webnovel

ตอน นครไพลินมรกต2

         ดวงใจปักษา13

ตอน นครไพลินมรกต2

    " ท่านนายกอง..ข้าน้อยขอตัวไปดูความเรียบร้อยต่างๆก่อนนะขอรับ "

 " หากว่าท่านต้องการอันใดเพิ่ม ก็จงแจ้งประสงค์กับทหารรักษาการ พวกเขาจักได้ไปจัดหามาให้ แลเสร็จจากตรวจตราแล้ว ข้าน้อยจักเข้าไปทูลความ ต่อองค์จ้าวแสน ท่านมีความอันใด จักฝากไปทูลต่อองค์จ้าวแสนหรือไม่ พระเจ้าค่ะ?.."

 " ก็ดี หากว่าท่านตรวจเสร็จ ก็มาชวนเราด้วยแล้วกัน เราจักได้ไปคาราวะองค์จ้าวแสนด้วยตนเอง! หวังว่าคงมิรบกวนท่านเกินไปนะกับกาลนี้!? "

 " มิได้รบกวนอันใดเลย ขอรับข้าน้อยยินดี ทำตามที่ท่านบอก ข้าน้อยขอตัวไปตรวจการณ์สักประเดี๋ยวนะขอรับ เสร็จแล้วจักได้เข้าเฝ้าองค์จ้าวแสนพร้อมกัน "

................

ณ..เรือนรับรองขององค์จ้าวแสน กัณฑะได้พาองค์ไอยคุปต์นาคา นายกองคุมผู้อพยพมาถึง " ท่านนายกองพักรอที่ตรงนี้ก่อนนะขอรับ"

" ข้าน้อยจักขอเข้าไปเรียนต่อองค์จ้าวแสนว่า ท่านนายกองมาขอพบ.."

" ตามสบายเถิด..ท่านกัณฑะ! อย่าได้มีพิธีรีตองอะไรมากเลย เราเองก็เพียงผู้ที่มา ขอพึ่งอาศัยใบบุญขององค์จ้าวแสนท่าน " พญาไอยคุปต์กล่าว

กัณฑะขอตัวเดินไปทางด้านหลังเรือน อันเป็นที่ประจำขององค์จ้าวแสน..

" องค์จ้าวแสนขอรับ..องค์แสน! "

" มีอันใดรึ กัณฑะ! ใยต้องตระโกนเยี่ยงนั้น! "

" ท่านนายกองไอยคุปต์มาขอพบ พระเจ้าค่ะ! "

" องค์ไอยคุปต์!!...ราชบุตรในองค์ท้าวปฏิพัทรศรีภุชงค์นาคราชงั้นรึ!! "

" ใช่แล้ว พะย่ะค่ะ! "

" เเล้วนี้พระองค์ทรงอยู่นะที่ใด กัณฑะ! "

" หม่อมฉันให้ประทับรอบนเรือนรับรอง พระเจ้าค่ะ! "

" ป่ะ..กัณฑะ! เราขึ้นเรือนไปรับรององค์ไอยคุปต์กัน ประเดี๋ยวพระองค์จักรอนาน..." กล่าวจบ องค์จ้าวแสนก็รีบเดินกลับขึ้นบนเรือนไป

" คาราวะพระเจ้าค่ะ เจ้าพี่ " องค์จ้าวแสนทำความเคารพ ต่อองค์ไอยคุปต์นาคา..

" สวัสดี...จ้าวแสนน้องเรา เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง สบายดีรึไม่? "

" หม่อมฉันสบายดีพะย่ะค่ะ เจ้าพี่เล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง! ได้รับบาดเจ็บอันใดรึป่าว พระเจ้าค่ะ!? "

" พี่มิเป็นอันใดดอก แค่เพียงอ่อนเพลียเล็กน้อย กับการคุ้มครองผู้คนในกองขบวนคาราวานอพยพ "

" เจ้าพี่พอจักเล่าเรื่องราวแก่ข้าได้รือไม่! ว่ามันเกิดอันใดขึ้น!? "

" ...พี่จักกล่าวแก่เจ้าฟังเพียงคร่าวๆก่อนก็แล้วกัน และพี่ก็ขอขอบน้ำใจไมตรี กับการต้อนรับผู้อพยพในครานี้ด้วย เหตุมันมีอยู่ว่า...."

" เมื่อสามเดือนก่อน ได้มีกองทัพจากนครอนันตะศิลาลัย (อนันตรัย) ได้พากันยกทัพขบวนใหญ่ ผ่านล่วงมาจนถึงเมืองที่พี่ดูแลอยู่"

" แต่กองทัพนั้น กลับไม่ส่งทูตมาเจรจาขอผ่าน แต่กลับกระทำการโจมตี จนของเมืองเราต้องแตกพ่าย"

"อันตัวของพี่เอง แลชาวเมืองต้านทานเอาไว้มิไหว พี่จึงตัดสินใจทิ้งเมือง แลนำผู้คนอพยพหลบลี้ออกมา"

พอหลบออกมาพ้นเมือง พ้นจากการติดตาม พี่ก็ให้ทหารคุมกองขบวนคาราวาน ล่วงหน้ามาที่นี่ ส่วนพี่ก็ย้อนกลับเข้าเมือง เพื่อต้านทานกองทัพของอนันตรัย

" แต่ก็อย่างว่า น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ทหารเมืองเล็กๆ มีรึจักต้านทัพใหญ่ของอนันตรัยได้ "

พี่จึงรวบรวมทหาร ที่ยังพอมีกำลังแล้วตีฝ่าออกมา เหลือรอดอยู่ก็ไม่มากมายอะไร แสนเจ็บช้ำใจ ที่ตนเอง มิอาจจักรักษาชีวิตผู้คน แลทหารรักษาเมืองเอาไว้ได้

" พี่นี้นั้น ช่างด้อยในฝีมือ จนทำให้เมืองที่ตนปกครองดูแล ต้องแตกสลายพังทลายไป...!! "

" ท่านพี่...ท่านมิได้ด้อยในฝีมือดอก ท่านพี่เก่งกล้าสามารถเพียงใดใครๆก็รู้ มิเช่นนั้นท่านลุงคงมิให้ท่านพี่ มาปกครองเมืองนี้ดอก.. "

" เห้อออ..คงจักถึงเพลาการล่มสลายของ'บราปวนพิมานมุข' "

" ข้าเองเพียงได้ฟังจากท่านเล่า ก็แสนเจ็บแค้นแทน.. วันหน้าข้าจักอาสาไปทวง'บราปวนพิมานมุข' มาคืนต่อท่านพี่ ข้าสัญญา????????"

" พี่ขอบน้ำใจเจ้ามาก น้องพี่ เพลานี้ พี่คงต้องขออาศัยใบบุญเจ้า เพื่อรวบรวมผู้คนแลทหารเพื่อไปกอบกู้'บราปวนพิมานมุข'คืนมา "

" พี่ท่านมิต้องเกรงใจดอก ถือเสียว่าที่นี่ คือบ้านของท่าน พักผ่อนให้สบาย ส่วนการกู้คืนบราปวนพิมานมุข ข้าจักรับอาสาจัดการเอง???? "

" ขอเชิญพี่ท่านพักผ่อนบนเรือนนี้กับข้าเถิด ส่วนเรื่องผู้อพยพท่านมิต้องกังวล ข้าจักให้กัณฑะดูแลให้ ขอให้พี่ท่านจงสบายใจได้ "

" วันรุ่ง ข้าจักนำท่านเข้าเฝ้าต่อท่านพ่อ ส่วนวันนี้เพลานี้ เราไปทานอาหารกันก่อนเถิด นั่น! กัณฑะออกมาตามเราแล้ว "

ทั้งสองต่างหยุดการเสวนาแล้วลุกมายังชานเรือนพัก อันเป็นที่ตั้งสำรับอาหาร ที่ข้าบริพารในเรือนได้จัดเตรียมเอาไว้....ฯ

**********************************

Siguiente capítulo