webnovel

0891

บทที่ 891 : ละครตลก ‘จัดไป’ (กลาง)!

บนเวยป๋อเดือดระอุ!

“รีบไปดูคืนส่งปีช่อง BTV ด่วน!”

“ตอกหน้าชัดๆ! นี่มันตอกหน้ากันชัดๆ!”

“แม่งกล้าพูดทุกอย่างจริงด้วยเว้ย ไอ้ฉิบหายเอ๊ย!”

“ฉันล่ะโคตรนับถือ!!”

“อาจารย์ซานซาน คุณน่ะเป็นนางฟ้าของผมนะครับ! เป็นนางในฝันของผม! แล้วทำไมคุณถึงถูกไอ้หมอนั่นชักจูงไปบนเส้นทางสกปรกนี่ได้เล่า? นี่คุณจะไม่กลายเป็น ‘จอมตอกหน้า’ ไปอีกคนใช่ไหมครับ?”

“จอมตอกหน้าเรอะ? พรืด!”

“บัดซบ เป็นเพราะบทที่จางเย่เขียนแท้ๆ!”

“ถ้าจางเย่ไม่ได้เป็นคนคิดบทพวกนั้นด้วยตัวเองนะ ฉันจะยอมไลฟ์สดกินขี้เลยเอ้า!”

“เล่นละครด่าคนบนเวทีคืนส่งปีอย่างเปิดเผยเลยงั้นเรอะ แบบนี้ก็คงกล้าด่าแบบจัดเต็มเลยสินะ? ฉายาจางเย่จอมตอกหน้า ไม่ใช่แค่ลมปากจริงๆ!”

“นั่นสิ ขึ้นเวทีคืนส่งปีมาด่าคนเฉยเลย ฉันล่ะเสียวไส้!”

“เมื่อก่อนนึกว่าเลเวลการด่าของอาจารย์จางจะเต็มแม็กซ์แล้วซะอีกนะ ไม่คิดเลยว่าจะยังทะลุหลอดขึ้นไปได้อีก!”

“เป็นเพราะไอ้หานลี่นั่นงี่เง่าเอง!”

“เจ้าโง่นั่น อยู่ดีไม่ว่าดี!”

……

ที่บ้าน

น้องสาวคนเล็กหัวเราะจนน้ำตาเล็ดพลางตบพนักแขนโซฟาไปด้วย ปากร้อง “สุดยอด! โคตรฮา! ด่าเลย! ด่าอีก!”

น้าสะใภ้เล็กพูดไม่ออก “เย่น้อยนี่นะ!”

น้าสะใภ้รองปาดเหงื่อ “นี่มันถ่ายทอดสดทั่วประเทศนะ พวกเย่น้อยพูดแบบนี้ จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?”

แม่พูดขึ้น “อย่าว่าแต่ถ่ายทอดสดทั่วประเทศเลย ลองมีคนไปยั่วโมโหเขา ต่อให้ถ่ายทอดสดทั่วโลก เจ้าเด็กบ้านี่ก็กล้าด่าอยู่ดี เจ้านี่เป็นคนเจ้าอารมณ์ขนาดไหนพวกเธอยังไม่รู้อีกเหรอ?”

น้องสาวคนรองส่งเสียงบ้าง “พี่ชายหนูแข็งแกร่งที่สุด!”

……

บนเวที

ละครกำลังเข้าสู่ช่วงเข้มข้น

จางเย่ครวญครางอย่างร้อนใจ ขณะรีบเดินเข้าไปอธิบาย “ไอ้หยา ผู้อำนวยการกองหม่า ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ ผมคิดว่า แค่ไปเล่นปิงปองเป็นเพื่อนเจ้านายแล้วจะกลายเป็นเด็กนาย? มันเป็นไปไม่ได้หรอกมั้งครับ?”

ต่งซานซานเลิกคิ้วข้างหนึ่ง จ้องมองเขา “เป็นไปไม่ได้? หึหึ ข่าวเจี้ยน ในเมื่อตอนนี้เธอคือคนของฉัน! ฉันก็จะแสดงให้เธอเห็นว่า หม่าจิงจิงคนนี้ไต่เต้ามาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร!” ขณะพูด เธอก็สะบัดมือ เปิดโน๊ตบุ้คบนโต๊ะ

จางเย่เบิกตามองอย่างตื่นตะลึง “นี่คือตารางงานอดิเรกของพวกท่านอธิบดีนี่ครับ!”

ต่งซานซานยิ้มน้อยๆ ชี้มือไปกลางอากาศ “ฉันจะบอกให้ ฉันน่ะสามารถบอกงานอดิเรก ราศี กรุ๊ปเลือด และปาจื้อ(1)ของผู้บริหารทุกคนได้อย่างแม่นยำ!” เธอชี้ไปที่หน้าจอ “คนนี้ ชอบตกปลา ฉันก็ลงไปดำอยู่ใต้น้ำ คอยเอาปลาไปเกี่ยวตะขอเบ็ดเขาทีละตัวๆ!”

ผู้ชม

“เอาปลาไปเกี่ยวเบ็ด?”

“พรืดดด!”

“ฮ่าๆๆๆ!”

ต่งซานซานชี้นิ้วอีกครั้ง “คนนี้ ชอบเล่นไพ่นกกระจอก ฉันก็ทิ้งไพ่ให้เขาได้แต้ม! ส่วนคนนี้ ชอบเครื่องรางของขลัง ฉันก็เลยเอาอัฐิปู่ทวดของฉันมาให้เขาห้อยบูชา ส่วนคนนี้ ชอบฉัน…” ต่งซานซานชะงัก แล้วพลันรีบปิดจอลง “ฉะนั้นนะ ข่าวเจี้ยนเอ๋ย...”

“ฮ่าๆๆๆ!”

“ชอบคุณ?”

“โอ๊ย ฮ่าๆๆๆ!”

ผู้ชมหัวเราะกันอย่างหนักหน่วง!

จางเย่ก็หลุดขำ “อ๊ะ เดี๋ยวสิครับๆ กำลังถึงส่วนสำคัญเลยรีบปิดทำไมล่ะครับ? ผมอยากฟังอันนี้ที่สุดเลยนะครับ!”

“ฮ่าๆๆๆ!”

“เยี่ยม!”

“เยี่ยม!”

มีเสียงชื่นชมของคนดูดังมาจากรอบทิศ!

ต่งซานซานเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ฉะนั้นนะ ตอนนี้เธอก็รู้แล้วสินะว่าฉันขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้ได้ยังไง?”

จางเย่พยักหน้าขันแข็ง กล่าวเสียงดังฟังชัด “ทราบแล้วครับ คุณนี่เก่งกาจสมกับเป็นผู้อำนวยการกองจริงๆ ความสามารถในการเลียแข้งเลียขาไหลเวียนอยู่ในสายเลือดโดยแท้!”

ผู้ชม “ฮ่าๆๆ!”

“พูดถึงใคร หือ?” ต่งซานซานที่เพิ่งจะนั่งลงไม่สบอารมณ์ ชี้นิ้วใส่เขา “ปากนายนี่นะ!”

จางเย่รีบพูด “โอ๊ะ โอ๊ย นี่แน่ะๆๆ ทำไมผมปากเสียอย่างนี้นะ? พูดทีไรทำคนโมโหอยู่เรื่อย ถึงว่า เวลามีประชุมทีไร หัวหน้าคนนี้ก็จะหันไปพยักหน้ายิ้มให้คุณตลอด นี่คงเป็นเพราะความงดงามของคุณสินะครับ?”

ต่งซานซานวางท่าดุจนางพญา ยิ้มอย่างพอใจ “ไม่ใช่แค่นั้นนะ!” เธอปรายมองเขา “ฉันจะบอกให้ว่าการประชุมนี่แหละก็คือโอกาสในการแสดงความสามารถ พอเจ้านายพูด ทันทีที่เขาแสดงความเห็น ฉันก็จะร้อง ‘เอ๋?’ ” ฉับพลันเธอก็ทำหน้าฉงนสงสัยประกอบ “เจ้านายก็จะคิดว่า ‘อะไรกัน? เธอสงสัยในไอเดียฉันรึ?’ รอจนเขาพูดจบ ถึงจะไม่รู้สักนิดว่าเขาพล่ามอะไรอยู่ ฉันก็จะ...‘โอ้!!’ ” แล้วเธออ้าปากกว้างเป็นรูปตัวโอ ทำหน้าประมาณว่า อ๋อ อย่างนี้นี่เอง!

ผู้ชม “ ฮ่าๆๆๆๆ!”

ต่งซานซานยิ้มระรื่น “ฉันต้องทำให้เจ้านายเข้าใจว่า ฉันถูกเขาพูดอธิบายจนกระจ่างแจ้งยังไงล่ะ!”

ฟังจบ จางเย่ก็เลียนแบบท่าทางของต่งซานซาน ซึ่งดูไม่เป็นเช่นไรเลยนอกจากทุเรศสายตา “อ๋อออ!”

“พรืด!”

“น่าเกลียดชะมัด!”

“พรวดดด!”

ผู้ชมหัวเราะกันจนท้องคัดท้องแข็ง!

พวกสตาฟ BTV ด้านล่างเวทีก็ขำกันจนแทบกลิ้ง พวกเขาเองก็เพิ่งได้ชมละครนี้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับผู้ชม นั่นเพราะละครนี้เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกมากจนไม่มีเวลาซักซ้อมเลยสักครั้ง!

จางเย่ชื่นชม “ถ้อยคำของท่าน สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตผมได้จริงๆ”

ต่งซานซานกล่าว “ดังนั้นข่าวเจี้ยนเอ๋ย เธอต้องไม่ใช่แค่ไปตีปิงปองเป็นเพื่อนอธิบดีเท่านั้น แต่เธอต้องทำให้ท่านอธิบดีชอบตีปิงปองกับเธอ ทำให้เขาพอคิดถึงปิงปองปุ๊บก็นึกถึงเธอ พอนึกถึงเธอขึ้นมาก็ต้องรู้สึกคันไม้คันมือ!”

จางเย่พูดทันที “ผมเข้าใจแล้ว ก็คือให้ผมสร้างภาพว่ายอมสยบ แค่นั้นก็จะได้เลื่อนขั้นสินะครับ?”

ต่งซานซานยิ้ม “ยิ่งกว่าเลื่อนขั้นอีก” เธอเดินมาที่โต๊ะทำงาน “เห็นนี่ไหม ต่อไปห้องทำงานฉันก็เป็นของเธอแล้ว ว่าไง ผู้อำนวยการกองข่าว?”

จางเย่รีบโบกมือปฏิเสธ “ไอ้หยา อย่าๆๆๆๆ เลยครับ!”

ต่งซานซานหัวเราะ “ผู้อำนวยการกองข่าว!”

จางเย่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว “ไอ้หยา อย่าครับอย่าๆๆๆๆ!”

ต่งซานซานลากเขาไปที่เก้าอี้ “ผู้อำนวยการกองข่าว มาสิคะผู้อำนวยการกองข่าว มานั่งลงก่อนๆ นั่งตรงนี้!”

จางเย่รีบพูด “ไม่ครับ ไม่ๆ!”

“ลองดูหน่อยน่า!” ต่งซานซานกดเขาลงไปกับเบาะอันนุ่มละมุน

“ไม่ๆๆๆ!”

“นั่งเถอะน่า”

“โอ้ว ความนุ่มนี้!!”

“ลองนั่งอีกที”

“โอ้ววว!!”

จางเย่ทำหน้าเคลิบเคลิ้ม

ผู้ชมขำ “พรืด!”

จางเย่ทำตัวอ่อนพิงพนักเก้าอี้ “โอ เก้าอี้นั่งสบายขนาดนี้นี่เอง มิน่าคุณถึงชอบหลับในเวลาทำงาน อย่างนี้ถ้าผมได้ตำแหน่งนี้แล้ว ผมไม่ต้องหลับยาวไปทั้งชาติเลยหรือครับ?”

ต่งซานซานหัวเราะเบาๆ “เธออยากนอนยังไงก็นอนได้ตามสบายเลย แบบนี้ดีไหมล่ะ คุณผู้อำนวยการกองข่าว?”

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ทันใดนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ต่งซานซานรีบรับสาย “ฮัลโหล อ๊ะ บอสเหยา? โอ ท่านจะแวะมาหรือคะ? ได้ค่ะได้ โอ๊ยงั้นดีเลยค่ะ พอดีเลย ทางดิฉันเองก็มีข่าวดีรอท่านอยู่เหมือนกันค่ะ!” พอวางสาย เธอก็หัวเราะหึๆ “เดี๋ยวท่านอธิบดีมา!”

จางเย่ลุกพรวด “ดีจังเลยครับ อ๊ะ ถ้าเขามาแล้วพวกเราจะไปเล่นปิงปองกันที่ไหนล่ะครับ?”

ต่งซานซานดีดนิ้วเปาะ “ฉันเตรียมไว้ให้เธอตั้งนานแล้ว!” แล้วพาเขามาตรงด้านข้างที่มีโต๊ะปิงปองตั้งอยู่ “พออธิบดีคนเก่าไป ฉันก็ย้ายโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกเขาออก หึ ต่อไปนี้พวกเธอก็มาเล่นกันที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันเป็นกรรมการให้” เธอจัดแจงขึงตาข่ายโต๊ะปิงปองที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ “หึหึ ข่าวเจี้ยนเอ๋ย สำหรับเธอนี่ไม่ใช่โต๊ะปิงปองธรรมดา แต่คือบันไดสู่สวรรค์!” แล้วเธอก็หัวเราะเสียงเหน่อ

ผู้ชม “ฮ่าๆๆๆๆๆ!”

จางเย่จับมือของอีกฝ่าย “คุณผู้อำนวยการกองหม่าครับ ไม่สิ คุณผู้อำนวยการกรมหม่า!”

ต่งซานซานยิ้มเจ้าเล่ห์ “โอ๊ะ มิกล้า! มิกล้า! คุณผู้อำนวยการกองข่าว?”

จางเย่หัวเราะถ่อมตน “ขึ้นอยู่กับเวลาครับผู้อำนวยการกรมหม่า!”

ต่งซานซานหัวเราะและแสร้งถ่อมตนยิ่งกว่า “แหม ไม่เอาน่าๆ คุณผู้อำนวยการกองข่าว?”

แล้วทั้งสองก็ต่างคนต่างเงยหน้าหัวเราะฮ่าๆๆ จากนั้นจับมือเขย่ากันอย่างแนบแน่น “งานนี้วินๆ! วินๆ!”

คนดูก็รู้สึกสาสมใจ!

“แสดงได้ดีจริง!”

“สองคนนี้โคตรสุดยอด! ฮ่าๆๆๆ!”

ต่อมา มีดนตรีดังขึ้น

ต่งซานซานกำลังง่วนอยู่กับการเติมแป้งแต่งหน้า

ส่วนจางเย่หันไปคว้าไม้ปิงปอง แล้วฝึกตีลูก!

หนึ่งลูก

สองลูก

สามลูก

ทันใดนั้น พลันมีเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก “ต่อไปนี้ถ้าใครเล่นปิงปองอีก! ฉันจะไล่มันออก!!”

ต่งซานซานสะดุ้ง

จางเย่แตกตื่น

บรรยากาศอันรื่นเริงเปลี่ยนไปในทันที!

ผู้ชมหัวเราะก๊าก

“ฮ่าๆๆๆ!”

“งานนี้ต้องมันแน่ๆ!”

“เอาแล้วไง!”

“อธิบดีโผล่มาแล้ว!”

แล้วตอนนี้เอง เหยาเจี้ยนไฉในชุดสูทเต็มยศก็ปรากฏตัวขึ้น ศีรษะใส่มูสจัดแต่งทรงผม รับบทเป็นอธิบดีคนหนึ่ง

ผู้ชมพากันส่งเสียงปรบมืออย่างกระตือรือร้นทันที!

“โอ้ ท่านอธิบดีเหยา มีอะไรหรือคะ?” ต่งซานซานกุลีกุจอเข้าไปต้อนรับ พยายามเบี่ยงเบนสายตาเจ้านาย และยังแอบส่งสัญญาณมือ!

จางเย่ค่อยๆ เก็บไม้ปิงปองแอบไว้อย่างเงียบเชียบ ไม่กล้ากระโตกกระตาก

เหยาเจี้ยนไฉในตอนนี้แตกต่างไปจากตอนแสดงเซี่ยงเซิง เขาใช้น้ำเสียงหนักแน่น มั่นคง “เธอดูสิ ไม่รู้ว่าใครไปได้ยินว่าฉันชอบเล่นปิงปอง ตอนนี้ในหน่วยงานมีสหายหลายคนเอาแต่ฝึกเล่นปิงปองตอนเวลาทำงาน! นี่มันอะไรกัน?”

จางเย่ขยับตัว รีบเอื้อมมือไปคว้าตาข่ายปิงปองอย่างระมัดระวัง

ผู้ชมรู้สึกจี้เส้นจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!

ต่งซานซานยังคงทำตัวเป็นโล่หันเหความสนใจจากจางเย่ “โอ๊ะโอ ท่านเหยาขา เล่นปิงปองก็ไม่ได้แย่อะไรนี่คะ”

เหยาเจี้ยนไฉกล่าวเคร่งขรึม “ตีปิงปองเฉยๆ มันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เอามาใช้ประจบประแจงคนอื่นนี่สิ มันน่ารังเกียจนัก!” พอเขาหมุนตัว ก็หันไปเห็นจางเย่ที่กำลังคว้าตาข่ายปิงปองเข้าพอดี

ผู้ชมพ่นขำ “ฮ่าๆๆๆ!”

ปรากฏว่าอากัปกิริยาต่อมาของจางเย่ ยิ่งทำให้ทั้งหมดระเบิดหัวเราะหนักขึ้น!

จางเย่ในสภาพตกใจแทบสิ้นสติ คิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น คว้าตาข่ายปิงปองได้ปุ๊บก็เอาไปพันรอบคอ พยายามทำเหมือนกับว่ามันเป็นผ้าพันคอ!

“ก๊ากๆๆๆ!”

“โอ๊ยโว้ย!”

“ดี!”

“ดีมาก!”

ผู้ชมปรบมือเสียงดังสนั่น!

เหยาเจี้ยนไฉกลับหลังหันเดินไป ชำเลืองมองจางเย่ “ผ้าพันคอ?” แล้วขยับดึงสิ่งที่อยู่บนคอของเขา “แถมยังถ่วงน้ำหนักไว้อีก?”

จางเย่เฉไฉ “ก็ลมมันแรง แม่ผมกลัวว่ามันจะปลิวหายไปน่ะครับ!”

ผู้ชม “ก๊าก ฮ่าๆๆๆๆ!”

ต่งซานซานรีบเข้ามาคลี่คลาย “อุ๊ย นี่มันสหายน้อยที่เพิ่งมาใหม่ของหน่วยงานเรานี่นา มาค่ะ ท่านขา นั่งคุยก่อน นั่งคุยกันก่อนค่ะ” แล้วประคองพาเขาไปอีกทาง

เหยาเจี้ยนไฉนั่งลงบนโซฟา มองต่งซานซานพลางกล่าว “ผู้อำนวยการกองหม่า คุณก็เป็นคนเก่าแก่แล้ว ที่ส่วนงานเรามีปัญหาแบบนี้ คุณก็ควรทำอะไรสักอย่างไม่ใช่หรือ?”

ต่งซานซานนั่งหลังตรงทันที เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ฉันก็บอกพวกเขาไปแล้วนะคะ! ว่าต่อให้พวกเธอฝึกให้ตายยังไงก็เทียบกับท่านอธิบดีเหยาไม่ได้หรอก ท่านอธิบดีเหยาตอนอยู่หน่วยเดิมน่ะ เป็นแชมป์ทุกปีเชียวนะ!”

“เฮ้อ อย่าเพิ่งชมฉัน!” เหยาเจี้ยนไฉเว้นไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “...มีอยู่ปีหนึ่งได้ที่สองด้วย”

คำพูดนี้ทำเอาผู้ชมลั่นขำทันที!

“พรืด”

“ก๊ากๆๆๆ!”

“เหยาเจี้ยนไฉนี่ก็ไม่ต่างกันเลยนี่หว่า!”

กล่าวจบ เหยาเจี้ยนไฉก็ถอนหายใจ “ที่จริงปิงปองนี่นะ ฉันก็ฝีมืองั้นๆ แหละ! เธอว่าฉันจะเป็นแชมป์ทุกปีจริงๆ ได้ยังไงกันเล่า?” เขาโบกมือ “โม้ทั้งนั้น!”

ต่งซานซานประจบ “ไม่ได้โม้ไปทั้งหมดหรอกค่ะ ท่านก็เพิ่งพูดเมื่อกี้เองนี่คะว่ามีปีหนึ่งที่ท่านได้ที่สอง”

เหยาเจี้ยนไฉพยักหน้า “ใช่” ก่อนกล่าว “เพราะว่าปีนั้นฉันไม่ใช่อธิบดี แต่เป็นรองอธิบดียังไงล่ะ!”

ผู้ชมหัวเราะจนปวดท้อง!

“ก๊ากๆๆๆๆๆ!”

“โอ๊ย ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ!”

“แม่งโคตรจี้!”

“อยู่ๆ ก็ปล่อยมุกเฉย! ฮ่าๆๆ!”

“ติดใจชะมัด เอาอีกๆ!”

……

ด้านล่าง

ตรงเขตทีมงานไม่ไกลจากเวที

ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ฉางเสี่ยวเลี่ยงไม่ได้หัวเราะขำอย่างทุกคน ทีมผู้กำกับคนอื่นก็ไม่ต่างกัน ไม่ใช่เพราะละครไม่สนุก แต่เป็นเพราะพวกเขาลืมหัวเราะไปแล้ว ได้แต่จ้องมองพวกจางเย่ เหยาเจี้ยนไฉ และต่งซานซานทั้งสามคนด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความรู้สึก

คือตกตะลึงอย่างแท้จริง!

ฉางเสี่ยวเลี่ยงนิ่งงันไปนาน ก่อนหันไปถามคนข้างๆ “พวกคุณแน่ใจนะ ว่าสามคนนั้นไม่เคยแสดงละครตลกมาก่อน?”

รองผู้กำกับผู้นั้นยิ้มขื่น “ไม่เคยจริงๆ ครับ!”

ฉางเสี่ยวเลี่ยงถามอีก “พวกคุณแน่ใจนะ ว่านี่เป็นละครตลกที่อาจารย์จางน้อยเพิ่งคิดขึ้นมาสดๆ เมื่อชั่วโมงก่อนจริงๆ?”

รองผู้กำกับหญิงอีกคนหนึ่งตอบ “ใช่ค่ะ คิดขึ้นมาในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง ฉันถามมาแล้ว อาจารย์จางไม่เคยทำละครตลกมาก่อนจริงๆ เขาเพิ่งคิดขึ้นมาสดๆ ทั้งหมด!”

“งั้นผมอยากรู้แค่เรื่องเดียว!” ฉางเสี่ยวเลี่ยงกล่าวอย่างตื่นเต้น ยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น “ในเวลาชั่วโมงเดียว เขียนสคริปต์สด คิดบทกะทันหัน คนสามคนที่ไม่เคยแสดงละครตลกมาก่อน เวลาจะซ้อมแม้สักครั้งยังไม่มี แต่ทำไม...ถึงเล่นตลกออกมาได้เข้าถึงจิตวิญญาณขนาดนี้!?”

ทีมผู้กำกับ “...”

แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉางเสี่ยวเลี่ยง!

เพราะพวกเขาก็ไม่รู้เช่นกัน!

สำหรับพวกเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือคำอธิบาย!

การให้จางเย่มาขึ้นเวทีในนาทีสุดท้าย เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไร้ทางเลือก เป็นสถานการณ์จวนตัวระหว่างความเป็นความตายโดยแท้จริง อันที่จริงพวกฉางเสี่ยวเลี่ยงหวังแค่ให้จางเย่ทำการแสดงให้จบได้ก็พอ ไม่เคยคิดเลยว่าจางเย่จะสร้างผลงานมีคุณภาพขนาดนี้ออกมาได้ เพราะไม่ว่าใครก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้!

ฉะนั้นเมื่อละคร ‘จัดไป’ แสดงออกมา พวกเขาจึงนิ่งอึ้ง! งานนี้มันช่าง...ไร้ที่ติ! นี่มันเหมือนผลงานคิดสดตรงไหนกัน? สามคนนี้ไม่เคยแสดงละครตลกเลยได้ไงกัน? ทั้งตัวละคร การแสดง บท มุกตลก จังหวะ มิติ อารมณ์ ล้วนมีอย่างครบถ้วน!

แม่งเป็นละครตลกระดับ CCTV เลยชัดๆ!

นี่หรือคือจางเย่?

นี่หรือคือจางเย่ตอนเอาจริง?

มองไปทั้งวงการเพลง มองไปทั้งวงการบันเทิง ยังจะมีใครหน้าไหนกล้ามาแหยมเขาอีก!?

***********************************************************************************************

ปาจื้อ หรือโป๊ยหยี่สี่เถี่ยว เป็นวิธีการคำนวณทางโหราศาสตร์จีนอย่างหนึ่งผ่านวันเกิด เวลาตกฟาก ออกมาเป็นอักษรแปดตัวซึ่งทำให้พิจารณาน้ำหนักธาตุและอุปนิสัยใจคอได้

Chapitre suivant