นายวานิชชะงักขณะดื่มชา ลอบสังเกตคู่สนทนาที่แววตายามนี้กับคมกริชเป็นใบมีดแหลมเล็ก หลินเงียบเพราะเมื่อครู่ตนกำลังนึกถึงเรื่องราวในหงสาวดีพอดี และคิดอยู่ว่าควรจะบอกอะไรดี
"ขอรับ ข้าไปมาแล้ว" เจ้าตัวพูดไปตามความจริง
"กระนั้นหรือ...เจ้าไปมาซิหนา" สีหน้าของชายชราตึงเครียดขึ้น "เอาเถอะ มีข่าวสารกระไรถิ่นนั้นบ้างหรือเปล่า?"
"มากเทียวขอรับท่าน" หลินต้าวยกยิ้มเล็กน้อย "ข้าคิดว่าเป็นข่าวอันเป็นประโยชน์อยู่บ้างขอรับ...แต่ขึ้นอยู่กับว่าข้าจะพอฝากผีฝากไข้ ปักหลักที่นี่ได้นานกี่มากน้อยน่ะขอรับ"
ชายชราดันของกำนัลใหเกลับไปหาหลินมากขึ้นแล้วเอ่ยต่อ "ศกเก่าศกใหม่...เจ้ามันก็คนเจ้าเล่ห์ แสนกลไม่เปลี่ยน เหลี่ยมหนอเหลี่ยม"
"นั่นคือฉายาของข้าน้อยขอรับ" พ่อค้าชาวหมิงดื่มชา ฟังเสียงเพลงบรรเลงมหรสพจากที่ไกล ก่อนพูดขึ้นต่อ
"มีพวกทหารฝึกปืนกันทุกวัน แม่ค้าพ่อค้าก็มากมาย...ก่อนที่ข้าจะออกมา ยินว่ามีการรบในมณีปุระขอรับท่านขุน พระเจ้าหม่าง[2] ส่งทัพอัครเสนาบดีที่เป็นชาวรามัญ พร้อมทหารม้าไทใหญ่ แล้วกับล้านนาไปตีเมือง ซ้ำยังมีกองทัพมือปืนชั้นดีไปนับร้อยในศึกคราวนี้ พวกเขายิงปืนขึ้นฟ้าไม่นานก็พิชิตเมืองได้โดยแทบไม่เสียทหารสักราย เจ้าเมืองกระแซยอมส่งบรรณาการดอกไม้เงินดอกไม้ทอง พร้อมอาชาชั้นดีมาถวายอ่อนน้อม พระเจ้าหม่างเมตตาให้ปกครองมณีปุระตามเดิมขอรับ"
"ทหารม้า ทหารปืน ระดมทั้งรามัญทั้งไทใหญ่..." อดีตขุนนางเฒ่าขบคิดความตามที่ได้ยิน "ทำไมส่งทหารไปเยอะแยะเช่นนั้น ไม่น่าแปลกใจหรอกหรือ เมืองกระแซก็ไม่ใช่ว่าใหญ่โตกระไร"
"ขอรับ ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่เห็นว่าต้นเหตุมาจากปัญหาลุกล้ำอาณาเขตขอรับ บางทีอาจจะแสดงพลังก็เป็นได้"
"อืม ถ้าไม่นึกกระไรบางทีอาจเป็นเหตุล้ำเขตแดนก็ยกทัพไปกำราบ แต่ถ้าหากว่าพระเจ้าบาเยนองทรงวางแผนอะไรอยู่ล่ะ" ชายชราลุกขึ้นแล้วหันมาทางวาณิช "หลิน...เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดสงครามขึ้นในเร็ววันนี้"
"สงครามเป็นเรื่องใหญ่ขอรับท่านขุน และมันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน แลบัดนี้ทางนั้นก็ปกครองหัวเมืองไทใหญ่ มอญได้เสร็จสรรพอีกด้วย..."
"พวกเราที่ร้างราห่างสงครามมาตั้งเจ็ดแปดปีแล้วนับจากศึกหนก่อน[3] ชะรอยมื้อหน้านอกจากเข้าเฝ้า ข้าต้องสืบเสาะแล้วค่อยกราบทูลเรื่องนี้กับพระองค์ท่านแล้วกระมัง กันไว้ดีกว่าแก้"
ชายชรายกจอกแก้วชาขึ้นมา ก่อนพูดต่อ
"ถ้าเรื่องที่เจ้าว่าจริง ข้าจะตบรางวัลใหญ่ไว้ให้เจ้าถึงที่"
หลินต่างรีบลุกขึ้นประสานมือคารวะ...และบทสนทนาของทั้งสองก็จบลงแต่เพียงเท่านั้น
*** *** *** ***
เชิงอรรถ
^ พระองค์ดำ : ชื่อสมมุติยอดนิยมของพระนเรศในวัยเยาว์ ปัจจุบันนักวิชาการยังถกกันอยู่ถึงที่มาของพระนามนี้ เพราะปัจจุบันมีระบุในเอกสารต่างชาติว่า The Black prince เท่านั้น พระองค์อาจชื่อพ้องกับสีดำอย่าง พระนิล หรือ พระกาฬ ก็เป็นได้ครับ (ในที่นี่นักเขียนขออนุญาตใช้องค์ดำ ซึ่งทุกคนคุ้นเคยกันดีนะครับ) พระองค์ดำประสูติกาลในปี 2098 ดังนั้นตามท้องเรื่องพระองค์มีพระชนม์ราว 5 ชันษา สามารถเรียกโอรสเจ้าวังหน้าหงสาว่าพระเจ้าพี่ในรูทนี้ได้ครับ
^ พระเจ้าหม่าง (คำจีน) : เป็นชื่อเรียกพระเจ้าแผ่นดิน ผู้ปกครองพม่าในสมัยราชวงศ์หมิง สันนิษฐานว่าทับศัพท์จากคำว่า มิน, มัง หรือเมง
^ ในที่นี้หมายถึง สงครามคราวพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา คนไทยมักรู้จักกันในชื่อสงครามคราวเสียพระสุริโยทัย
ลงอ่านปรีจบเท่านี้ สวัสดีครับ
Your gift is the motivation for my creation. Give me more motivation!
Creation is hard, cheer me up!
I tagged this book, come and support me with a thumbs up!