webnovel

- ภารกิจแรกที่เป็นไปด้วยดี -

"ไอ้วานตื่น" เสียงตะโกนข้างหูปลุกเขาสะดุ้งตกจากเตียง เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยของกันต์ที่มีหยกยืนดูจากหน้าประตู หยกเป็นคนประเภทที่มารยาทดีพอที่จะไม่เข้าห้องคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต แม้ว่ากรณีนี้เขาอนุญาตไปนานแล้วแต่หยกก็ยังปฏิเสธที่จะเข้ามาเพราะวานแชร์ห้องนอนร่วมกับน้องสาวของเขา

"มึงตายหรอครับเพื่อน" กันต์ถามพลางนั่งบนเตียงที่วานพึ่งนอน "อะไรวะ" วานถาม "เกิดมาพึ่งเคยเห็นมึงนอนนานขนาดนี้" กันต์พูด "คือพวกกูก็รู้นะว่ามึงตื่นสาย แต่นี่ก็เกินไปเพื่อน" *วานหยิกแขนกันต์ที่ประชดเขา "นี่พวกมึงมานานยัง" เขาถาม "มาตั้งแต่บ่ายสอง ตอนนี้ห้าโมงเย็น" หยกตอบเขา หยกดูเหมือนคุณหมอที่กลัวโรคติดต่อในห้องคนไข้ ในที่นี้ห้องคนไข้คือห้องนอน ส่วนโรคติดต่อคือโรคเพื้ยน

หลังจากที่วานเก็บที่นอนอย่างยากเย็น(กันต์พยายามก่อกวน)ทั้งสามเดินลงบันไดมายังห้องใต้ดินของวาน ปกติแล้วพวกเขาจะนัดกันเล่นเกมในวันหยุดที่ห้องนี้ โดยคอมพิวเตอร์ของวานที่พิเศษกว่าของชาวบ้านทำให้พวกเขาทำหลายอย่างได้

ทุกคนมีวันหยุดที่แตกต่างกันเนื่องจากภาระงาน หยกเป็นผู้ช่วยทนายความที่ต้องเคลียร์เอกสารและสำนวนยิบย่อยจนหัวหมุน กันต์เป็นนางแบบอิสระที่ชอบหายไปจากวงการหลังโกยเงินมหาศาลจากโฆษณาผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำซักยี่ห้อ ส่วนวานเป็นนักสืบอิสระ เขามีฝีมือที่ดีแต่ไม่ชอบเป็นที่สนใจเลยมักจะทำสัญญากับผู้ว่าจ้างไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเขา หยกหาวันหยุดได้ยากแต่มักจะมีเวลาว่างระหว่างวัน กันต์มีวันหยุดตลอดตราบใดที่เงินเก็บของเธอยังหนาแน่นในธนาคารแต่เธอจะหายไปเป็นเดือนถ้าเกิดว่าเข้าสู่ช่วงทำงาน เช่นเดียวกับวาน ที่ไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเงินมากนักเพราะมีกิจการของครอบครัวที่ค่อนข้างแข็งแรง แม้ว่าคุณนายพรทิพย์จะอยากให้เขารับช่วงต่อกิจการส่งออกและนำเข้าอาหารแปรรูปแต่วานเลือกทางเดินของตัวเองในฐานะนักสืบมากกว่า เขาจะหายไปหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีเพื่อไขคดีที่อันตรายมากๆ และอาจไม่หายไปไหนเลยถ้าไขคดีแมวหายแถวบ้าน

เมื่อหยกใช้วันลาพักร้อน เงินในบัญชีของกันต์หนาแน่น และวานปิดคดีได้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างก็ลงล็อกของการปาร์ตี้เล่นเกมที่ห้องใต้ดิน

ภายในห้องใต้ดินมีคอมพิวเตอร์ขนาดมหึมาอยู่หนึ่งเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่กว่าปกติอีกสามเครื่อง และคอมพิวเตอร์ขนาดปกติอีกเครื่อง เครื่องสีดำใหญ่ยักษ์จนดูน่ากลัวนั่นคือเมก้าคอมพิวเตอร์ที่วานได้มาจากพ่อเลี้ยงที่ทำงานวิจัยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประเทศเยอรมัน เครื่องสีขาวแต่งด้วยไฟโทนเขียวมรกตคือของหยก เครื่องสีทองแต่งด้วยกรอบไม้ดำสลักลายอย่างสวยงามคือของกันต์ และอีกเครื่องที่เป็นสีชมพูแต่งไฟสีขาวเป็นของวิว ส่วนคอมพิวเตอร์ขนาดปกติธรรมดาคือเครื่องที่วานมักใช้ในการรันโปรแกรมหรือเปิดไฟล์ที่น่าสงสัยจากคดีที่เขาทำ

ในส่วนที่ขยายออกของห้องใต้ดินมีห้องน้ำ และโซนนั่งเล่นที่บางครั้งพวกเขาใช้โซฟาเป็นที่นอนกันในคืนปาร์ตี้เล่นเกม วานเริ่มเปิดคอมเครื่องยักษ์ของเขาและเรียกกันต์กับหยกเข้าไปดูที่จอ ไฟล์ที่ชื่อ วานิลลา ยังอยู่ พวกเขาจ้องมันซักครู่และวานก็เริ่มอธิบายความฝันของเขา

"คือมึงจะบอกว่ามันเล่นได้" กันต์พูดขึ้นในความเงียบ "นายเล่าเหมือนนายถูกดูดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ" หยกพูดเสริม พอได้คิดตามที่เพื่อนของเขาพูดวานก็ได้รู้ตัวว่าสิ่งที่เล่าไปนั้นฟังดูไร้สาระแค่ไหน นี่ถ้าไม่ได้เพื่อนที่ระดับไอคิวพอๆกันป่านนี้เขาคงถูกหัวเราะเยาะไปแล้ว "ช่าย.." เขาตอบเขินๆ

ทั้งหมดนั่งลงที่เก้าอี้ประจำหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเองจากนั้นสวมอุปกรณ์ฟูลไดรฟ์ วานแจกจ่ายไฟล์วานิลลาให้คอมของกันต์และหยกจากนั้น สาม สอง หนึ่ง ... ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มีเพียงความเงียบอย่างน่าอึดอัดเกิดขึ้นในห้อง สุดท้ายวานก็ตัดสินใจถอดอุปกรณ์ฟูลไดรฟ์ออกจากศีรษะแล้วนั่งมองความว่างเปล่าบนหน้าจอของเขา ไม่นานกันต์ก็ถอดมันออกเช่นเดียวกัน ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างผิดหวัง "ออกมาได้ละหยก มันเล่นไม่ได้หรอก" วานพูดอย่างท้อแท้

"เอ่อ มาดูนี่หน่อย" เสียงหยกตอบกลับมา เขายังคงสวมฟูลไดรฟ์ วานรีบเดินไปดูที่มอนิเตอร์ของหยก

ตัวเกมนี้ไม่รองรับอุปกรณ์ของท่าน กรุณาใช้อุปกรณ์ที่เกมแนะนำ

อุปกรณ์ที่แนะนำ : FREEDOM DRIVE

"มันคืออะไร" หยกถาม วานรีบกลับไปที่เมก้าคอมพิวเตอร์ ข้อความเดียวกันปรากฎบนหน้าจอของเขา เขาเปิดโปรแกรมอินเตอร์เน็ตจากนั้นหาข้อมูลอุปกรณ์ที่ชื่อฟรีดอม ไดรฟ์

ไม่พบข้อมูลดังกล่าว หรือคุณกำลังหมายถึง : FULL DRIVE

ไม่รอช้ากันต์เองก็ใช้คอมของเธอหาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ว่าเหมือนกัน แต่สรุปก็คว้าน้ำเหลวทั้งคู่ ทั้งสามช่วยกันค้นหาข้อมูลราวสองชั่วโมงจากนั้นทั้งหมดก็ตัดใจ เมื่อดูท่าจะหมดหนทางแล้วพวกเขาเลยเข้าไปในฟูลไดรฟ์อีกครั้งเพื่อที่จะปิดการรันโปรแกรม "เฮ้ยมึง มันกดได้" *คลิ๊ก 

ทุกอย่างมืดดับลงและเงียบสนิท วานคิดว่าไฟฟ้าคงดับและอีกไม่กี่วินาทีเครื่องสำรองไฟที่บ้านจะทำงาน ในอีกวินาทีภาพทุกอย่างก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้องใต้ดินแต่กลับเป็นอุโมงน้ำขนาดใหญ่ ที่สุดท้ายในดันเจี้ยนก่อนที่เขาจะเผลอหลับไป

กิแกโรตั้งสติ เขาหยิบเอาแผนที่ออกมาจากกระเป๋าหนังใต้ผ้าคลุมจากนั้นก็เริ่มวิ่งไปยังทางออกที่ใกล้ที่สุด

กันต์และหยกมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา เพียงครู่เดียวที่ทุกอย่างมืดดับลงจากนั้นพวกเขาทั้งสองโผล่มาในสถานที่ปริศนาที่ซึ่งเป็นเหมือนบ้านโบราณสมัยยุคกลาง ทั้งคู่อยู่ในชุดลำลองสีขาว หยกเดินไปดูที่หน้าต่างของบ้าน เมื่อเปิดมันออกเขาเห็นวิวภูเขาที่งดงามและหิมะที่โปรยลงมาจากท้องฟ้าสีเทาหม่น "ไม่ผิดแน่ ที่นี่คือในเกมที่วานเล่าให้ฟัง" เขาพูดกับกันต์ซึ่งพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะไม้กลางบ้าน กระดาษปรากฎขึ้นพร้อมกับปากกาขนนก ข้อความต้อนรับเข้าสู่เกมเช่นเดียวกับที่วานเล่าให้พวกเขาฟัง หลังจากที่ทั้งสองเขียนชื่อเสร็จ ข้อความในกระดาษก็หายไป และแทนที่ด้วยการเลือกคลาส ทั้งสองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเช่นกันก่อนจะวงกลมคลาสที่ตัวเองเลือก

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้อความบนกระดาษของทั้งสองก็เปลี่ยนไปอีกครั้งก่อนที่ตัวกระดาษจะสลายหายไปในพริบตา

ระหว่างที่กิแกโรกำลังวิ่งผ่านป่าไม้หนาทึบเพื่อไปยังหมูบ้านเลเนก้า ข้อความสองข้อความก็ปรากฎขึ้นที่กลางอากาศ

ยินดีต้อนรับผู้เล่น เอเมอรัล เข้าสู่โลกวานินลา!

ยินดีต้อนรับผู้เล่น พยับหมอก เข้าสู่โลกวานินลา!

กิแกโรรู้โดยทันที่ว่านั้นคือเพื่อนของเขา

เอเมอรัลที่สวมชุดเกราะเริ่มต้นที่ทำมากจากหนังวัวยืนอยู่กับพยับหมอกที่ใส่ฮู้ดสีเทาดำ พวกเขารอกิแกโรที่หน้าบ้านเริ่มต้น เอเมอรัลพยายามหาแผงควบคุมตัวละครส่วนพยับหมอกเธอกำลังปั้นมนุษย์หิมะ ไม่นานกิแกโรก็มาถึง

พวกเขารับรู้ได้ทันทีเพราะใบหน้าและรูปร่างในเกมนี้แทบไม่ต่างจากในโลกความเป็นจริงเลย มีเพียงความแตกต่างของสีดวงตาและเส้นผม วานที่ปกติมีผมสีดำดวงตาสีฟ้าแต่กิแกโรมีผมและดวงตาของเขาสีดำสนิท หยกมีผมสีดำและดวงตาสีน้ำตาลเข้มแต่เอเมอรัลสีผมเปลี่ยนเป็นสีขาวมุกและตาสีเขียวพลอย ส่วนกันต์ที่ในโลกจริงย้อมผมเป็นสีบลอนด์ส่วนผมของพยับหมอกเป็นสีแดงเข้มและมีดวงตาสีทอง ทั้งสามผลัดกันหัวเราะกับสิ่งผิดปกติอันเล็กน้อยกับร่างในเกมของพวกเขา

หลังจากที่บูลลี่กันจนพอหอมปากหอมคอแล้วพวกเขาก็ตัดสินใจว่าควรจะเดินหน้าหาภารกิจจากชาวบ้านแถวนี้ดูก่อน กิแกโรจึงพาเอเมอรัลและพยับหมอกไปที่โรงเตี้ยม ถึงแม้ว่ากิแกโรจะเข้ามาเล่นก่อนเพื่อนของเขาแต่ว่าเขาก็ไม่เคยทำภารกิจในเกมนี้มาก่อนเช่นเดียวกันเลยทำให้การถามหาข้อมูลจากผู้ดูแลโรงเตี้ยมดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

"สวัสดีครับ" กิแกโรกล่าวทักทายผู้ดูแลโรงเตี้ยมที่กำลังเช็ดเคาน์เตอร์ เขาพยักหน้าตอบกลับ "คือว่าพวกเรากำลังหาภารกิจเพื่อที่จะได้รับค่าประสบการณ์ คุณพอมีอะไรแนะนำพวกเราบ้างไหมครับ" เอเมอรัลพูดประโยคที่สุภาพได้เป็นธรรมชาติอย่างน่าเหลือเชื่อ ผู้ดูแลโรงเตี้ยมหัวโล้นดูท่าจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด "พวกเธออยากจะทำภารกิจเพื่อหาค่าประสบการณ์ ฉันว่าฉันรู้จักคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากลุ่มนักผจญภัย และฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่ร่ำรวยเพราะงั้นผลตอบแทนอาจจะ..." *เขาทำมือเหมือนกำลังแบกถุงหนักๆที่มองไม่เห็น ซึ่งในจุดๆนี้พยับหมอกแทบจะกลั้นขำไม่อยู่ "แต่ก่อนอื่นพวกเธอต้องช่วยฉันก่อน"

ทั้งสามตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ผู้ดูแลหัวโล้นบอกให้พวกเขาลงไปกำจัดพวกหนูที่อยู่ในห้องเก็บไวน์ใต้ดิน เมื่อเดินลงบนไดโรงเตี้ยมมาพวกเขาก็ได้พบกับหนูยักษ์ขนาดเท่าเด็กหัดคลาน หนูหย่าย คือชื่อของพวกมัน

ก่อนที่จะเริ่มโจมตีกิแกโรได้แนะนำให้พวกเขาอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันเพื่อที่จะได้ง่ายเวลาแบ่งของรางวัลจากภารกิจต่างๆ และหลังจากแก่งแย่งชื่อและตำแหน่งหัวหน้าปาร์ตี้อยู่พักหนึ่ง กิแกโร เอเมอรัล และพยับหมอก ก็ได้อยู่ในปาร์ตี้ที่ชื่อว่า สามเกลอ โดยมีกิแกโรเป็นหัวหน้าปาร์ตี้(ผ่านกลไกการคัดเลือกสุดซับซ้อนที่เรียกว่าการ เป่า ยิง ฉุบ)

หลังจากอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ทำการโซ๊ยเกี๊ยวพวกหนูหย่ายนั่น เปิดฉากด้วยคาถาหมอกน้ำแข็งจากกิแกโรเพื่อลดความเร็วพวกมัน จากนั้นเอเมอรัลใช้ดาบสั้น(ทำมาจากไม้ที่แถมมากับชุดเริ่มต้น)จ้วงแทงใส่พวกหนูหย่าย พยับหมอกเอาหนักสติ๊ก(ขโมยมาจากชาวบ้านคนหนึ่ง)ไล่ยิงใส่พวกหนูหย่าย โดยรวมแล้วเป็นภาพที่สิ้นหวังพอสมควร

และในท้ายที่สุดก็เหลือหนูตัวสุดท้าย มันถูกซัดจนเหลือค่าพลังชีวิตแค่1 ด้วยความเบียวของทั้งสามจึงอยากปิดฉากมันอย่างเท่ที่สุด เอเมอรัลยกดาบขึ้นและคว้างมันออกไปอย่างสุดกำลังเพื่อปิดฉาก พยับหมอกเล็งหนังสติ๊กไปที่เพดานและยิงเพื่อให้มันเด้งไปทางหนูและปิดฉาก ส่วนกิแกโรร่ายคาถาลูกบอลเพลิงเพื่อปิดฉาก

ลูกกระสุนจากหนังสติ๊กเด้งจากเพดานไปโดนข้อเท้าของเอเมอรัลทำให้เขาเสียหลักและขว้างมีดพลาดเป้าไปโดนถังหมักไวน์จนน้ำสีม่วงเข้มและกลิ่นของแอลกอฮอล์ฟุ้งไปทั้งห้องใต้ดิน ...และลูกบอลไฟของกิแกโรก็จุดขึ้นมาพอดี

มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากใต้ถุนของโรงเตี้ยม

เป็นตี้ในฝันของใครหลายคน

Marlonpuff_vewcreators' thoughts