สุดาเริ่มรู้สึกตัว เธอรู้สึกเมื่อยไปหมด เธอเลยร้องโอดโอยขึ้นมาแต่เสียงที่เธอได้ยินกลับเป็นเสียงอ้อแอ้ของเด็กเล็ก
"แอะๆ" สุดาร้องขึ้น
"แม่นายเจ้าขา แม่นายไพลินตื่นแล้วเจ้าค่ะ"
"จริงฤๅ พึ่งหลับไปได้ไม่นานนี่" หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
สุดาเห็นหน้าหญิงสาวยื่นหน้าเข้ามาในเปล เธอตกใจมาก
อะไรกัน นี่เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย!!!
'เอ็งลืมเรื่องที่คุยกับข้าไปแล้วรึ' จู่ๆ ก็มีเสียงชายชราดังขึ้นมาในหัวของเธอ เธอเลยนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่เธอจะตื่น เธอได้คุยกับชายชรา ผู้ที่บอกว่าเป็น 'ปู่' ของเธอ
งั้นตอนนี้เธอก็เกิดใหม่ เกิดมาในกรุงเก่าที่ชื่อกรุงศรีรัตน์ที่คล้ายอยุธยา
แล้วเกิดเป็นหญิง!!!
นึกได้ตามนั้นมือก็เลื่อนไปที่หว่างขา เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองมีเพศกำเนิดเป็นหญิง ทั้งๆ ที่ใจจริงอยากให้เป็นชายมากกว่า
ฮืออ เป็นผู้หญิงจริงๆ ด้วย ไม่อยากเป็นผู้หญิงเลยอ่ะ
สุดาคร่ำครวญอยู่ในใจ ที่เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงในยุคนี้เพราะ หนึ่ง เวลามีประจำเดือน ผ้าอนามัยไม่มีให้ใช้ ใช้อะไรแทนผ้าอนามัยเธอก็ไม่รู้ สอง ในยุคเก่า สังคมชายเป็นใหญ่ เธอที่มาจากยุคใหม่คงอกแตกตายแน่ๆ สาม ผู้หญิงต้องออกเรือนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่อย่างงั้นจะถูกตราหน้าว่าไม่มีใครเอา เดินไปที่ไหนก็โดนซุบซิบนินทา และสุดท้าย ผู้หญิงต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ทำงานบ้านไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพื่อปรนนิบัติสามี ซึ่งงานบ้านงานเรือนอะไรเธอก็ไม่เคยทำ บ้านจิราวรรณที่เคยอยู่ก็มีแม่บ้านทำให้ตลอด ยกเว้นเรื่องเข้าครัว เธอเข้าไปทำอาหารให้ตัวเองกินบ้างเป็นบางครั้งบางคราวตอนกลางดึก
แล้วเธอจะรอดไหมเนี่ย
นี่แค่ข้อเสียของการเป็นหญิงในความคิดของสุดานะ ยังไม่รวมถึงความลำบากเพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำ ที่นอน รถยนต์ ถนน และอื่นๆ อีกมากมายที่ยุคที่เธอจากมามี แต่ที่นี่ไม่มี
แค่คิดหญิงสาวในร่างเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มก็เริ่มเบะปากอยากร้องไห้
"ตายจริง คงจักหิวกระมัง นิ่ม อุ้มแม่ไพลินมาให้ข้าหน่อย" หญิงสาวร่างบางพูดพร้อมกับจัดท่านั่งให้พร้อมเพื่อจะให้นมบุตร
นิ่มจึงอุ้มสุดาขึ้นมา สุดาตกใจ คราวนี้เธอร้องไห้โวยวายเสียงดัง และดิ้นไปมา
"แม่นายเจ้าขา หยุดดิ้นเถิดหนาเจ้าคะ" นิ่มบอกกับไพลิน พร้อมสาวเท้าเดินไปหาหญิงสาวอีกคนที่นั่งรอรับลูกไว้
เมื่อหญิงร่างบางผู้นั้นรับลูกของตนแล้วก็เริ่มให้นมบุตร สุดาในตอนนั้นอยู่ในร่างเด็กทารกตกใจมาก เมื่อเห็นเต้านมอยู่ด้านหน้าตัวเอง แถมจ่ออยู่ที่ปากอีก แต่ด้วยสัญชาตญาณของร่างกายที่นำไปก่อนความคิด สุดาก็ดื่มนมจากเต้านั้น
แหยะ ไม่อร่อยเลยสักนิด เด็กทารกกินกันเข้าไปได้ยังไงนะ
สุดาคิดตอนที่ดื่มนมจากเต้า ถึงจะบอกว่าไม่อร่อยแต่ปากของเธอก็ดูดไม่หยุดเพราะตอนนี้ท้องของเธอต้องการอาหาร
"ดูท่าแม่นายจักหิวมากหนาเจ้าคะ" นิ่มพูดขึ้น
"นั่นสิ เมื่อก่อน…แม่ไพลินดื่มไปนิดเดียวก็ไม่ดื่มแล้ว แต่เหตุใดครานี้จึง…" แม่ของเด็กทารกพูดพลางน้ำตาเริ่มคลอ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เด็กทารกตรงหน้านางกินนมน้อยมาก สุขภาพร่างกายก็ร่อแร่จนนางเป็นกังวล
"บ่าวคิดว่า แม่นายแข็งแรงตามที่ท่านขรัวตาท่านทำนายไว้ นายหญิงมิต้องกังวลแล้วหนาเจ้าคะ" นิ่มพูดพลางซับน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้น
สุดาที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ก็งง ทำไมคุณแม่ในโลกใหม่ต้องทำหน้าทำตาเหมือนจะร้องไห้ด้วยนะ ฟังน้ำเสียงของแม่นิ่มที่เธอได้ยิน นางพูดเหมือนว่าเด็กนี่จะตายแหล่ไม่ตายแหล่อย่างงั้นแหละ
กินนมไปได้สักพัก เธอก็เริ่มง่วง เป็นพฤติกรรมปกติของเด็กทารกอายุ 1 ปี ที่พอกินอิ่มหนังตาก็หย่อนทันที
"เอ็งมีกระไรสงสัยก็ถามข้ามาเถิด" ชายชราพูดขึ้น เพราะเห็นหญิงสาวตรงหน้าคิดจนหัวคิ้วติดกัน
"คุณปู่คะ แล้วทำไมหนูถึงได้มีความจำของชาติก่อนอยู่ล่ะคะ" เธอถามโพล่งขึ้นมา
"ก็เอ็งไม่ได้เกิดใหม่แบบคนอื่นเขานี่ เอ็งมาอยู่ในร่างเด็ก 1 ขวบ" คุณปู่ตอบ
ออ เพราะเธอไม่ได้เกิดใหม่แบบเริ่มจากในท้องแม่ เลยมีความจำชาติก่อน
ท้องแม่คือเครื่องลบความทรงจำรึไง เธอคิดได้ก็ทำหน้าเหมือนจะหัวเราะ
"แล้วเอ็งได้คิดเอาไว้รึยังว่าจะใช้ชีวิตยังไง"
"หนูยังไม่มั่นใจเรื่องสภาพสังคมเลยค่ะ ที่นี่ผู้ชายเป็นใหญ่รึเปล่าคะ"
"ก็คล้ายกรุงเก่าที่เอ็งเคยเรียนนั่นแหละ" ชายชราตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง อยากรู้ว่าหลานของตนจะทำอะไรต่อไป
สุดาหน้าถอดสี แล้วเธอจะเลือกเส้นทางชีวิตอะไรได้ล่ะ ถ้าเป็นผู้ชายก็ว่าไปอย่าง จะค้าขายหรือรับราชการในส่วนไหนก็ได้ทั้งนั้น ได้เรียนหนังสืออีกด้วย ความรู้มีมากอยู่ที่ไหนก็มีโอกาสงอกงาม ไม่เหมือนผู้หญิงที่ให้อยู่แต่ในเรือน เย็บปักถักร้อย ลงครัว ดูแลเรือน และงานอื่นๆ ในเรือนที่ผู้หญิงจะต้องจัดการ แถมถ้าไม่ได้เป็นลูกของพ่อที่มีหน้าที่การงานใหญ่โต เรื่องเรียนหรอ ไม่ต้องนึกถึงเลย
พูดถึงพ่อแม่หรอ…
"คุณปู่ช่วยเล่าเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ในชาตินี้ให้หนูฟังหน่อยได้ไหมคะ" เธอถามในเรื่องที่คิดว่าสำคัญที่สุดในเวลานี้
"พ่อของเอ็ง คือ พระสุริยศักดิ์ เป็นหนึ่งในผู้ดูแลกรมวัง แม่เอ็งคือ คุณหญิงดวงเดือน บุตรีเจ้าพระยาศรีพัฒน์ แลคุณหญิงลออ" ชายชราตอบแบบสั้นๆ ได้ใจความ
โอ้โห เป็นลูกขุนนางยศ 'พระ' แหนะ นี่ฉันก็เป็นถึงลูกขุนนางยศสูงเลยน่ะสิ
"แล้วคุณปู่ล่ะคะ" เธอถาม
"ชื่อข้าคือ ไกร เอ็งเรียกข้าว่า ปู่ไกร ก็พอ"
"แล้วพวกยศ อะไรแบบนี้ล่ะคะ"
"ข้าตายแล้วหนาเอ็ง วิญญาณไม่มียศกระไรทั้งนั้นแล" ชายชราพูดพลางหัวเราะด้วยความเอ็นดูคนช่างซักตรงหน้า
แต่แล้วจู่ๆ ภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนแล้วก็หายไป เหลือแต่ความมืดมิด กับเสียงโครมคราม สุดารู้สึกปวดท้องจึงตื่นขึ้น
โถ่ ร่างเด็กน้อยหิวซะงั้น เธอยังคุยกับคุณปู่ไม่จบเลย
"อ๊ะ แอ๊ๆ" เด็กน้อยในเปลร้องขึ้น
"ไพลิน หิวแล้วฤๅ" แม่ของเธอในชาตินี้ถามขึ้น พลางอุ้มเธอขึ้นมาและเตรียมจะให้เธอดื่มนม
ผู้หญิงคนนี้ชื่อดวงเดือนสินะ ถ้าจำไม่ผิด แปลว่าพระจันทร์ใช่ไหม
เพราะจัง
แต่นมแม่มันไม่อร่อยเลยอ่ะ