ผู้มีพระคุณในวันนั้น คือ สามีในวันนี้ หลังจากที่ “มิราวดี” ถูกคู่หมั้นทรยศจนหนีหัวซุกหัว ยังต้องมาเจอกับชายผู้มีพระคุณที่ไม่ว่าไปไหนก็เจอทุกที่ ต่อมาต้องตกลงแต่งงานกับเขาเพื่อความอยู่รอด กว่าจะล่วงรู้ว่า มีอายุราว “เทียด” ก็ดันตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ทว่าโชคชะตาทำให้ต้องเผชิญกับความรักแสนเจ็บปวดไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อเรื่องราวในอดีตได้ย้อนกลับคืนมา และจู่ ๆ วิญญาณปริศนาก็ปรากฏขึ้นพร้อมยื่นข้อเสนอว่า ‘ยกร่างให้หล่อน’ เพื่อชดเชยบาปที่เธอได้ทำไว้ในอดีต !
ด้วยความฉลาดแต่หัวรั้นของหญิงสาว ส่งผลให้สมาชิกทีมเกิดความหมั่นไส้และทิ้งเธอไว้ที่เกาะประหลาดกลางทะเล พอตกดึกเธอก็พบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมาในอดีตเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว แถมยังถูกไล่ล่าจากกลุ่มชายฉกรรจ์อาวุธครบมือ เธอจะสามารถมีชีวิตรอดไปได้หรือไม่...โปรดติดตาม
สาวน้อยตาบอดในยุคปัจจุบัน ทะลุมิติมายังร่างของคุณหนูขี้โรคไร้ตัวตนอยู่ท้ายจวนที่แสนรกร้าง....แล้วทำไมล่ะ?ตอนนี้เธอมีดวงตาแล้วนี่! "ช่วยด้วย!คุณหนูเสียสติไปแล้ว!"
เมื่อหมดสิ้นหนทาง เด็กสาวจึงต้องเสี่ยงตายไปสมัครเป็นนักผจญภัยเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
“ข้าจะขอยกเลิกการเป็นคู่หมายของท่าน ท่านว่าดีหรือไม่” ถ้อยคำที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทำให้แม่ทัพหนุ่มชะงัก รอยยิ้มหายไปทันที ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงและเย็นชาขึ้นจนดูน่ากลัว ดวงตาคมทรงเสน่ห์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มเขม็งและดุดันยิ่ง น้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าจริงจังจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งแววตารักใคร่เทิดทูนที่มีให้ บัดนี้กลับไม่มีให้เห็นแม้สักเสี้ยว ส่วนสิ่งที่สัมผัสได้จากดวงตากลมโตกลับมีเพียงความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และว่างเปล่าไร้ระลอกคลื่นแห่งเสน่หา เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดอารมณ์เสียยิ่งนัก ‘มารดาเจ้าเถิด!’ แม่ทัพหนุ่มสบถในใจ แรงโทสะทำให้เขาเผลอปล่อยจิตสังหารออกมา ทำเอาหญิงสาวรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก ความกล้าที่พกมาเต็มเปี่ยมลดฮวบจนแทบไม่เหลือ
“หยุดก่อน.. อย่าเพิ่งไป” “พี่คะ อย่าทิ้งนิดไว้ นิดกลัว” นิรดาร้องเรียกพลางสะอื้นไห้ ร้องเรียกอย่างสิ้นหวัง … “นิดครับ พี่อยู่นี่ นิดไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัว” น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของเดช ทำให้นิรดาพยายามลืมตาอันหนักอึ้งของตนขึ้น ภาพอันเลือนลางเหมือนความฝันปรากฎตรงหน้า นิรดายกมือขึ้นลูบไปที่แก้มสากอย่างอ่อนโยน แล้วก็หมดสติไปเพราะพิษไข้ ความหนาวเหน็บค่อยๆคืบคลานเข้ามา จนเธอพูดเพ้อไม่ได้สรรพ “หนาวเหลือเกิน พ่อค่ะ นิดหนาวเหลือเกิน แม่ข๋า ช่วยนิดด้วย” สิ้นเสียงนิรดา เดชสีหน้าแดงกล้ำ เป็นความผิดของเค้า ถ้าเค้ารู้ว่าร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรงเหมือนทีืเธอชอบแสดงความอวดอ้าง เค้าคงไม่เผลอปล่อยให้เธอตกน้ำ จนล้มป่วยแบบนี้ เค้าต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นเธอได้หนาวตายแน่ “นิดพี่ขอโทษนะ” ไม่พูดเปล่า เดชค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่นิรดาใส่ออกทีละชิ้น จนเหลือแค่บราเซียตัวจิ๋ว ทั้งๆที่พยายามหักห้ามใจแล้ว แต่ผิวขาวอมชมพูราวกับไข่มุกที่ปรากฎตรงหน้า ที่ตอนนี้ซีดเซียวจากการเปียกน้ำเป็นเวลานาน ก็ทำให้เดชแอบกลืนน้ำลาย จากนั้นก็ค่อยๆถอดชุดของตัวเองออกเพื่อหวังว่า ไอความร้อนจากตัวเค้า จะช่วยให้นิรดาอุ่นขึ้น… เดชหลุบสายตาลงแล้วค่อยๆประคองกอดเนื้อแนบเนื้อ ทุกอนูที่ผิวสัมพัสกัน ช่างอุ่น จนนิรดาเผลอขยับเข้าหาร่างหนา นั่นยิ่งทำให้เดชต้องใช้ความอดทนขั้นสุด ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่ามันจะทนได้สักเท่าไหร่กัน