webnovel

The Cures เมื่ออาทิตย์จูบดิน

Auteur: BlueLuv
Fantaisie
Actuel · 6.6K Affichage
  • 4 Shc
    Contenu
  • audimat
  • NO.200+
    SOUTIEN
Synopsis

เจค เด็กหนุ่มผู้มักฝันประหลาด หลายต่อหลายคืนที่ฝันประหลาดซ้ำกันมาตั้งแต่เขาอายุได้19 เขาฝันถึงแสงปริศนาสีเขียวประหลาดกับชายคนหนึ่งใบหน้าเลือนลางมาตลอด ในฝันนั้นเขาอยู่ท่ามกลางหุบเขามืดครึ้ม อากาศเย็ยยะเยือกด้วยหมอกหนา พร้อมกลิ่นหอมเจือจางที่ปลายจมูก และในทุกครั้งที่สูดอากาศเข้าปอด ยิ่งเดินเข้าไปใกล้คนคนนั้น กลิ่นหอมนั้นยิ่งชัดเจน แต่ทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้นมาจากฝัน เขาจะพบกลีบดอกไม้ประหลาดหนึ่งกลีบเสมอ แท้จริงแล้วสิ่งที่ฝันนั้นคืออะไรกันแน่ แท้จริงแล้วชายคนนั้นเป็นใคร และแท้จริงแล้วตัวเขาเองเป็นใคร...

Chapter 1Dream

เสียงย่ำเท้าดังสวบสาบบนทางเดินชื้นแฉะที่ถูกชโลมด้วยละอองฝนและหมอกหนาที่โรยตัวลงมายังพื้นดิน ตามทางเดินเล็กๆมีหินที่โดนตะไคร้เกาะ ดินโคลน ทั้งยังมีไม้พุ่มเตี้ยที่ขึ้นเป็นหย่อมๆกระจายอยู่ทั่วป่า มองทิศใดก็เจอแต่ต้นไม้สูงเต็มไปหมด วิสัยทัศน์แทบจะมองไม่เห็น ด้วยมีหมอกขาวขุ่นครอบคลุมทั้งป่า ท่ามกลางป่าเย็นชื้นยังมีเสียงหวีดหวิวของสายลมเบาบางที่พัดผ่านเป็นระยะ และนั่นชวนให้หวั่นระแวงทุกก้าวที่เดิน อากาศเย็นเยือกพาขนอ่อนตามร่างกายลุกชันอย่างห้ามไม่ได้ เจคได้แต่ยกแขนขึ้นมาลูบซ้ำไปมาหวังจะบรรเทาอาการหนาวเย็นลงได้ สองขายาวก้าวตามทางหญ้าเตี้ยๆที่พอจะเดินได้ เจคคิดว่าหากเขาก้าวออกไปจากเส้นทางแฉะๆนี้เขาคงหลงในป่าเป็นแน่ แต่ว่ายิ่งก้าวเดินไปข้างหน้า อากาศยิ่งเย็นลงจนเจคต้องดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมศีรษะ เขาเดินอยู่สักพักหนึ่ง จู่ๆมีลมหอบเล็กๆ พักมาปะทะใบหน้า พร้อมกับกลิ่นประหลาดที่ลอยตามลมมา

หอม

เจคได้กลิ่นหอมประหลาดปนมากับสายลมเมื่อกี้ กลิ่นที่เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร รู้เพียงแต่ว่ามันหอมมากจนเขาเผลอสูดเข้าไปหลายที เส้นทางด้านหน้าทอดยาวอย่างไร้ที่สิ้นสุด แต่หากเขาไม่ก้าวต่อ คงไม่รู้ว่ากลิ่นนี้มาจากไหนแน่นอน ความอยากรู้นี้จึงทำให้เจคก้าวเดินต่อ แต่ทว่าเมื่อเขาจะก้าวไปทางด้านหน้ากลับมีหมอกหนาโรยคลุ้งลงมาพร้อมเงาดำคล้ายว่าเป็นชายรูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดคลุมสีดำมีหมวกยาวระพื้นดิน ดูไปคล้ายชุดคลุมพ่อมดที่เขาเห็นในหนังที่เพื่อนชอบดู เงาของคนหรืออาจไม่ใช่นั้นยืนอยู่ท่ามกลางหมอกสีเทา ไร้การขยับใดๆ และความสงสัยจึงนำพาให้เจคก้าวเดินเข้าใกล้ หวังจะได้ถามทางถ้าหากเขาเป็นคนแถวนี้

กึก…

อะไรกัน ทำไมขาถึงขยับไม่ได้

"เมื่อเวลาเหมาะสม นายเหนือหัวจะหวนคืน.... เวลานั้นใกล้มาถึงแล้ว"

เมื่อสิ้นเสียงนั้น หมอกยิ่งทวีคูณขึ้น หมุนวนราวกับเกิดพายุ ก่อนชายปริศนาจะก้าวเข้าไปในกลุ่มหมอกข้างหลัง ทิ้งให้เจคยืนอยู่กลางป่าใหญ่นี้คนเดียว เจคพยายามจะตามชายคนนั้นไป แต่เขากลับขยับขาไม่ได้นี่สิ! บ้าอะไรเนี่ย!!

"เฮ้ เดี๋ยว! คุณเป็นใคร? Hey!!"

เจคตะโกนเรียกคนตรงหน้าจนสุดเสียง คนตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะได้ยิน ไร้เสียงตอบรับใดๆกลับมา มีเพียงเสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่าน พร้อมกลิ่นหอมที่จางลงเพียงเท่านั้นที่เป็นคำตอบ

"เดี๋ยว! คุณ! คุณหยุดก่อน คุ….."

กริ๊งงงงงงงงง!

เฮือก!!!

เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือบนโต๊ะใกล้ๆเตียงแผดเสียงดังสนั่น จนชายหนุ่มที่นอนจมในความฝันบนเตียงนุ่มสะดุ้งเฮือกทันที

ฝัน…..เขาฝันแบบนี้อีกแล้ว

เช่นเคย เจคตื่นมาเจอกลีบดอกไม้นี่อีกแล้ว ตลอดระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่เขาอายุครบ19ปี เขาก็เริ่มฝันประหลาดนี่ตลอด ทุกครั้งที่ตื่นเขาต้องเจอกับเจ้าดอกไม้ปริศนานี่ทุกที หรือบางทีเขาควรต้องมาคิดแล้วว่าสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินในฝันนั้นมันคืออะไร มันเกี่ยวอะไรกับเขากัน ทำไมถึงเอาแต่ฝันแบบนี้อยู่เรื่อย

ก่อนจะคิดไปต่างๆนานา เสียงเรียกจากหน้าห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน ดังชนิดที่ตึกข้างๆคงได้ยินด้วย คงเป็นพี่ชายของเขาละมั้งที่ขึ้นมา

สุดท้ายแล้วเจคจึงลุกขึ้นจากเตียง หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป เพราะวันนี้เขามีสอบที่มหาวิทยาลัย เขาคงต้องรีบเสียแล้ว และเรื่องฝัน ค่อยมาหาคำตอบทีหลังแล้วกัน ขืนนั่งคิดตอนนี้มีหวังพี่ชายสุดที่รักของเขาคงได้พังประตูเข้ามาลากคอเขาแน่นอน

เจคใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้นกับการจัดตัวเองในห้องก่อนที่จะลงมาข้างล่าง อย่าที่เจเดาไว้ไม่ผิด แค่โผล่พ้นขอบบันไดขั้นสุดท้าย เสียงจากห้องครัวก็ตะโกนลั่นออกมาทันที

ให้ตายเถอะ ไม่มีครั้งไหนเลยที่พี่ชายเขาจะพูดปกติ

"เจค! พี่บอกให้รีบไง นายมีสอบนะ ไอ้เด็กคนนี้"

"เงียบเถอะน่าจูโน่ ผมทันอยู่แล้วน่า"

เจคตอบกลับทันควัน ไม่อย่างนั้นเมื้อเช้าของเขาคงจบลงด้วยการกินแซนด์วิชพร้อมบทสวดจากจูโน่เป็นแน่ ไม่รู้ว่าพี่ชายของเขาเมื่อไหร่จะเลิกบ่นเสียที เขาโตจนจะจบมหาลัยอยู่แล้วนะ

ให้ตายเถอะ เขาพูดคำนี้จนเบื่อแล้ว

ประเทศอังกฤษเขาว่ากันว่าใน 1 วันมีอยู่ 4 ฤดูนั้นไม่เกินจริงแต่อย่างใด เช้าของวันศุกร์นี้แสนจะอึมครึมไปด้วยเมฆครึ้ม มันบดบังแสงอาทิตย์ที่ให้ความอบอุ่น อากาศวันนี้แสนจะแย่ มองไปซ้ายขวาผู้คนเดินเลียบฟุตบาทต่างพกร่มแนบข้างกันทั้งนั้น เป็นเรื่องชินตาที่เห็นได้ทั่วไป

ใครจะรู้กันล่ะว่าวันนี้นครหลวงจะมีสภาพอากาศอย่างไร แม้แต่พยากรณ์อากาศยังไม่แน่นอน เจคเองไม่ชอบพกของสิ่งใดนอกจากกระเป๋าสะพายหลังก็เป็นต้องกลอกตาทุกครั้งไป เพราะจูโน่บ่นอยู่ทุกวันเรื่องพกสิ่งของจำเป็น ถึงเขาไม่หยิบมันมา จูโน่ก็ยัดใส่มืออยู่ดี

แล้วใครสนกันล่ะ

ขายยาวใต้กางเกงตัวโคร่งสีเทาก้าวตามทางเดินอย่างเฉื่อยชา ใบหน้าได้รูปนั้นจดจ่ออยู่กับหน้าจอไอแพดที่เขาแนบไฟล์ข้อสอบไว้ พร้อมเพลงของศิลปินหนุ่มชาวอังกฤษที่โปรดแสนโปรดอย่าง Ed sheeran

อย่างน้อยเขาก็เหลือเวลาก่อนเข้าสอบตั้ง 1 ชั่วโมง จะยังไงก็ทันแน่นอน

เจคเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังเก่าแก่ที่ถ้าหากพูดถึงคงไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่ ใช่ มหาวิทยาลัยที่เจคเรียนคือ Oxford มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอังกฤษ และได้ชื่อว่าเป็นสถานศึกษาชั้นนำระดับโลกที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ เจคเรียนคณะ History of Art หรือ ประวัติศาสตร์ศิลปะ

แน่นอน ใครๆก็บอกว่าไม่น่าเชื่อ

แต่เชื่อเถอะ เขาชอบงานศิลป์พอๆกับชอบแกล้งจูโน่เลยทีเดียว

ใช้เวลาจากอะพาร์ตเมนต์จนถึงมหาวิทยาลัยเพียง 15 นาทีเท่านั้น ก็ถึงทางเข้าคณะของเจค นักศึกษาหลายคนต่างก้มหน้าก้มตาจดจ่อกับเอกสารหรือหนังสือเพื่ออ่านก่อนเข้าสอบกันทั้งสิ้น

มีเพื่อนชายหนุ่มรูปร่างสูงหน้าตาขี้เล่นยืนโบกมือให้เจคตรงระเบียงทางขึ้นเท่านั้นที่ไม่ได้จดจ่อกับการอ่านแต่อย่างใด

"เฮ้! เจค! ทางนี้ วู้ว!!"

"เลิกเสียงดังน่าเกรย์"

ผ่านไปสามชั่วโมง และแล้วชั่วโมงแห่งการสอบผ่านพ้นไป นักศึกษาต่างพากันออกจากห้องสอบด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน บ้างก็มีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ บ้างก็ปลงตก ก็แน่นอนว่าวันนี้สอบตัวสุดท้ายแล้ว เหลือแค่งานชิ้นที่ต้องส่งแยกเท่านั้น เหล่านักศึกษาปี4 อย่างเจคและเกรย์ก็จะจบออกไป เจคออกมาจากห้องสอบด้วยใบหน้ามึนตึง จะว่าง่ายก็ไม่ง่ายจะว่ายากก็ไม่ยาก ต่างกันกับเกรย์ที่ทำหน้าซังกะตายอยู่ระเบียงทางเดิน

"โอ่ยยย ให้ตายเถอะเจค นายจะทำจนมหาวิทยาลัยปิดเลยมั้ย ฉันจะอ้วกแล้ว จากใจเลยนะ อาจารย์ออกข้อสอบได้บ้ามาก มีอย่างที่ไหนให้฿@@฿ () & (/,) &..."

พ่อหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงชาวเกาหลีใต้ ได้แต่ขยุ้มผมของตัวเองจนไม่ได้ทรงไปหมด เจคได้แต่ทำหน้าเอือมๆกับเพื่อน ก็เมื่อเข้ายังทำหน้าลิงโลดอยู่แท้ๆ

"แล้วนายจะเอาไงกับงานที่อาจารย์ชิ้นสุดท้าย"

หลังจากระบายอารมณ์จนพอใจ เกรย์ก็กลับมาถามเจคด้วยใบหน้าเหนื่อยใจอีกรอบ สอบเสร็จแต่งานยังไม่เสร็จนี่มันดีใจไม่สุดจริงๆ

"ว่าจะลองไปค้นที่ห้องสมุดดู เผื่อได้ข้อมูลดีๆ"

"Good idea งั้นเป็นวันหลังเถอะเจค เออ นี่คืนนี้นายจะออกไปที่ The God Bar มั้ย "

"คงตามไป ฉันยังไม่ได้บอกจูโน่"

"พี่นายไม่บ่นหรอก นายโตขนาดนี้แล้ว"

เจคนึกถึงหน้าพี่ชายแล้วได้แต่ทำหน้าเอือม พี่ชายเขาน่ะยังเห็นเขาเป็นเด็กชายดูละมั้งถึงได้ทำอย่างกับว่าเป็นเด็กเหมือนแต่ก่อนไม่เปลี่ยน

"โอเค งั้นเจอกันที่หน้าร้านทุ่มครึ่งละกัน ฉันกลับละ"

"ตามนั้น"

Vous aimerez aussi

กลายเป็นเจ้าของกุญแจในโลกแห่งฝันร้าย

อาจเป็นเพราะความเผลอไผลหรือความเบื่อหน่ายชั่วขณะ อัลเลย์ อาโดนิส ถึงได้ลองเล่นเว็บดูดวงที่เจอผ่านตา หลังจากครั้งนั้นตนก็ต้องเจอกันฝันร้ายแบบเดิมซ้ำๆในทุกคืน พบเจอสิ่งแปลกๆบนโลก และสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่เคยนึกถึง จนสุดท้ายก็ได้หลับไปในวันเกิดของตัวเองตลอดกาล หากแต่ถ้านั้นไม่ใช่ฝันร้ายแต่เป็นโลกความเป็นจริงล่ะ? อัลเลย์ได้ตื่นขึ้นมาในฝันร้ายอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาจะไม่ได้ฝันถึงโลกเก่าอีกต่อไป หากในโลกแห่งทวยเทพและผู้วิเศษ สิ่งมีชีวิตจากเหวลึก และตัวตนที่เรียกว่าเสียงของพระเจ้า ต่างมีความปรารถนาที่จะมาบรรจบกันในปลายทางแห่งโชคชะตา หากชีวิตที่ผ่านมาของตนนั้นเป็นแค่เรื่องแต่งที่ถูกควบคุมอยู่ จงทำลายกฎเกณฑ์และกลายเป็นจ้าวแห่งฝันร้ายซะ [ กุญแจแห่งลางมรณะ ] ผู้นำพาฝันร้าย ความตาย และสงคราม ------------------------------------- swamp cat เรื่องนี้แต่งยาวๆ เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งแบบจริงจัง จะอัพได้ประมาณสัปดาห์ละ2-3ตอน  ภาพหน้าปกเป็นภาพชั่วคราวที่วาดขึ้นเอง ห้ามนำไปใช้อย่างอื่น

swamp_cat · Fantaisie
Pas assez d’évaluations
5 Chs

ครุฑาจอมราชันย์

ครุฑาจอมราชันย์เป็นนวนิยายแนวกำลังภายในแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ไทยในช่วง พ.ศ.2470 คาบเกี่ยวไปถึงห้วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึงตัวเอกที่มีชื่อว่าธีรพล ชายชาวไทยเชื้อสายจีนผู้ได้รับอัตลักษณ์พลังสถิตรูปพญาครุฑนามว่าสุบรรณมาตั้งแต่กำเนิด ในวัยเด็กนั้นเขาได้ถูกไล่ล่าโดยกลุ่มองค์กรลึกลับซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็คือ พรรคภูติราชันย์ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นพรรคผู้ร่วมก่อตั้งของภาคีซันเหอหรือที่ชาวไทยรู้จักกันในนามว่าอั้งยี่ที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมากว่าหนึ่งร้อยสิบแปดปี แต่ด้วยความคิดจะตั้งตนเป็นเจ้าในแผ่นดินสยามจึงได้ถูกพรรคบัวมารมรกต หรืออีกหนึ่งพรรคก่อตั้งตลบหลังให้ความร่วมมืออย่างลับๆกับทางการ จนเป็นผลให้พรรคภูติราชันย์ถูกกวาดล้างไปจากแผ่นดินสยามในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ในเวลาต่อมา แม้ทางภาคีซันเหอจะคาดคิดว่าพรรคภูติราชันย์ได้หายสาบสูญไปสิ้นแล้วก็ตาม แต่เมฆผู้เป็นบิดาของธีรพลก็ได้ไปค้นพบหลักฐานของการดำรงอยู่ของพรรคภูติราชันย์เข้า จนส่งผลให้ทั้งตัวเขารวมไปถึงลี่ผู้เป็นภรรยาและธีรพลในวัยสี่ขวบถูกติดตามฆ่า จนในที่สุดเมฆและลี่ก็ถูกหนึ่งในขุนพลของอีกฝ่ายสังหารลง แต่สำหรับธีรพลที่ได้รับความช่วยเหลือจากทองใบเกลอคนสนิทของเมฆไว้นั้นก็สามารถหลบหนีมาใช้ชีวิตอย่างสงบได้ที่เวียงพิงค์ อีกกว่าสิบห้าปีถัดมา ธีรพลในวัยฉกรรจ์ที่ได้รับการฝึกฝนมวยไทยอย่างหนักจากทองใบก็ต้องพบกับเรื่องราวที่ทำให้เขาได้รู้จักกับพลังงานชีวิต พลังงานธาตุ และอัตลักษณ์พลัง จนนำไปสู่การค้นพบสุบรรณในที่สุดซึ่งก็ทำให้เขาได้พัฒนาฝีมือขึ้นตามลำดับขั้น ด้วยโชคชะตาที่ทำให้ชีวิตเขาต้องเข้าไปผัวพันกับภาคีซันเหอ องค์กรใต้ดินที่มีอิทธิพลสูงสุดในสยามประเทศ ธีรพลก็จึงได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าที่ผิดกฎหมาย และต้องต่อสู้กรุยทางเพื่อสร้างพรรคของตนให้มีอิทธิพลอำนาจสูงขึ้นในภาคีและตามล่าหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การสังหารครอบครัวของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับชะตากรรมของชีวิตผู้คนในพิภพสหัสดาราที่ซึ่งเป็นโลกคู่ขนานต่างมิติกับโลกมนุษย์ ที่ความโกลาหลได้บังเกิดขึ้นทั่วทุกแห่งหนอันสืบเนื่องมาจากพระราชาองค์ปัจจุบันได้สิ้นพระชนม์ลง จึงทำให้บรรดาเผ่ามนุษย์ที่เคยสมัครสมานสามัคคีกันได้แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นแสวงหาอำนาจต้องการตั้งตนเป็นใหญ่ และที่สำคัญที่สุดเผ่าพันธุ์อสูรที่เคยถูกสยบอยู่กว่าสองพันปีก็ได้โอกาสอันดีเริ่มเคลื่อนไหวรุกรานอาณาจักรต่างๆอีกครึ่ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อราชวงศ์ทิตยะ ก็ทำให้ธีรพลได้พบกับแม่ทัพใหญ่อัศวเมธ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้อ้อนวอนขอให้เขาช่วยเหลือตามหาองค์ชายราวินทร์ที่หายสาบสูญไปจากพิภพสหัสดารา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วหลังจากธีรพลออกค้นหาอยู่ภายในโลกมนุษย์ได้สักระยะหนึ่งก็ได้พบกับองค์ชายราวินทร์และช่วยกันกำจัดพรรคภูติล้างวิญญาณซึ่งมีตัวการใหญ่ก็คือจอมเวทย์บุศัยยะ ผู้ที่แฝงตัวเข้ามายังโลกมนุษย์เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานธาตุจากอัตลักษณ์พลัง และที่สำคัญก็คือจอมเวทย์ผู้นี้เองเป็นผู้ที่สั่งการฆ่าครอบครัวของเขา เมื่อไม่มีจอมเวทย์บุศัยยะคอยบงการ พรรคภูติราชันย์จากที่จะสามารถล้มล้างภาคีซันเหอซึ่งเป็นศัตรูสำคัญลงได้และกำลังจะดำเนินแผนการยึดครองสยามประเทศ ก็ได้ถูกธีรพลซึ่งในขณะนั้นได้ขึ้นเป็นผู้นำภาคีพลิกสถานการณ์เข้าจัดการจนสามารถล้มจอมราชันย์ของพรรคลงได้ และทำลายแผนการอันชั่วร้ายของพรรคภูติราชันย์ทั้งหมด จากนั้นธีรพลก็ได้กลับไปยังพิภพสหัสดาราเพื่อช่วยเหลือองค์ชายราวินทร์ รวบรวมคนจากเผ่ามนุษย์ เผ่าปักษา เผ่านาคาและเผ่าสัตว์เทพเข้าต่อกรกับเผ่าอสูรที่จอมเวทย์บุศัยยะบงการอยู่ เพื่อขัดขวางการปลุกชีพจอมมารรามสูรที่เคยอาละวาดเมื่อราวสองพันปีก่อนลง ซึ่งด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่งและความเก่งกาจของธีรพลที่มีอัตลักษณ์พลังสถิตอยู่ด้วยกันถึงห้าตน ก็ทำให้เขาสามารถสังหารจอมเวทย์บุศัยยะผู้เป็นตัวการพรากชีวิตของบิดามารดาเขาลงได้และสามารถช่วยเหลือพิภพสหัสดาราไว้ได้ในที่สุด

Thanakorn_Pinchai · Fantaisie
Pas assez d’évaluations
23 Chs