webnovel

6-1 警告 คำตักเตือน

'เผ่าพันธุ์ปีศาจยิ่งใหญ่ มีศักดิ์ศรี เจ้าอย่าได้ทำเรื่องเสื่อมเสียต่อตระกูลเหมยเตี๋ยเป็นอันขาด โดยเฉพาะกับพวกเทพสวรรค์ กลับกลอกหลอกลวง ปากพูดเล่าเรื่องความดี จิตใจชั่วช้าสามานย์ พบเจอที่ใด ฆ่า!'

คำสั่งสอนของมารดาดังก้องในหัวปีศาจสาว บนตั่งนั่งไม้สลักลายเมฆาในเรือนไม้กว้างขวาง เรือนหลังนี้ใหญ่โตมากขึ้น ไม่เหมือนตอนนางมาอยู่ใหม่ ๆ นางอดนึกถึงผู้อาวุโสในเรือนใต้มิได้...

จำได้ว่าสองพันปีที่แล้วนางไปเที่ยวเทวโลก ระหว่างทางบังเอิญพบเข้ากับเทพปักษา พ่ายแพ้ย่อยยับกลับเรือนใต้พร้อมพี่สาวทั้งสอง นางถูกขังลืมในคุกใต้ดิน ด้วยเหตุผลเพียงว่านางไม่ปฏิบัติตนเหมือนพี่รองพี่ใหญ่ ไยศัตรูล้มลงบนพื้น นางรีบเข้าไปช่วยเหลือ ขอโทษขอโพยที่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บ นางเสียมารยาทไปแล้ว นางต่อต้านปีศาจด้วยกันเอง

เทพใดได้พบนางเข้าโดยบังเอิญ ล้วนเอ็นดูภูตผีเสื้อน้อย 'ถิงถิง' มากกว่าจะขนานนามว่านางปีศาจ

เรื่องที่นางแสนภาคภูมิใจเป็นความอัปยศของตระกูลเหมยเตี๋ย หากสู้แล้วพ่ายแพ้ยังไม่เท่าการศิโรราบต่อเทพ นางกลายเป็นจุดด่างพร้อยของตระกูล

รุ่งอรุณนี้นางเข้าไปในตำราแห่งความตายเพื่อสู้รบกับมันอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคเพื่อต่ออายุขัยยมทูต นางกลิ้งหลุน ๆ ออกมาในสภาพบาดเจ็บบนพื้นไม้เป็นเงามัน โผบินเข้ากรงเหล็กเหนือผ้าคาดเอวเทพมรณาอย่างว่านอนสอนง่าย เมื่อเขาควบขี่อาชากระดูกพานางไปหาต้นไม้แห่งวิญญาณหลายแห่ง ทั้งในเทวโลกและภพภูมิปีศาจ นางชื่นชมเจ้าอาชาแห่งความมืด สรรเสริญพลังแห่งเทพว่ายิ่งใหญ่เกินใคร

'ไม่ได้ ๆ ทำไมข้าญาติดีกับเทพ กับยมทูต! กลับเรือนใต้เมื่อไร ข้าตายแน่' 

ถิงถิงสั่นศีรษะ ถอนหายใจประหวั่น ใต้ต้นไม้แห่งวิญญาณตกอยู่ใต้อิทธิพลของหยาดน้ำฟ้า เรียวปากอิ่มงามสีชาดขบกัดผลไม้แดงฉ่ำดังกรุบ

นีเทียนต้าเซินเฝ้ามองนางนั่งกัดผลไม้ลูกโตบนกิ่งไม้ใหญ่ พืชพรรณอุดมสมบูรณ์ ในตะกร้าของนางยังมีอีกหลายผล นางนั่งห้อยขาหน้าตาคร่ำเครียด ปกติแล้วนางมักตื่นเต้นดีใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางข้ามภพภูมินั้นเป็นไปได้ยากสำหรับนาง พร่ำพรรณนาว่าเป็นหนี้บุญคุณแล้วที่ได้มาเยือนเทวโลก

"เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ? ถิงถิง"

ปีศาจสาวก้มหน้าลงมองเรือนผมดำขลับพลิ้วไหวงดงามประหนึ่งใบไม้ปลิวลู่ลม บุรุษเทพเกล้าผมไว้ครึ่งศีรษะประดับด้วยปิ่นหยกสีนิล

การมีกายทิพย์ทำให้นางหายใจออกมาเป็นไอควัน นางรู้สึกเหน็บหนาวไปถึงขั้วกระดูกจนต้องสวมอาภรณ์ที่ทำจากขนสัตว์ ต่างจากยมทูตที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว นัยน์ตาสีชาดเยือกเย็นไร้ความรู้สึก

"ท่านอยู่มานานเท่าไร?"

"ไม่เคยนับ"

"ท่านไม่รู้สึกเบื่อบ้างหรือ?"

"เจ้าคิดว่าข้าควรเบื่อหรือไม่?"

ถิงถิงชะงักนิ่ง... นางบินวนเวียนอยู่รอบอาภรณ์สีนิลสง่า รอบกายล้อมด้วยหมอกหยินหยาง ถือโอกาสสบมองคิ้วเข้มหนาที่โก่งเข้าหากันดั่งคันศร

"เจ้าถามทำไม?"

"ข้าอายุห้าพันกว่าปี พบปีศาจจิ้งจอก ปีศาจเผ่าพันธุ์อื่น พบบุรุษเทพมาก็มากนัก หาได้เคยพานพบบุรุษรูปงามเท่านีเทียนต้าเซินไม่"

ผลไม้แดงสุกในมือหล่นตุบลงบนผืนหญ้า นางสบเข้ากับรอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัวของบุรุษรูปงามปานหยกสลัก บุรุษเทพ... ผู้ซึ่งนางมิอาจใฝ่ฝันอาจเอื้อม

นีเทียนต้าเซินไม่ได้สนใจเรื่องที่นางถาม

"เจ้า... ทำอย่างไรให้ผลไม้แห่งวิญญาณยังมีชีวิตอยู่ได้ในเมืองมรณา?"

"ข้าไม่เข้าใจเรื่องที่ท่านพูด..."

"นครมรณาไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต เคยมียมทูตมาใหม่นึกสนุกนำผลไม้วิเศษกลับมาจากเทวโลก หลังไปรับดวงวิญญาณเทพท่านหนึ่ง ชั่วอึดใจเดียวก็แห้งเหี่ยวเฉาตาย สลายไปเป็นเถ้าถ่าน"

"ข้าไม่กล้าโกหกท่าน เพียงแต่..." นางคืนร่างเป็นสตรีในอาภรณ์ขาวสะอาด เมื่อใดนางมาเหยียบเยือนเทวโลก นางทำตัวกลมกลืนราวเป็นเทพธิดาสวรรค์ แต้มใบหน้ากลบตราปีศาจกลางหน้าผากด้วยผงแป้ง หากเคลือบริมฝีปากด้วยสีชาดเยี่ยงปีศาจ

"ข้ามีความลับของข้า ในเมื่อท่านเองก็ไม่ได้บอกข้าทุกเรื่อง ท่านคิดจะลักพาตัวข้ามา ท่านก็พามา ท่านจิกหัวใช้ข้า..."

"อ้อ... ที่แท้เจ้าก็ยังโกรธข้าเรื่องนั้น"

"ข้าเปล่า ข้าแค่เรียกร้องความสนใจ... กระมัง ข้าเห็นท่านออกจะงานยุ่ง"

"จริงของเจ้า ถิงถิง ดังนั้นเจ้าควรรีบกินผลไม้ของเจ้า เลิกชักชวนข้าเจรจามากเรื่องเสียที ข้าจะได้กลับไปทำงาน"

"ข้าก็รีบอยู่นี่ไง"

"ตามสบายเจ้าเถิด"

บุรุษเทพในอาภรณ์สีนิลสง่าเอามือไพล่หลัง เงยหน้าขึ้นมองปีกสีม่วงผีโผบินขึ้นไปบนต้นไม้สูงตระหง่าน เขายิ่งเร่งนางก็ยิ่งชักช้า นางจะแสร้งทำเป็นลืมนำอาหารกลับไปกักตุน เพราะว่าเขาเอาแต่เร่งนาง

"แล้วทำไมข้าไม่ดื่มด่ำรสชาติผลไม้วิญญาณหอมหวานถึงเพียงนี้ในเรือนยมทูต? เพราะว่าการมีเพื่อนคุยเวลาที่ข้ากินอาหารของข้า มันให้รสชาติดีกว่า" ท้ายประโยคนั้นนางโผบินลงมา อาภรณ์งดงามประหนึ่งสีสันของจื่อเถิงหลัว [1] เผยให้เห็นผิวขาวละเอียดเหนือเนินอกอวบอิ่มไปจนถึงลำคอเพรียวระหง ผ้าคลุมไหล่ทำจากขนจิ้งจอกถักทอด้วยเวทแห่งปีศาจปลิวไสวไปตามลม

"อันที่จริงข้าควรมีมิตรสหายมากมายในภพภูมิปีศาจ ข้าชอบที่จะช่วยเหลือพวกเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นบุญคุณข้าสักครั้ง ปีศาจมีนิสัยเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัวมาก ไม่เหมือนท่าน นีเทียนต้าเซินมอบสิ่งของมีค่าให้ข้าด้วย"

ปีศาจสาวยิ้มร่าเริง นางกระโดดโลดเต้นอย่างเพลิดเพลินอยู่ใต้ต้นไม้วิญญาณ คืนวานนี้นางได้อาภรณ์ชุดใหม่หลากสีสัน เครื่องประดับมีค่าจากเทพมรณาผู้แสนเย็นชา ประมาณสองหีบได้ อะไรที่เขาว่าไม่มีให้นาง เขานำมาให้นางทั้งหมด แม้นั่นจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของการต่ออายุขัยยมทูตก็ตามที

"ข้าอยากช่วยยมทูต ข้าก็ช่วย ไม่จำเป็นต้องตอบแทน" นางดื่มกลืนผลไม้ลูกสุดท้าย หัวเราะเสียงดัง "คือข้าว่างน่ะ"

"ข้ายินดีด้วยกับเจ้า ถิงถิงผู้แสนจะว่างงาน เจ้าอิ่มหรือยัง?"

"ไป ๆ ข้าอิ่มแล้วล่ะ..." ไม่จบคำดี รอยยิ้มบนใบหน้างดงามพลันหายไป ภายใต้บรรยากาศเยียบเย็นผิดปรกติ นางได้ยินเสียงสุนัขจากที่ใดสักแห่ง...

"สุนัขเรียกคู่ที่ไหนกัน?ข้าขอฟังก่อน..."

ปีศาจอสูรต่างได้ยินเฉพาะเสียงของเผ่าพันธุ์เดียวกัน เมื่อแต่ละเผ่ามีการส่งสารที่แตกต่าง

นีเทียนต้าเซินแม้ว่ามีอายุขัยมายาวนาน เขาไม่เคยติดต่อโลกภายนอก การมองเห็นผ่านดวงตาพิพากษาถึงการกระทำดีชั่ว เพื่อตัดสินโทษดวงวิญญาณ มิอาจล่วงรู้อย่างลึกซึ้งว่าแต่ละเผ่าพันธุ์มีอุปนิสัยอย่างไร

หากเสียงที่ดังอยู่ในอีกฟากฝั่งเป็นจิ้งจอกเงินของนาง จะส่งเสียงเห่าหอนตอบสุนัขจิ้งจอกไปอย่างเลื่อนลอยไร้ประโยชน์หรืออย่างไร? มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดีในการส่งสารข้ามเผ่าพันธุ์

ถิงถิงเพียงปิดตาลง เนรมิตผีเสื้อน้อยในร่างโปร่งใสเรืองแสงได้ ลูกสมุนนับร้อยของนางกำลังโผบินข้างสุนัขจิ้งจอกเงิน นั่นทำให้เสียงสุนัขจิ้งจอกเงียบไป ส่ายคอมองผีเสื้อมากมายด้วยแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง

"...แค่บอกว่าข้าสบายดี"

"ข้าขอสั่งห้ามไม่ให้เจ้าติดต่อกับใครทั้งสิ้น นั่นจะนำปัญหามาให้ข้าและแดนมรณา"

คำปฏิเสธของนางเป็นการยกมุมปากจนมองเห็นเขี้ยวแหลมคมทั้งสองข้าง นัยน์ตาสีอำพันลืมพรึบมองบุรุษเทพ นางก้าวร้าวด้วยนิสัยของปีศาจ

ฮู่โหมวกำลังเป็นห่วงนาง คิดถึงนางจับใจ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจดจำทุกอย่างได้ในชั่วข้ามคืนเดียว หลังการรื้อฟื้นความจำของท่านปู่หลี่หวังหยาง สลัดเกสรถอนพิษแห่งการลบเลือนของยมทูตทิ้งไปเสีย จากนั้นผู้นำตระกูลของจิ้งจอกเงินก็เดินทางมาเรือนใต้แห่งแมลงบุปผา

ฮู่โหมวเล่าผ่านเสียงเห่าหอน ถามนางว่านางอยู่ที่ใด นางไม่ได้ตอบเขา ไยท่านยมของนางช่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ชี้เกราะนิ้วแหลมคมบังคับสั่งนาง

"เจ้า... อย่าได้แยกเขี้ยวของเจ้าใส่ข้าอีก จะหาว่าข้าไม่เตือน" 

 

[1] 紫藤萝 Zǐténg luó ต้นวิสทีเรีย

 

Siguiente capítulo