webnovel

ภาคต่อตอนที่ 5 ซ้อนแผน

ยามอิ่วจวนเสนาบดีหาน

บุรุษร่างท้วมสวมใส่อาภรณ์หรูหรานั่งแสยะยิ้มน่าเกลียดอยู่หลังโต๊ะทำงาน ยามที่นึกถึงเรื่องราวเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนหน้า

เมื่อหนึ่งในเจ้าพวกโง่ห้าพี่น้องที่ถูกหานหนิงเฉิงหลอกใช้มาขอพบแจ้งข่าวเจรจาต่อรองขอแลกเปลี่ยนบิดามารดากับนางเด็กสารเลวตายยากคนนั้น!

ว่ากันตามจริงแล้ว ก่อนหน้านี้นางเด็กสารเลวนั่นออกจะสงบเสงี่ยม เรียบร้อย อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไม่ออกไปไหนเช่นคุณหนูบ้านอื่นๆ

จนเมื่องานชมบุปผาที่จัดขึ้นที่จวนแห่งนี้ นางเด็กสารเลวกลับไร้มารยาท กล้าใช้วาจาหักหน้าตนกลางงามเลี้ยงต่อหน้าเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ ทำให้ตนกลายเป็นตัวตลกในสายตาของเหล่าขุนนางอยู่นานหลายวันยามที่เข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้

มิหนำซ้ำในวันเดียวกันยังสามหาว กล้าข่มขู่ อันเอ๋อร์ บุตรีคนเดียวของตนให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก!

อันเอ๋อร์ ปรารถนาให้นางเด็กสารเลวนั่นตาย ตนจึงสั่งสาวใช้ ให้ไปว่าจ้างนักฆ่าจำนวนหนึ่ง ไปลอบสังหารนางทิ้งเสียแต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า

ในเวลาต่อมาก็ได้ส่งนักฆ่าไปอีก โดยครั้งนี้หวังจับเป็นมาให้ อันเอ๋อร์ จัดการด้วยตนเอง สุดท้าย..กลับล้มเหลวอีกครั้ง! คิดแล้วมันน่าโมโห เหตุใดนังเด็กสารเลวนั่นถึงได้ดวงแข็งนัก!

เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย หรือถูกเพ่งเล็งมากเกินไป หานหนิงเฉิงจึงเปลี่ยนแผน ใช้งานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของฝ่าบาทมาเป็นข้ออ้าง ให้ตระกูลชิงรับผิดขอบในการตามหาสี่สัตว์ในตำนาน อันได้แก่ อาชาสวรรค์สีทอง สีดำ สีน้ำตาลเปลือกไม้ และ พยัคฆ์ขาว ซึ่งหาได้ยากยิ่ง โดยมีองค์รัชทายาท ฉีเฟยหลง เป็นผู้ดูแลภารกิจ

ยามที่แผนการนี้ผ่านความเห็นชอบจากฝ่าบาท หานหนิงเฉิงกระหยิ่มยิ้มย่อง ยินดีปรีดาเป็นที่สุด เหตุเพราะหากตระกูลชิงทำงานล้มเหลว ย่อมต้องถูกลงอาญาจากฝ่าบาทเป็นแน่ ซ้ำยังเป็นโอกาสให้ฝ่ายตนโจมตี สั่นคลอนฐานอำนาจขององค์รัชทายาทได้อีกด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว

ใครจะไปคาดคิด ว่าแผนการที่หานหนิงเฉิงมั่นใจนักหนาจะล้มเหลวอีกครั้ง ซ้ำผู้ที่ทำลายแผนการนี้ก็คือ นังเด็กสารเลวตายยากนั่น เมื่อแผนการของหานหนิงเฉิงล้มเหลว ทำให้องค์รัชทายาทได้รับคำชื่นชมและความไว้เนื้อเชื่อใจมากมาย จากฝ่าบาทและเหล่าขุนนาง จนยามนี้ยากที่จะสั่นคลอนฐานอำนาจขององค์รัชทายาทได้แล้ว

ทุกๆอย่าง ทุกๆแผนการที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ล้วนมีนางเด็กสารเลวเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น ข้าต้องฆ่านางด้วยมือข้าเองให้ได้! หานหนิงเฉิงหมายมาดในใจ ดวงตาเรียวยาวดุจจิ้งจอกเจ้าเล่ห์วาวโรจน์ และเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น หานหนิงเฉิงจึงพยายามทำทุกวิถีทาง แต่กลับมาล้มป่วยด้วยโรคประหลาด โรคที่จะกี่สิบหมอก็เอาแต่ส่ายหน้า ไม่กล้ารักษาแม้จะมีดาบจ่อคอหอยอยู่ก็ตาม เจ้าพวกไร้ประโยชน์ มันน่าฆ่าทิ้งนัก!

จนได้ข่าวจากซินแสเฒ่าคนหนึ่งว่า หากฝึกวิชาจากคัมภีร์ล่องหนสำเร็จ นอกจากจะช่วยให้ล่องหนคล้ายหายตัวได้แล้ว ยังสามารถรักษาโรคประหลาดได้หลายโรครวมถึงโรคประหลาดที่หานหนิงเฉิงเป็นอยู่

หานหนิงเฉิง จึงสั่งนักฆ่าที่เลี้ยงไว้เดินทางไปเผ่าเหลียงเพื่อชิงคัมภีร์ล่องหน แต่บิดาเจ้าห้าพี่น้องหน้าโง่กลับปฏิเสธ ถูกซ้อมปางตายสุดท้ายเป็นฮูหยินของมันที่ทนเห็นสามีถูกซ้อมไม่ไหว ยอมบอกที่ซ่อนของคัมภีร์ล่องหน

เมื่อได้รู้ความจริงอย่างที่ใจต้องการ หานหนิงเฉิงจึงใช้บิดามารดาของเจ้าพี่น้องหน้าโง่เป็นตัวประกันแลกเปลี่ยนกับคัมภีร์ล่องหน

ไม่นึกเลยว่า เจ้าห้าพี่น้องหน้าโง่กลับเผาทำลายคัมภีร์นั่นไปเสียแล้ว สร้างความโกรธกริ้วให้หานหนิงเฉิงยิ่งนัก แล้วแผนการใหม่ก็แวบเข้ามาในหัว อา...เจ้าพวกโง่นี่สามารถล่องหนหายตัวได้ หากให้พวกมันทำงานนี้ อาจจะสำเร็จ หรือหากพลาดพลั้งก็ให้พวกมันเป็นแพะรับบาปแทนเสียก็สิ้นเรื่อง!

"นางเด็กสารเลว ข้าจะแล่เนื้อเจ้าทีละชิ้นๆ ให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทรมาน อย่างที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน รอก่อนเถิด ฮ่าๆๆ"หานหนิงเฉิงหัวเราะออกมาเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและน่ารังเกียจ กำของที่อยู่ในมือแน่น แน่นนอนมันก็คือ ผ้าเช็ดหน้ากับแหวนหยกที่ใช้ในการหมั้นหมายของแม่ทัพหนุ่มกับฮูหยินน้อยนั่นเอง

-------------

ยามไฮ่จวนแม่ทัพไร้พ่าย

ชิงหลินนอนลืมตาโพลงอยู่ในบนเตียงนุ่ม ข้างกายที่ควรมีร่างใหญ่อบอุ่นของสามีรูปงามกลับเป็นสามสหายน้อยแทน เพราะสามีรูปงามติดภารกิจบางอย่าง ทิ้งจิ๋นซานจิ๋นซื่อ สององครักษ์หนุ่มไว้คอยคุ้มกันอีกชั้นเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ร่างเล็กลุกขึ้นก้าวข้ามตัวเสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ยที่มานอนเฝ้า อยู่บนพื้นด้านหน้าเตียงราวกับกลัวนางหาย ย่องออกมาที่ประตูอย่างแผ่วเบาแต่ก่อนที่จะทันได้เปิดประตูกลับมีเสียงชายคนหนึ่งดังเข้ามา

"ฮูหยินน้อย โปรดอยู่ในห้องเถิดขอรับ ยามวิกาลเช่นนี้ไม่ควรออกไปที่ใด"ชิงหลินชะงักจำได้ว่าเป็นเสียงของจิ๋นซื่อ

"ชิ!..คิดว่าเดินเบาที่สุดแล้วนะ ยังอุตส่าห์ได้ยินอีก หูดีเกินไปแล้ว"บ่นเบาๆเมื่อโดนจับได้ พร้อมกับย่นจมูกใส่คนที่อยู่อีกฟากของประตู

"ผู้ฝึกยุทธ์ประสาททั้งห้า ย่อมดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปขอรับ"คราวนี้เป็นเสียงของจิ๋นซาน

มุมปากอวบอิ่มกระตุก เจ้าพวกนี้..จะเทพเกินไปแล้ว! "ท่านแม่ทัพไปไหนกันแน่?"เอ่ยถามถึงสิ่งที่ค้างคาในใจจนนอนไม่หลับพร้อมกับเงี่ยหูรอฟังคำตอบ

"เรื่องนี้ท่านแม่ทัพจะเป็นผู้ชี้แจงด้วยตนเองขอรับ"จิ๋นซื่อตอบกลับเบาๆด้วยเกรงจะทำให้สาวใช้ตื่น

"...ก็ได้..ข้าจะกลับไปนอนต่อแล้ว"เมื่อง้างปากสององครักษ์ไม่สำเร็จ จึงเดินย่องกลับไปนอนบนเตียงตามเดิม ก่อนจะค่อยๆหลับไปในที่สุดด้วยความอ่อนเพลีย

----------

เวลาเดียวกัน ณ กระท่อมร้างกลางป่านอกเมือง อันเป็นจุดนัดแลกเปลี่ยนตัวประกัน

จางมู่หลงพร้อมกองกำลังปีศาจมู่จำนวนสามสิบนาย ซุ่มกำลังโอบล้อมกระท่อมร้างไว้ รอโอกาสโจมตี กองกำลังปีศาจมู่สามสิบคน สามารถสังหารศัตรูนับร้อยได้อย่างสบายๆ

หน้ากระท่อมมีบุรุษชุดดำห้านายยืนปักหลักมั่น ใบหน้าเรียบสนิทยากที่จะจับพิรุธได้ ราวหนึ่งเค่อปรากฏร่างชายชุดดำเกือบร้อยนายควบม้าตรงมาที่กระท่อม ตรงกลางคือรถม้าสองคันวิ่งมาด้วยความเร็ว คาดว่าผู้ที่นั่งมาน่าจะเป็นไอ้ขุนนางชั่ว บิดามารดาของพวกตนคงอยู่ในรถม้าอีกคัน

ไอ้ขุนนางชั่ว มันตั้งใจจะฆ่าพวกตนปิดปากจริงๆรึ? ชงซื่อกำหมัดแน่น ดวงตาดุดันจ้องมองรถม้าที่ห่างอยู่ออกไปราวครึ่งลี้อย่างเดือดดาล

"พี่ใหญ่ จะทำเช่นไรต่อดี? ดูเหมือนมันตั้งใจจะมาฆ่าพวกเราปิดปาก"ชงอวี้กระซิบบอกชงซื่อ

"...อย่ารน ทำตามแผนที่วางไว้ก็พอ ข้าเชื่อใจท่านแม่ทัพ"ชงซื่อตบบ่าน้องรองก้าวออกไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

"คนที่พวกเจ้าต้องการอยู่นี่แล้ว!"ชงซ่าน ชงผิ่น รีบหิ้วปีกสตรีนางหนึ่งที่ถูกมัดมืออยู่ข้างหลังออกมาจากกระท่อม รูปโฉมโนพรรณละม้ายคล้ายฮูหยินน้อยแห่งจวนแม่ทัพยิ่งนัก หากนำมายืนคู่กันก็ยากที่จะระบุได้ว่า ผู้ใดคือฮูหยินน้อยตัวจริง

ชายห้าคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า กระทุ้งสีข้างม้าให้เดินออกมาข้างหน้าใกล้จนถึงระยะที่สามารถมองเห็นใบหน้าของสตรีที่นายท่านของมันต้องการตัวแล้ว หนึ่งในห้ากระโดดลงพื้นสืบเท้าเข้ามาใกล้ ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองสตรีตรงหน้าที่สลบไสลไม่ได้สติ ตาเป็นมันและหยาบคายยิ่งนัก

ชงผิ่น ชูคบไฟในมืออีกข้างให้พวกมันเห็นใบหน้าของนาง ภายนอกดูเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่ภายในใจกำลังเดือดดาลอยากบั่นคอมันทิ้งเสียเดี๋ยวนี้!

อีกฝ่ายเมื่อดูจนมั่นใจแล้วว่าเป็นฮูหยินน้อยแห่งจวนแม่ทัพ ก็แสยะยิ้มน่าเกลียดภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีดำ จากนั้นหันไปยกมือให้สัญญาณพรรคพวกของตน

"..ท่านพ่อ! ท่านแม่!"ชงไฉ่ตะโกนเสียงดังที่เห็นพวกมันกระชากลากถูบิดามารดาลงมาจากรถม้า

ทางด้านจางมู่หลงและกองกำลังปีศาจมู่ ยังคงซุ่มดูต่อไป ระดับฝีมือของแต่ละคนสูงส่งถึงขั้นลบกลิ่นอายการฆ่าฟันได้อย่างหมดจดจนอีกฝ่ายไม่สามารถจับสัมผัสได้ นั่นหมายความว่า นักฆ่าของฝ่ายตรงข้ามระดับฝีมือด้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ชั่วอึดใจต่อมาชายชุดดำที่นั่งบนหลังม้า รีบกระโดดลงมาแล้วเข้าไปใกล้พร้อมกับค้อมศีรษะให้ชายที่อยู่ในรถม้าอย่างพินอบพิเทาเอาใจ

"ฮึ! เป็นไปตามที่ท่านแม่ทัพคาดการไว้จริงๆ"จางมู่หลงพึมพำ มุมปากยกขึ้นจนเป็นรอยยิ้มน่าหลงใหล ทำเอากองกำลังปีศาจมู่ที่นั่งซุ่มอยู่ใกล้ๆใจกระตุก ก่อนจะรีบสลัดศีรษะแรงๆพร้อมกับขยับถอยออกไปด้านข้างสองก้าว อา..ช่างอันตรายเสียจริง...

ในขณะเดียวกันหานหนิงเฉิงพาร่างอ้วนท้วมของตนลงมาจากรถม้าอย่างใจเย็น ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาแลดูใจดีในสายตาของคนทั่วไป หากแต่ความจริง หานหนิงเฉิง เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ ที่หน้าตาแลดูใจดีแต่จิตใจแสนจะโหดเหี้ยม ยิ่งกว่าโจรชั่วเป็นร้อยเท่า

"ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้าทำดีมาก!!"หานหนิงเฉิงเดินเข้ามาเชยคางสตรีที่สลบไสลเพราะผงนิทราแล้วหัวเราะเสียงดัง ดวงตาเรียวยาวชั้นเดียวจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างสาแก่ใจ และเต็มไปด้วยความคิดอันชั่วร้ายต่ำช้า

"เจ้าก็ได้สิ่งที่เจ้าต้องการแล้ว! ส่งท่านพ่อท่านแม่ของข้ามาเสียที!"ชงซื่อกล่าวเสียงกร้าว มองดูสตรีสลบไสลไม่ได้สติถูกชายชุดดำอุ้มไปต่อหน้าต่อตา มีประกายชนิดหนึ่งวาบผ่านแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่หานหนิงเฉิง เพราะมัวแต่จ้องมองร่างสตรีราวกับพยัคฆ์จ้องตะครุบเหยื่อก็ไม่ทันสังเกตเห็น

มืออวบอูมสะบัดเสียงดังพรึ่บ ร่างชายหญิงวัยกลางคนสองคนก็ถูกพามาอยู่เบื้องหน้าชายทั้งห้า ชงอวี้ ชงไฉ่ ชงซ่าน ชงผิ่น รีบเข้าไปประคองบิดามารดา ทั้งสี่หันมอง ชงซื่อ ผู้เป็นพี่ชายคนโต เมื่อ ชงซื่อ พยักหน้าลงให้สัญญาณ ทั้งห้าพร้อมด้วยบิดามารดาก็หายวับไปจากตรงนั้นทันที

"นายท่าน! พวกมันหายไปแล้วขอรับ!!"หนึ่งในนักฆ่ารีบรายงานด้วยเสียงที่ค่อนช้างดังและตื่นตระหนก เหตุเพราะไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าห้าพี่น้องจะหายตัวได้ราวกับผี

"ฮึ่ม! เจ้านำกำลังส่วนหนึ่งออกค้นหาให้ทั่ว พบแล้วให้ฆ่าทิ้งได้ทันที!"หานหนิงเฉิงชี้นิ้วออกคำสั่งเสียงเหี้ยม ใบหน้าที่มักเปื้อนยิ้มตลอดเวลายามนี้กลับดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก

"กลับจวน!!!"หานหนิงเฉิงสะบัดแขนเสื้อเสียงดังแล้วรถม้าสองคัน พร้อมด้วยนักฆ่ากว่าห้าสิบคนก็มุ่งหน้ากลับจวนเสนาบดีหาน ด้วยมั่นใจว่านักฆ่าเดนตายที่ตนชุบเลี้ยงไว้จะไม่ทำให้ตนผิดหวังอย่างแน่นอน

หารู้ไม่ว่าทันทีที่กลุ่มของหานหนิงเฉิงจากไป นักฆ่าเกือบห้าสิบคนกลับถูก กองกำลังปีศาจมู่ สังหารจนหมดสิ้นในชั่วพริบตาไม่ทันแม้แต่จะชักดาบตอบโต้

"ขอบคุณรองแม่ทัพจางที่ช่วยเหลือในครั้งนี้"ชงซื่อรีบคุกเข่าคำนับจางมู่หลงด้วยความซาบซึ้ง

"ขอบคุณรองแม่ทัพจาง!!!"น้องชายทั้งสี่ของชงซื่อพร้อมด้วยบิดามารดารีบทำตาม คุกเข่าคำนับจางมุ่หลงและกองกำลังปีศาจมู่ ต่างคิดตรงกันว่าดียิ่งที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับท่านแม่ทัพ

"ผิดแล้ว ข้าเพียงทำตามคำสั่งของท่านแม่ทัพเท่านั้น กลับจวนแม่ทัพก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน"จางมู่หลงกล่าวจบก็หันมาส่งสัญญาณมือให้กับกองกำลังปีศาจมู่ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับจวนแม่ทัพไร้พ่ายซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่ไกลกว่า แต่ปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงถูกคนของหานหนิงเฉิง พบเห็น

"หานหนิงเฉิง หากเจ้ารู้ความจริง ดูซิเจ้าจะยังหัวเราะได้อย่างคืนนี้รึไม่!!?"ชงซื่อพูดเน้นทุกคำดวงตาดุดันมีประกายความสะใจ

--------------

ยามจื่อห้องใต้ดินจวนเสนาบดีหาน

"อา....ไม่คิดว่า ผิวพรรณของนางเด็กสาวเลวจะนุ่มลื่น ขาวผ่องราวกับหิมะถึงเพียงนี้ ข้าจะมอบความสุขให้เจ้าเอง ฮ่าๆๆ"มือไม้อวบอูมลูบไล้ไปทั่วผิวกายของสตรีที่สลบไสล

แสงสว่างจากคบไฟในห้องใต้ดินทำให้มองเห็นร่างเปลือยเปล่าเต็มตา หานหนิงเฉิงไล่สายตาหื่นกระหายจ้องมองทรวงอกอวบอิ่มตาเป็นมัน ร่างกายรุ่มร้อนจนไม่อาจข่มกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่อัดอั้นมานานหลายเดือนด้วยโรคประหลาดได้อีกต่อไป

ร่างอวบอ้วนกระทำย่ำยีสตรีใต้ร่างอย่างตะกละ ตะกลาม ยิ่งเห็นร่างอวบอิ่มตอบสนองตามสัญชาตญาณมันก็ยิ่งเคี่ยวกรำนางหนักหน่วงรุนแรงจนร่างอวบอิ่มครางออกมาด้วยความเจ็บปวดทั้งที่ยังไม่ได้สติ

เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย หานหนิงเฉิงถึงกับหมดแรงลงไปนอนหอบอยู่ข้างร่างอวบอิ่ม แสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นเลือดและน้ำรักตรงหว่างขาขาวผ่องของนาง

"อา..นางเด็กสารเลวนี่รสชาติยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งยังเป็นสาวพรหมจรรย์อีกด้วย!! ฮ่าๆๆ เจ้ามู่หลิ่งเหวิน!! หากเจ้ารู้ว่าฮูหยินของเจ้าเสียท่าให้ชายอื่นเจ้าจะทำเช่นไร? ข้าอยากจะรู้นัก! ฮ่าๆๆ"หานหนิงเฉิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวคนเสียสติแล้วสะดุ้งเฮือก "อุ๊ก! ซี๊ดดดด...ฮึ่ม! ทำข้าเจ็บแสบนักนะ เจ้าโรคประหลาด!!ซี๊ดดด"สบถพร้อมกับลุกขึ้นสวมอาภรณ์อย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดเริ่มจู่โจมแท่งหยกจนไม่อาจใส่กางเกงได้ ทำได้เพียงใส่เสื้อคลุมยาวปกปิดร่างกายก่อนจะเดินออกมาจากกรงขังอย่างทุลักทุเล

"ที่เหลือข้ามอบให้พวกเจ้า จะทำอย่างไรก็ตามสบาย แต่ห้ามให้ถึงตายเด็ดขาด!"พูดจบก็เดินจากไปทันที ปล่อยให้นักฆ่ากักขฬะหลายสิบคน เวียนกันข่มเหงย่ำยีร่างกายอวบอิ่มนั้นอย่างสนุกสนานสำราญใจ จนร่างขาวผ่องอวบอิ่มเต็มไปรอยจ้ำรอยช้ำหาที่ดีแทบไม่ได้

Chapitre suivant