webnovel

ตอนที่ 1 การจากไปและการกำเนิดใหม่

 

____ภาพหญิงสาวงดงามที่นอนอยู่บนเตียง พร่ำพูดบางสิ่งบางอย่างด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กอดทารกพลางร้องไห้อย่างเศร้าโศกจนหยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาเป็นสายกระทบใบหน้าเด็กน้อยในอ้อมแขน ภาพหญิงสาวในชุดผ้าคลุมอุ้มพาทารกเดินทางด้วยรถม้าเป็นระยะทางไกล วางตะกร้าทารกลงบนหน้าโบสถ์พร้อมจดหมายที่วางอยู่บนตัวเด็กน้อยด้วยอาการเศร้าโศกและสะอื้นไห้ เสียงกรีดร้องโวยวายที่ดังขึ้นหน้าโบสถ์ยามเช้า ทุกสิ่งกลายเป็นเพียงภาพความฝันที่สลายไปยามเช้าดั่งหมอกควัน

 

....

 

____แพขนตาหนาเปิดขึ้นในความมืดมิดเงียบงัน แฟนธ่อมลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝันเช่นเดิมอีกครั้ง เด็กชายสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด อากาศหนาวเย็นเสียดกระดูกถูกสูดเข้าผ่านจมูกแพร่กระจายไปทั่วร่างกายเด็กชาย อากาศหนาวเหน็บติดลบทำให้สมองของแฟนธ่อมตื่นเต็มที่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องล้างหน้าหรือดื่มกาแฟแต่อย่างใด

____แฟนธ่อมรู้ตัวทันทีว่าเขาฝันถึงเรื่องเก่าๆอีกครั้ง เรื่องที่ฝันก็ยังคงเป็นเรื่องเดิม ในวันที่แฟนธ่อมได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้นั้น เขาเกิดภายในห้องใต้ดินอับชื้นมืดมิดที่ไร้แสงไฟ มารดาของเขาถูกรุมล้อมด้วยผู้ทำคลอดประมาณ 5 คน แฟนธ่อมยังจำวันแรกบนโลกใบนี้ของเขาได้ดี มารดาเอาแต่พร่ำพูดคำว่า 'แฟนธ่อม' ไม่หยุด และยังพูดอะไรอีกมากมายที่เขาจำไม่ได้ เนื่องจากในเวลานั้นเขาอยู่ในสภาพของเด็กทารกที่พึ่งคลอด โดยปกติบุคคลที่เคยมีลูกมาก่อนจะเข้าใจดีว่าชั่วโมงแรกๆที่เด็กพึ่งคลอด พวกเขาหรือเธอจะยังไม่ลืมตา แต่ในวันนั้นแฟนธ่อมก็พึ่งได้รับรู้ถึงความลับอีกอย่าง แม้แต่เสียงทารกก็แทบไม่ได้ยิน แต่หลังจากผ่านมาหลายปีเขาก็จำได้ในที่สุด คำๆหนึ่งที่มารดาพูดย้ำไม่หยุดคือ 'ขอโทษด้วยลูกรัก แม่รักลูก แม่และพ่อของลูกเรารักลูกมาก'

____นี่เป็นความฝันที่แม้ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว แต่แฟนธ่อมก็ยังคงฝันถึงมันบ้างในบางครั้ง และจำมันได้อย่างเลือนลาง 

____สายตาของแฟนธ่อมกวาดมองผ่านความมืดมิดภายในห้องนอนรวม เขาก็รู้ทันทีว่าเขาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เหนือหัวของเขาแทบจะอยู่ติดเพดาน เนื่องจากแฟนธ่อมนอนอยู่บนเตียงสองชั้น เขาพักอาศัยอยู่ในโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงเมโทรไลท์ เมโทรไลท์เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรออโรร่า โบสถ์ที่แฟนธ่อมอยู่คือมหาวิหารแห่งแสง มหาวิหารแห่งแสงเป็นหนึ่งในศาสนาหลักประจำอาณาจักรออโรร่า

____แฟนธ่อมย้อนนึกไปถึงวันที่เขาตายและเกิดใหม่ เดิมทีเขาคือหนึ่งในสายลับขั้นสุดยอดของประเทศมหาอำนาจแห่งหนึ่งบนโลก ชื่อเดิมของเขาถูกลบออกจากรายชื่อบุคคลบนโลกไม่ว่าจะในแง่มุมหรือความเกี่ยวข้องใดก็ตาม เขาได้กลายเป็นบุคคลไร้ตัวตน เขามีหลายใบหน้าและมีชื่อปลอมนับพัน แต่โค้ดเนมของเขาก็คือ 'แฟนธ่อม' แล้วนั่นก็ได้กลายเป็นชื่อที่ศัตรูและพันธมิตรของเขารู้จัก เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง พูดได้หลายภาษา แฮกระบบคอมพิวเตอร์ได้ง่ายดาย ขับยานพาหนะได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ เครื่องบินรบ รถถัง และ เรือดำน้ำ กระทั่งรถเทรลเลอร์เขาก็สามารถขับได้ แม้ตัวตนของเขาจะไม่เคยเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เขาได้สร้างผลงานไว้ให้กับประเทศชาติและมีส่วนร่วมในการหยุดยั้งสงครามหลายต่อหลายครั้ง

____ทว่าสิ่งที่แฟนธ่อมได้รับกลับเป็นลูกกระสุนเงินที่ถูกยิงเข้าใส่ด้านหลัง หากเป็นเพียงกระสุนปืนไม่กี่นัดเขาคงหลบได้ แต่แฟนธ่อมกลับถูกระดมยิงด้วยเครื่องยิงปืนกลเลเซอร์อัตโนมัติที่ถูกควบคุมด้วยเอไอเสมือนมนุษย์ สถานที่สุดท้ายแห่งชีวิตของเขา ก็คือสำนักงานใหญ่ของเขานั่นเอง

____แฟนธ่อมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงถูกกระทำเช่นนั้นหลังจากสร้างผลงานยิ่งใหญ่ เขาได้มอบชีวิตให้แด่ประเทศชาติไปแล้ว อันที่จริงต่อให้ประเทศแม่บอกว่าต้องการให้แฟนธ่อมไปตายที่ไหนเขาก็ยินดี โชคร้ายที่ลูกกระสุนปืนได้ตัดขั้วหัวใจและกล่องเสียงของเขาไปแล้ว มันทำให้แฟนธ่อมไม่อาจถามหัวหน้าของเขาถึงสาเหตุของการสังหารเขาในครั้งนี้ ภาพสุดท้ายในสายตาของแฟนธ่อมจึงเป็นสายตาอันแสนเย็นชาของหัวหน้าของเขา ซึ่งที่จริงแล้วหัวหน้าของเขาคนนั้นก็คือน้องชายของแฟนธ่อมเอง ในเวลานั้นหัวใจของแฟนธ่อมก็เย็นชาเหมือนในเวลานี้ 

____ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อตายไป เขาได้เกิดใหม่เหมือนดั่งนกฟีนิกซ์ แต่แฟนธ่อมแค่ไม่เข้าใจว่าด้วยผลงานที่เขาทุ่มเทแด่ประเทศชาติมากมาย ทำไมมันไม่ได้ทำให้เขาได้เข้าสู่ดินแดนของพระเจ้าและได้รับการพักผ่อนเสียที สิ่งที่เขาพบกลับเป็นอากาศหนาวเย็นสุดขั้วรอบตัว และมารดาของเขาที่ร้องไห้ตลอดเวลา

____หลังจากผ่านการเดินทางด้วยรถม้าหลายวัน ตลอดเวลาท้องฟ้ามีแต่เมฆหนาและความมืดมิด ในที่สุดเด็กทารกก็ถูกนำมาวางไว้หน้าวิหารเซนท์มารีอาอย่างน่าประหลาดใจ ในยามที่พึ่งเกิด แฟนธ่อมย่อมไม่สามารถรับรู้ถึงกาลเวลาได้ แต่ทักษะการสังเกตและการคำนวณระยะทาง เป็นทักษะขั้นพื้นฐานในพื้นฐานของสายลับ นั่นทำให้แฟนธ่อมรับรู้ได้ว่ารถม้าคันที่นำพาเขาไปนั้น เดินทางเป็นเวลาหลายวัน ออกจากหลายเมือง วิ่งผ่าน หมู่บ้าน ป่า และ ภูเขา เป็นระยะทางไกล สุดท้ายพวกเขานำร่างเด็กทารกไปวางไว้หน้าตัวอาคารโบสถ์เซนต์มารีอาด้วยความจงใจ

____เหตุผลที่แฟนธ่อมเชื่อว่าพวกเขาจงใจกระทำเช่นนั้น เพราะตลอดหลายวันของการเดินทาง การที่รถม้าวิ่งผ่านหลายเมืองนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพบโบสถ์อื่น ๆ หลายโบสถ์ พวกเขาสามารถทิ้งแฟนธ่อมไว้ที่โบสถ์ใดก็ได้ หากพวกเขาแค่เพียงอยากจะทอดทิ้งเด็กทารกสักคนมันไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่มันวุ่นวายมากถึงเพียงนี้ แต่พวกเขากลับเจาะจงที่จะเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ทั้งยังนำเด็กทารกมาวางไว้หน้าประตูโบสถ์ยามเช้ามืด

____หากเป็นเด็กทารกคนอื่นคงไม่มีทางจดจำและรับรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เกิดได้ แต่แฟนธ่อมจำได้ทั้งสิ้น ทุกสิ่งที่มารดาและคนรับใช้ของมารดาเหล่านั้น นำเขาไปทิ้งไว้หน้าโบสถ์ด้วยความตั้งใจของพวกเขา อีกทั้งในจดหมายยังเน้นย้ำไว้ด้วยว่าชื่อของเด็กทารกคือ 'แฟนธ่อม' เขาไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรือเป็นความจงใจของโชคชะตา แต่นั่นกลับเป็นโค้ดเนมหรือฉายาเดิมของเขา

____เวลาผ่านไปเกือบ 5 ปีแต่แฟนธ่อมรู้สึกเหมือนว่ายาวนานนับ 500 ปี ผู้คนมักว่ากันว่าเวลาที่มีความสุขเวลามักผ่านไปไวเสมอ เช่นนั้นในเวลานี้ตัวเขาคงไม่รู้สึกเป็นสุขนัก วิหารเซนต์มารีอายอมรับเขาไว้ในการอุปการะในที่สุด ไม่แปลกที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะวิหารเซนต์มารีอาแห่งนี้เป็นทั้ง โบสถ์ โรงพยาบาล โรงเรียน และ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

____หากว่ากันตามจริง วิหารแห่งนี้มีสถานะเป็นวิหารระดับสูงอยู่ภายใต้ศาสนามหาวิหารแห่งแสง วิหารเซนต์มารีอามีบิชอปของมหาวิหารแห่งแสงประจำการอยู่ 1 คน บาทหลวง 5 คน ซิสเตอร์ 10 คน และเด็กกำพร้าอีกนับร้อยคน นอกจากนั้นยังมีอโคไลท์และโนวิซอีกหลายคน

____นี่คือสถานที่ที่แฟนธ่อมเติบโตขึ้นมา บิชอป , บาทหลวง และซิสเตอร์ส่วนใหญ่ใจดี แต่สำหรับคนอื่นนั้นไม่ใช่ แม้จะเป็นโบสถ์แห่งศรัทธาที่มีรายรับสูงและได้รับการบริจาคมากมายทุกวัน แต่เนื่องจากผู้คนในโบสถ์ที่มากเกินไป และความโลภของผู้คนที่ไม่เคยเพียงพอ พวกเด็กๆจึงมันจะแอบแก่งแย่งกันลับหลัง ไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงอาหาร , เสื้อผ้า , สิ่งของมีค่า หรือแม้กระทั่งการแก่งแย่งความดีความชอบ พวกเด็กกำพร้ามักจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเป็นที่รัก พวกเขาต้องการถูกมองเห็นอยู่ในสายตาของบิชอปและเหล่าซิสเตอร์ในโบสถ์

____แต่ว่าแฟนธ่อมไม่จำเป็นต้องพยายามอะไร แฟนธ่อมฉายแววความฉลาดตั้งแต่เยาว์วัย เขาสามารถเรียนรู้การพูดได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกๆที่มาอยู่ที่โบสถ์ เด็กชายสามารถซึมซับทุกความรู้รอบตัวได้ราวกับเป็นฟองน้ำกลืนกินคลื่นมหาสมุทร ไม่เพียงแค่นั้น แฟนธ่อมยังเป็นคนที่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำให้ผู้ใหญ่ชอบได้ ที่ร้ายกาจที่สุดคือแฟนธ่อมหน้าตาน่ารักมาก ผู้คนส่วนใหญ่แม้แต่เหล่าสานุศิษย์ก็มักจะชื่นชมรูปลักษณ์หน้าตาของแฟนธ่อมก่อนเป็นอันดับแรก เขาเองก็ได้เห็นหน้าตาของตนเมื่อได้รับอนุญาตให้เข้าไปส่องกระจกในห้องของบิชอป เมื่อได้เห็นแฟนธ่อมก็ค่อนข้างแปลกใจ ผิวที่ละเอียดและเส้นผมราวแพรไหมสีเงินนั้นสมควรไปอยู่บนเรือนร่างของเด็กสาวคนอื่นมากกว่าอยู่บนร่างกายเด็กชาย