webnovel

ลิขิตชะตาดารารักหวนคืน

Autor: Bailuzhin
Fantasy
Laufend · 12.2K Ansichten
  • 19 Kaps
    Inhalt
  • Bewertungen
  • N/A
    UNTERSTÜTZEN
Zusammenfassung

จะเป็นเพราะด่านเคราะห์รักครั้งสุดท้ายแห่งเทพบรรพกาล หรือเพราะคาถาต้องห้ามแดนสวรรค์ ที่ทำให้เขามาพบและได้รักนาง จะเหตุผลอันใดก็ไม่สำคัญ เพราะจากนี้ไปเขาจะไม่ยอมให้มีแม้แต่เหตุผลเดียวที่จะเสียนางไป...

Chapter 1บทนำ

บนสะพานสีขาวทอดยาวหกลี้ บรรดาเทพสวรรค์ชั้นเซียนตำแหน่งน้อยใหญ่ต่างทยอยเดินเท้าบนสะพาน บ้างเดินคุยกัน บ้างเดินชมบรรยากาศ ท่ามกลางวันที่นภาสดใส สองฝั่งสะพานเมฆาสวรรค์แห่งนี้ หากมองทอดไปจะเห็นทะเลเมฆาขาวยาวไกลสุดสายตาทั้งสองฝั่ง หากจังหวะดีๆ จะได้เห็นมัจฉาบรรพกาลแปดครีบสองหางเกล็ดสีเงิน กระโดดเล่นลมเหนือเมฆาขาวให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้เดินทางผ่านสะพานเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก

เบื้องหน้าทหารเทพเฝ้าประตูทางเข้าตำหนักเทียนจวิน ปรากฎแสงสีทองระยิบระยับ ทหารเทพทั้งสองเห็นเพียงแค่แสงพริบตานั้นโดยมิรอให้ร่างเซียนปรากฎชัดก็รู้ว่าเป็นผู้ใด ทั้งสองดึงหอกศาสตราวุธเทพที่กั้นประตูอยู่เข้าแนบกาย เปิดทางให้เทพที่กำลังปรากฎกายเบื้องหลังแสงพริบตาสีทองนี้ได้เดินผ่านเข้าไปยังตำหนักเทียนจวิน

"คารวะเซียนอี้ตี้จวิน"

กลุ่มเทพสวรรค์ที่เดินมาจนถึงหน้าประตูทางเข้าตำหนักเทียนจวินเอ่ยคำทายพร้อมยกมือคำนับเทพที่เพิ่งปรากฎกายอยู่เบื้องหน้า ร่างสูงในอาภรณ์ขาวเกศายาวสีเงินเจ้าของนามเซียนอี้ตี้จวินหันกลับมายิ้มบางทักทายเหล่าเทพสวรรค์ ก่อนจะเดินหน้าเข้าไปยังตำหนัก

ไท่เซียนอี้ตี้จวิน เป็นหนึ่งในจตุรเทพของแดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแปดทิศสี่สมุทร ระหว่างทางเดินเข้าตำหนักเทียนจวินจึงมิมีผู้ใดกล้าเดินนำหน้า ทำได้เพียงเดินตามหลังเว้นระยะสิบก้าวจนกว่าจะถึงตำหนักเท่านั้น

จากตำหนักไท่เซียนของเซียนอี้ตี้จวินที่ฝั่งบูรพาสวรรค์ หากว่ากันด้วยระยะเดินทางมาตำหนักเทียนจวินก็ใกล้กันมากเพียงพริบตาแสง ทว่าหากปรากฎกายในตำหนักโดยไม่ผ่านทางเข้าประตูให้ทหารเฝ้าเวรยามได้รับรู้การมาถึงของเขาก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทอยู่ไม่น้อย ครั้นจะให้เดินทางไกลบนสะพานเมฆาสวรรค์ยาวหกลี้ก็ดูจะเปลืองแรงไร้ประโยชน์ไปสักหน่อย ดังนั้นเขาจึงเลือกปรากฎกายเบื้องหน้าทหารเทพเฝ้าประตูแล้วเดินต่ออีกร้อยก้าวก็ดูจะเข้าท่ากว่าทางอื่น

"คารวะเซียนอี้ตี้จวิน"

ประโยคเดิมดังขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาถึงภายในตำหนักเทียนจวินอันโอ่อ่า เหล่าเทพสวรรค์ที่มาถึงก่อนกล่าวทักทาย เซียนอี้ยิ้มบางๆ ให้พวกเขา แล้วเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเทียนจวิน

"คารวะเทียนจวิน" เซียนอี้ยกมือประกบพร้อมคำนับศีรษะ

"เชิญตี้จวินนั่งตามสบายเถอะ" เทียนจวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสนิทสนมคุ้นเคย เซียนอี้เดินไปนั่งที่ฝั่งซ้ายมือซึ่งเป็นที่ประจำของเขาเอง

ไม่นานนักเหล่าเทพสวรรค์ก็เดินทางเข้ามาถึงภายในตำหนักกันพร้อมหน้า ทุกที่นั่งภายในโถงใหญ่เต็มไปด้วยเทพในอาภรณ์สวยงาม ใบหน้าทุกคนมีรอยยิ้ม เสียงทักทายพูดคุยกันดังก้องไปทั่วโถงตำหนัก ก่อนจะสงบลงเมื่อเทียนจวินเคาะโต๊ะด้วยก้อนหยกทับกระดาษเป็นสัญญาณว่างานเลี้ยงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ความสงบเงียบทำให้ได้ยินเสียงสะบัดตามลมของธงชนะศึกสีขาวปักขอบทองที่ประดับอยู่รอบบริเวณตำหนัก ทุกสายตาพากันมองมาที่เทียนจวินเป็นจุดเดียว เทียนจวินระบายยิ้มอย่างสบายใจพลางกวาดสายตามองไปทั่วโถงตำหนักที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามเป็นพิเศษในวันนี้

"เอาล่ะ ก่อนที่พวกเราจะเริ่มฉลองชัยชนะในสงครามที่แดนสวรรค์สามารถปราบเผ่ามารฮุยอินลงได้นั้น ข้าขอประกาศมอบรางวัลให้กับทหารเทพผู้กล้าหาญเสียก่อนเป็นอย่างไรเล่า"

จบประโยคของเทียนจวิน หวังจิ้น เทพอักษรคนสนิทของเทียนจวินก็ส่งม้วนอักษรผ้าไหมทองให้เทียนจวินเปิดอ่าน

"ในสงครามเผ่ามารฮุยอินครั้งที่สอง นำทัพสวรรค์โดยเทพสงคราม อวี๋หลี่จวิน มีความสามารถในการสร้างค่ายกลจนนำชัยชนะมาสู่แดนสวรรค์ ข้าขอมอบรางวัลให้ท่านเทพสงครามดังนี้ ไข่มุกราตรีบรรพกาล หลินจือเซียนตงไห่ ปะการังเพลิงสีชาด เกล็ดสีเงินและแปดครีบของมัจฉาบรรพกาล ทั้งหมดนี้ข้าจะให้คนนำไปส่งให้ท่านที่ตำหนักหลังงานเลี้ยง"

อวี๋หลี่จวิน เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในจตุรเทพของแดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแปดทิศสี่สมุทรเช่นเดียวกับเซียนอี้ ร่างสูงในอาภรณ์สีรัตติกาลเกศายาวสีครามลุกจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเซียนอี้ มายืนเบื้องหน้าคำนับเทียนจวินเพื่อรับรางวัลทั้งหมดนั้น

"ขอบพระทัยเทียนจวิน" เทียนจวินยกมือผายขึ้นเล็กน้อยเป็นการเชิญให้เขากลับไปนั่งที่ได้ ท่ามกลางสายตาชื่นชมของเหล่าเทพสวรรค์

เซียนอี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันพลางนึกชมเทียนจวินอยู่ไม่น้อยในการเลือกของรางวัล อย่างแรกคือไข่มุกราตรีบรรพกาล ยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งแสดงถึงอายุหลายแสนปี ไข่มุกที่หลี่จวินได้รับไปอายุคงจะราวสามแสนปีเลยกระมัง ไข่มุกวิเศษตั้งแต่สมัยบรรพกาลนี้ เมื่อนำไปวางไว้ในตำหนักนอกจากจะดูสวยงาม ยามค่ำคืนจะส่องแสงสีครามคล้ายสีนภายามราตรี ทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเกิดนิมิตที่ดี หรือหากกำลังฝันร้าย ไข่มุกราตรีก็จะทลายฝันร้ายนั้นให้ผู้เป็นเจ้าของฝันดีตลอดไป การที่หลี่จวินเพิ่งกลับมาจากสงคราม ภาพแห่งการสูญเสียพี่น้องทหารเทพย่อมส่งผลต่อจิตใจ หากคืนใดฝันร้ายถึงภาพเหล่านั้นในสงคราม ไข่มุกราตรีบรรพกาลนี้ก็จะช่วยให้เขานอนหลับพักผ่อนไร้กังวลต่อไปได้

ส่วนหลินจือเซียนตงไห่ เป็นหลินจือที่ช่วยคืนพลังเซียนและปราณที่เสียหายให้คืนกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ หลี่จวินเสียพลังเซียนไปมากในสงคราม หากเทพสงครามฟื้นฟูพลังเซียนได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ แดนสวรรค์ก็ไร้กังวลเร็วขึ้นเท่านั้น

สำหรับปะการังเพลิงสีชาด เป็นหนึ่งในส่วนประกอบศาสตราวุธเทพที่ทรงพลังอย่างหนึ่ง หากใช้หลอมทำดาบ เมื่อกวัดแกว่งดาบกลางอากาศจะปรากฎเปลวเพลิงสีชาดน่าเกรงขาม และมิมีสิ่งใดที่คมดาบจากปะการังเพลิงสีชาดจะไม่สามารถเฉือนผ่านไปได้ เหมาะแก่การเป็นศาสตราวุธคู่ใจเทพสงครามแห่งแดนสวรรค์นี้แล้ว

สุดท้ายคือเกล็ดสีเงินและแปดครีบของมัจฉาบรรพกาล หากได้เดินผ่านสะพานเมฆาสวรรค์แล้วมีโอกาสได้เห็นมัจฉาบรรพกาลกระโดดเล่นลมเหนือเมฆาขาวอย่างเพลิดเพลิน ของรางวัลนี้มิได้แย่งชิงชีวิตของสัตว์เทพบรรพกาลเพื่อได้มาไม่ หากแต่ทุกๆ หมื่นปีจะมีมัจฉาบรรพกาลสิ้นชีวิตลงตามอายุขัย ร่างแปดครีบสองหางเกล็ดสีเงินจะถูกเก็บนำมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่เทียนจวินเป็นธรรมเนียม โดยจะถูกเก็บรักษาในตำหนักคลังสวรรค์ โดยครานี้สามารถนำเกล็ดสีเงินไปทำเสื้อเกราะอ่อน และใช้แปดครีบหลอมเป็นเสื้อเกราะแข็งด้านนอก ชุดเกราะสีเงินนี้ถือเป็นอาภรณ์ที่สง่างามเหมาะแก่แม่ทัพสวรรค์ที่มีใบหน้างดงามเช่นหลี่จวิน

"และสำหรับทหารเทพผู้กล้าหาญที่ปกป้องแดนสวรรค์จนได้รับชัยชนะ ข้าขอมอบปราณเซียนจตุรเทพให้แก่ทุกคน"

เทียนจวินอ่านม้วนอักษรอีกครั้ง ครั้งนี้ได้เสียงฮือฮาด้วยความดีใจและปีติยินดีสำหรับเหล่าบรรดาพี่น้องทหารเทพยิ่งนัก เพราะปราณเซียนจตุรเทพเป็นของวิเศษที่หาได้ยาก คือเป็นปราณเซียนของจตุรเทพทั้งสี่ในแดนสวรรค์ ที่กลั่นร่วมกันทุกหมื่นปีออกมาเป็นไอบรรจุลงในขวดยาขนาดเพียงเท่าครึ่งฝ่ามือ ไอเซียนนี้สามารถชำระไอมาร ฟื้นฟูพลังเซียนได้เจ็ดถึงแปดส่วนเลยทีเดียว สำหรับทหารเทพที่ร่วมรบในสงครามมาอย่างสุดกำลัง การได้ชดเชยไอเซียนจากจตุรเทพแทบจะถือว่าได้รับชีวิตใหม่

"สุดท้ายสำหรับทหารเทพผู้วายชนม์ ข้าจะขอมอบหอกศาสตราวุธเทพให้แก่ทุกครอบครัว เพื่อเป็นตัวแทนของทหารกล้า คอยปกป้องคุ้มครองครอบครัวของพี่น้องทหารเทพต่อไป"

"ขอบพระทัยเทียนจวิน ขอเทียนจวินมีพลานามัยแข็งแรงแสนปี แสนแสนปี"

เสียงกึกก้องจากบรรดาเทพสวรรค์แซ่ซ้องด้วยความปีติและซาบซึ้งในพระทัยของเทียนจวิน โอรสสวรรค์ผู้กล้าหาญ เฉลียวฉลาดและซื่อตรงแห่งแดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแปดทิศสี่สมุทร

"เอาล่ะ เชิญทุกท่านกินอาหาร และร่วมงานฉลองกันให้สำราญเถิด มาๆ ดื่มๆ" เทียนจวินกล่าวอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะยกจอกสุราดอกท้อป่าชูขึ้นแล้วร่วมดื่มกับทุกคนหนึ่งจอกเป็นธรรมเนียม

ระหว่างที่เทพสวรรค์กำลังนั่งรับประกินอาหารร่วมกันอย่างรื่นเริง นางกำนัลก็ยกพิณผีผาเข้ามาวางใจกลางโถงตำหนักเพื่อเตรียมการแสดงดนตรี ร่างบางระหงในอาภรณ์สีชาดเกศาดำสนิทลุกขึ้นจากที่นั่งสำรับอาหารแล้วคำนับเทียนจวินด้วยท่าทีอ่อนน้อมสวยงามสมเป็นเทพธิดาสวรรค์

"คารวะเทียนจวิน ฟางเหนียงขออนุญาตบรรเลงเพลงจากพิณผีผาให้ทุกท่านได้ฟังเพคะ"

ฟางเหนียง เทพธิดาดอกไม้สวรรค์ ผู้มีกิริยาอ่อนช้อยสวยงาม เป็นที่หมายตาของเทพหนุ่มทั้งหลาย ทว่านางมิเคยแสดงความสนใจแก่ชายใด นอกจากเทพสงครามหลี่จวินเจ้าของใบหน้าน้ำแข็งเท่านั้น

เสียงพิณผีผาเริ่มบรรเลง ดอกไม้ทั้งภายนอกและภายในตำหนัก แม้ในแจกันแก้วก็พากันเบ่งบานตามเสียงเพลงอย่างมหัศจรรย์ กลิ่นเกสรหอมฟุ้งละอองลอยในอากาศระยิบระยับ สร้างบรรยากาศให้งานเลี้ยงดูวิเศษขึ้นอีกสามส่วน สายตาทุกคู่ชื่นชมความสามารถของฟางเหนียงที่โดดเด่นไม่แพ้ใบหน้าสวยหมดจดงดงามของนางเลย

ระหว่างบรรเลงเพลง สายตาคู่หวานของเทพธิดาพลางปรายตามองหลี่จวิน ชายที่นางหมายปองมาตลอดห้าหมื่นปี ทว่าหลี่จวินไม่ได้สนใจ เขายังคงใบหน้าเรียบนิ่งพูดคุยกับซือมิ่ง เทพลิขิตชะตาอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้จะถูกเมินจากชายที่แอบรัก แต่ฟางเหนียงก็คล้ายจะชินเสียแล้ว ขอเพียงแค่ได้พบหน้าของเขาบ้างก็พอใจนางแล้ว

"ท่านว่าอย่างไรนะซือมิ่ง" หลี่จวินถามซือมิ่งที่นั่งอยู่ข้างกันอีกครั้ง เมื่อซือมิ่งร่ายคาถามือแล้วปรากฎดวงดาวเก้าแฉกขึ้น แสงสว่างของดวงดาวเก้าแฉกส่องขึ้นลอยเหนือฝ่ามือของซือมิ่งจนเทียนจวินสังเกตเห็นและหันมามองอย่างสนใจ ท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงพิณของฟางเหนียง

"เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือเทพซือมิ่ง" เทียนจวินเอ่ยถาม เมื่อเห็นชัดแล้วว่ามีดาวเก้าแฉกปรากฎแสงสว่างสวยงามเหนือฝ่ามือของเขา

ซือมิ่งไม่รอช้า รีบลุกจากที่นั่งสำรับอาหารออกมายืนเบื้องหน้าเทียนจวิน ฟางเหนียงเห็นดังนั้นจึงหยุดเล่นพิณลงเสียก่อน แล้วทุกคนจึงหันความสนใจไปยังซือมิ่งที่กำลังจะกล่าวทูลเทียนจวินอยู่เบื้องหน้า

"ทูลเทียนจวิน ดาวเก้าแฉกปรากฎขึ้นในดาราจักรลิขิตชะตาของข้า คาดว่าอีกไม่เกินสองก้านธูป แดนสวรรค์ของเราจะมีผู้ให้กำเนิดเทพธิดาที่มีพลังปราณเซียนสูงส่งนางหนึ่ง เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก" เทียนจวินได้ยินดังนั้นก็มองดาวเก้าแฉกที่ลอยเหนือฝ่ามือของเทพซือมิ่งอย่างแปลกใจ ในแดนสวรรค์จะมีเรื่องน่ายินดีถึงสองเรื่องเชียวหรือ

"ดี! ดีมาก แล้วเทพธิดานางนี้จะเกิดมาเป็นบุตรของใครกันล่ะ ข้าอยากไปรับขวัญด้วยตัวเองจริงๆ วันดีเช่นนี้ ข้าจะพลาดได้อย่างไร" เทียนจวินกล่าวด้วยรอยยิ้มเคล้าเสียงหัวเราะ ท่ามกลางความสนใจของเหล่าเทพสวรรค์ ซือมิ่งนิ่งไปอย่างใช้ความคิด

"น่าแปลก ที่ข้ามองไม่เห็นที่จุติของนาง" ซือมิ่งขมวดคิ้ว เขาใช้จิตเซียนเพ่งมองดาราจักรลิขิตชะตาในห้วงความคิด แต่กลับมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากแสงสว่างของดวงจิตดาวเก้าแฉกเท่านั้น

"เป็นไปได้อย่างไร" เทียนจวินถามอีกครั้ง เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บนแดนสวรรค์มาก่อน โดยเฉพาะกับซือมิ่ง เทพลิขิตชะตาด้วยแล้วย่อมเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง เพราะหากไม่รู้สถานที่จุติ แล้วจะเขียนชะตาชีวิตของผู้นั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า

ยากที่จะตอบคำถามเทียนจวิน ซือมิ่งคิ้วขมวดแทบจะผูกเป็นปม นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดปรากฎการณ์ของการจุติชีวิตใหม่ที่เทพลิขิตชะตาอย่างเขามองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากดวงจิตที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นเท่านั้น

เทพธิดาน้อยแท้จริงเป็นบุตรสาวของเทพองค์ใดกันแน่!

Das könnte Ihnen auch gefallen

เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH] (รีอัพ+ย้ายนามปากกา)

เครื่องบรรณาการของเทพงู 蛇神之致敬 เล่ม 1 [ Tribute of the Serpent ] [เวอร์ชันภาษาไทย] โปรย : 简介 ในวสันตฤดูเดือนยี่ เวียนครบรอบในทุกสิบสองปี เป็นปีที่มนุษย์จะเข้าใกล้โลกของเหล่าทวยเทพมากที่สุด เจ้าสาวของท่านเทพหลงเหนียนได้รับการคัดเลือกแล้วในปีนี้ อาเป้ย ไม่เห็นด้วยกับการส่งเครื่องสังเวยแด่เทพ นางไม่เคยยินยอม! นางเพิ่งอายุสิบแปดปีไม่กี่วันมานี้โดยที่นางไม่เคยได้มีชีวิตเป็นของตนเองเลย นางไม่เคยได้ปิ่นปักผมเยี่ยงสตรี นาน ๆ ครั้งนานนางจะได้กินอาหารดี ๆ แล้วนี่มันเรื่องอะไร! ท่านเจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์ผู้ปกครองแคว้นทั้งสิบหกแคว้น ทั้งที่ปกติจะมีธุระยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ยังอุตส่าห์มาส่งนางด้วยตนเอง พร้อมทั้งทหารองครักษ์ผู้เป็นจอมยุทธฝีมือเก่งฉกาจหกนาย ถืออาวุธครบมือเพื่อมาคุ้มครองนางไปส่งให้ถึงมือท่านเทพ "ไปเถิด บัดนี้ก็ถึงเวลาของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้ไปอยู่กับเหล่าทวยเทพ เพื่อเป็นเกียรติยศแก่บ้านเมืองและบิดามารดาของเจ้า การที่เจ้าเป็นสตรีจิตใจกล้าหาญยอมเป็นผู้เสียสละในวันนี้ ขอให้เจ้าจงภูมิใจ ข้าเองก็จะไม่ลืมเจ้าเช่นกัน... อาเป้ย" "ท่านคงไม่ลืมข้าแน่ล่ะใต้เท้า ข้าทราบดีว่าเส้นทางนี้มิใช่ไปเป็นเจ้าสาวของทวยเทพแต่อย่างใด ข้ากำลังจะไปเป็นอาหารงูต่างหาก" --------------------------- เรื่องราวการเสียสละของเครื่องบรรณาการ ผู้กลายมาเป็นสมบัติเทพปีศาจในเทวโลก --------------------------- "ดู ๆ ไปแล้ว... เจ้าในยามป่วยไข้ช่างงดงามนัก ยิ่งเสียกว่าพัดสีทอง น้ำเต้าวิเศษ กระจกหยินหยาง ข้าว่ามีสิ่งของหลายอย่างที่ข้าโปรดปราน ข้ามีของหายากอีกหลายชิ้น การที่เจ้าผ่ายผอมไปสักหน่อย ไม่ใช่ปัญหา..." เสียงของบุรุษเทพดังก้องในห้องสี่เหลี่ยม ประตูหน้าต่างเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน งูสีนิลสนิทเลื้อยคลานมากระซิบอยู่ข้างหูของนาง "...อย่างไรเสีย ข้าขอให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการที่เจ้าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง หาใช่สตรีของข้าแต่อย่างใด" แล้วเหตุใดท่านต้องเอาอกเอาใจนาง ขนาดใต้เท้าจีกงและนางฟางเหนียงเอ่ยปากตำหนิว่าบุรุษไม่ควรอยู่ในห้องนอนตามลำพังกับสตรีซึ่งมิใช่ภริยาของตน และอาเป้ยมิใช่สมบัติธรรมดา นางมีใบหน้าอันงดงามมากพอจะทำให้ท่านกลายเป็นข่าวฉาวในเทวโลกได้ เทพอู่เฉินก็หาได้ฟังผู้ใหญ่ จำแลงกายเป็นอสรพิษ เปิดประตูหน้าต่างทุกบานอย่างเปิดเผย คอยเฝ้านางอย่างไม่ให้คลาดสายตา จะมีเพียงเวลาที่สตรีทั้งสองเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเท่านั้น เทพอู่เฉินถึงออกไปยืนรอด้านนอกในร่างบุรุษ อาเป้ยคิดถึงบุรุษเทพปีศาจยามนี้ นางคิดว่าสมองของท่านน่าจะไม่ปรกติ "ข้าว่าข้าคงจะเป็นสมบัติที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด มากกว่าชิ้นใด ท่านจึงหวงแหนข้าถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไปว่าท่านเป็นบุรุษเทพประหลาด การกระทำของท่านจึงมักขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ" "เจ้าควรพักผ่อนให้มากกว่าพูดจาหยอกล้อกับข้า อาเป้ย ข้าไม่ใช่มิตรสหายของเจ้า" นางกำลังยิ้ม! หัวเราะเทพอู่เฉินด้วยเสียงแหบแห้งของนางอย่างไม่มีผู้ใดหาญกล้ากระทำมันมาก่อน ดวงตาเรียวรีของนางราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ จิ้งจอกไม่ว่าจะตระกูลไหน ล้วนมีนิสัยเช่นนางในเวลานี้ นางช่างทำตัวขวางหูขวางตา ทว่านำพาความรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างน่าประหลาด เทพอู่เฉินนึกขัดหูขัดตานางนัก ทว่ายังคงจ้องมองดวงตากลมโต สดใสราวดอกไม้ผลิบานในสวนของทวยเทพ ในร่างอสรพิษ ชูคอตระหง่านอยู่ตรงหน้านาง "ใช่แล้วล่ะ... เป็นบุญของข้ายิ่งนัก ได้เป็นสมบัติอันโปรดปรานของท่าน... เทพอู่เฉิน"

ManGu_Author · Fantasy
Zu wenig Bewertungen
45 Chs

Bewertungen

  • Gesamtbewertung
  • Qualität des Schreibens
  • Aktualisierungsstabilität
  • Geschichtenentwicklung
  • Charakter-Design
  • Welthintergrund
Rezensionen
Beeindruckend! Sie wären der erste Rezensent, wenn Sie Ihre Rezensionen jetzt hinterlassen!

UNTERSTÜTZEN

empty img

Demnächst