webnovel

6-2 众神之宝 สมบัติของเทพ

เทพอู่เฉินบัดนี้กลับกลายเป็นอสรพิษสีดำร่างใหญ่โตพอประมาณ ขดตัวนอนอยู่หน้าประตูไม้สองบานที่เปิดอ้าออกกว้าง ขวางอยู่เต็มช่องทางเดิน พออาทิตย์ลาลับฟ้า ย่างเข้ายามราตรีเมื่อใด เทพปีศาจผู้นี้จะมีขนาดเล็กลงสักหน่อย เลื้อยเข้าห้องมาขดตัวนอนเฝ้านางอยู่ข้างเตียง นัยน์ตาสีแดงฉานหากไม่มองนางจะส่ายมองออกไปข้างนอกประตู คอยเฝ้ายามให้นางหลับใหลในนิทราอย่างสบายใจ

"เช็ดตัวให้นางแล้วพวกเจ้าออกไป"

เสียงเข้มสั่งวันละหนึ่งครั้ง สตรีทั้งสองพยักหน้ารับคำสั่ง เข้ามาทำหน้าที่แล้วรีบไป

อาเป้ยเพิ่งสังเกตเห็นว่าไม่ค่อยมีผู้ใดเข้าหน้าเทพอู่เฉินติดนัก ถึงท่านจะเป็นบุรุษรูปงาม แต่ไม่ได้มีอัธยาศัยดีน่าคบหาหรือแม้แต่จะเป็นมิตร รอบกายเทพปีศาจในร่างอสรพิษยังมีไอเวทสีดำแผ่คลุมอยู่ในระยะกว้างพอสมควร

หากท่านเทพปีศาจอารมณ์ไม่ดียิ่งแล้วใหญ่ ไอเวทปีศาจแผ่กระจายไปถึงข้างนอกห้อง พื้นดินและอากาศปกคลุมด้วยกลุ่มควันดำ นางยังเห็นอีกด้วยว่าท่านในบางคราท่านอู่เฉินก็ไม่มีอุ้งมือมังกร กลายเป็นงูเหลือมดำ ทว่ามีเกล็ดอันงดงามเป็นเงามันกว่างูทั่วไป ซึ่งนางเคยพบเจอบนโลกมนุษย์

"ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่า... ท่านเทพหลงเหนียนผู้ยิ่งใหญ่ของเหล่ามนุษย์มีความเก่งฉกาจมาก ท่านสามารถที่จะปรับความเล็กใหญ่ของร่างกายในร่างอสรพิษได้... ท่านจะแปลงเป็นงูก็ได้..."

ไม่ใช่เทพอย่างที่นางคิดนั่นแหละ หากว่านางไม่พบเห็นด้วยสองตาตนเอง นางคงคิดว่าท่านอู่เฉินเป็นปีศาจงูเสียมากกว่า

นางยิ้มอารมณ์ดี ในใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ รุ่งอรุณที่ผ่านพ้นมานี้นางไม่สำลักโลหิตของตนแล้ว พูดจาได้มากขึ้น แต่ด้วยความที่นางไม่ได้บำรุงร่างกายจึงผ่ายผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์สีขาวบางบนไหล่มนทำให้มองเห็นสรีระอย่างชัดเจน

"เจ้าเป็นสมบัติของข้า... ย่อมต้องดูแลเจ้า..."

อสรพิษสีนิลคืบคลานขึ้นมาบนเตียงของนาง ชูคอขึ้นมองนางด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ จัดการผ้าห่มหนาขึ้นคลุมเรือนกายอรชรให้มิดชิดด้วยการคาบกัด ทว่ายังคงชื่นชมสภาพน่าอดสูของนาง

งานดูแลนางทั้งหมดทั้งมวลก็ทำในร่างงู ขยับเลื้อยไปมาเพื่อขยับสิ่งของ ทั้งที่ระดับเทพผู้ทรงพลังจะใช้เวทหยินในร่างนี้เพื่อดูแลนางก็ย่อมได้ เทพอู่เฉินกลับเอาใจใส่นาง งดใช้เวทเซียนของท่านทุกอย่างหากมิใช่เพื่อจำแลงกาย นั่นก็ยังไปทำให้ไกลนางเพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องสัมผัสไอเวทหยินแม้แต่น้อย

ธาตุในร่างกายของนางยังแปรปรวน ทั้งหยินและหยางไม่สมดุล จนกว่าจะกลับมาหายดีแล้วนางคงใช้สัมผัสเวทไม่ได้สักอย่าง ไปสักระยะหนึ่ง

"ดู ๆ ไปแล้ว... เจ้าในยามป่วยไข้ช่างงดงามนัก ยิ่งเสียกว่าพัดสีทอง น้ำเต้าวิเศษ กระจกหยินหยาง ข้าว่ามีสิ่งของหลายอย่างที่ข้าโปรดปราน ข้ามีของหายากอีกหลายชิ้น การที่เจ้าผ่ายผอมไปสักหน่อย ไม่ใช่ปัญหา..."

เสียงของบุรุษเทพดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ประตูหน้าต่างเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน งูสีนิลสนิทเลื้อยคลานมากระซิบอยู่ข้างหูของนาง

"...อย่างไรเสีย ข้าขอให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง หาใช่สตรีของข้าแต่อย่างใด"

แล้วเหตุใดท่านต้องเอาอกเอาใจนาง ขนาดใต้เท้าจีกงและนางฟางเหนียงเอ่ยปากตำหนิว่าบุรุษไม่ควรอยู่ในห้องนอนตามลำพังกับสตรีซึ่งมิใช่ภริยาของตน และอาเป้ยมิใช่สมบัติธรรมดา นางมีใบหน้าอันงดงามมากพอจะทำให้ท่านกลายเป็นข่าวฉาวในเทวโลกได้ เทพอู่เฉินก็หาได้ฟังผู้ใหญ่ จำแลงกายเป็นอสรพิษ เปิดประตูหน้าต่างทุกบานอย่างเปิดเผย คอยเฝ้านางอย่างไม่ให้คลาดสายตา จะมีเพียงเวลาที่สตรีทั้งสองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเท่านั้น เทพอู่เฉินถึงออกไปยืนรอด้านนอกในร่างบุรุษ

อาเป้ยคิดถึงบุรุษเทพปีศาจยามนี้ นางคิดว่าสมองของท่านน่าจะไม่ปรกติ

"ข้าว่าข้าคงจะเป็นสมบัติที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด มากกว่าชิ้นใด ท่านจึงหวงแหนข้าถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไปว่าท่านเป็นบุรุษเทพประหลาด การกระทำของท่านจึงมักขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ"

"เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่าพูดจาหยอกล้อกับข้า อาเป้ย ข้าไม่ใช่มิตรสหายของเจ้า"

นางกำลังยิ้ม! หัวเราะเทพอู่เฉินด้วยเสียงแหบแห้งของนางอย่างไม่มีผู้ใดหาญกล้ากระทำมันมาก่อน ดวงตาเรียวรีของนางราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

จิ้งจอกไม่ว่าจะตระกูลไหน ล้วนมีนิสัยเช่นนางในเวลานี้

นางช่างทำตัวขวางหูขวางตา ทว่านำพาความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างน่าประหลาด เทพอู่เฉินนึกขัดหูขัดตานางนัก ทว่ายังคงจ้องมองดวงตากลมโต สดใสราวดอกไม้ผลิบานในสวนของทวยเทพ ในร่างอสรพิษ ชูคอตระหง่านอยู่ตรงหน้านาง

"ใช่แล้วล่ะ... เป็นบุญของข้ายิ่งนัก ได้เป็นสมบัติอันโปรดปรานของท่าน... เทพอู่เฉิน"

 

เทพเจ้าสายน้ำแห่งทิศประจิมไม่เกี่ยงงานต้อนรับแขก แม้แหล่งน้ำโดยรอบซึ่งเคยปกคลุมด้วยไอเย็น ปรากฏเป็นกลุ่มไอสีดำอยู่สองชั่วยาม หมู่ปทุมมาลย์และเหล่ามัจฉากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะนำมาประกอบอาหารคงไม่สะดวกนัก บ่าวรับใช้ประจำเรือนและเทพชั้นผู้น้อยต่างมีความเห็นว่าคงต้องไปใส่หม้อต้มตุ๋นรวมกันให้หมด จึงจะนำมารับประทานได้ ไม่สูญสิ้นชีวิตสัตว์ในเมืองเทพไปโดยเปล่าประโยชน์

"ข้าไม่เสียดายหมู่มัจฉาและบ่อบัวอันงดงาม ข้าเลี้ยงพวกมันให้เติบโตขึ้นใหม่ได้ เพียงแต่... เทพอู่เฉินอาจใจร้อนไปเสียหน่อย"

"ข้าขออภัยใต้เท้าจีกง อย่างไรเสียข้าจะจัดการทำความสะอาดเรือนของท่านให้เรียบร้อยสวยงามดังเดิม"

เทพอู่เฉินยกมือคารวะ รู้สึกตัวว่าเสียมารยาทกับเทพผู้มีอายุถึงหมื่นปี เขาไม่ควรทำตัวไร้เหตุและผล เฉกเช่นมารดาผู้ซึ่งเป็นปีศาจอย่างนางเฟยอี๋

ทางด้านพยัคฆ์อัคคีก็ถูกมารดาตำหนิเพราะเป็นต้นเหตุให้ผู้อื่นวุ่นวายกันไปหมด มันหมอบลงบนพื้นข้างมารดาของมัน ยอมก้มศีรษะให้เทพเป็นครั้งแรก ทั้งที่เป็นปฏิปักษ์กันมาโดยตลอด

"พวกท่านมีเมตตาแม้กับศัตรู ข้าขอบใจ"

"ไม่เป็นไร ๆ หามิได้เลย เจ้าควรต้องขอบคุณเหล่าเทพเสียมากกว่าข้าที่มิได้ทำอะไร"

Siguiente capítulo