webnovel

เกิดใหม่เป็นสุดยอดผู้ใช้สไลม์ ตอนที่ 4

อาร์คเดวิลสไลม์ คือหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเจล มันคือร่างระดับสูงของเดวิลสไลม์ที่เจลเพิ่มจำนวนขึ้นและยกระดับมันด้วยการทั้งเลเวลอัพและการผสม อาร์คเดวิลสไลม์ไม่เพียงแค่มีพลังเวทมนตร์มากมายกว่ามอนสเตอร์ทุกชนิดที่เจลเคยพบ มันยังเต็มไปด้วยเวทมนตร์สายความมืดที่ร้ายกาจ

เมื่อฝีมือของเจลสูงเกินกว่าระดับแรงค์ เจลถูกกิลมาสเตอร์ของดาริโอนารบเร้าให้เข้ารับการสอบเป็นนักผจญภัยระดับ A ซึ่งเขามองว่ามันไม่จำเป็นสักนิด แต่ก็ยอมทำตามเพราะความรำคาญ

บททดสอบแรก เขาต้องเก็บเกล็ดของอาร์เมอร์สไปเดอร์ที่ทำรังอยู่ในหุบเหวลึก บททดสอบนี้จบลงในพริบตา เจลมีเกล็ดของแมงมุมชนิดนี้อยู่แล้วเพราะเขาเคยลองจับมันมาผสมกับสไลม์

บททดสอบที่สอง เป็นงานคุ้มกันแบบเดียวกับที่เขาเคยทำให้กับบริษัทเมลฟอริน อันนี้ราบรื่นจนเจลรู้สึกเบื่อ ไม่มีโจรที่ไหนกล้าบุกโจมตีขบวนสินค้าที่เจลเป็นผู้คุ้มกัน เขาเบื่อจนถึงขั้นที่ต้องแอบทิ้งตัวปลอมของตัวเองเอาไว้และใช้เวลาช่วงพักแรมออกไปล่ามอนสเตอร์เพิ่ม

โคลนสไลม์ หากนับความแข็งแกร่งแล้วอาจจะเทียบกับอาร์คเดวัลสไลม์ไม่ได้ แต่มันเป็นอีกหนึ่งผลงานเอกของเจลที่เขาเก็บไว้เป็นความลับ สไลม์ตัวนี้ต่างจากตัวอื่นตรงสติปัญญา มันไม่ใช่สไลม์ไร้หน้าเหมือนตัวอื่น โคลนสไลม์สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์หรือสัตว์ชนิดใดก็ได้ เจลมักให้มันแปลงเป็นตัวเขาเมื่อเจ้าตัวอยากหลีกหนีจากสถานการณ์น่าอึดอัด

"ไม่ต้องห่วงครับ พวกคุณไปนอนได้เลย ผมจะเฝ้ายามให้เอง" โคลนสไลม์พูดจาสุภาพกว่าตัวจริง จนคนในขบวนขนส่งสิ้นค้าแปลกใจ

"คุณเจลเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะพักก็พักได้นะครับ เรามีคนเฝ้ายามและคอยดูกองไฟให้อยู่ ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรค่อยปลุกคุณขึ้นมา"

"ผมพักแค่ยี่สิบนาทีก็เต็มอิ่มแล้วครับ คุณหัวหน้าขบวนไม่ต้องเกรงใจหรอก" โคลนสไลม์อยากไล่ให้เขาไปนอนเร็วที่สุด เพราะตัวมันก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวเป็นเจ้านายได้อีกนานแค่ไหน

เจลล่ามอนสเตอร์ทั้งคืนโดยไม่มีใครจับได้ ภารกิจจบลงและเขาก็ผ่านแบบทดสอบที่สองไป

แบบทดสอบสุดท้าย เจลต้องรอจนกว่านักผจญภัยระดับ A จะว่างมาเป็นคู่ประลองให้กับเขา เจลคิดว่ามันคงจะอีกนานเพราะนักผจญภัยแรงค์ตั้งแต่ A ขึ้นไปถูกเกณฑ์ไปช่วยในภารกิจต้านทานการรุกคืบของกองทัพปีศาจ แต่แล้วกลับมีการยืนยันตอบกลับมาว่ามีผู้ยินดีช่วยในการทดสอบ

เขาไม่ใช่นักผจญภัยแรงค์ A แต่เคยเป็นถึงแรงค์ S มาก่อน

[มิสเกลโด คาร์เมลอน Lv. 90]

นานแล้วที่เจลไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นฝ่ายถูกกดดัน มิสเกลโดคือชายแก่ที่แม้แต่คนไม่ค่อยตามข่าวแบบเจลยังเคยได้ยินชื่อมาก่อน เขาไม่เพียงแค่เป็นนักผจญภัยระดับ S แต่ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มของผู้กล้า

การปะทะกับกองทัพจอมมารเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้มิสเกลโดต้องถอนตัวจากแนวหน้า เขาสูญเสียแขนขวาไปพร้อมกับพลังเวทที่ถดถอย แต่ถึงภายนอกอาจหลอกล่อให้คิดว่าเขาอยู่ในสถานะอ่อนแอกว่าและจะเพลี่ยงพล้ำได้ง่าย เจลกลับรู้สึกได้ว่าชายแก่ผู้นี้คือตัวอันตรายที่เกินระดับ A ไปแล้ว

เจลควรปฏิเสธข้อเสนอไป แต่มิสเกลโดจับทางเขาได้อย่างอยู่หมัด ชายแก่เสนอว่าหากทำให้เขายอมรับได้ "อาร์คแองเจิลสไลม์" ที่มีเพียงตัวเดียวในโลกจะตกเป็นของเขา

มิสเกลโดขอยืมสนามต่อสู้ประจำเมืองดาริโอนามาใช้ในการประลองกับเจล เจลตอบรับโดยไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับสถานที่ เพราะนึกว่ามันคงมีแค่เจ้าหน้าที่มาร่วมดูการทดสอบเหมือนกับตอนทดสอบแรงค์ที่เขาเคยผ่านมา แต่พอถึงเวลาจริง เจลอยากหนีจากการทดสอบ ไปหลบซ่อนตัวเอง เพราะผู้ชมมากมายแห่กันมาจากไหนบ้างก็ไม่รู้

เจลมารู้ภายหลังว่ามิสเกลโดไม่ได้ยืมสนามมาเฉย ๆ เขาจ่ายค่าเช่าให้กับเมืองด้วย แต่เขาไม่ขาดทุนอย่างแน่นอนเพราะขายบัตรเข้าชมที่ราคาสูงลิบเอาเงินเข้ากระเป๋าของชายแก่ไปเต็ม ๆ ถ้าเขาชนะเจลได้เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้อาร์คแองเจิลสไลม์กับเจลด้วย นั่นคือเขาจะได้กำไรร้อยเปอร์เซ็นต์

"ชิ ตาแก่เจ้าเล่ห์ มาหลอกกันได้นะ"

"ไม่เอาน่า แค่เจ้าเอาชนะตาแก่แขนด้วนได้ก็จะได้สไลม์ระดับตำนานเลยนะ" มิสเกลโดว่าพร้อมกับถอนขนจมูกตัวเองแบบไม่ค่อยใส่ใจ ท่าทางไม่น่าเคารพเหมือนที่เจลเคยได้ยินมาสักนิด

"อัดคนแก่อาจจะดูไม่ค่อยดี แต่ขออัดหน่อยก็แล้วกัน"

"ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ทำได้ก็เอาเลยไอ้หนู"

เจลเป็นฝ่ายลงมือก่อน เขาเข้าโจมตีระยะประชิดซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนของจอมเวท แต่ไม่ได้เข้าถึงตัวมิสเกลโดง่าย ๆ ชายแก่มีกำแพงเวทป้องกันหลายชั้น แถมเขายังมีโล่เวทมนตร์ไว้ยามฉุกเฉินอีก

กำแพงเวทเป็นสกิลธาตุแสง เจลจึงเรียกอาร์คเดวิลสไลม์ออกมาช่วย กระสุนแห่งความมืดทะลวงกำแพงเวททั้งสามชั้นทะลุไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่ก็ยังไม่ผ่านโล่เวทมนตร์ของมิสเกลโด

"พลังทำลายน่ากลัวจริง ต่อให้เป็นปีศาจชั้นสูงก็ไม่ใช่ทุกตัวหรอกนะที่ทะลวงกำแพงเวทสามชั้นเข้ามาได้"

มิสเกลโดร่ายกำแพงเวทใหม่ในพริบตา ส่วนอาร์คเดวิลสไลม์ก็ทำลายพวกมันอีก

เจลรู้ว่ามิสเกลโดมี MP มากกว่ามาก การแข่งกันโจมตีและสร้างบาเรียแบบนี้ฝ่ายเขาคือฝ่ายที่เสียเปรียบ แต่ยังไม่ทันจะได้ใช้แผนใหม่ มิสเกลโดก็เริ่มโจมตีบ้าง

"เพลิงจักรพรรดิ"

เป็นการร่ายเวทระดับสูงในพริบตา เจลไม่เคยพบจอมเวทที่ไหนร่ายเวทได้แบบนี้มาก่อน เขาต้านทานไว้ด้วยสกิลไฟไร้ผลของแมกมาสไลม์ แต่ความเสียหายกลับยังอยู่ เป็นหลักฐานว่าระดับเวทของมิสเกลโดเหนือกว่าเขามาก

เจลใช้โอริคัลคุมสไลม์ห้าตัวพร้อมกัน ทั้งห้ากลายเป็น ดาบ โล่ เกราะ หมวกและรองเท้า

"ยอดเยี่ยม! พลังป้องกันอาจจะเหนือกว่ายาร์ตินซะอีก"

ยาร์ติน ดาริโอนาที่มิสเกลโดพูดถึงนอกจากจะเป็นเชื้อพระวงศ์สำคัญของอาณาจักรดาริโอนาแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มผู้กล้าเช่นเดียวกันมิสเกลโด เชื่อกันว่าเขาคือชายที่ทนทานมากที่สุดในโลกและเป็นเพื่อนคนแรกของผู้กล้าอีกด้วย

คำชมของมิสเกลโดไม่ได้ทำให้เจลดีใจสักนิด เพราะแม้เขาจะงัดมาตรการป้องกันออกมาเต็มที่แต่เขาก็หยุดความเสียหายของอีกฝ่ายไม่ได้อย่างสมบูรณ์ เจลหันมาใช้วิธีการเกลือจิ้มเกลือ เอาการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาสวนกลับไปบ้าง แต่ด้วยระดับของเวทที่ต่างกัน มันจึงไม่เห็นผลนัก

"สายฟ้าสวรรค์"

"สายฟ้าสวรรค์"

เวทมนตร์พุ่งเข้าสวนกัน สายฟ้าสวรรค์ของมิสเกลโดมีเลเวลถึง 70 เป็นเวทสายฟ้าที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ ส่วนเจลเพิ่งฝึกเวทระดับนี้ได้ไม่นาน ซึ่งเขาเคยคิดว่าเลเวล 34 ของสายฟ้าสวรรค์เป็นตัวเลขที่สูงมากแล้ว

อันที่จริง ความคิดของเจลไม่ได้ผิด เวทมนตร์นี้อยู่ในขั้นสูงจนทั้งโลกนี้มีคนเรียนรู้ได้แค่สิบคนเท่านั้น และเลเวล 34 ของเขาก็เป็นรองเพียงแค่สองถึงสามคนในนั้นซึ่งรวมมิสเกลโดด้วย ดังนั้นเขาไม่ได้อ่อนแอ แต่ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป

อย่างไรก็ตาม ผลของระดับที่น้อยกว่าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เจลกลัว เขาไม่สามารถหยุดเวทอีกฝ่ายได้ แต่สามารถทำให้มันเบี่ยงวิถีออกไป ถ้านับจากผลลัพธ์ที่รอดตายมาได้ฉิวเฉียด ก็ถือว่าเขาทำได้เกินความคาดหวังของทุกคนที่กำลังดูอยู่

"นี่คิดจะฆ่ากันจริง ๆ เลยใช่ไหมตาแก่"

มิสเกลโดหัวเราะแห้ง ๆ อีกฝ่ายเป็นเทมเมอร์เขาจึงไม่ได้คิดว่าจะมีเวทมนตร์แบบนี้อยู่ด้วย เมื่อครู่เขาแค่คิดจะใช้เวทนี้ขู่เจลเท่านั้น แต่ระหว่างต่อสู้ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขาเผลอเอาจริง

"หนักมือไปหน่อยแฮะ แต่ก็เก่งนี่ที่รอดได้"

"ไม่ใช่แค่รอดหรอก แต่จะเอาชนะให้ได้ด้วย" เจลแสยะยิ้ม เขาเริ่มมีไฟอยากเอาชนะขึ้นมา

เจลเรียกสไลม์ออกมาจำนวนมาก ทุกตัวเป็นสไลม์หายากที่เก็บเลเวลมาจนเกิน 50 ไปแล้ว

"เรียกพวกเหรอ ค่อยสมกับเป็นเทมเมอร์หน่อย" มิสเกลโดหัวเราะอย่างนึกสนุก "ถึงข้าจะไม่ใช่เทมเมอร์ แต่ก็มีเหมือนกันนะเจ้าพวกเวทอัญเชิญเนี่ย"

เจลรู้สึกขนลุกชูชันไปทั้งร่าง มอนสเตอร์ที่อีกฝ่ายเรียกมา เขาเคยได้เห็นได้อ่านมาจากตำราเท่านั้น แต่ละตัวล้วนเป็นมอนสเตอร์ที่มาจากทวีปปีศาจ และยังเป็นมอนสเตอร์ระดับบอส

[แบล็กออร์คคิง Lv. 123] [ทูเฮดอีวิลดรากอน Lv. 113] [ไพโรแมนเซอร์ Lv. 134] [อินเซคเอ็มเพอร์เรอร์ Lv. 180]

"บ้าไปแล้ว เลเวลสูงกว่าตาแก่ทุกตัวเลย" เจลร้องลั่น

"แย่หน่อยนะ พวกนี้คือขุนพลปีศาจ ยอมแพ้ซะเถอะเจ้าหนู"

มิสเกลโดไม่ได้คิดจะสู้ต่อ มอนสเตอร์ทั้งสี่เป็นมอนสเตอร์ระดับขุนพลจากโลกปีศาจตัวจริง มันถูกกลุ่มผู้กล้าปราบอย่างยากลำบากและถูกเขาบังคับทำสัญญาให้มารับใช้ มิสเกลโดเรียกพวกมันออกมาเพื่อให้เจลได้ตระหนักว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เขาไม่อยากให้เจลที่ยังเด็กอยู่ทะนงในพลังของตนจนเกินไป

ความคิดของมิสเกลโดไม่ได้ผิด แต่เขาไม่รู้จักกับเจล ยิ่งถูกกดดันเจลก็ยิ่งไม่ยอมศิโรราบโดยง่าย เดิมทีเขาไม่ได้สนใจการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายบีบให้ยอมแพ้ ความคิดในหัวของเขาก็เปลี่ยนไป

...ต่อให้ต้องตายในวันนี้ก็จะไม่ยอมถอย…

ราวกับรู้ว่ามิสเกลโดแทบไม่เหลือพลังเวทหลังจากที่ซัมมอนสุดยอดมอนสเตอร์ออกมา เจลเลิกสนใจชายชราและหันมาทุ่มพลังไปกับมอนสเตอร์ทั้งสี่แทน

โคลนสไลม์ Lv. 65 เปลี่ยนร่างเป็นเจลและรับมอบโฮริอัลคุมสไลม์ทั้งหมดไปแทน เจลขอให้มันช่วยต้านแบล็กออร์คคิงเอาไว้ โดยมีกาโบสไลม์ Lv. 66 คอยทำหน้าที่สนับสนุน

อาร์คเดวิลสไลม์ Lv. 51 คลาวด์สไลม์ Lv. 62 ที่บินได้จะคอยสกัดทูเฮดอีวิลดรากอนที่มีปีกเช่นกัน ส่วนนินจาสไลม์ Lv. 59 จะคอยช่วยสนับสนุนทั้งคู่จากภาคพื้นดินด้วยการโจมตีที่มีความหลากหลาย

แมกมาสไลม์ Lv. 53 บลูเฟลมสไลม์ Lv. 57 คือสไลม์สองชนิดที่มีสกิลไฟไร้ผลและมีเลเวลสูงพอจะรับความเสียหายได้บ้าง เช่นเดียวกับสองกลุ่มแรก เจลเรียกพวกมันออกมาเพื่อถ่วงเวลาไว้เท่านั้น

นอกจากบรรดาสไลม์ที่เป็นกองหน้าแล้ว ก็ยังมีกลุ่มกลางที่จะสนับสนุนทุกกลุ่มอีกที เริ่มด้วย เกรทฮีลลิงสไลม์ Lv. 54 ร่างพัฒนาขั้นสุดท้ายของฮีลลิงสไลม์ที่มีกระทั่งเวทชุบชีวิต ฟอร์จูนสไลม์ Lv. 47 สไลม์ที่มีพลังที่จะมอบโชคดีให้กับฝ่ายตัวเองและอาจรวมถึงลดโอกาสที่ศัตรูจะมีโชค มานาสไลม์ Lv. 34 สไลม์ที่แม้จะเลเวลน้อยแต่เจลก็จำเป็นต้องใช้ มานาสไลม์จะคอยเร่งอัตราฟื้นฟูพลังเวทให้กับฝ่ายตนเองทุกคน

"เจ้าหนูรีบยอมแพ้ซะ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าจะควบคุมมันได้อีกนานแค่ไหน" มิสเกลโดเตือน เขาใช้พลังเวทไปมากเกินไปจนเกือบยืนไม่อยู่แล้ว

"งั้นก็ยอมแพ้ไปสิ" เจลตะโกนกลับ

เจลมีเลเวล 72 เทียบกับอินเซคเอ็มเพอร์เรอร์แล้ว มันต่างกันเกินสองเท่า แม้แต่มิสเกลโดก็ไม่คิดว่าเจลจะใช้วิธีเผชิญหน้ากับศัตรู

สารพัดสกิลของทั้งสองฝ่ายสาดใส่กันจนเกิดความพินาศไปทั่ว ผู้ชมต่างทยอยหนีตายกันจ้าละหวั่น ส่วนเจลก็ไม่มีทีท่าว่าจะหนีสักนิด

อินเซคเอ็มเพอร์เรอร์มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ผสมกับแมลงหลายชนิด มีเขาเหมือนด้วง ตาและปากคล้ายมด แขนสองข้าง ขาสองข้างและยืนหลังตรงเหมือนกับมนุษย์แต่มีเปลือกแมลงปกคลุมทั้งร่าง

มันเร็วกว่ามอนสเตอร์ทุกชนิดที่เจลรู้จัก เร็วจนสายตาเกือบจะตามไม่ทัน เจลใช้สกิลทุกอย่างที่เพิ่มความเร็วและการรับรู้ให้กับตัวเองแล้วแต่เขายังเทียบความเร็วกับมันไม่ได้

[ได้รับสกิลเจ้าแห่งความเร็ว Lv. 1]

[ได้รับสกิลปฏิกิริยาตอบสนองขั้นสูงสุด Lv. 1]

[ได้รับสกิลดวงตาเทพเจ้า Lv. 1]

ในการแข่งความเร็ว เจลได้รับสกิลใหม่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย มันทำให้เขามองเห็นและตามความเร็วทันขึ้นอีกนิด

ศัตรูมีพลังโจมตีมหาศาล แต่เจลก็เอาตัวรอดมาได้ด้วยสกิลของโอริคัลคุมที่เขาเลียนแบบผ่านสกิลเจ้าแห่งสไลม์ ที่เพิ่งจะขึ้นมาเป็น Lv. 2 หมาด ๆ

ร่างโคลนของเจลมีสภาพคล้ายกัน เขาถูกแบล็กออร์คคิงถลุงอยู่ข้างเดียว แต่ก็ได้ชุดเกราะโอริคัลคุมครบเซ็ตช่วยเอาไว้

หลายครั้งที่ร่างโคลนเกือบเสียท่า กาโบสไลม์ที่รอจังหวะอยู่จะใช้เพลิงจักรพรรดิโจมตีใส่แบล็กออร์คคิง ความเสียหายอาจจะไม่มากแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายถูกผลักถอยออกไปและช่วยให้ร่างโคลนตั้งหลักได้

ไพโรแมนเซอร์ เป็นมอนสเตอร์สายจอมเวท มันเหมือนกับมิสเกลโดที่มีทักษะด้านเวทไฟล้วน ๆ เจลมองตรงนั้นออกจึงให้แมกมาสไลม์ และบลูเฟลมสไลม์ที่มีทั้งไฟไร้ผลและพลังต้านทานไฟ ไพโรแมนเซอร์สามารถร่ายเวทเพื่อลบผลของไฟไร้ผลได้แต่ด้วยพลังต้านทานไฟระดับสูง พวกมันจึงไม่ถูกเล่นงานจนระเหิดไปในการโจมตีครั้งเดียว

จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเกรทฮีลลิงสไลม์ มันมีสุดยอดเวทที่สามารถรักษาพรรคพวกได้พร้อมกัน และแม้ว่ามันจะกินพลังเวทอยู่พอสมควร ก็ไม่ได้มีปัญหาเพราะเจลได้ให้มานาสไลม์มาคอยเพิ่ม MP ให้ทุกคนแล้ว

ทูเฮดอีวิลดรากอนเป็นมังกรที่ตัวใหญ่กว่าไฟร์ดรากอนที่เจลเคยรับมือประมาณสามเท่า แค่ลมจากปีกที่พัดกระพือสามารถก่อลมพายุกวาดคนปลิวไปได้โดยไม่ต้องพึงพาสกิลใด ๆ หัวทั้งสองของมังกรเองนั้นใหญ่โตจนสามารถกลืนมนุษย์เข้าไปได้ทั้งเป็น และปากทั้งคู่สามารถพ่นออกมาได้ทั้งไฟ สายฟ้า ความเย็นและแม้แต่ธาตุความมืด

อาร์คเดวิลสไลม์รับบทสำคัญในการโจมตีมังกรสองหัว ส่วนคลาวด์สไลม์มีสกิลหายากที่ใช้ควบคุมอากาศ เจลสั่งให้มันคอยรบกวนอากาศที่อยู่ใต้ปีกของมังกรทำให้อีกฝ่ายบินขึ้นไม่ได้

ผ่านไปหลายนาทีหลังจากที่ปีศาจทั้งสี่ปรากฏตัว แม้แต่กรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินยังวิ่งหนีไปแล้ว มนุษย์เพียงสองคนที่เหลืออยู่ในสนาม คือเจลกับมีสกัลโด อีกฝ่ายได้ยอมแพ้ และพยายามช่วยให้เจลหนีไปได้ เขาพยายามยกเลิกการอัญเชิญแต่ไม่สำเร็จ

"ขอโทษนะเจ้าหนู ข้าพลาดไปจริง ๆ ที่เอาพวกนี้ออกมาพร้อมกัน ข้าจะส่งพวกมันกลับแม้ว่ามันจะต้องแลกด้วยชีวิตของตาแก่คนนี้"

"ไม่จำเป็นหรอก อีกเดี๋ยวฉันก็หาทางล้มพวกมันได้แล้ว"

สภาพของเจลไม่เหมือนกับที่คุยโว เขากำลังเจ็บหนัก ขาข้างซ้ายหัก ส่วนไหล่ขวาแหว่งไปจนแขนข้างเดียวกันร่องแร่งเหมือนจะขาด ทั่วทั้งร่างชโลมไปด้วยเลือด

ร่างของเขาได้รับการรักษาในพริบตาจากเกรทฮีลลิงสไลม์ แต่ไม่นานเขาก็กลับไปมีสภาพเหมือนผ้าขี้ริ้วอีกครั้ง

ในการใช้โอริอัลคุมสไลม์ เจลไม่สามารถคงสภาพของสกิล "ร่างโอริคัลคุม" ได้ตลอดเวลา ผลจึงกลายเป็นว่าเขาโดนอินเซคเอ็มเพอร์เรอร์เล่นงานจนเกือบตายครั้งแล้วครั้งเล่า บางครั้งก็ไม่ใช่แค่เกือบ เขาถูกฆ่า แต่ถูกเวทชุบชีวิตกลับขึ้นมา

พวกปีศาจทั้งสี่ไม่ได้โง่ มันรู้ว่าการประสานระหว่างเกรทฮีลลิงสไลม์กับมานาสไลม์คือสิ่งที่ทำให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อ พวกมันพยายามฝ่าสไลม์อื่น ๆ และเจลที่สู้เพื่อต้านทานไว้ และเป็นแนวหน้าตั้งรับ

Bab berikutnya