กันต์ สรุปความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบไหน? กันต์ ชายหนุ่มที่ได้ยินท่านประธานถามคำถามนี้กับเขา กันต์จึงตอบว่า ถ้าเป็นแค่เด็กฝึกงานคนนั้นก็คงจะเพราะเส้นทางของเราต่างกัน ประธานจึงดึงตัวกันต์เข้ามากอดและกล่าวว่า ถึงเส้นทางของเราจะต่างกัน แต่ตอนนี้ใจเรานั้นมันตรงกันกัน แค่นั้นก็พอไม่ใช่เหรอ
สายลมอันแสนเย็นสบายได้ผสมเข้ากับไออุ่นของแสงแดดในยามเช้าทุกท่านคิดเห็นเช่นไรกับการผสมผสานของสิ่งนี้ครับ แต่สำหรับผมมันคือการผสมที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อที่มันสามารถทำให้คนนอนขี้เซาอย่างผมนั้นตื่นขึ้นมารับอรุณวันใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตัวผมที่หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วก็ได้เริ่มการทำกิจวัตรประจำวันคือการแปรงฟันอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อไปมหาวิทยาลัยตามปกติเหมือนเช่นเคยนั้นเอง และเมื่อตัวผมนั้นแต่งตัวเสร็จแล้วนั้นก็จะรีบลงมายังชั้นหนึ่งของบ้านเพื่อมาทานอาหารเช้าที่คุณแม่ของผมนั้นเตรียมไว้ให้ และเมื่อทันทีที่ผมลงมาจากชั้นสองของบ้านผมก็จะเดินไปทักทายคุณพ่อที่ตอนนี้ที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราเพราะอุบัติเหตุ และหลังจากนั้นผมก็จะเดินไปยังห้องครัวแล้วผมก็จึงได้พบกับคุณแม่ที่กำลังทำอาหารเช้าให้ผมทาน ทันทีที่ผมเดินเข้ามาห้องครัวคุณแม่ของผมก็ได้ทักขึ้นมาว่า
" อ้าวตื่นแล้วเหรอกันต์ลูก เจ้านี้ตื่นเช้ากว่าปกตินะเนี่ย "
"วันนี้ลูกรออาหารเช้าหน่อยนะเพราะแม่ยังทำไม่เสร็จเลย"
ผมที่เดินมานั่งรออาหารที่โต๊ะอาหารผมจึงได้ตอบกลับคุณแม่ไปว่า
" ครับแม่ "
"แม่ไม่ต้องรีบทำก็ได้วันนี้ผมมีเรียนช่วงสาย "
ในขณะที่ผมกำลังนั่งรออาหารที่แม่ของผมกำลังทำอยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงดัง กุก กก กุก กก ตามมาด้วยเสียงพูดว่า
"สายแล้ว สายแล้ว "
ผมที่ได้ยินเสียงนั้นจึงได้หันไปมองก่อนที่จะได้พบว่าคนที่ทำเสียงดังพวกนั้นก็คือพี่สาวของผมที่รีบลงมาจากชั้นสองของบ้านเพราะอาจจะตื่นสายแล้วไปทำงานไม่ทัน ตัวผมที่เห็นพี่สาวที่กำลังรีบร้อนที่จะไปทำงานผมจึงได้ทักเธอไปว่า
" วันนี้ตื่นสายเหรอ "
พี่ของผมเมื่อได้ยินผมทักขึ้นเธอจึงพูดขึ้นว่า
" ก็ใช่นะสิ นาฬิกาปลุกไม่รู้มันเป็นอะไรถึงไม่ดัง "
แต่แม่ผมที่ได้ยินในสิ่งที่พี่สาวพูดแม่ก็หัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
" ไม่ใช่มันไม่ดัง แต่มันดังจนไม่เงียบไปแล้ว "
" มันปลุกลูกประมาณสิบกว่ารอบได้แล้วมั่ง นี่ขนาดแม่อยู่ชั้นหนึ่งยังได้ยินมันปลุกเลย "
" แม่ว่าสิ่งที่ลูกควรทำคือเบา ๆ การดื่มมั่งดีกว่านะ เก้า "
พี่สาวผมที่ได้ยินดังนะเธอก็ได้แต่ทำหน้ายิ้มเล็กประมาณว่าหนูก็ไม่ได้ดื่มอะไรเยอะขนาดนั้นเสียหน่อยก่อนที่พี่สาวผมจะนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วเธอก็พูดกับผมว่า
" เออจริงสิ กันต์ไอ้ที่ ๆ เราของให้พี่ช่วยเรื่องหาที่ฝึกงานให้เราพี่หาให้ได้แล้วนะ "
" เดี๋ยวเรามาฝึกที่บริษัทเดียวกับพี่เลย พี่ขอหัวหน้าให้แล้ว "
ทันทีที่ผมได้ยินในสิ่งที่พี่พูดกับผมนั้น ผมแทบอยากจะลุกออกมากระโดดโลดเต้นกันเลยทีเดียวเพราะสิ่งที่ผมได้ขอกับพี่ไปอย่างนานแสนนานแล้วนั้นคือผมขอให้พี่ช่วยผมหาที่ฝึกงานให้ผมหน่อยเพราะตอนนี้ผมอยู่ปีสามแล้ว และที่มหาลัยเขาให้ผมไปฝึกงานตัวผมที่พยายามหาที่ฝึกงานแล้วแต่ก็หาไม่จนต้องไปขอร้องให้พี่สาวช่วยจนในที่สุดผมก็ได้ที่ฝึกงานกับเขาสักที เดี๋ยววันถ้าไปถึงมหาลัยแล้วผมต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟังอย่างแน่นนอน แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังดีใจอยู่นั้นพี่สาวผมจึงพูดขึ้นว่า
" ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นพี่ไปก่อนนะกันต์ "
แล้วพี่ก็หันไปหาแม่แล้วก็พูดว่า
" แม่หนูไปทำงานก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะแม่ "
เมื่อพี่ผมพูดจบแกก็รีบวิ่งออกไปอย่างเร็ว ผมที่นั่งรออาหารของแม่สักพัก แม่จึงนำอาหารเช้ามาว่างให้ผมทาน และเวลาผ่านไปและผมทานอาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจึงเดินไปเก็บจานอาหารที่ผมทานก่อนที่จะเดินมาหาแม่และก็พูดว่า
" แมครับผมไปมหาลัยก่อนนะ "
แล้วจึงเดินไปหาพ่อที่นอนติดเตียงอยู่แล้วผมจึงกอดท่านแล้วก็พูดว่า
" พ่อครับผมไปเรียนก่อนนะ "
แล้วผมจึงเตรียมตัวจัดกระเป๋าและเก็บขอก่อนที่จะออกจากบ้านไป และเมื่อผมออกมายังหน้าบ้านก็พบกับแม่ที่ต้องนี้กำลังให้อาหารหมาอยู่ ผมจึงพูดกับท่านไปว่า
" ผมไปก่อนนะครับแม่ "
และเมื่อผมทักทายท่านไปแล้วแม่ของผมจึงตอบกลับมาว่า
" เดินทางปลอดภัยนะจ้ะลูก "
ผมที่ได้ยินแบบนั้นผมจึงยิ้มให้แล้วก็เดินทางไปยังมหาลัยเพื่อเตรียมที่จะไปเรียน และเมื่อทันทีที่ผมมาถึงยังมหาลัยผมก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่ใส่สูทที่ยืนอยู่ข้างหน้ามหาลัย ผมที่ไม่ได้สนใจอะไรเขามากนักก็ได้เดินผ่านเขาไป