มิชชันสำเร็จลุล่วง ความจริงคือเราน่าจะผ่านตั้งแต่นาทีแรก ๆ ด้วยซ้ำเมื่อพวกเราตกเป็นของกันและกัน แต่กระนั้นผมและแคทก็ไม่ได้ใส่ใจกับของรางวัล พวกเราปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปราวกับลืมเลือนจุดประสงค์แรกเริ่ม
"ฉันชอบนาย" เสียงไม่ได้ลอดออกมาจากปากของหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า ทว่าผมอ่านปากของเธอออกได้
เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงบ่ายของวันนั้น แอน อลิซาเบธและอีกหลายคนกลับมาถึงฐานได้อย่างปลอดภัยครบทุกคน แอนสรุปรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เจอและข้าวของที่กลุ่มเธอเก็บมาได้
"นี่มีอะไรรึเปล่าคะเนี่ย"
แอนสังเกตว่าผมไม่ได้ตั้งใจฟังเนื้อหาที่เธอเล่าเหมือนอย่างทุกครั้ง
"ไม่มีอะไร ผมเหม่อไปนิดหน่อย"
"ไม่สมกับเป็นพี่ชายเลยนะ ทำตัวมีพิรุธชอบกล คงไม่ใช่ว่าระหว่างที่พวกเราไม่อยู่แอบไปทำเรื่องอะไรไม่ดีมานะ"
มายาไม่มีทางรู้เรื่องระหว่างผมกับแคท เธอก็แค่เดาส่งเดช แต่เพราะเดาถูกเผงเลยทำให้ผมหน้าถอดสี
แอนจ้องหน้าผมและแคทสลับกัน เธอไม่ได้มองว่าเรื่องที่มายาพูดเป็นเรื่องล้อเล่น บางทีนี่อาจเป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงก็ได้
ทำไมถึงรู้สึกผิดล่ะ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทั้งผมทั้งแคทยังโสดไม่ได้มีพันธะผูกพันกับใคร ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเป็นผู้ต้องหา
"เอ่อ ขอโทษ"
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขอโทษไปทำไม แต่หลุดปากออกไปซะแล้ว
"ไม่จริงน่า คุณคามิล กับ… กับคุณแคทเธอรีนเนี่ยนะ" เมย์เผลอพูดออกมาเสียงดัง ดังจนตัวเธอเองต้องอุดปากตัวเองหลังจากพูดจบ
"มันมีเหตุผลอยู่…"
ผมพยายามแก้ตัว ไม่สิ ผมพยายามอธิบายอย่างเป็นเหตุผลเป็นผล เริ่มตั้งแต่ระบบปาร์ตีที่ยังไม่มีโอกาสอธิบายให้กับทุกคนรู้ จากนั้นก็เรื่องของปาร์ตีมิชชันและสกิลสายเทเลพอร์ตที่จะใช้ได้เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น
"หมายความว่า… จำเป็นต้องทำเรื่องบัดสี เพียงเพราะอยากได้สกิล"
ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากพวกที่อยู่ในห้องและพวกที่แอบฟังอยู่ข้างนอก รู้สึกพลาดที่ไม่เก็บเจ้าพวกนี้เป็นการ์ดให้หมดก่อน แล้วก็เริ่มรู้สึกอิจฉาคอลเลคเตอร์คนอื่นที่คาแรคเตอร์ของพวกเขาดูไม่ทะลึ่งทะเล้นขนาดนี้
"หึงเหรอ"
"หาาา อะไรนะคะ"
"ไม่ต้องทำเป็นร้องหาเลย จริง ๆ เธอก็ชอบคุณคามิลใช่ไหมล่ะ"
แอนขมวดคิ้วแล้วนิ่งไป เธอนิ่งอยู่แบบนั้นอยู่พักใหญ่จนผมเริ่มหวั่นใจ น่าประหลาดที่ทำไมผมถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้ ผมไม่ควรคาดหวังว่าเธอจะตอบว่า 'ใช่' ไม่ใช่เหรอ
สุดท้ายแอนก็ไม่ได้ตอบ แม้จะถูกแคทคาดคั้นเพิ่มอีกหลายประโยค แอนมีความพยายามเปลี่ยนเรื่องอยู่สองสามครั้งแต่เธอทำไม่สำเร็จ แคทดึงเธอกลับมาที่ระบบปาร์ตีมิชชันอีกครั้งด้วยการชวนแอนเข้าระบบปาร์ตี
ในพริบตาที่แอนกดยอมรับ มิชชันแรกที่เธอได้ก็ปรากฏขึ้น
[ปาร์ตีมิชชัน: ผูกสัมพันธ์กับใครสักคน (0/1)]
ปาร์ตีมิชชันชื่อเดียวกัน เนื้อหาเดียวกันและได้รางวัลเดียวกันปรากฏขึ้นที่ระบบของแอน แอนมัวแต่ตกใจที่เธอได้รับมิชชันแรกสุดเป็นมิชชันที่ชวนลำบากใจ แต่ผมและหลาย ๆ คนในที่นี่ตกใจเรื่องอื่นมากกว่า
นี่เป็นครั้งแรกที่แอนได้รับมิชชันจากระบบ หรือว่าเธอจะกลายเป็นคอลเลคเตอร์เต็มตัวไปแล้ว
"เธอควรทำมิชชันนี้กับคามิลนะ"
"เดี๋ยวสิ!" ผมห้ามแคทไว้ไม่ทัน
"ฉันยังไม่ได้ทดสอบมันอย่างละเอียด แต่สกิลนี้ช่วยให้คนในปาร์ตีที่เป็นครอบครัวเดียวกันสามารถเคลื่อนย้ายไปหากันได้ในพริบตา ไม่คิดเหรอว่ามันเป็นสกิลที่มีประโยชน์มาก"
"สกิลมีประโยชน์น่ะใช่… แต่"
"ไม่ต้องไปสนใจหรอก เธอเคยพูดนี่ว่าไม่ต้องทำทุกมิชชันที่ระบบมอบให้ ผมว่าควรจะไปสนใจเรื่องระบบ…"
"คุณคามิล ไม่อยากให้ฉันได้สกิลนี้เหรอคะ"
ทั้งห้องเงียบกริบอีกครั้ง ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกไป ใครจะไปคาดคิดว่าอยู่ ๆ คนอย่างแอนนาเบลลาจะถามคำถามนี้กับผม
"สกิลนี้มีประโยชน์แน่นอน คุณคามิลไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ" อลิซาเบธย้ำ นี่เธอสนใจแต่ผลลัพธ์โดยไม่ได้มองวิธีการที่จะได้มันมาเลยเหรอ
"ถ้าคุณคามิลไม่มีปัญหาอะไร…" แอนหันไปทางแคท
"ไม่ต้องมาถามฉันเลย ฉันกับคามิลแค่มีสัมพันธ์ทางกายไม่ได้คบหากัน ดังนั้นพวกเธอสองคนตกลงกันเองได้เลย"
ทำไมถึงออกมาอีท่านี้ได้เนี่ย ผมถามตัวเองแล้วถามตัวเองอีก
"ขอแหวนด้วยค่ะ"
"แหวน แหวนอะไร"
แอนยื่นมือซ้ายมาให้ "อย่าแกล้งทำเป็นงงสิคะ มีเหรอที่อย่างคุณคามิลจะไม่เข้าใจ"
ผมเพิ่งเข้าใจความหมายที่แอนสื่อ เธออยากลองวิธีอื่นเพื่อจะผูกผมไว้เป็นคนในครอบครัว ผมไม่แน่ใจว่าวิธีนี้มันจะได้ผล แต่ก็คิดว่าไม่เสียหายที่จะลอง
ตอนแรกผมคิดที่จะมอบ 'แหวนราชาผู้หวนคืน' ให้เป็นของขวัญ แต่ต่อให้เป็นคนไร้ความละเอียดอ่อนอย่างไรก็น่าจะรู้ว่าผู้หญิงคงไม่ชอบของอะไรแบบนี้ ผมเปลี่ยนไปเปิดคลังเก็บใช้ส่วนตัวแทน ในนั้นมีแหวนวงหนึ่งที่ผมพกติดตัวเอาไว้
มันคือแหวนของคุณแม่ที่ได้รับมาจากคุณพ่ออีกที ตัวแหวนอาจไม่มีราคาค่างวดนัก ทั้งยังไม่ได้มีสกิลพิเศษเหมือนกับแหวนที่เคยเป็นการ์ด แต่ผมคิดว่าไม่มีอะไรเหมาะจะมอบให้แอนมากไปกว่าสิ่งนี้
แหวนถูกสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ ผมมือสั่นเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ตอนนั้นเองที่สังเกตเห็นว่าแอนเองก็ดูตื่นเต้นไม่แตกต่างกัน
แคทกระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูด "ปกติเขาพูดกันยังไงนะ เอาเถอะ แอนนาเบลลา โฮปส์ คุณจะรับคามิลเป็นสามีหรือไม่"
รู้สึกมึนงงเล็กน้อยที่ได้แคทมาทำหน้าที่แทนบาทหลวง แถมเธอยังดูกระตือรื้อล้นจนออกนอกหน้าด้วย