____"วินทัส" แฟนธ่อมเปล่งเสียงร่ายเวทมนตร์สายลมออกมา
____ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แปลกไป แม้จะหลับตาสนิท ในคลองสายตาแฟนธ่อมมีเพียงความมืดมิด แต่ราวกับเด็กชายได้มองเห็นสายลมบางๆเรืองแสงสีเขียวอ่อนรอบตัวเขา ด้วยความตกใจแฟนธ่อมรีบลืมตาขึ้นทันที รอบตัวเด็กชายปรากฎสายลมอ่อนๆพัดไหลเวียนอย่างอ่อนโยน แสงสีเขียวอ่อนเรืองรองท่ามกลางห้องเก็บของที่มืดมิดไร้ผู้คน สายลมเย็นฉ่ำราวกับสายลมนั้นเป็นมารดาที่โอบกอด แสดงความยินดีต่อการประสบความสำเร็จของเด็กชาย
____'ไม่น่าเชื่อ!!' ความคิดของแฟนธ่อมผุดขึ้นมาในหัวทันที
____"เยส!!" ความดีใจพรั่งพรูออกมาจากทุกอณูของร่างกาย มือขวาเท่าลูกเทนนิสของเด็กชายอายุ 4 ปี ถูกยกขึ้นมากำต่อหน้าเพื่อยืนยันถึงชัยชนะเล็กๆของแฟนธ่อม แม้แต่เมื่อครั้งที่แฟนธ่อมสามารถทดลองขับเครื่องบินรบทะลุผ่านความเร็ว 10 จี สำเร็จเป็นครั้งแรก เขายังไม่รู้สึกดีใจขนาดนี้เลย ในชีวิตก่อนหน้าแฟนธ่อมจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเขามีความสุขขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร
____อนิจจา... ความสุขมักไม่ยั่งยืน ทันทีที่สมาธิของแฟนธ่อมคลายลง พลังจิตของเขาผ่อนคลาย เวทมนตร์สายลมอ่อนๆนั้นพลันจางหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่องรอยของฝุ่นมหาศาลภายในห้องเก็บของที่แสนอับและชื้นนี้ ที่มันยังคงลอยคละคลุ้งอยู่เต็มห้อง เป็นการยืนยันว่าครั้งหนึ่งภายในห้องนี้เคยมีสายลมแห่งความหวังพัดผ่าน
____แต่แฟนธ่อมไม่กังวลอีกต่อไป เด็กชายสามารถจับเทคนิคบางอย่างในการร่ายเวทมนตร์ได้แล้ว แฟนธ่อมสัมผัสได้ว่าการใช้เวทมนตร์ก็เหมือนการขับเครื่องบินขับไล่ เมื่อทำได้ครั้งหนึ่งก็คือทำได้แล้ว ไม่มีทางลืมเลือนอีกเป็นอันขาด
.......
____"เวนทุม เทจิตัส" แฟนธ่อมกระซิบร่ายเวทมนตร์ออกมาอย่างแผ่วเบา
____เวทมนตร์สายลมหมุนวนบทนี้ช่วยพยุงให้ร่างกายของเขาเบาราวกับขนนก แม้ผลลัพธ์ของเวทมนตร์นี้จะยังไม่ได้สามารถช่วยอะไรเขาได้มาก แต่มันก็ทำให้แฟนธ่อมสามารถเดินไปมาภายในโบสถ์ใหญ่โตแห่งนี้ได้เงียบเชียบราวกับภูติผี
____ในโลกใบนี้ไม่มีโทรทัศน์และไฟฟ้า ฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเข้านอนตั้งแต่ 6 โมงเย็น และตื่นนอนประมาณ 6-7 โมงเช้า แต่เวลาที่แฟนธ่อมตื่นตอนนี้คือ 4 ทุ่มเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงมืดสนิทโดยมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่ปลายนิ้วมือของตนเอง
____แฟนธ่อมสามารถควบคุมเวลานอนและเวลาตื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับสายลับชั้นยอดแล้วนาฬิกาปลุกนั้นไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
____แฟนธ่อมตีลังกาลงจากเตียงนอนชั้น 2 อย่างรวดเร็ว ปลายเท้าของเด็กชายหยั่งลงบนพื้นไม้โบสถ์โดยไม่มีเสียงและแรงกระแทกส่งออกมาแม้แต่น้อยราวกับแมว นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่เวทมนตร์สามารถทำได้
____แฟนธ่อมค่อยๆเดินจากหลังห้องนอนออกไปจากห้องโดยไร้สุ้มเสียง ขณะที่เขาเดินผ่านเตียงนอนสองชั้นที่มีเด็กกำพร้านับร้อยคนนอนอยู่ พวกเขาพากันกรนเสียงดังสนั่น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเวลานี้ภายในโบสถ์ไม่มีผู้ใดตื่นอยู่อีกต่อไป นั่นเป็นเพราะว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังหลับลึก
____เด็กชายค่อยๆเปิดประตูเดินออกไปจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบ ไม่นานเด็กชายก็เดินมาถึงปลายทางของเขา นั่นคือห้องสมุดเล็กๆที่มีหนังสือเก่าๆเก็บไว้ประมาณ 100 เล่ม ไม่สามารถประมาทว่าหนังสือโบราณเปื่อยๆไม่กี่เล่มนี้ไร้คุณค่า หากกวาดตามองไปในโลกภายนอก มีสถานที่ไม่มากนักที่มีจะมีหนังสือเก็บไว้มากกว่านี้ อีกอย่างหนึ่ง อย่างน้อยหนังสือนับร้อยเล่มภายในห้องหนังสือนี้ก็ยังพอตอบสนองความต้องการและความจำเป็นที่แฟนธ่อมต้องรับรู้ข้อมูลพื้นฐานบนโลกใบนี้
____แฟนธ่อมควักกุญแจยาวทรงสามเหลี่ยมออกมาเพื่อไขประตูห้องสมุด กุญแจนี้เป็นกุญแจห้องสมุดที่บิชอปเก็บรักษาไว้ ห้องสมุดเป็นสถานที่สำคัญที่ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้ามาโดยพลการ
____โดยบิชอปมักจะแขวนกุญแจห้องสมุดไว้กับกุญแจอื่นๆอีกนับสิบดอก ซึ่งเธอแขวนมันไว้บนกำแพงข้างหน้าต่างในห้องพักส่วนตัวของบิชอป
____สำหรับผู้อื่นการแอบขโมยสิ่งของออกจากห้องของบิชอปนั้นคงเป็นเรื่องยากเย็น แต่สำหรับแฟนธ่อมการได้กุญแจนี้มามันช่างง่ายดาย โดยเฉพาะภายหลังจากที่เขาสามารถใช้งานเวทมนตร์ออกมาได้สำเร็จ มันก็ไม่มีสิ่งใดขวางเส้นทางของความกระหายในการเรียนรู้ได้อีกต่อไป
____เด็กชายไขประตูห้องอย่างรวดเร็วคล่องแคล่ว การกระทำของแฟนธ่อมทุกอย่างนั้นลื่นไหลเป็นธรรมชาติ แต่หากมีผู้อื่นมองเด็กชายอยู่ในเวลานี้พวกเขาจะต้องตกใจ เพราะในเวลานี้ภายนอกห้องสมุดแทบจะไร้แสงโดยสิ้นเชิง แม้จะมีจุดที่มีคบเพลิงถูกจุดแขวนไว้บ้าง แต่แสงสว่างมักส่องไปไม่ไกลกว่า 10 เมตรเพียงเท่านั้น
____เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าโลกใบนี้ถูกเมฆหนาสีดำปกคลุมตลอดเวลา เมฆหนาทึบนั้นปิดกั้นแสงให้แทบไม่อาจส่องลงมาถึงพื้นได้อย่างสิ้นเชิงในเวลากลางคืน อีกทั้งยังทำให้เวลากลางคืนยาวนานอย่างเหลือเชื่อ กล่าวคือตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 10 โมงเช้าจะเป็นเวลากลางคืนที่มืดมิดตลอดเวลา หรือหากจะกล่าวอีกอย่างก็คือ โลกใบนี้มีเวลากลางวันเพียง 6 ชั่วโมงต่อวัน และมีเวลากลางคืน 18 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งนอกจากช่วงเวลาเที่ยงถึงบ่าย 2 โมงที่มีแสงแดดเจิดจ้าเต็มที่ ช่วงเวลาอื่นแสงก็ไม่ได้สว่างมากนัก
____ความมืดมิดที่บังเกิดแด่โลกนี้ตลอดเวลาทำให้โลกใบนี้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง อย่างแรกคือตั้งแต่เกิดมา แฟนธ่อมแทบไม่เคยพบเห็นปรากฎการณ์ฝนตกเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขามักจะพบเห็นแต่หิมะขาวโพลนและพายุลูกเห็บที่ตกกระหน่ำตลอดเวลา นั่นส่งผลให้ทุกมุมของโลกแห่งความมืดมิดนี้แทบไม่มีฤดูร้อนและไม่มีดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เลย
____แม้อาณาจักรต่างๆจะไม่ได้ขาดแคลนเรื่องแหล่งน้ำมากนัก แต่การที่ไม่ค่อยมีแสงแดดก็ทำให้ยากต่อการทำการเกษตรและปศุสัตว์ ส่งผลให้ชุมชนและสังคมของมนุษย์ยากต่อการพัฒนา แม้ในโลกใบนี้จะมีเวทมนตร์ แต่มีผู้คนน้อยกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ อีกทั้งผู้คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ยังแทบไม่สามารถนำเวทมนตร์ของตนไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
____ส่วนคำถามที่ว่าทำไมโลกใบนี้ถึงมีเมฆหมอกสีดำหนาทึบปกคลุมตลอดเวลา แฟนธ่อมก็เคยสอบถามกับบิชอปที่เป็นผู้รอบรู้ที่สุดในวิหารเซนต์มารีอา แต่บิชอปก็ไม่อาจแก้ข้อสงสัยนี้ให้แฟนธ่อมได้ นั่นทำให้แฟนธ่อมได้แต่คาดเดาเหตุผลเหล่านั้นด้วยตนเอง
____เหตุผลอาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ เช่นโลกใบนี้คือโลกในอนาคตที่ผ่านการเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมา ประเทศมหาอำนาจนำอาวุธสูงสุดของพวกเขา อย่างเช่นอาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธควบคุมสภาพอากาศมาโจมตีใส่กัน จนสภาวะอากาศและสภาพภูมิประเทศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออาจเป็นเหตุผลจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โลกใบนี้อาจเคยถูกอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชน เกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทั่วโลก เกิดพายุสุริยะเผาผลาญโลก เกิดมหาสึนามิ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เกิดพายุพัดถล่มทั่วโลก เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุด หรือมนุษย์ต่างดาวบุกทำลายโลก จนทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายเช่นนี้ หรือไม่ก็อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น เนื่องจากไม่มีผู้ใดล่วงรู้เหตุผลที่แท้จริง แฟนธ่อมจึงได้แต่คาดเดา
____แฟมธ่อมหยิบหนังสือปกหนังหลายเล่มเดินไปนั่งบนโต๊ะอ่านหนังสือกลางห้องสมุด เด็กชายหยิบเทียนไขเล็กๆออกมาตั้งบนโต๊ะไม้
____"แฟลมมัส" สิ้นเสียงแผ่วเบา สายลมก็เสียดสีกันรุนแรงจนเกิดเป็นประกายไฟ เปลวไฟจากไส้เทียนไขก็ส่องแสงอ่อนๆออกมา มันขับไล่ความมืดรอบตัวของเด็กชายให้ถอยออกไปประมาณครึ่งเมตร แต่แสงที่อ่อนล้าของมัน ไม่สามารถช่วยขับไล่ความหนาวเหน็บเย็นยะเยือกเสียดกระดูกได้เลยแม้แต่น้อย ในตลอดเวลายังคงมีหมอกขาวพ่นออกมาจากปากและจมูกของแฟนธ่อมยามที่เด็กชายหายใจออกมา แฟนธ่อมไม่สามารถวัดอุณภูมิในตอนนี้ได้ แต่เขามั่นใจว่ามันต้องหนาวกว่า -10 องศาเซลเซียสแน่นอน โชคดีที่แฟนธ่อมเคยชินกับมันแล้ว
____เวทมนตร์ธาตุลมเป็นธาตุประจำตัวของแฟนธ่อม หรืออย่างน้อยแฟนธ่อมก็รู้สึกว่าเขาถนัดในการใช้งานเวทมนตร์ธาตุลมมากที่สุด
____แฟนธ่อมค่อยๆเปิดหน้ากระดาษที่บางจนแทบยุ่ยออกมา ในหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์ที่ว่าด้วยเวทมนตร์ธาตุ ข้อมูลในหนังสือกล่าวว่า โลกใบนี้มีธาตุเพียง 4 ธาตุ นั่นคือ ดิน น้ำ ลม และไฟ แต่สิ่งมีชีวิตมักมีธาตุประจำตัวเพียงธาตุเดียว ส่วนธาตุอื่นๆอย่างเช่น แสงสว่าง ความมืด สายฟ้า น้ำแข็ง ไม้ และเหล็ก ธาตุเหล่านั้นเป็นธาตุที่ประกอบจากพื้นฐานของทั้ง 4 ธาตุรวมกัน จริงอยู่ว่ามนุษย์อาจสามารถฝึกฝนให้สามารถใช้เวทมนตร์ได้หลายธาตุ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บุคคลมักจะมีธาตุใดธาตุหนึ่งที่สามารถใช้งานได้ดีที่สุด และธาตุรวมถึงเวทมนตร์อื่นๆก็จะใช้งานได้ดีรองลงมา