webnovel

Chapter 4.2

"อ้อ" ผมลากเสียงยาวนิดหน่อยคล้ายกำลังแซวแต่แววตากลับเหี้ยมเกรียมขึ้นมา "แล้วมึงคิดจะไปเดตเมื่อไหร่"

"คงต้องรอกลับมาจากจีนเดือนหน้านั่นแหละ" ควินซ์ว่าอย่างไม่เดือดร้อนใจอะไรมากแต่ในขณะที่ผมนี่เรียกว่าไฟสุมอกแล้ว

แต่พอได้ยินว่าจะนัดเดตเดือนหน้ามันก็พอจะคลายความหงุดหงิดของผมลงได้บ้าง อย่างน้อยมันยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ ฮึ หนึ่งเดือนเหรอ จะได้กลับมาเดตเหรอ ไม่มีทาง!

สาบานเลยว่าผมต้องทำให้ควินซ์เป็นของผมก่อนที่มันจะได้ไปเดต!

เดี๋ยวๆ อย่างเพิ่งเข้าใจผิดนะ ผมไม่ได้คิดจะรวบหัวรวบหางควินซ์แต่จะทำให้เขามาเป็นคนรักของผมให้ได้ก่อน นั่นคือภารกิจแรกที่ผมต้องทำให้สำเร็จให้โดยเร็วที่สุด

หลังจากควินซ์บอกมาแบบนั้นแล้ว เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ต่างคนต่างกินมื้อเที่ยงและจมไปกับความคิดของตัวเอง ในตอนบ่ายค่อนข้างวุ่นวายเลยเพราะมีหัวหน้าแผนกต่างๆ ทยอยกันขึ้นมาพูดคุยปรึกษาหาแนวทางกับผม

แผนงานบางอันได้รับการแก้ไขแล้วและเมื่อผมเห็นว่ามันโอเคดีแล้วก็เซ็นอนุมัติให้ แต่อันไหนที่ยังต้องการความเห็นอื่นให้ยกไปรอลงมติในที่ประชุม

ชีวิตในแต่ละวันของผมค่อนข้างน่าเบื่อ มีแต่งานกับงานไม่เคยได้หยุดพักแบบจริงๆ จังๆ นัก ไม่รู้ว่าลาพักร้อนครั้งสุดท้ายนี่เมื่อไร

กว่างานของวันนี้จะจบลงก็ปาไปสี่ทุ่มได้... ลากเลือดอยู่เหมือนกันแต่ผลลัพธ์ของงานมันดีกว่าเมื่อเช้าก็พอจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

(ป๋าบอกว่าจะกลับมากินข้าวกับผม!) เสียงโมโหจากปลายสายทำเอาผมรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา (ฮึ่ย ผมอุตส่าห์รอกินข้าวแต่ก็รอเก้อ!)

"ป๋าขอโทษ เดี๋ยวป๋าก็ต้องไปจีนแล้วงานมันเยอะเป็นธรรมดา" พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ "เดี๋ยวพี่จะซื้อของกลับมาฝากเยอะๆ นะ"

(....) ปลายสายเงียบไปนิดหน่อยก่อนจะกระแทกเสียงใส่ (เอาขนมมาฝากเยอะๆ แล้วกัน)

ผมหลุดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะถือโทรศัพท์ฟังนับสองบ่นยาวเหยียดอีกหลายนาทีก่อนน้องชายตัวแสบจะไล่ผมไปหาข้าวกินแล้วก็ไม่ต้องกลับบ้านให้ไปนอนคอนโดแทนจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง

"ขี้บ่นจริงๆ"

(เหอะๆ ซ้อมหูไว้ฟังก่อนก็ดีนะ) นับสองหัวเราะเยาะ (น้องบ่นยังไม่สู้เมียบ่นหรอก)

หัวใจของผมกระตุกทันทีเมื่อได้ยินคำว่าเมีย... มันทำให้นึกถึงหน้าควินซ์ขึ้นมา รับรู้ได้ถึงใบหูของตัวเองที่มันร้อนขึ้นมาจึงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเกาหลังคออย่างเก้อเขิน

(ผมไปแหละ ไปหาพี่เก้าดีกว่าาา)

รอยยิ้มของผมหุบลงทันทีและแทนที่ด้วยความหึงหวง "อะไรๆ ก็ไอ้เก้า รำคาญ!"

(เอ้า สามีผมมั้ยครับ)

"ฮึ" ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ผมก็ยังไม่ชอบหน้าไอ้เด็กเวรนั่นอยู่ดี

(พี่รีบๆ หาเมียและแต่งงานสักทีเถอะ) เสียงโอดครวญของนับสองว่าขึ้น (ผมอยากแต่งงานแล้ว!)

เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลยแฮะ

ตอนนี้นับสองกับเก้าก็หมั้นกันไว้แล้ว ตามจริงสองคนนี้ก็อยากจะจัดงานแต่งตั้งแต่นับสองเรียนจบแต่พี่ไอศูรย์บอกว่าไม่ได้ จะให้น้องแต่งก่อนพี่ชายได้ยังไง สรุปคือนับสองต้องรอพี่ชายสามคนแต่งงานให้เรียบร้อยหมดก่อนถึงจะแต่งได้

และตอนนี้เหลือผมแค่คนเดียว

สำหรับพี่ออสตินเขาก็แต่งงานเรียบร้อยแล้ว ส่วนพี่ไอศูรย์...เอ่อ พูดยังดี เหมือนจะโดนคนที่ชื่อปีแอร์จับเซ็นใบสมรส ทุกวันนี้กำลังหาทางหย่าอยู่ ไม่รู้ว่าจะขำหรือร้องไห้ดีเหมือนกัน

"หาน่ะหาได้" ผมถอนหายใจแล้วส่ายหัว "เขาจะยอมแต่งกับป๋ามั้ยนี่สิ"

จีบก็ยังไม่ติด

เขาจะชอบไม่ชอบก็ยังไม่รู้

คิดถึงเรื่องแต่งงานแล้ว...ปวดตับขึ้นมาเลย

(พูดแบบนี้... พี่ควินซ์เหรอ!) จากน้ำเสียงหดหู่กลายเป็นระริกระรี้ขึ้นมาทันที (ป๋ารู้ใจตัวเองแล้วใช่มั้ย!)

"ไม่บอกหรอก" เดี๋ยวไอ้เด็กปากมากมันวิ่งแจ้นไปบอกควินซ์ขึ้นมาจะทำไง

(ไม่ต้องมากลัวว่าผมจะวิ่งไปบอกพี่ควินซ์ เพราะต่อให้วิ่งไปบอกจริงๆ พี่ควินซ์ก็ไม่เชื่อ)

"..." ทำไมมันเจ็บจี๊ดแบบนี้

"แล้วทำไมควินซ์ถึงไม่เชื่อ" เออ มีคนไปบอกแล้วยังจะไม่สะกิดใจอีกเหรอ มันต้องมีบ้างสิ

(ก็ป๋าชอบเชียร์พี่ควินซ์ให้คนอื่นตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แถมป๋าก็ไม่เคยทำตัวรุ่มร่ามใส่พี่ควินซ์ กินเด็กในสังกัดตัวเองให้พี่ควินซ์เห็นอีก) ทำไมมันลากวีรกรรมของผมออกมาแบบนี้ (พี่ควินซ์คงเชื่อลงหรอก เหอะๆ)

ผมขมวดคิ้ว "แล้วถ้ายังงั้นป๋าต้องทำยังไง"

(อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นพี่ของผมเนี่ย) อ้าว ไอ้เด็กนี่ ยังอยากได้ของฝากอยู่มั้ย (ป๋าก็เริ่มจีบสิ เริ่มต้นจีบตรงๆ ให้เขารู้ตัว แล้วก็ทำตัวดีๆ ให้พี่ควินซ์เห็น)

ทุกวันนี้ผมก็ทำตัวดีจะตาย

(ทำให้เขารู้ก่อนว่าเราชอบ)

เอ่อ... ต้องรีบบอกเลยเหรอ

ไก่จะตื่นรึเปล่า หรือ หรือควรบอกดี

"พี่ต้องบอกชอบเขาเหรอ" ถามอย่างไม่มั่นใจ

(ไม่บอกแล้วพี่ควินซ์จะรู้มั้ย) ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่พี่ด้วย! (ถามอะไรโง่จริง)

เห็นกูเป็นพี่มั้ยเนี่ย!

นับสองถอนหายใจคล้ายเอือมแต่ก็ให้คำแนะนำ (พี่ต้องบอกให้เขารู้ก่อน เขาจะได้เริ่มมองว่าสิ่งที่เราทำมันแตกต่างจากเมื่อก่อน) ร่ายยาวแบบไม่พักหายใจ (จากเมื่อก่อนถ้าเพื่อนโอบไหล่ก็ไม่คิดอะไร แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นคนที่กำลังจีบเรา คนที่ชอบเรามาโอบไหล่เรา)

เหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุดประกายในหัวของผม

(ถ้าเป็นแบบนั้น...)

"..."

(พี่คิดว่าพี่ควินซ์จะไม่เขินเลยเหรอ)

เออว่ะ แค่นี้ทำไมผมคิดไม่ได้วะ!

Bab berikutnya