webnovel

0016

บทที่ 15 เปิดหีบสมบัติอีกครั้ง!

------------------------------------------------------------------------------

บทแปลเดิม

CM >> ตรวจ

TurKish_TEA >> เช็ก + เกลา

********************************

ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ย่านเจี่ยวเหมิน ภายในห้องเช่า

วันนี้เป็นวันหยุดของจางเย่ ‘เรื่องสยองขวัญยามค่ำคืน’ เป็นรายการที่ออกอากาศทุกวันไม่มีหยุด แต่เขาได้อัดรายการสำหรับวันเสาร์และอาทิตย์ไว้ล่วงหน้าแล้ว และส่งต่อให้ผู้ช่วยสาวเสี่ยวฟางเป็นคนจัดการแทน จางเย่จึงสามารถนอนขี้เกียจอยู่ที่บ้านได้ ชายหนุ่มตื่นประมาณ 10 โมงเช้า ยืดเส้นยืดสายก่อนจะลุกจากเตียง สิ่งแรกที่เขาทำคือเปิดหน้าจอเกมเพื่อตรวจดูความสำเร็จในรอบห้าวันที่ผ่านมา ค่าชื่อเสียงอยู่ที่ 110,000 จุดแล้ว หลังจากรายการตอนแรกที่เพิ่มค่าชื่อเสียงให้ประมาณ 10,000 กว่าจุดแล้ว ตอนที่สองเพิ่มมาค่อนข้างน้อย การออกอากาศตอนที่เหลือจะเพิ่มค่าชื่อเสียงให้มากกว่า 20,000 จุดต่อวัน เมื่อเห็นค่าชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จางเย่ได้แต่ยิ้มกว้างอย่างยินดี

ตอนนี้มันมากพอจะเล่นลอตเตอรี่ได้อีกครั้งแล้ว

โดยปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย จางเย่ใช้ค่าชื่อเสียง 100,000 จุดในการสุ่มลอตเตอรี่ทันที “คราวนี้ฉันจะไม่หวังกับหมวดพิเศษแล้ว ขอเป็นหมวดสกิลหรือว่าสเตตัสก็ยังดี เล่นมาตั้งสองครั้งแล้ว ยังไม่เคยเห็นของในหมวดอื่นเลย!”

จางเย่กดปุ่ม!

เข็มเริ่มหมุน!

หมวดสเตตัส…หมวดพิเศษ…หมวดสกิล...

เข็มค่อยๆ หมุนช้าลงเรื่อยๆ และผ่านหมวดต่างๆ ไป มันเกือบจะหยุดที่หมวดสกิลแล้ว อีกแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น!

แค่นิดเดียวเท่านั้นจริงๆ!

นั่นไง แล้วก็หมวดใช้แล้วทิ้งอีกจนได้!

จางเย่ได้แต่ยอมรับชะตากรรมก่อนจะเปิดหีบสมบัติ (เล็ก) ภายในหีบมีขวดแก้วใสที่มีจุกไม้ปิดไว้อยู่!

【น้ำยาล่องหน】 : เมื่อดื่มแล้วจะสามารถหายตัวได้ ระยะแสดงผล 5 นาที

หลังจากเห็นคำอธิบายจากแหวน จางเย่ก็เก็บน้ำยาเข้าในช่องเก็บของราวกับไม่ใช่ของสลักสำคัญนัก ช่องเก็บของนี่ช่างสะดวกสบายเหมือนกับเป็นอีกมิติหนึ่ง ไอเทมที่เพิ่งได้มาชายหนุ่มไม่พอใจกับมันนัก มันจะมีไว้ใช้ทำอะไรล่ะ? แอบดูผู้หญิงอาบน้ำงั้นเหรอ? อย่ามาล้อเล่นน่า เขาเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอดนะ ไม่มีวันทำเรื่องลามกแบบนั้นได้หรอก ไม่ต้องแม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างเวลาแค่ 5 นาทีมันจะไปทันเห็นอะไรได้!

ตอนนั้นเองที่ด้านนอกเกิดเสียงอึกทึกวุ่นวายขึ้น

หลังจากอาบน้ำเสร็จจางเย่เปิดประตูออกไปดู เห็นเหล่าผู้เช่ากำลังชุมนุมอยู่รอบๆ ทางเดิน

“คุณน้าเจ้าของห้อง ค่าเช่าห้องมันก็แพงอยู่แล้วนะ นี่คุณยังจะขึ้นอีกเหรอ?” นักศึกษามหาลัยคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง

“ใช่แล้ว นี่มันฆ่ากันเลยนะ เอาเปรียบกันชัดๆ!” พนักงานออฟฟิศสาวตะโกน

เหราอ้ายหมิ่นที่ยืนอยู่ตรงกลางมีสีหน้าไม่แยแสอะไร เธอหรี่ตามองแล้วหันไปเผชิญหน้ากับพวกเขา “ตอนนี้ราคาบ้านมันแพง ทุกคนต่างก็ขึ้นค่าเช่ากันทั้งนั้น พวกนายคิดว่าฉันเป็นองค์กรการกุศลเรอะ อยู่ไม่ไหวก็ไม่ต้องอยู่ ยังมีคนรอเช่าต่ออีกมาก ฮึ่ม แล้วนี่กล้าตะโกนเถียงฉัน? เธอน่ะ เสี่ยวจ้าว ตอนที่เธอติดหนี้คนแล้วเขาตามมาหาถึงที่นี่ ใครเป็นคนให้เธอยืมเงินกัน? เธออีกคน เสี่ยวเซี่ย ตอนที่เธอไม่มีงานจ่ายค่าเรียน ใครเป็นคนช่วยเธอกัน หืม?”

นักศึกษามหาวิทยาลัยคนนั้นสงบอารมณ์ลงแล้วพูดอย่างนุ่มนวล “แต่ผมก็คืนคุณไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เหราอ้ายหมิ่นจ้องกลับด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอ “คืนแล้วก็แค่นั้นสินะ? ความดีที่ฉันเคยทำไว้ก็หายไปหมดแล้วสินะ? จะพูดแบบนี้ใช่ไหม? นายมันเนรคุณ! ถ้าไม่อยากอยู่ก็ไสหัวไปซะ!”

หลายๆ คนเริ่มหยุดพูดแล้วค่อยๆ กลับไปที่ห้องของตัวเอง

คนอื่นๆ ที่ไม่เคยติดหนี้บุญคุณเหราอ้ายหมิ่นยังคงยืนประท้วงต่อไป แต่สุดท้ายก็ถูกด่าเละทีละคนจนหนีเตลิดกลับห้องตนเองแทบไม่ทัน ด้วยปากอสรพิษของเธอ คนธรรมดาไม่มีทางเถียงชนะได้อยู่แล้ว!

หลังจากทุกคนเริ่มแยกย้าย เหราอ้ายหมิ่นจ้องไปที่จางเย่ “นี่ จางน้อย มานี่สิ!”

จางเย่ที่กำลังจะหลบซ่อนกลับหนีไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่บ่นงึมงัมเดินตามหญิงสาวไปแต่โดยดี

หลังจากปิดประตู เหราอ้ายหมิ่นใส่รองเท้าแตะในบ้านเดินไปยังโต๊ะกาแฟ บนโต๊ะมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ยอดพิมพ์ไม่มากนักวางอยู่ เธอเปิดมันแล้วกล่าว “ฉันบังเอิญเห็นนี่ในหนังสือพิมพ์ที่ซื้อมาตอนเช้า ไม่เลวเลยนี่เจ้าหนู มีชื่อนายอยู่ในหนังสือพิมพ์ด้วยนะ” หญิงสาวโบกมันก่อนพูดต่อด้วยท่าทางแปลกๆ “ไม่นานมานี้ รายการ ‘เรื่องสยองขวัญยามค่ำคืน’ ของช่องวรรณกรรมแห่งสถานีวิทยุนครหลวงได้นำเสนอเรื่อง ‘คนขุดสุสาน’ มันได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับรายการภาคดึก และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทั้งยังเปิดแนวทางใหม่ให้กับนิยายลึกลับทั้งในเว็บไซต์และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ จากข้อมูลที่สัมภาษณ์มา นี่เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นโดยจางเย่ ดีเจเจ้าของรายการ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นความสำเร็จที่ไม่สามารถถูกลอกเลียนแบบได้”

นี่เป็นครั้งแรกที่จางเย่เห็นว่าเขามีชื่ออยู่ในหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าหามันอย่างรวดเร็ว “ขอผมดูหน่อย”

“ถึงแม้ว่าหนังสือพิมพ์นี่จะไม่ได้ขายอย่างกว้างขวางนัก แถมยังมีความคิดเห็นส่วนตัวใส่ลงไป แต่ก็ยังถือว่าไม่เลวเลย นายทำได้ขนาดนี้เชียวทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าไปทำงาน?” พูดจบเหราอ้ายหมิ่นนั่งลงไขว่ห้างและเปลี่ยนหัวข้ออย่างฉับพลัน “เมื่อไรนายจะจ่ายค่าเช่า? ถ้านายจ่ายไม่ไหว ก็จ่ายหนี้ด้วยการทำงานบ้านซะ ได้เวลาทำความสะอาดบ้านแล้ว!”

อยู่ๆ เธอก็เปลี่ยนไปราวกับพลิกหน้ากระดาษหนังสือเสียอย่างนั้น!

จางเย่กัดริมฝีปาก “คุณน้าเจ้าของห้อง เห็นมั้ย ตอนนี้ผมมีชื่ออยู่ในหนังสือพิมพ์แล้ว เป็นคนมีสถานะ มีแฟนคลับด้วย ผมทำไม่...”

เหราอ้ายหมิ่นไม่รอให้เขาพูดเสร็จ “สถานะอะไรของนายกัน? สถานะเดียวที่นายมีก็คือเป็นลูกหนี้ของฉัน!”

จางเย่ต่อรอง “ผมทำความสะอาดบ้านให้คุณก็ได้ แต่คุณต้องหาอาหารกลางวันกับอาหารเย็นให้ผมด้วยนะ” ชายหนุ่มแทบจะทนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อไปไม่ไหวแล้ว

เหราอ้ายหมิ่นมองค้อน “นี่นายยังจะมามีเงื่อนไขอีกเนี่ยนะ?”

จางเย่พึมพัม “ถ้าผมไม่ได้กินข้าวกลางวัน ผมก็ไม่มีแรงทำงานสิ”

เหราอ้ายหมิ่นทำปากบึ้งอย่างไม่เต็มใจก่อนจะเดินเข้าห้องครัว หลังจากนั้นเธอโยนถุงพลาสติคที่มีขนมปังอยู่ข้างในมาให้ “มีแค่นี้แหละ! ฉันซื้อมันมาเมื่อตอนเช้าเนี่ย!”

จางเย่ไม่รอช้า เขากินมันอย่างตะกละตะกลามโดยไม่แม้แต่จะอุ่นขนมปังเลย

เหราอ้ายหมิ่นพูดอย่างดูแคลน “นายนี่รู้แต่เรื่องกินจริงๆ ชาติที่แล้วอดอยากนักหรือไง? จะบอกไว้ให้อย่างนะว่าการกินขนมปังเนี่ยทำให้คนตายได้!”

จางเย่ที่เพิ่งกินขนมปังเสร็จไปสองก้อนอย่างรวดเร็วชะงักกึกจนเกือบจะติดคอ “ขนมปังทำให้คนตายได้จริงเหรอ?”

“ทำไมฉันต้องโกหกนายด้วยล่ะ มีคนแถวนี้ที่ตายไปเมื่อปีที่แล้วเพราะขนมปังเนี่ยแหละ เรื่องนี้ไม่มีใครไม่รู้หรอกนะ!” เหราอ้ายหมิ่นคิดถึงมันขึ้นมา

มันเป็นจริงตามที่เหราอ้ายหมิ่นบอก มีคนตายเมื่อปีที่แล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าจางเย่จะไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนั้น แต่หลังจากย้ายเข้ามาก็ได้ยินข่าวเรื่องนี้ ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกเสียขวัญขึ้นมาทันที ในโลกเก่าเขา จางเย่เคยได้ยินเรื่องสารซูดาน เรด (สารสังเคราะห์ที่ให้สีแดง) น้ำมันท่อและก็เมลามีนที่เป็นปัญหาใหญ่โตในอาหาร ชายหนุ่มรู้สึกหวาดกลัว การที่อยู่ๆ ได้ยินว่ามีคนใกล้ตัวตายเพราะกินขนมปัง ทำให้หน้าเขาถึงกับหน้าซีด ถอยหนีไปสองสามก้าว พยายามอ้วกเอาขนมปังที่เพิ่งกินเข้าไปออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จ จางเย่รู้สึกทนไม่ได้อีกต่อไป รีบถาม “แล้วคนนั้นเขาตายยังไง? ทรมานมากไหม?”

เหราอ้ายหมิ่นปัดเศษฝุ่นออกจากขาของเธอแล้วถอนหายใจ “น่ากลัวสิ น่ากลัวมากเลย วันนั้นเขาเดินข้ามถนนไปซื้อขนมปัง อยู่ๆ ก็มีรถบรรทุกคันเบ้อเร่อขับมาทับเขาตาย!”

“โดนรถชนตาย?” จางเย่แทบจะเป็นลม “ถ้าอย่างนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องกินขนมปังกันล่ะ?”

“ฉันก็ไม่ได้บอกว่ามันเกี่ยวข้องกันเสียหน่อย” เหราอ้ายหมิ่นขำกลิ้ง เห็นชัดว่าเธอแค่อำจางเย่เล่นเท่านั้น

จางเย่ “...”

เหราอ้ายหมิ่นอารมณ์ดีหลังจากได้ทำจางเย่หัวเสีย “เอาล่ะเจ้าหนู รีบไปทำความสะอาดหลังกินเสร็จได้ล่ะ แล้วก็อย่าลืมเติมน้ำในอ่างให้ฉันด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำ”

รอยยิ้มของเธอที่เบ่งบานราวกับดอกไม้ยิ่งทำให้อากาศดูเร่าร้อนมากขึ้นไปอีก!

แม้ว่าเหราอ้ายหมิ่นจะชอบหยอกจางเย่เล่นบ่อยๆ แถมหญิงสาวเป็นคนที่ทั้งอารมณ์ร้อน แก่กว่า แปรปรวนง่าย เย็นชา รักเงินราวกับชีวิต และมีปากอสรพิษอีกต่างหาก แต่เธอก็…ก็ยังเป็นคนที่สวยมากๆ อยู่ดีนั่นแหละ!

จางเย่ฝันไว้ว่าเขาอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงที่สวยขนาดนี้!

เฮ้อ แต่พอคิดไปก็เปล่าประโยชน์ มีภรรยาสวยแล้วยังไงกันล่ะ? ดูไปนานๆ เข้าก็คงจะชินตา สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรดีๆ ให้ดูอีก อะไรนะ? ไม่เชื่ออย่างนั้นเหรอ? ฉันจะยกตัวอย่างให้ฟัง มีใครบ้างล่ะที่ก่อนแต่งงานไม่คิดว่าภรรยาตัวเองสวยแทบตาย แต่หลังจากแต่งไปได้เจ็ดปี หน้าสวยๆ นั่นแค่เห็นอีกหนึ่งนาทีก็แทบจะทนเบื่อไม่ไหวแล้ว!

อ้อ แน่นอนสิ ถ้านายยังจะโมโหแล้วพูดทำนองว่า “ไร้สาระน่า ต่อให้อีก 50 ปี หรือ 500 ปี ฉันก็ยังคิดว่าภรรยาของฉันสวยน่ารักเหมือนดอกไม้ เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นนางงามระดับโลก” ก็นะ งั้นฉันจะไม่ถามเลยด้วย ภรรยานายคงกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ข้างๆ ล่ะสิ!

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

Chapitre suivant