webnovel

รังอสูร (5)

ผมรู้สึกถึงกระแสลมที่พุ่งมาจากอีกด้าน ก่อนที่จะรู้ว่าใครหรืออะไรกำลังพุ่งเข้ามา ผมหันไปพร้อมกับชักดาบขึ้นมาเตรียมตั้งรับ

โชคดีที่ผมเรียกดาบโรสเซทออกมาก่อนเข้ามาในเหมือง ไม่เช่นนั้นดาบเล่มนี้ก็คงจะติดอยู่ในคลังเหมือนกับการ์ดใบอื่นที่เรียกออกมาไม่ได้เพราะสกิลถูกผนึก

รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาตอนที่มองเห็นรูปร่างของศัตรูเต็มสองตา เจ้านี่คือตัวปัญหาที่ผมกังวลมาตลอด คิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องได้พบอีกครั้ง แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้

"เจ้ามัมมี่" มายาร้องลั่น

มัมมี่ไม่ใช่ซอมบีที่มีทั่วไปแต่เป็นคาแรคเตอร์ที่มาจากระบบ จากจุดนั้นอาจพอสรุปได้ว่าเขาอาจไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว บางทีอาจมีคอลเลคเตอร์รายอื่นที่ใช้การ์ดใบนี้เหมือนกัน แต่ผมสังหรณ์ว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น หมอนี่ไม่ใช่คาแรคเตอร์ที่หาได้จากแพ็คทั่ว ๆ ไปเหมือนกับแพ็คพิเศษของแอนและแคท เจ้านี่คือตัวเดียวกับที่ยกทัพมาบุกซานเชวิลล์เหมือนไม่กี่สัปดาห์ก่อน

ครั้งที่แล้วมีคนมากกว่านี้ยังเกือบไม่รอด ถ้าแอนหรือแคทอยู่ตรงนี้ พวกเธอคงจะคิดแบบนั้น แต่ผมไม่ได้บังเอิญรับการโจมตีแรกได้ทัน ผมมองเห็นการโจมตีของเจ้ามัมมี่อย่างชัดเจน

…อาจจะสู้ไหว…

เจ้ามัมมี่ไม่ได้อ่อนแอกว่าเดิม สิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือผมมีสกิลเพิ่มขึ้นหลายสกิล ตั้งแต่ได้ 'แหวนราชาผู้หวนคืน' มา ผมตั้งใจว่าในแต่ละวันผมจะต้องได้สกิลเพิ่มอย่างน้อยหนึ่งสกิล ถ้าผมไม่ได้ ผมจะย้อนไปกลับไปในวันเดิมจนกว่าจะได้มาอย่างน้อยหนึ่งสกิลแล้วถึงจะยอมรับวันใหม่

'กรีด' คือสกิลที่ผมได้รับมาถูกจังหวะเป็นที่สุด สกิลนี้ทำให้ทุกครั้งที่คาแรคเตอร์ของผมได้รับสกิลใหม่ ผมจะมีโอกาส 5% ที่จะได้รับสกิลนั้นด้วยเช่นกัน โอกาส 5% อาจค่อนข้างต่ำแต่ในเมื่อผมวนเวียนซ้ำวันเดิมได้ไม่จำกัด ไม่ยอมผ่านไปวันใหม่จนกว่าจะได้สกิลมา ผลลัพธ์ที่ผมได้จึงไม่ต่างอะไรกับอนาคตที่ถูกการันตีไว้ 100%

'คอนเจอร์' คือสกิลที่ผมได้มาจากแม่หมอเอสเมอรัลดา สกิลนี้ช่วยให้ผมสามารถมองเห็นและติดต่อกับคนตายได้ ตอนที่ได้สกิลนี้มาโดยบังเอิญผมคิดว่ามันเป็นสกิลที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ มันเรื่องอะไรที่ผมจะอยากติดต่อกับคนที่ตายไปแล้ว จนกระทั่งผมพบว่ามันไม่ได้ใช้ได้กับคนธรรมดาเท่านั้น สกิลนี้เปิดโอกาสให้ผมสามารถพูดคุยกับคาแรคเตอร์ที่ตายไปแล้วได้โดยตรง พูดกันยาว ๆ เหมือนเวลาที่เรียกออกมา ไม่ต้องผ่านช่องคอมเมนต์ที่มีข้อจำกัดมาก ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยคอนเจอร์ ผมยังสามารถใช้เฟิร์สเพอร์เซินวิวกับคนคาแรคเตอร์ที่ยังไม่สามารถคืนชีพอย่างมาร์กและแมกซ์ด้วย

'ซุปเปอร์ฮิวแมนรีเฟลค' คือสกิลเพิ่มความสามารถในการตอบสนองจนเหนือมนุษย์ ผมได้สกิลนี้มาในจากการใช้เฟิร์สเพอร์เซินวิว ร่วมกับคอนเจอร์เพื่อทำมิชชันของมาร์กจนกระทั่งเขาได้สกิลนี้ ด้วยความสามารถของ 'กรีด' และการวนเวียนหลายรอบจากผลของแหวนราชาผู้หวนคืน มันทำให้ผมได้สกิลนี้มาด้วยเช่นกัน

สกิลนี้ไม่เพียงทำให้ผมมองเห็นความเร็วระดับความเร็วเสียงของเจ้ามัมมีได้ มันยังทำให้ผมตอบสนองทันอีกด้วย

'ชี่' หรือปราณคือสกิลเกี่ยวกับกระแสพลังชีวิต ผมได้สกิลนี้มาจากแมกซ์แฝดผู้น้อง เช่นเดียวกับสกิลซุปเปอร์ฮิวแมนรีเฟลคที่ได้จากแฝดตัวอันตรายอย่างมาร์ก

ลมปราณเป็นพลังที่สารพัดประโยชน์ นอกจากจะช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้แล้ว มันยังสามารถถ่ายเทผ่านวัตถุต่าง ๆ ได้อีกด้วย และเหนืออื่นใดสกิลนี้เป็นสกิลที่ทำให้ร่างกายและสมองรับรู้ถึงพลังแห่งชีวิตที่มีอยู่แล้วในแต่ดั้งเดิม การผนึกสกิลพิเศษจึงไม่ส่งผลกับสกิลนี้

'ดาร์ควิชัน' สกิลต่อยอดของ 'โลว์ไลท์วิชัน' ของบิลลี สกิลนี้ทำให้ผมสามารถมองเห็นได้แม้จะเป็นที่มืดสนิทไม่ต่างจากสายตาของนักล่าที่ออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน ผมเดาว่าเจ้ามัมมี่อาจมีสกิลลักษณะเดียวกันอยู่ การที่ผมมีสกิลนี้ช่วยให้ข้อได้เปรียบของฝ่ายศัตรูหายไป

'เบลสซิง' สกิลนี้ผมได้มาจากแม่ชีสาวทาริสซา มันคือสกิลสายดวงที่ส่งผลเป็นอย่างมากสำหรับการต่อสู้ ตัวทาริสซาเอง เธอค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับคาแรคเตอร์ในแรริตีและเลเวลเท่ากัน สกิลนี้จึงมีผลกับเธอไม่มากนัก แต่เมื่อมันมาอยู่กับผมที่มีค่าสถานะสูงกว่าคนธรรมดาหลายสิบเท่า มันจึงยิ่งทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นราวกับคนละคน

น่าเสียดายที่มีอีกหลายสกิลถูกศัตรูผนึกเอาไว้ แต่เพียงสามสี่อย่างที่ทำงานอยู่ในตอนนี้ บวกด้วยเลเวลที่เพิ่มขึ้นมาหลังการต่อสู้ครั้งก่อน แค่นี้ระยะห่างระหว่างผมและเจ้ามัมมี่ก็แคบเข้ามาจนเกือบจะเอื้อมถึง

"ตรงนี้ปล่อยผมจัดการเอง ฝากแอนกับแคทด้วย"

"หา! เพี้ยนไปแล้วเหรอ นั่นมันเจ้ามัมมี่สุดแกร่งเลยนะ"

"มายา จอน ลิซ ยูจีน เจมส์" ผมเรียกชื่อทีละคนเพื่อย้ำว่าผมเอาจริง

"บ้าจริง" มายาตะโกนลั่นด้วยความเจ็บใจ เธอหยุดมองมาร์ตินอยู่ครู่หนึ่ง มายาลังเลว่าอย่างน้อยควรจะจัดการหมอนี่ก่อนไปดีหรือไม่ แต่สุดท้ายทั้งเธอและคนอื่น ๆ ก็วิ่งผ่านเขาไปราวกับมองเป็นแค่อากาศธาตุ

…ไว้ใจกันก็ดีอยู่หรอก แต่เอาจริง ๆ นะ ช่วยเก็บเจ้ามาร์ตินก่อนไปทีเถอะ…

ช่วงเวลาเดียวกัน ด้านของแคทเธอรีน

ฉันกำลังคิดอยู่ ก่อนหน้านี้พวกเรายังอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ ตอนนั้นกลุ่มเราเริ่มมีคนอยู่เยอะจนรู้สึกน่ารำคาญด้วยซ้ำไป ใครจะไปคิดว่าแค่ย่างเท้าเข้าเขตศัตรูได้ไม่กี่ก้าว พวกเราก็ถูกกับดักเข้าอย่างจัง แล้วตอนนี้ก็เป็นฉันนี่เองที่อยากกลับไปรวมตัวกับทุกคน

"น่าจะเป็นสกิลอะไรสักอย่างค่ะ" เมย์จากกลุ่มแฝดสามกระซิบ ที่ต้องลดเสียงลงเพราะเธอกลัวว่าศัตรูจะได้ยินเสียงของพวกเรา

ฉันไม่รู้ว่าทุกคนกระจัดกระจายกันออกไปขนาดไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละคนยังอยู่ในเหมืองด้วยหรือไม่ ที่อยู่กับฉันตรงนี้ก็มีแค่เมย์ ยายสาวแกล ยายบ้าเบสบอลซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ของคามิล กับเจ้าฆาตกรสวมชุดมาสคอต คาแรคเตอร์ของฉันอีกหนึ่ง

"ทะ ทะ โทรศัพท์ใช้ไม่ได้จริง ๆ ด้วย" ยายสาวแกลพูดติดขัด ฉันไม่รู้ว่าเธอจะพูดเรื่องเดิมขึ้นมาอีกทำไม ก่อนหน้านี้ฉันเคยลองพยายามติดต่อคามิลหรือแอนดูแล้ว เห็นกันอยู่ว่ามันทำไม่ได้

"เสียดายเนอะ อุตส่าห์ได้สกิลแฟมิลีพอร์ทอลมาทั้งที เวลาแบบนี้ดันใช้ไม่ได้"

ฉันหันไปจ้องยายนักเบสบอลปากไม่ดี ยายเอมมา ลาเวนเดอร์คนนี้ออกตัวแรงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรว่าอยากให้แอนลงเอยกับคามิล ตอนที่เธอรู้ว่าฉันกับคามิลมีอะไรกัน เธอก็แสดงท่าทางเป็นปฏิปักษ์ใส่ฉันอย่างชัดเจน

น่ารำคาญจริง เลิกมองด้วยสายตาแบบนั้นสักที ฉันไม่ได้จะแย่งคามิลจากแอนสักหน่อย ก็แค่…

Chapitre suivant