บทที่ 115 : กระแสร้อนแรงบนเว็บถ่ายทอดสด!
ความเงียบปกคลุมอยู่หลายวินาที!
ความรู้สึกของผู้คนต่างถูกกระตุ้นเร่งเร้า!
“อาจารย์จาง ฉันรักคุณ!” อดีตผู้ช่วยเสี่ยวฟางกรีดร้อง
เสี่ยวหลวี่โบกไม้โบกมืออย่างอดไม่อยู่ “อาจารย์จาง ฉันก็รักคุณเหมือนกัน!”
โหวเกอกับโหวตี้โห่ร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้น “อาจารย์จาง เทพอะ! เทพจริงๆ เลย!”
โคตรเจ๋ง โคตรโหด โคตรแรง สะท้านสวรรค์ กระชากวิญญาณจนต้องคร่ำครวญ! การดวลกลอนคู่สามารถเขย่าโลกได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
นอกจากพี่สาวใหญ่โจว จ้าวกั๋วโจวและคนอื่นๆ ที่รู้จักจางเย่เป็นการส่วนตัวแล้ว ทุกคนที่มุงอยู่โดยรอบต่างอดไม่อยู่ต้องยกมือขึ้นปรบเสียงดังหลังจากที่การดวลกลอนสิ้นสุดลง!
กลอนคู่พิสดารได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมทั้งสนาม!
โดยเฉพาะท่อนที่สองนั่นมันกระบวนท่าพิฆาตโดยแท้!
วรรคแรกและวรรคหลังเข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ!
แน่นอนว่ามันต้องสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว จางเย่ไม่เพียงจะรู้จักกลอนคู่บทนี้ แต่เขายังรู้จักที่มาของมันด้วย ในโลกเดิมบนเกาะฉินหวง มีวัดเมิ่งเจียงหนี่ว์ตั้งอยู่ ที่ด้านหน้าของวิหารมีเสาอารามสองต้นที่กลอนคู่บทนี้ได้ถูกสลักไว้ เพื่อบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติของซานไห่กวนและวิหารเมิ่งเจียงหนี่ว์ ตลอดจนกล่าวถึงวิถีแห่งธรรมชาติ วิถีแห่งจักรวาลและสรรพสิ่งของโลก โดยเปรียบเปรยกับกระแสน้ำและหมู่เมฆที่มีขึ้นมีลง มีรวมมีแยก แปรผันไม่หยุดนิ่ง กลอนคู่บทนี้มีวิธีอ่านกว่าสิบแบบ และถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก กลอนบทนี้ถูกตีพิมพ์ในตำราภาษาจีนและถูกนำมาใช้เป็นโจทย์สอบเข้ามหาวิทยาลัยและตัวอย่างประกอบ ดังนั้นต่อให้ไม่ต้องใช้แคปซูลความจำ กลอนบทนี้ก็ประทับอยู่ในสมองของจางเย่อย่างลึกซึ้ง!
ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของกลอนตัวจริง จางเย่กลับไม่รู้จักไม่แน่ใจ แต่เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงกลอนคู่บทหนึ่ง จึงต้องมีคู่ที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ ไม่อย่างนั้นคนรุ่นหลังจะเรียกขานกลอนบทนี้ว่าเป็นกลอนพิสดารแห่งสหัสวรรษได้อย่างไร? ทว่า ต้องนับว่าผู้เฒ่าเฉียนเป็นอัจฉริยะจริงๆ แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีวิหารเมิ่งเจียงหนี่ว์แต่ท่านผู้เฒ่าก็ยังสามารถคิดวรรคแรกของกลอนคู่พิสดารบทนี้ขึ้นมาได้ จากท่าทีที่เห็นดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้คิดวรรคที่สอง หรือไม่วรรคที่สองที่คิดไว้ก็ต้องไม่เหมือนกับที่จางเย่ใช้
ไม่เป็นไร จางเย่ได้ช่วยท่านผู้เฒ่าต่อกลอนคู่ให้สมบูรณ์ และหาบ้านให้กับกลอนพิสดารแห่งสหัสวรรษบทนี้บนโลกนี้แล้ว!
ผู้เฒ่าเฉียนนิ่งอึ้งจนคำพูดไปครู่ใหญ่
หญิงชรากรรมการอันดับสองถามด้วยความประหลาดใจ “พ่อหนุ่ม เธอชื่ออะไร?”
จางเย่ตอบอย่างไม่ยโสแต่ก็ไม่นอบน้อมว่า “ผมชื่อว่าจางเย่ครับ”
หญิงชราถึงกับผงะ “‘ลำนำทำนองวารี’ บทนั้นเธอเป็นผู้แต่ง?”
“ใช่ครับ เป็นผมเอง ต้องขออภัยที่ทำให้ทุกท่านหัวเราะ” จางเย่ถ่อมตัว
ชายชราร่างเล็กกรรมการอันดับสามกล่าวชมเชยไม่หยุด “เป็น ‘ฝู หยุน ฉาง ฉาง ฉาง ฉาง ฉาง ฉาง ฉาง เซียว’ ที่วิเศษนัก! คู่ได้ดี! กลอนพิสดารพบกลอนพิสดาร! ฮ่าๆ!”
หญิงชรามองไปทางผู้เฒ่าเฉียน “ตาเฒ่าเฉียน คุณเจอคู่มือตัวจริงเข้าให้แล้วรอบนี้!”
ผู้เฒ่าเฉียนยังมองจางเย่ไม่วางตาอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายได้แต่เอ่ยเย้ยตนเองว่า “ตอนที่ฉันเขียนครึ่งแรกขึ้นมา ฉันได้คิดครึ่งหลังคู่กันไว้แล้ว แต่มาตอนนี้ เทียบกับครึ่งของเธอแล้ว วรรคของฉันมัน…ช่างเถอะ อย่าพูดถึงดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์หรือศิลป์ ครึ่งของเธอก็เหนือชั้นกว่าของฉันไปขั้นหนึ่งแล้ว ขอบใจพ่อหนุ่ม ที่มอบคู่กลอนที่สมบูรณ์ให้กับครึ่งแรกของกลอนคู่พิสดารบทนี้!” จบคำผู้เฒ่าเฉียนก็เดินกลับไปยังที่นั่งและหยิบปากกาขึ้นเขียนชื่อจางเย่ลงไป “ฉันขอประกาศว่ารอบคัดเลือกได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้ว จางเย่ เธอผ่าน!”
จางเย่กล่าวตอบ “ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์”
……
รอบคัดเลือกจบลงแล้ว
ทุกคนถกเถียงพูดคุยไม่หยุดขณะที่แยกย้ายกันไป
“โคตรเจ๋งเลยอะ!” โหวเกอกอดไหล่จางเย่!
หูเฟยตบหลังจางเย่อย่างพอใจและชื่นชมเช่นกัน “พ่อหนุ่มเอ๊ย! เธอนี่มันมีของจริงๆ! นี่เหรอที่ว่าต่อกลอนคู่ไม่เป็น? นี่น่ะเหรอที่ว่าไม่เคยศึกษากลอนคู่มาก่อน? โกหกหน้าตายจริงๆ! ฮ่าๆ!”
จางเย่รีบถ่อมตัว “แค่แมวตาบอดเจอหนูตาย*น่ะครับ”
“จริงๆ เลย อาจารย์จาง!” โหวตี้บอกอย่างร่าเริง “คุณนี่ซ่อนคมไว้ทุกฝีก้าวเลยนะ!”
ในฝูงชน เถียนปินยกนิ้วโป้งให้จางเย่ ภรรยาของเขาก็ยิ้มเช่นกัน ยินดีกับจางเย่อย่างจริงใจ
พี่สาวโจวเป็นพวกชอบเรื่องอึกทึกครึกโครมอยู่แล้ว เมื่อเห็นอัสนีไพศาลท้าทายจางเย่ แต่เพียงพริบตาจางเย่กลับสามารถต่อคู่กลอนได้ ก็ชอบใจสุดๆ “จางน้อย คว้าแชมป์มาเลยนะ!”
จางเย่เหงื่อตก “พี่สาวโจว คุณประเมินผมสูงไปแล้ว ผมแค่มาร่วมชมความครึกครื้น ‘แชมป์’ อะไรกันเล่า?” จางเย่ไม่คิดว่าตัวเองจะชนะหรือแม้แต่ติดอันดับด้วยซ้ำ ต่อให้โลกนี้มีกลอนคู่บางส่วนซ้ำกับโลกเก่า แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย บังเอิญหรอกว่ากลอนบทสุดท้ายในรอบคัดเลือกเป็นกลอนที่เขาเคยเห็นมาก่อน จึงผ่านเข้ารอบมาได้ ไม่อย่างนั้นคงตกรอบไปแล้ว
อัสนีไพศาลหน้าซีดเผือด เขาเหลือบตามองจางเย่ ก่อนที่จะรีบตรงดิ่งเข้าหอประชุมไปพร้อมกับเจิ้งอันปาง เขาไม่เคยคิดว่าจางเย่จะสามารถต่อกลอนคู่พิสดารขนาดนั้นได้สำเร็จ! แถมยังต่อได้อย่างเร็วเหมือนไม่ต้องคิดอีกด้วย? ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจางเย่ไม่รู้จักกลอนคู่ แต่ใครจะไปรู้ว่าไม่เพียงแต่บทกวี บทความ นิยาย นิทาน และโฆษณา หมอนั่นยังเก่งกลอนคู่อีกด้วย? อัสนีไพศาลไม่กล้าดูแคลนจางเย่อีกต่อไป เขาต้องรีบไปเตรียมตัวสำหรับรอบตัดสินแล้ว!
……
ครู่ต่อมา
ที่ห้องน้ำชายด้านนอกหอประชุม
จางเย่เกิดปวดท้องน้อยจึงไม่ได้เข้าหอประชุมพร้อมกับพวกหูเฟย แต่วิ่งหาห้องสุขาจนพบและขังตัวเองข้างในเพื่อทำธุระส่วนตัว ในระหว่างที่มีเวลา จางเย่หยิบโทรศัพท์ออกมาท่องเว็บ แม้ว่าจะมีดาต้าเหลืออยู่ไม่มาก เขาก็ยังอุตส่าห์เปิดเว็บถ่ายทอดของการแข่งขันกลอนคู่นครหลวงนี่!
วิดีโอรอบคัดเลือกออกมาแล้ว!
จางเย่กดดูทันที!
ช่วงแรกของคลิปจะเป็นภาพผู้เข้าแข่งขันที่ตอบคำถามไปก่อนหน้านี้ มีภาพช่วงที่อัสนีไพศาลตอบคำถามและผ่านเข้ารอบปรากฏขึ้นด้วย จนเมื่อใกล้จบ ฉากของจางเย่ก็ปรากฏขึ้นจนได้!
“ท่อนแรกของฉันผันได้หลายแบบเชียวนะ!”
“บังเอิญจริง! ท่อนที่สองของผมก็ผันได้ไม่น้อยเช่นกัน”
“ไห สุ่ย เฉา, เฉา เจา เจา, เจา เจา เฉา ลั่ว (น้ำทะเลขึ้น ขึ้นทุกวัน ทุกวันขึ้นลง)!”
“ฝู หยุน จ่าง, จ่าง ฉาง ฉาง, ฉาง ฉาง จ่าง เซียว (หมู่เมฆรวม รวมบ่อยครั้ง บ่อยครั้งรวมแยก)!”
ฉากการดวลกลอนคู่ระหว่างจางเย่กับผู้เฒ่าเฉียนถูกบันทึกไว้อย่างครบถ้วน!
เมื่อเห็นตัวเองในคลิปวิดีโอช่างดูเก่งกาจ จางเย่ก็พอใจอย่างมาก คลิปนี้ถ่ายได้ดีทีเดียว น่าเสียดายที่มันไม่เห็นหน้าตรงของเขาอย่างชัดเจน ภาพส่วนใหญ่เป็นการถ่ายจากมุมข้างหรือด้านหลัง เห็นเพียงหน้าของผู้เฒ่าเฉียนอยู่ตลอดการดวล ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็ผู้เฒ่าเฉียนเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงนี่นะ
วิดีโอจบแล้ว
เมื่อกวาดตาดูอีกที บอร์ดสนทนาและคอมเมนต์ด้านล่างกำลังเดือดพล่าน!
“คำถามข้อ 50 นั่นแม่งโคตรเว่อร์เลยว่ะ!”
“นั่นสิ! แต่ดันมีคนต่อได้เนี่ยนะ?”
“นั่นมันอาจารย์จางเย่นี่! ฮ่าๆ! ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา!”
“ทุกคนมาดูเร็ว! จอมตอกหน้ากลับมาแล้ว!”
“พรืด ตูขำจนปวดท้องแล้วเนี่ย ฉายาอะไรวะนั่น?”
“จางเย่นี่ใครน่ะ? ชื่อคุ้นจัง”
“หาดูบนเว็บเองเลย มีข้อมูลของเขาเต็มไปหมดแหละ ฮี่ๆ ได้ดูอาจารย์จางแสดงฝีมือไร้พ่ายนี่โคตรสุดยอดเลย! ครึ่งสองที่ต่อคู่กลอนนี่อลังเกินบรรยาย!”
“ฝีมือวรรณศิลป์ของอาจารย์จางยังเชื่อใจได้เหมือนเดิม!”
“จริงแท้ ฉันนึกว่าจางเย่จะไม่รู้จักกลอนคู่เสียอีก ไม่นึกว่าศาสตร์กลอนคู่ของจางเย่จะลึกซึ้งขนาดนี้! อาจารย์จางนี่ผ่ากฎสวรรค์จริงๆ!”
“ไม่ไหวแล้ว ขอดูอีกรอบ ไม่เคยเห็นการดวลกลอนคู่ที่มันสุดติ่งขนาดนี้มาก่อนเลย!”
“ครึ่งแรกว่าดีแล้ว แต่ครึ่งสองที่ต่อคู่กลอนนี่ยิ่งเหนือล้ำกว่าเสียอีก! สมกับที่เป็นอาจารย์จาง!”
“น่าเสียดายจังที่อาจารย์จางหน้าตาธรรมด๊าธรรมดา ผิดไปจากภาพพจน์ที่ฉันคิดไว้เลยอ่า เฮ้อ...แต่ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์จางอยู่ในแวดวงวรรณกรรม ไม่ใช่ดาราหรือนักร้องนี่นา จะเรียกร้องมากไปคงไม่ได้ ยังไงฉันก็สนับสนุนอาจารย์จางต่อไปแน่นอน!”
“ไปดูรอบตัดสินกันเถอะ!”
“ถูกต้อง รอบตัดสินกำลังจะเริ่มแล้ว!”
“รอดูฝีมืออาจารย์จางอยู่นะ!”
“รอบตัดสินต้องไม่หมูชัวร์ มียอดฝีมือเต็มไปหมด อย่างอัสนีไพศาลนั่นก็น่ากลัวไม่เบา เป็นถึงรองชนะเลิศงานแข่งคราวที่แล้วด้วย ต้องรับมือไม่ง่ายแน่นอน”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
*แมวตาบอดเจอหนูตาย สำนวนจีนจากการเปรียบเปรยแปลว่า ตัวเองแค่แมวตาบอดที่ดันโชคดีไปเจอหนูตาย ส่วนสำนวนจีนคือ แมวตาบอดจะจับได้แค่หนูตาย ซึ่งมีคำอธิบายว่า จะทำอะไร ก็ต้องรู้จักเปิดหู เปิดตา แสวงหาความรู้ ความคิดความเห็น ต้องไม่ทำตัวเป็นดังคนตาบอดที่ไม่ได้เห็นอะไร สำหรับสุภาษิตนี้หวังที่จะสอนคนให้คิดและทำอะไรอย่างมีวิสัยทัศน์
*-*-*-*-*-**-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*