webnovel

จอมทัพตื๊อรัก(2 เล่มจบ)

Fantasía
Terminado · 130.7K Visitas
  • 107 Caps
    Contenido
  • valoraciones
  • NO.200+
    APOYOS
Resumen

“ข้าจะขอยกเลิกการเป็นคู่หมายของท่าน ท่านว่าดีหรือไม่” ถ้อยคำที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทำให้แม่ทัพหนุ่มชะงัก รอยยิ้มหายไปทันที ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงและเย็นชาขึ้นจนดูน่ากลัว ดวงตาคมทรงเสน่ห์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มเขม็งและดุดันยิ่ง น้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้าจริงจังจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งแววตารักใคร่เทิดทูนที่มีให้ บัดนี้กลับไม่มีให้เห็นแม้สักเสี้ยว ส่วนสิ่งที่สัมผัสได้จากดวงตากลมโตกลับมีเพียงความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และว่างเปล่าไร้ระลอกคลื่นแห่งเสน่หา เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดอารมณ์เสียยิ่งนัก ‘มารดาเจ้าเถิด!’ แม่ทัพหนุ่มสบถในใจ แรงโทสะทำให้เขาเผลอปล่อยจิตสังหารออกมา ทำเอาหญิงสาวรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก ความกล้าที่พกมาเต็มเปี่ยมลดฮวบจนแทบไม่เหลือ

Chapter 1   ตอนที่ 1 ย้อนเวลา

ปี 2015 ณ โรงแรมสี่ดาวในเขตมณฑลซานซี ประเทศจีน

"หลินเอ๋อร์ ตื่นสิลูก อย่าทิ้งแม่ไป ฮือๆๆ"

"หลินเอ๋อร์...ลูกพ่อ" เสียงของชายวัยกลางคนซึ่งมีรูปร่างสูงโปร่งทั้งยังไว้เคราแพะ น่าจะเป็นคนมีฐานะ ช่อลดางุนงงกับภาพที่ได้เห็น ที่นี่ที่ไหน แล้วคนพวกนี้เป็นใคร

ดวงตาเล็กตี่มองสำรวจไปทั่วห้อง กลิ่นอายโบราณๆ การแต่งกายของคนกลุ่มนี้ดูคุ้นๆ อา...ใช่ เหมือนภาพยนตร์จีนกำลังภายใน เมื่อเบนสายตากลับมายังจุดเดิมก็พบเด็กสาวอายุราวสิบหกสิบเจ็ด นอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้คล้ายหลับ เครื่องหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก แต่กลับซีดเซียวเหมือนคนป่วย ข้างเตียงมีหญิงสาววัยสามสิบปีเศษ ทว่าใบหน้าอวบอิ่มที่งดงามของหญิงคนนั้นกลับนองไปด้วยน้ำตา สองมือเกาะกุมมือเล็กขาวซีดข้างหนึ่งไว้แน่น

ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งบีบไหล่เธอที่สั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้น แม้จะไม่มีน้ำตาแต่เธอคิดว่าเขาก็คงเสียใจไม่แพ้กัน ดูได้จากใบหน้าหมองคล้ำซึ่งเต็มไปด้วยความเศร้า ข้างเตียงยังมีเด็กสาวหน้าตาน่ารัก แต่ยังเทียบกับเด็กสาวที่นอนอยู่ไม่ได้ ทั้งสองคนน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน ยังมีหญิงชราร่างอวบอ้วนอีกคนนั่งร้องไห้พร้อมกับมองร่างที่นอนอยู่บนเตียงไม่วางตา ขณะเดียวกันก็พร่ำเรียกคุณหนูๆ บรรยากาศชวนให้หดหู่ใจยิ่งนัก

เวลา 06.00 น.

ติ๊ดๆๆ

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่ปลุกกระปุกตั้งฉ่ายให้ตื่นจากฝัน ช่อลดาลืมตามองเพดานพลางครุ่นคิดเกี่ยวกับความฝันนั้นซ้ำไปซ้ำมาด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะตัดสินใจลุกไปอาบน้ำ

วันนี้เธอมีโปรแกรมจะไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้าม และปิดท้ายด้วยสวนสัตว์ที่เธอชื่นชอบ ไม่สิ...เรียกว่าคลั่งไคล้น่าจะถูก ว่างเมื่อไรเธอเป็นต้องไปทุกครั้ง จะว่าเป็น 'ทาสรักสัตว์โลก' ก็คงได้

แต่สัตว์ที่ช่อลดาชอบมากที่สุดกลับเป็นสัตว์ในตำนานที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลก นั่นก็คือ 'มังกร' เธอถึงกับสักรูปมังกรเสียจนเต็มแผ่นหลัง แน่นอนว่าแม่ของเธอไม่รู้และไม่มีวันที่เธอจะบอกแม่ด้วย ไม่อย่างนั้นงานนี้มีหวังโดนบ่นเป็นสิบปีแน่ๆ เพราะแม่เธอเกลียดคนที่มีรอยสักเป็นที่สุด

ขณะที่อาบน้ำอยู่นั้นหญิงสาวเผลอเหยียบสบู่ที่บังเอิญตกลงบนพื้นจนหงายหลัง ศีรษะฟาดผนังห้องน้ำอย่างจังเสียงดังโป๊กก่อนที่เธอจะหมดสติแน่นิ่งไป กว่าจะมีคนมาพบก็เป็นเวลาบ่ายโมงวันถัดมา

เมื่อเลยเวลาเช็คเอาต์ผู้จัดการพร้อมด้วยแม่บ้านจึงถือวิสาสะใช้คีย์การ์ดสำรองเปิดประตูห้องเข้ามา ก่อนจะผงะเมื่อพบร่างไร้วิญญาณของช่อลดาอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน ศีรษะพิงผนังห้องน้ำ เนื้อตัวขาวซีดเพราะเสียเลือดมากจากแผลด้านหลังศีรษะ ซ้ำยังโดนน้ำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ช่างน่าอนาถนัก ยังดีที่น้ำจากฝักบัวช่วยชำระคราบเลือดจนแทบไม่เหลือภาพความสยดสยองแก่สายตาผู้พบเห็น นอกจากภาพอุจาดตาในสภาพเปลือยล่อนจ้อนเท่านั้น!

"ท่านยมใจร้าย ฉันเพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองนะ แฟนก็ยังไม่มี เป็ดปักกิ่ง หมูหัน หูฉลามน้ำแดง หมั่นโถว ซาลาเปา ขนมจีบ ก็ยังไม่ได้กิน ที่สำคัญนะ ทำไมต้องตายอุจาดอย่างนั้นด้วย!"

"ยมบาลร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันที่มารับวิญญาณช่อลดาส่ายหน้าระอา ไม่ได้สนใจคำตัดพ้อต่อว่าของเธอเลยแม้แต่น้อย เปิดบัญชีไล่หารายชื่อเท่าไรก็หาไม่เจอ

"โอ๊ะ! เจ้ายังไม่ถึงที่ตายนี่นา" ยมบาลโพล่งออกมาอย่างลืมตัว ครั้นเห็นช่อลดาถลึงตาใส่จึงเอ่ย "เอาน่า มันก็ต้องมีพลาดกันบ้าง เจ้าไม่ต้องห่วง แม้เจ้าจะใช้ร่างเดิมไม่ได้แล้ว แต่ข้าจะหาร่างใหม่ที่ดีกว่าและไฉไลกว่าให้เจ้าแล้วกัน โดยที่เจ้าไม่ต้องเสียเวลาไปเกิดใหม่"

ยมบาลรวบรัดตัดตอน ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าทุกข์คัดค้าน วิญญาณช่อลดาถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น สมองว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก จนกระทั่ง…

"เอาละ ข้าหาร่างใหม่ให้เจ้าได้แล้ว มานี่สิ" ช่อลดากัดฟันเดินมายืนข้างๆ ยมบาลผู้สะเพร่า เขม้นมองกระจกแปดเหลี่ยมบานใหญ่ตรงหน้าซึ่งยมบาลบอกว่าเป็นกระจกส่องภพ ไว้ใช้ตรวจดูพฤติกรรมของมนุษย์ และยังใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างเทพเซียนอื่นๆ

"นั่น...นั่นเด็กสาวที่เราฝันเห็นนี่..." เธออุทาน ดวงตาเบิกโตด้วยความตกใจและประหลาดใจในคราวเดียวกัน

"เจ้าพร้อมหรือยัง" ยมบาลถาม

"พร้อมอะไร" ช่อลดาย้อนถามเพราะไม่เข้าใจในคำพูดที่ยมบาลต้องการจะสื่อ ยังไม่ทันรู้คำตอบเธอก็ถูกผลักเข้าไปในกระจกเสียแล้ว

"อ๊ะ วะ...ว้าย! พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยยย" ช่อลดาตกใจร้องเสียงหลง พร้อมกับร่างที่ถูกดูดอย่างแรง

"อย่าได้ห่วง เจ้าจะรู้และทำได้เหมือนเจ้าของร่างเดิมทุกประการ เพียงแต่จิตใจเป็นของเจ้า และข้าให้พรเจ้าอีกหนึ่งข้อ นั่นคือเมื่ออยู่ที่นั่นครบสี่สิบห้าวัน เจ้าจะสามารถเข้าใจภาษาสัตว์และพูดคุยกับพวกมันได้ ถือเป็นพรไถ่โทษจากข้า" สิ้นเสียงทรงอำนาจของยมบาลช่อลดาก็หมดสติไป

ยามซื่อ[1] เรือนหยกฟ้าคฤหาสน์สกุลชิง ฤดูใบไมผลิ[2]

"หลินเอ๋อร์ หลินเอ๋อร์" เสียงเรียกที่อ่อนโยนแฝงด้วยความเศร้าสร้อย ปลุกช่อลดาที่อยู่ในร่างของสาวน้อยวัยสิบหกให้ค่อยๆ ลืมตาตื่น เธอหันไปทางเสียงเรียกด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย ก่อนจะตะลึงตาค้างเมื่อเห็นใบหน้าของพวกเขาชัดเจน เพราะเป็นใบหน้าของคนที่เธอเห็นในฝันและในกระจกส่องภพของยมบาลนั่นเอง

"ท่านพี่ หลินเอ๋อร์ฟื้นแล้ว ฮือๆๆ" ชิงฮูหยินหันไปกล่าวกับชิงหยวนผู้เป็นสามี ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

"อาฝู รีบไปตามหมอมาเร็ว อย่าได้ชักช้า" ชิงหยวนสั่งพ่อบ้านใหญ่ด้วยน้ำเสียงที่เจือความร้อนรน เมื่อเห็นว่าบุตรีทำหน้าตาบิดเบี้ยวราวกับเจ็บปวดหนักหนา

"ขอรับนายท่าน บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้" อาฝูหรือฝูเฉียนซึ่งเป็นพ่อบ้านใหญ่พาร่างผอมบางคล้ายสตรีทว่าแข็งแรงรีบรุดออกไปทันที

ชิงหยวนหันกลับมามองบุตรีที่เอนหลังพิงหัวเตียง โดยมีฮูหยินของตนอยู่ใกล้ๆ พลางถอนใจอย่างโล่งอก

"คุณหนูป่วยคราวนี้นานกว่าทุกครั้งเลยนะเจ้าคะ" แม่นมฝูเอ่ยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย

ชิงฮูหยินผินหน้ามามองแม่นมร่างอวบอ้วนของบุตรี ยิ้มพลางพยักหน้าขึ้นลงอย่างเห็นด้วย แม้น้ำตาของนางจะหยุดไหลแล้ว แต่ยังคงมีคราบน้ำตาอยู่บนแก้มขาวผ่อง

"ฉัน...เอ่อ...ข้าต้องขออภัยท่านพ่อท่านแม่ที่ทำให้เป็นห่วง" ช่อลดาในร่างชิงหลินพูดตะกุกตะกักขัดเขินด้วยไม่คุ้นชิน แม้น้ำเสียงจะแหบแห้ง แต่กลับมีความตื่นเต้นซุกซนซ่อนอยู่ในดวงตากลมโตสีน้ำตาลเปลือกไม้

'อา...ไม่เลว ได้เป็นคุณหนูด้วย แถมพ่อก็หล่อ แม่หรือก็ยังสวยยังสาวอยู่เลย มีลูกตอนอายุเท่าไรกัน ไม่แปลกที่เด็กคนนี้จะน่ารักขนาดนี้'

"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รู้หรือไม่ แม่เจ้าแทบไม่ได้หลับได้นอนเพราะเป็นห่วงเจ้า จนพ่อเกรงว่าจะล้มป่วยไปอีกคน" ชิงหยวนลูบศีรษะบุตรีอย่างรักใคร่ เดิมทีเขาคิดว่านางคงไม่รอดแล้ว เพราะนางหาใช่เพียงเจ็บป่วยทางกายอย่างเดียวไม่ แต่ยังเจ็บป่วยทางใจอีกด้วย ซึ่งสาเหตุก็มาจากคู่หมายบังคับให้นางขอถอนหมั้น หาใช่เรื่องอื่นใดไม่

"ท่านแม่..." ร่างบางโผเข้ากอดร่างอวบอิ่มตรงหน้าพลางน้ำตาคลอเพราะสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใย ทำให้เธอคิดถึงแม่ของตนขึ้นมา

'แม่จ๋า ดาคิดถึงแม่จังเลยค่ะ ป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้าง' เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็พลันไหลออกมาจนไหล่ของอีกฝ่ายเปียกชุ่ม

เมื่อบ่าวรับใช้ในจวนรู้ข่าว ต่างก็รีบเร่งมาดูด้วยความรู้สึกยินดีระคนผิดหวัง ยินดีกับนายท่านและฮูหยินผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรม ที่ไม่ต้องโศกเศร้าเสียใจหากคุณหนูมีอันเป็นไป ขณะเดียวกันก็ผิดหวังที่ต้องทนกับความร้ายกาจของคุณหนูผู้นี้ต่อไปโดยไม่รู้ชะตากรรม

ช่อลดาในร่างชิงหลินไล่สายตามองบรรดาบ่าวไพร่ราวๆ ยี่สิบคนที่ยืนก้มหน้ามองพื้นอยู่นอกห้อง แต่บางคราวก็เหลือบมองเธอเป็นระยะๆ ครั้นพอสบตาเธอก็รีบหลบ เห็นแล้วก็พลันเจ็บปวดใจอย่างไรไม่รู้ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจึงอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว "ขอบใจทุกคนที่ห่วงใยข้า ข้าสบายดีแล้ว กลับไปทำงานต่อเถิด"

ขอบใจเช่นนั้นหรือ นางมารน้อยผู้นี้กล่าวขอบใจบ่าวไพร่? บ่าวไพร่ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองนางอย่างพร้อมเพรียง สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาที่เผลอแสดงออกทำให้ช่อลดาสะท้านในอก เธอพอเดาออกว่าคนพวกนี้คิดอะไร แต่ก็เลือกที่จะเฉยเสีย

"ไปๆ แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว" เมื่อเห็นทุกคนยังยืนนิ่ง แม่นมฝูจึงโบกมือไล่อีกครั้ง ด้วยเกรงว่าคุณหนูจะไม่พอใจแล้วทำโทษพวกเขาอีก

"ขอรับ / เจ้าค่ะ"

เพียงครู่เดียวด้านนอกเรือนหยกฟ้าก็กลับมาว่างเปล่าอีกครา หญิงสาวจึงหันมากล่าวกับแม่นมฝู "ข้าหิวยิ่งนัก ช่วยหาอะไรมาให้ข้าหน่อยเถิด"

"ได้เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปทำให้เดี๋ยวนี้ เสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ย เจ้าสองคนตามข้ามา" แม่นมฝูหรือฝูเหลียน ภรรยาของฝูเฉียน รับคำสั่งคุณหนูด้วยความยินดี แล้วหันมาเรียกสาวใช้ร่างบอบบางที่นั่งถัดออกมาให้ไปกับนางด้วย ปล่อยให้เจ้านายทั้งสามมีเวลาสนทนากันเป็นการส่วนตัว

[1] ยามซื่อ คือช่วงเวลาตั้งแต่ 09.00 น. - 10.59 น.

[2] ฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคม

También te puede interesar

เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH] (รีอัพ+ย้ายนามปากกา)

เครื่องบรรณาการของเทพงู 蛇神之致敬 เล่ม 1 [ Tribute of the Serpent ] [เวอร์ชันภาษาไทย] โปรย : 简介 ในวสันตฤดูเดือนยี่ เวียนครบรอบในทุกสิบสองปี เป็นปีที่มนุษย์จะเข้าใกล้โลกของเหล่าทวยเทพมากที่สุด เจ้าสาวของท่านเทพหลงเหนียนได้รับการคัดเลือกแล้วในปีนี้ อาเป้ย ไม่เห็นด้วยกับการส่งเครื่องสังเวยแด่เทพ นางไม่เคยยินยอม! นางเพิ่งอายุสิบแปดปีไม่กี่วันมานี้โดยที่นางไม่เคยได้มีชีวิตเป็นของตนเองเลย นางไม่เคยได้ปิ่นปักผมเยี่ยงสตรี นาน ๆ ครั้งนานนางจะได้กินอาหารดี ๆ แล้วนี่มันเรื่องอะไร! ท่านเจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์ผู้ปกครองแคว้นทั้งสิบหกแคว้น ทั้งที่ปกติจะมีธุระยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ยังอุตส่าห์มาส่งนางด้วยตนเอง พร้อมทั้งทหารองครักษ์ผู้เป็นจอมยุทธฝีมือเก่งฉกาจหกนาย ถืออาวุธครบมือเพื่อมาคุ้มครองนางไปส่งให้ถึงมือท่านเทพ "ไปเถิด บัดนี้ก็ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้ไปอยู่กับเหล่าทวยเทพ เพื่อเป็นเกียรติยศแก่บ้านเมืองและบิดามารดาของเจ้า การที่เจ้าเป็นสตรีจิตใจกล้าหาญยอมเป็นผู้เสียสละในวันนี้ ขอให้เจ้าจงภูมิใจ ข้าเองก็จะไม่ลืมเจ้าเช่นกัน... อาเป้ย" "ท่านคงไม่ลืมข้าแน่ล่ะใต้เท้า ข้าทราบดีว่าเส้นทางนี้มิใช่ไปเป็นเจ้าสาวของทวยเทพแต่อย่างใด ข้ากำลังจะไปเป็นอาหารงูต่างหาก" --------------------------- เรื่องราวการเสียสละของเครื่องบรรณาการ ผู้กลายมาเป็นสมบัติเทพปีศาจในเทวโลก --------------------------- "ดู ๆ ไปแล้ว... เจ้าในยามป่วยไข้ช่างงดงามนัก ยิ่งเสียกว่าพัดสีทอง น้ำเต้าวิเศษ กระจกหยินหยาง ข้าว่ามีสิ่งของหลายอย่างที่ข้าโปรดปราน ข้ามีของหายากอีกหลายชิ้น การที่เจ้าผ่ายผอมไปสักหน่อย ไม่ใช่ปัญหา..." เสียงของบุรุษเทพดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ประตูหน้าต่างเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน งูสีนิลสนิทเลื้อยคลานมากระซิบอยู่ข้างหูของนาง "...อย่างไรเสีย ข้าขอให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง หาใช่สตรีของข้าแต่อย่างใด" แล้วเหตุใดท่านต้องเอาอกเอาใจนาง ขนาดใต้เท้าจีกงและนางฟางเหนียงเอ่ยปากตำหนิว่าบุรุษไม่ควรอยู่ในห้องนอนตามลำพังกับสตรีซึ่งมิใช่ภริยาของตน และอาเป้ยมิใช่สมบัติธรรมดา นางมีใบหน้าอันงดงามมากพอจะทำให้ท่านกลายเป็นข่าวฉาวในเทวโลกได้ เทพอู่เฉินก็หาได้ฟังผู้ใหญ่ จำแลงกายเป็นอสรพิษ เปิดประตูหน้าต่างทุกบานอย่างเปิดเผย คอยเฝ้านางอย่างไม่ให้คลาดสายตา จะมีเพียงเวลาที่สตรีทั้งสองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเท่านั้น เทพอู่เฉินถึงออกไปยืนรอด้านนอกในร่างบุรุษ อาเป้ยคิดถึงบุรุษเทพปีศาจยามนี้ นางคิดว่าสมองของท่านน่าจะไม่ปรกติ "ข้าว่าข้าคงจะเป็นสมบัติที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด มากกว่าชิ้นใด ท่านจึงหวงแหนข้าถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไปว่าท่านเป็นบุรุษเทพประหลาด การกระทำของท่านจึงมักขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ" "เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่าพูดจาหยอกล้อกับข้า อาเป้ย ข้าไม่ใช่มิตรสหายของเจ้า" นางกำลังยิ้ม! หัวเราะเทพอู่เฉินด้วยเสียงแหบแห้งของนางอย่างไม่มีผู้ใดหาญกล้ากระทำมันมาก่อน ดวงตาเรียวรีของนางราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ จิ้งจอกไม่ว่าจะตระกูลไหน ล้วนมีนิสัยเช่นนางในเวลานี้ นางช่างทำตัวขวางหูขวางตา ทว่านำพาความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างน่าประหลาด เทพอู่เฉินนึกขัดหูขัดตานางนัก ทว่ายังคงจ้องมองดวงตากลมโต สดใสราวดอกไม้ผลิบานในสวนของทวยเทพ ในร่างอสรพิษ ชูคอตระหง่านอยู่ตรงหน้านาง "ใช่แล้วล่ะ... เป็นบุญของข้ายิ่งนัก ได้เป็นสมบัติอันโปรดปรานของท่าน... เทพอู่เฉิน"

ManGu_Author · Fantasía
Sin suficientes valoraciones
45 Chs

พยศนักรักซะเลย

“หยุดก่อน.. อย่าเพิ่งไป” “พี่คะ อย่าทิ้งนิดไว้ นิดกลัว” นิรดาร้องเรียกพลางสะอื้นไห้ ร้องเรียกอย่างสิ้นหวัง … “นิดครับ พี่อยู่นี่ นิดไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัว” น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของเดช ทำให้นิรดาพยายามลืมตาอันหนักอึ้งของตนขึ้น ภาพอันเลือนลางเหมือนความฝันปรากฎตรงหน้า นิรดายกมือขึ้นลูบไปที่แก้มสากอย่างอ่อนโยน แล้วก็หมดสติไปเพราะพิษไข้ ความหนาวเหน็บค่อยๆคืบคลานเข้ามา จนเธอพูดเพ้อไม่ได้สรรพ “หนาวเหลือเกิน พ่อค่ะ นิดหนาวเหลือเกิน แม่ข๋า ช่วยนิดด้วย” สิ้นเสียงนิรดา เดชสีหน้าแดงกล้ำ เป็นความผิดของเค้า ถ้าเค้ารู้ว่าร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรงเหมือนทีืเธอชอบแสดงความอวดอ้าง เค้าคงไม่เผลอปล่อยให้เธอตกน้ำ จนล้มป่วยแบบนี้ เค้าต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นเธอได้หนาวตายแน่ “นิดพี่ขอโทษนะ” ไม่พูดเปล่า เดชค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่นิรดาใส่ออกทีละชิ้น จนเหลือแค่บราเซียตัวจิ๋ว ทั้งๆที่พยายามหักห้ามใจแล้ว แต่ผิวขาวอมชมพูราวกับไข่มุกที่ปรากฎตรงหน้า ที่ตอนนี้ซีดเซียวจากการเปียกน้ำเป็นเวลานาน ก็ทำให้เดชแอบกลืนน้ำลาย จากนั้นก็ค่อยๆถอดชุดของตัวเองออกเพื่อหวังว่า ไอความร้อนจากตัวเค้า จะช่วยให้นิรดาอุ่นขึ้น… เดชหลุบสายตาลงแล้วค่อยๆประคองกอดเนื้อแนบเนื้อ ทุกอนูที่ผิวสัมพัสกัน ช่างอุ่น จนนิรดาเผลอขยับเข้าหาร่างหนา นั่นยิ่งทำให้เดชต้องใช้ความอดทนขั้นสุด ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่ามันจะทนได้สักเท่าไหร่กัน

Jbatwise · Fantasía
Sin suficientes valoraciones
3 Chs

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์

เรื่่องราวของสาวโสดมนุษย์แม่ลูกสามอายุห้าสิบสองปีที่เธอได้รับพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อเพียรบำเพ็ญศีลและธรรมจนบรรลุตอนอายุสามสิบห้าปี พรคือยิ่งแก่เธอจะยิ่งสาวขึ้น กับพระเอกละครไทยชื่อดังอายุสี่สิบสี่ปีที่ยังโสดเพราะรอคอยรักแท้ หลังจากแม่ของเธอตายเมื่อสองปีก่อนทั้งสองมักฝันว่าอยู่ด้วยกันแบบคู่รักเสมอๆทั้งที่ไม่เคยพบกันพวกเขาจึงไม่สามารถติดตามหากันได้ จนกระทั่งเขาประกาศผ่านสื่อออนไลน์ให้หญิงสาวที่ชอบเขาจีบเขาก่อนได้เขาอยากสร้างครอบครัวแล้ว เธอถูกดวงวิญญาณของแม่ชักนำให้พิมพ์ใบสมัครส่งไปถึงDMส่วนตัวของเขาในคืนฮาโลวีนซึ่งสะดุดตาเขาให้กดอ่านจนจบแล้วตามหาเธอเจอเพจของเธอ โดยเขาคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามีเสน่ห์น่าสนใจมากเขาจึงเฝ้าติดตามดูเธอเงียบๆ ส่วนเธอก็สนทนากับเขาทุกวันโดยการเล่าและบ่นเรื่องต่างๆให้เขาฟังทำให้เขามีความสุขและชอบเธอมากจึงสร้างเพจปลอมเป็นผู้หญิงเพื่อขอเป็นเพื่อนและสนทนาเรื่องเป็นแฟนคลับของเขากับเธอเสมอ เรื่องราวของคนทั้งคู่ที่อยู่คนละมิติสังคมแต่เชื่อมโยงกันได้จริงในเวลานอนหลับลึก แต่กว่าจะได้พบกันผ่านการพิสูจน์รักแท้ที่เชื่อมต่อมาจากอดีตชาติเรื่องชุลมุนวุ่นวายสุดที่จะคาดเดาได้จึงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาใช่คู่แท้ทางจิตวิญญาณที่เฝ้ารอคอยกันจริงหรือไม่โปรดติดตาม,,,,,,

DaoistD7FIet · Fantasía
Sin suficientes valoraciones
53 Chs
Tabla de contenidos
Volumen 1
Volumen 2 :จอมทัพตื๊อรัก(ภาคจบ)

valoraciones

  • Calificación Total
  • Calidad de escritura
  • Estabilidad de Actualización
  • Desarrollo de la Historia
  • Diseño de Personajes
  • Contexto General
Reseñas
gustó
Últimos

APOYOS