webnovel

0010

บทที่ 9 เถียนปินซวยแล้ว!

------------------------------------------------------------------------------

เฉินเล่อ >> แปล

Pleosuriya >> ตรวจ

CM >> เช็ก + เกลา

********************************

หลังเลิกงาน

“เฮ้ย รู้เรื่องรึยัง?”

“ฉันเพิ่งไปกินข้าวมา มีอะไรรึเปล่า?”

“เด็กใหม่นั่น เกือบจะตีกับเถียนปินว่ะ”

“เฮ้ย พูดจริงหรือเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?”

คนในที่ทำงานเริ่มจับกลุ่มซุบซิบกัน ใครๆ ก็ชอบดูเรื่องสนุกทั้งนั้น

ตัวจางเย่เองยังไม่กลับบ้านเช่นกัน ชายหนุ่มลูบแหวนเกมในมือเพื่อเปิดช่องเก็บของ หยิบไอเทมที่ดูเหมือนกับพลาสเตอร์ปิดแผลออกมา ขณะที่แกะห่อออกมา เถียนปินก็กลับมาจากข้างนอกพอดี ที่นั่งของทั้งสองคนอยู่ตรงข้ามกัน ทำให้เถียนปินต้องผ่านจางเย่ก่อนจึงจะเข้าไปยังที่นั่งของตนเองได้

ขณะที่เฉียดผ่านไป นิ้วของจางเย่ก็แปะสติกเกอร์โชคร้ายลงไปบนกางเกงของเถียนปินอย่างเงียบเชียบ สิ่งที่แปะลงไปนี้นอกจากตัวจางเย่เองแล้ว คนอื่นต่างมองไม่เห็น!

แปะ!

เถียนปินรู้สึกเหมือนถูกจางเย่แตะตัวขณะที่เดินผ่าน แต่เมื่อก้มลงมองกลับไม่เห็นอะไร จึงได้แต่มองจางเย่อย่างเย็นชา

แหวนเกมขึ้นข้อความแจ้งเตือน!

สติกเกอร์โชคร้ายถูกใช้งาน ระยะเวลาแสดงผล 5 นาที เริ่มนับเวลาถอยหลัง 4 นาที 59 วินาที 4 นาที 58 วินาที…

แม้ว่าเรื่องของจางเย่จะทำให้เถียนปินไม่พอใจมาก แต่พูดกันโดยรวมแล้ววันนี้เถียนปินค่อนข้างอารมณ์ดีทีเดียว ‘เพรียกวิญญาณ’ เป็นนวนิยายลี้ลับที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ เขาทุ่มเทความพยายามเกลี้ยกล่อมสำนักพิมพ์เพื่อช่วงชิงสิทธิ์ในการออกอากาศนิยายเรื่องนี้ ซึ่งสถานีวิทยุมณฑลอื่นต่างก็ทุ่มเงินเพื่อแย่งชิงมันเช่นกัน ทว่าสุดท้ายเถียนปินเป็นผู้ชนะ อันที่จริงเขาเล่นไม่ซื่อด้วยการไม่ติดต่อกับนักเขียน ซึ่งเป็นเพียงนักเขียนหน้าใหม่ เถียนปินเลือกที่จะเจรจากับผู้บริหารของสำนักพิมพ์โดยตรงและเสนอราคาที่สูงกว่าให้ ส่วนนักเขียนกับสำนักพิมพ์จะตกลงส่วนแบ่งกันอย่างไร หรือจะเอารัดเอาเปรียบนักเขียนหน้าใหม่ด้วยกดราคาจนต่ำสุด เถียนปินไม่ได้ใส่ใจ เขาเพียงรับปากกับสำนักพิมพ์ว่าจะไม่มีการเปิดเผยราคาค่าลิขสิทธิ์ให้นักเขียนรู้ ทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เถียนปินหวังอย่างมากว่านิยายเรื่องนี้จะเพิ่มยอดผู้ฟังให้กับรายการ ‘เรื่องสยองขวัญยามค่ำคืน’ มีสปอนเซอร์เข้ารายการเพิื่อเพิ่มส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาและผลงานนั้น ทั้งยังได้ชื่อเสียงอีกด้วย

ติ๊ดๆ เสียงข้อความเข้า

เถียนปินหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นข้อความจากรองประธานของสำนักพิมพ์ส่งมา อวยพรล่วงหน้าให้รายการของเถียนปินประสบความสำเร็จ ทั้งยังกำชับอย่างเป็นนัยยะไม่ให้เปิดเผยเรื่องค่าลิขสิทธิ์ภาคเสียงกับนักเขียน เถียนปินได้แต่ยิ้ม เดินไปพลางตอบข้อความด้วย ทันใดนั้น โต๊ะทางซ้ายกลับเกิดเรื่องขึ้น!

พนักงานหญิงคนหนึ่งที่กำลังเก็บกล่องข้าวเตรียมตัวกลับบ้าน ยื่นมือออกไปโดยไม่ระวัง ทำฝากล่องข้าวตกกระทบพื้นเสียงดัง!

เถียนปินที่เหยียบเข้าให้พอดี พลันลื่นล้มลงไปกับพื้น ตึง! ล้มลงไปอย่างจัง

“ไอ้หยา!”

“ว้าย อาจารย์เถียน”

“เธอทำอะไรเนี่ย?”

“ขอโทษนะคะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เถียนปินปวดแปลบ ใช้มือยันพื้นลุกขึ้นมา “ช่างเถอะๆ”

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นว่าหน้าจอว่างเปล่า จึงได้แต่เปิดข้อความใหม่ขึ้นมาพิมพ์ว่า “ท่านประธานหลี่โปรดวางใจ ทางคุณจะแบ่งกับนักเขียนอย่างไรพวกเราจะไม่ถาม ราคาที่พวกเราตกลงกันนักเขียนหลี่เกินเองก็จะไม่รู้ พวกเราไม่ได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก ผมจัดการได้ คุณวางใจเถอะ" พิมพ์เสร็จเถียนปินก็เลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ของประธานหลี่เตรียมจะส่งข้อความ ทันใดนั้นเพื่อนร่วมงานฝั่งตรงข้ามที่กำลังเลิกงาน เดินเฉียดผ่านตัวเถียนปินไป กระแทกถูกเขาด้วยความบังเอิญจนพัดผ้าไหมในมือของเพื่อนร่วมงานหลุดมือ พัดตกลงบนพื้นโดยอ้าออกครึ่งหนึ่ง ร่างของเถียนปินลื่นอีกครั้ง เสียสมดุลหลังจากเหยียบลงบนพัด คราวนี้หน้าทิ่มพื้น

“พี่เถียน ขอโทษจริงๆ”

“เธอ... ไอ้หยา เอวฉัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”

คนจำนวนไม่น้อยหันมามองพร้อมกัน แค่ไม่กี่วินาทีถึงกับล้มคะมำไปสองรอบ? จะโชคร้ายเกินไปไหม?

เถียนปินลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เตรียมจะด่าคนไฟแลบ แต่เมื่อมองไปที่มือถือก็เห็นว่าตอนที่หกล้มไปดันเลือกชื่อคนผิดเข้า กลายเป็นชื่อของนักเขียนหลี่เกิน เพราะรองประธานหลี่กับหลี่เกินทั้งสองแซ่หลี่ รายชื่อจึงอยู่ใกล้กัน เถียนปินรีบแก้ไขในทันที ตั้งใจจะเลือกชื่อผู้รับข้อความใหม่

ฉับพลัน หลี่ซื่อก็วิ่งเข้ามาทางด้านหลังพอดี “พี่เถียน!”

เถียนปินหันหน้ากลับไป ปัง! หลอดไฟเหนือศีรษะจู่ๆ ระเบิดขึ้นกะทันหัน!

เศษหลอดไฟร่วงกระจายลงมา หลี่ซื่อตกใจจนสะดุ้งโหยง ปฏิกิริยาตอบสนองทำให้เขายกมือขึ้นบังหน้า ผลคือฝ่ามือกระแทกคางของเถียนปินเข้าอย่างจัง!

เถียนปินส่งเสียงร้องออกมาคำหนึ่ง โอ๊ย! ขณะที่หงายหลังลงไปกับพื้น มือก็ขยับจนนิ้วที่ค้างอยู่ตรงปุ่มส่งข้อความบนมือถือกดลงไปพอดี!

หลี่ซื่อรีบเข้ามาช่วย “พี่เถียน! ขอโทษ! นี่....”

เถียนปินแทบร้องไห้ “เอ็งทำอะไรของเอ็ง! ไม่มีตารึยังไง หา?”

หลี่ซื่อเกาหัวกล่าว “ขอโทษทีนะพี่เถียน ผมไม่ระวังเอง ใครจะไปรู้ว่าหลอดไฟจะระเบิดล่ะ”

เมื่อก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ เถียนปินถึงกับหน้าถอดสี น้องสาวเอ็งสิ เกิดบัดซบอะไรขึ้นมาเนี่ย! เขาต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ แต่มันสายไปแล้ว!

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของจางเย่ เขาเห็นเถียนปินทั้งล้มหน้าคะเมนหลังทั้งถูกชน บรรดาเพื่อนร่วมงานต่างพากันหัวเราะขำ คิดตรงกันว่าวันนี้เถียนปินดวงซวยจริงๆ!

สามรอบนะ!

ล้มจังๆ ไปสามรอบ!

วันนี้ก่อนออกจากบ้านลืมดูฤกษ์ดูยามใช่ไหม?

แต่เรื่องกลับไม่ได้จบแค่นี้ ขณะที่สติกเกอร์โชคร้ายกำลังจะหมดเวลา หัวหน้าของช่องวรรณกรรมก็พรวดพราดเข้ามา!

“เถียนปิน!” จ้าวกว๋อโจวตะโกนลั่น

เถียนปินสังหรณ์ใจไม่ดี “หัวหน้า”

ทุกคนล้วนไม่เข้าใจสถานการณ์ ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จ้าวกั๋วโจวพูดด้วยความกราดเกรี้ยวว่า “นายก่อเรื่องอะไรให้ฉัน! หา? หลี่เกินคนที่เขียน ‘เพรียกวิญญาณ’ โทรเข้ามาที่สถานี บอกว่าสัญญาเป็นโมฆะ ห้ามเราออกอากาศงานของเขา! แถมยังบอกอีกว่าถ้าเราละเมิดลิขสิทธิ์เขา พรุ่งนี้เอกสารจากทนายจะมาถึงเราแน่! เรื่องนี้นายเป็นคนจัดการไม่ใช่เหรอ? เธอไปจัดการอีท่าไหน?”

เถียนปินไม่กล้าปริปาก ได้แต่ก้มหน้าไม่พูดจา

ลิขสิทธิ์ทั้งหมดของ ‘เพรียกวิญญาณ’ อยู่ในมือของนักเขียน ซึ่งรวมไปถึงลิขสิทธิ์ภาคเสียงด้วย โดยปกตินักเขียนจะไว้วางใจให้สำนักพิมพ์เป็นตัวแทน จัดการเรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้ทั้งหมด แต่ถ้าพูดกันตามตรงแล้ว หากไม่มีลายเซ็นหรือเอกสารมอบอำนาจอนุมัติให้ขายลิขสิทธิ์จากนักเขียน สัญญาจะยังไม่มีผล สัญญาของ ‘เพรียกวิญญาณ’ เองก็เป็นเช่นนี้ มีเพียงเถียนปินกับสำนักพิมพ์เป็นผู้ลงนามบนสัญญา โดยทั่วไปหลังจากนักเขียนรับเงินค่าลิขสิทธิ์ สัญญาจะถือว่ามีผลบังคับใช้ได้ แต่หากนักเขียนโต้แย้ง สัญญาฉบับนี้จะกลายเป็นโมฆะทันที

จ้าวกั๋วโจวยืนด่าอยู่สิบกว่านาทีเต็มๆ

สุดท้าย หัวหน้าระดับล่างหลายคนของช่องวรรณกรรมพากันเข้ามา คนนั้นพูดทีคนนี้พูดที จนจางเย่กับคนอื่นๆ เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นในที่สุด เดิมเถียนปินและสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์นิยาย ‘เพรียกวิญญาณ’ มีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้สำนักพิมพ์ขายลิขสิทธิ์เสียงให้กับเขา เถียนปินจะปกปิดตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ที่แท้จริงเพื่อหลอกลวงนักเขียน และให้สำนักพิมพ์ได้กำไรมากขึ้น อันที่จริงนี่เป็นเรื่องที่ทำกันทั่วไป ต่อให้เถียนปินไม่ปิดบัง หากสำนักพิมพ์ไม่พูด นักเขียนเองก็ไม่มีทางรู้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะข้อความที่มีเนื้อหาเบื้องลึกเบื้องหลังนั่น เถียนปินดันส่งผิด ส่งเข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวนักเขียนเอง!

นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกหรือ?

นี่ไม่ใช่ใช่เรื่องน่าคลื่นเหียนหรอกหรือ?

เรื่องยกเลิกสัญญาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การที่นักเขียนได้เห็นข้อความที่ส่งไปนี่ต่างหากที่บัดซบที่สุด!

เถียนปินอธิบายว่า “หัวหน้า ผมผิดเอง แต่ผมคิดว่าเราสามารถออกอากาศได้ไม่มีปัญหา อย่างไรสัญญากับสำนักพิมพ์ก็มีอยู่ ความจริง…”

หวังเสียวเหม่ยที่ยังไม่เลิกงานพูดอย่างไม่พอใจ “เธออยากขึ้นศาลงั้นสิ?”

หัวหน้าบรรณาธิการกล่าวเช่นกัน “ยังไงก็ออกอากาศไม่ได้! มีปัญหาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ?”

พวกเขาเป็นหน่วยงานของรัฐ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ผลกำไร แต่เป็นภาพลักษณ์แห่งความรับผิดชอบ

ทุกคนถกเถียงกันไม่หยุด ในที่สุดจ้าวกั๋วโจวก็ทุบโต๊ะตัดสิน “เรื่องนิยาย คนไหนรู้จักหน่วยงานที่มีลิขสิทธิ์นิยายเหนือธรรมชาติก็ช่วยกันติดต่อหน่อย การออกอากาศสดคืนนี้จะยกเลิกไม่ได้ ยังไงก็ห้ามหยุด ลองดูกันว่าจะหาลิขสิทธิ์นิยายในเวลาอันสั้นมาแก้ไขได้ไหม!” จ้าวกั๋วโจวชี้หน้าจนแทบจะทิ่มจมูกของเถียนปิน “ทั้งหมดนี่เพราะนาย! เตรียมตัวรับบทลงโทษไว้ได้เลย!”

ตรงกันข้ามกับเถียนปินที่มีสีหน้าเหมือนได้ข่าวว่าพ่อตาย!

จางเย่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสุดทึ่ง สติกเกอร์โชคร้ายมีผลแค่ห้านาทีเท่านั้น แค่เวลาห้านาทีกลับทำให้เถียนปินโชคร้ายได้ขนาดนี้? ไอเทมนี้สุดยอดไปเลย! ดูท่าว่าจากนี้ไปพี่ชายคนนี้นอกจากจางจิงคงแล้ว คงต้องมีฉายาใหม่ ใช่แล้ว เรียกฉันว่ายอดนักสืบโมริ โคโกโร่*!

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

(*ผู้แปล : โมริ โคโกโร่ เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน เป็นอดีตตำรวจที่ลาออกมาเป็นนักสืบเอกชน มีฉายาว่า โคโกโร่นิทรา)

Chapitre suivant