพันธุ์เปอร์เซียโตเต็มวัยวิ่งนำเข้ามา มีลูกพยัคฆ์อีกตัวกับสองจิ้งจอกน้อยสีขาวปลอดตามหลังมาติดๆ

"มากันแล้วหรือ? ไปเดินเล่นถึงไหนมา?"ส่งเสียงถามฟานฟานน้อยทางจิต ตั้งท่าจะอุ้มมันขึ้นมา แต่กลับถูกสามียื่นแขนออกมากันไว้ ส่วนหานตงถอยฉากออกมายืนรออยู่ด้านข้างสาวใช้ทั้งสองของฮูหยินน้อยอย่างรู้งาน

"ทำอันใด เจ้าคนนิสัยไม่ดี?"เจ้าพยัคฆ์น้อยเชิดหัวถามทางจิต น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขุ่นมัว

"หมอกำลังตรวจอาการนางอยู่ อย่าเกะกะไม่เช่นนั้น ข้าจะจับเจ้าโยนออกไป"มู่หลิ่งเหวินขู่กลับ

"เฮอะ!...หลินหลินเป็นอันใด? เจ็บตรงไหนหรือ?"เจ้าฟานฟานน้อยแค่นเสียง เฮอะ ใส่แม่ทัพหนุ่มแล้วหันมาส่งเสียงถามหลินหลินด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของคนอื่น แต่ไม่ใช่กับแม่ทัพหนุ่มที่นั่งหน้าตึงหงุดหงิดมองมันอยู่

"เอ๊ะ หลินหลินป่วยหรือเจ้าคะ?"หมั่นโถวน้อยจอมขี้แยร้องถามบ้างดวงตาสีน้ำหมึกฉ่ำน้ำจ้องมองหลินหลินอย่างหาคำตอบ

"ฟงฟงสัมผัสได้ถึงดวงจิตเล็กๆอีกสองดวงในตัวหลินหลินด้วยขอรับ"พยัคฆ์น้อยตัวพี่ร้องบอกถึงสิ่งที่มันสัมผัสได้จากร่างกายของนาง

"เป่าเปาก็รู้สึกได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นดวงจิตที่บริสุทธิ์มากด้วยขอรับ"จิ้งจอกน้อยตัวพี่ร้องบอกหลินหลินเพิ่ม เจ้าฟานฟานน้อยและเจ้าหมั่นโถวน้อย เมื่อได้ฟังสิ่งที่ทั้งสองพูดจึงลองใช้จิตสัมผัสดูบ้าง

"เหตุใดดวงจิตทั้งสอง จึงเข้าไปอยู่ในท้องของหลินหลินได้เล่าเจ้าคะ?"หมั่นโถวน้อยจอมขี้แยร้องถามฟานฟานน้อย หัวหน้าแก๊งฟานฟงเป่าโถว ชื่อแก๊งที่พวกมันช่วยกันคิดตอนออกไปเดินเล่นเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน

เจ้าพยัคฆ์น้อยรีบหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายและเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวพี่ แต่กลับถูกเมินทำทีมองฟ้ามองพื้นเสียอย่างนั้น "หากเจ้าอยากรู้ เจ้าก็ถามเอากับหลินหลินเองเถิด"โบ้ยให้หลินหลินหน้าตาเฉย

ทำเอาชิงหลินหน้ากระตุก หนอย...เจ้าฟานฟานตัวดีหาเรื่องให้นางซะแล้ว แล้วจะตอบอย่างไรดีล่ะเนี่ย? ดูสิ...มองตาแป๋วเลย

"มีอันใดหรือหลินเอ๋อร์?"เสียงของสามีเป็นดั่งระฆังช่วยชีวิตอย่างไรอย่างนั้น

"ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ"ก็นะ ต่อให้หน้าหนาขนาดไหนนางก็ไม่กล้าพูดเรื่องที่เจ้าหมั่นโถวน้อยจอมขี้แยถามหรอก

"วันนี้พี่จะออกไปตรวจดูรอบเมืองหน่อย เจ้าก็พักผ่อนเถิด"

"แต่ว่า...ก็ได้เจ้าค่ะ"คิดจะปฏิเสธแต่พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของสามีแล้วก็เปลี่ยนใจยอมทำตามที่เขาบอกโดยดี

次の章へ