webnovel

แดนมนุษย์

เข้าไปใกล้ ๆ มีรอยเท้าของหมาป่ารอยนั้นลึกยิ่งนักเนื่องจากพื้นเป็นหิมะขาวโพลนไปหมด แต่กลับเป็นรอยเท้าเดิมนั้นที่วกกลับมาไปยังเส้นทางที่นำไปสู่ป่าทึบทางขวาหัวหน้าหมาป่าเดินไปยังทางขวาที่เป็นทางนำไปสู่ป่าทึบ

มีรอยเลือดหยดเล็ก ๆ ตรงใบไม้นี่ด้วย! ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็แทบจะมองไม่เห็นอีกทั้งยังเป็นกลิ่นของหมาป่า ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ไอปีศาจก็ยิ่งรุนแรงแสดงว่านางยังไปได้ไม่ไกล หมาป่าหัวหน้ายิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมน่าสะพรึงกลัว

"เจ้ากลับไปรายงานนายท่านแล้วขอกำลังเสริมมาช่วย เจ้าทั้งสองไปทางซ้าย ส่วนข้าจะไปทางขวา"

หัวหน้าสมุนสั่งการอย่างรอบคอบ ทุกตัวต่างแยกย้ายกันไปตามคำสั่ง

หึ! ครานี้แหละ ข้าจะจับเจ้าไปให้นายท่านให้จงได้!!!

ข้างฝ่ายสาวน้อยหมาป่าที่กำลังวิ่งตรงดิ่งไปยังทางเบื้องหน้าด้วยความมุ่งมั่น ภายในใจกลับกำลังยิ้มเยาะอย่างสาสมใจ

เส้นทางที่นางกำลังวิ่งอยู่นั้นมีแต่หิมะหนาเต็มพื้นทั่วพื้นที่มีแต่สีขาวสุดลูกหูลูกตาทำให้นางกลมกลืนไปกับหิมะจนแทบแยกไม่ออก หากจะเอ่ยว่าวิ่งก็ไม่เชิงเนื่องจากหิมะที่เหยียบย่ำลงไปนั้นจมลงไปกว่าครึ่งขาทำให้คล้ายจะต้องกระโดดอยู่กลาย ๆ ด้วยที่ว่านางนั้นยังไม่ช่ำชองในวิชาตัวเบานัก เท้าทั้งสี่นั้นชาจนสูญเสียความรู้สึกถึงแม้จะเยียบใส่หินแหลมใต้หิมะก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอันใดอีกแล้ว แผลลึกที่ขาหน้าเจอความเย็นจัดจากหิมะจนเลือดหยุดไหล ลมหนาวที่พัดเกล็ดหิมะล่องลอยมาเป็นระยะนั้นช่างดูสวยงามรื่นตานัก แต่ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวชื่นชมความสวยความงามของธรรมชาติรอบกาย

หลางเสวี่ยในร่างมนุษย์ล้มตัวลงใต้ต้นไม้ที่มีแต่กิ่งแห้งโกร๋น หอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนพลางเพ่งพิศไปยังทางที่นางเพิ่งทิ้งรอยเท้าเป็นหลุมลึกไว้ทว่าไม่นานหิมะที่ตกลงมาก็กลบรอยนั้นจนหมดสิ้น เบื้องหลังไม่มีใครตามมาทำให้นางโล่งใจมาเปลาะหนึ่ง ใบหน้าขาวนวลแผ่สีแดงจาง ๆ จมูกนั้นแดงแสบไปหมด ความหนาวที่พัดผ่านมานั้นเย็นจนแทบเข้ากระดูกดำ นางสะบัดไม้สะบัดมือเพื่อไล่ความเย็นที่แผ่ลามทั่วร่างกาย

พักจนหายเหนื่อยก็ต้องออกวิ่งต่อเหลียวมองไปรอบกายแทบจะไม่มีสัตว์สักตัวโผล่มาให้เห็น มีเพียงนกที่มาเกาะตามกิ่งไม้เพื่อพักแรงจากนั้นก็ต้องบินต่อไป บรรญากาศนั้นช่างสงบเงียบไร้สิ่งกวนใจ มีเสียงลมพัดหวีดหวิวแผ่วเบาฟังแล้วทำให้ใจที่ร้อนรนนั้นสงบลงโดยไม่รู้ตัว

หมาป่าร่างปราดเปรียวสีขาววิ่งไปตามสัญชาตญาณที่ไหลวนอยู่ในกาย ตอนนี้นางคิดเพียงว่าต้องออกจากแดนปีศาจให้ได้เสียก่อน การที่จะถูกพบตัวโดยง่ายนั้นก็จะลดลง

นางวิ่งต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ............….

หมาป่าสีน้ำตาลสองตัวทะยานบนพื้นหิมะด้วยความเร็วสูงพลางสังเกตไปรอบทิศสายตาควานหาร่างที่อาจจะเป็นคุณหนูหลางเสวี่ย ในขณะที่วิ่งกันอย่างอุตลุดนั้นหมาป่าตัวหนึ่งได้เอ่ยด้วยเสียงข้องใจ

"เจ้าว่าคุณหนูจะมาทางนี้หรือไม่?"

"ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า หัวหน้าสั่งมาเราก็ต้องทำตาม บางทีหัวหน้าอาจจะทราบเบาะแสอะไรก็เป็นได้"

"แต่ที่เราวิ่งมานั้นไม่พบแม้แต่รอยเท้าสัตว์สักตัว ไม่ต้องพูดถึงกลิ่นใดเลยตอนนี้จมูกข้าแข็งไปหมดแล้ว ยิ่งเปิดปากพูดแต่ละทีน้ำลายก็แทบจับตัวเป็นน้ำแข็ง" ไม่พูดเปล่ายังถ่มน้ำลายที่เป็นก้อนลงพื้นหิมะเบื้องล่าง

"งั้นเจ้าก็หุบปากเสีย"

หมาป่าทั้งสองวิ่งตรงไปในเส้นทางหนึ่งซึ่งบังเอิญเป็นเส้นทางเดียวกับที่หมาป่าตัวหนึ่งเพิ่งผ่านไป....

เดินทางมากว่าสองชั่วยาม ขาที่ถูกแช่อยู่ในหิมะนั้นแข็งจนด้านไปหมดแล้ว นางเหยียบผืนดินสีน้ำตาลอันแสนอบอุ่นด้วยความรู้สึกโล่งอก

นี่นางคงจะมาถึงแดนมนุษย์แล้วสินะ...….

มองไปรอบกาย ต้นไม้สูงใหญ่เด่นเป็นสง่าทอดเงายาวบดบังผืนดินให้มืดมิด เหล่าแมลงส่งเสียงหรีดหริ่งเรไรท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่เริ่มลาลับฟ้า ดูแล้วอ้างว้างวังเวงยิ่ง นางนั้นไม่เคยมาเยือนแดนมนุษย์เลยสักครา ได้ยินแค่เพียงคำเล่าขานที่ว่ามนุษย์โหดเหี้ยมอำมหิตทั้งยังเกลียดพวกปีศาจเข้าไส้ พบเห็นปีศาจคราใดเป็นต้องทำร้ายจนบาดเจ็บเจียนตายบางครั้งก็ตายไปเลยก็มี ทำให้มนุษย์และปีศาจไม่อาจอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้

ถ้าเช่นนั้นพวกสมุนของท่านอาคงไม่คิดหรอกว่านางจะพาตนเองมาเสี่ยงความตายในแดนมนุษย์เช่นนี้

ขานางเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาแล้ว นางย่างกรายเข้าไปในป่าอันมืดมิดด้วยจิตใจที่แน่วแน่ไม่หวั่นไหว

ท่ามกลางความมืดมิดในป่าใหญ่ที่เงยหน้าไปก็ไม่เห็นดวงดาวที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า กิ่งก้านสาขาของต้นไม้นั้นบังทัศนียภาพอันงดงามไปจนหมดสิ้น แต่ยังมีแสงสีน้ำเงินสดใสส่องประกายราวกับดวงดาวลอยคู่กันเคลื่อนคล้อยไปตามผืนดินดำมืด ช่างกระตุ้นความสงสัยให้แก่สิ่งมีชีวิตหนึ่งที่หมอบนอนอยู่บนกิ่งไม้อวบหนายิ่งนัก

หางยาวสะบัดพลิ้วอย่างสบายอุรา ดวงตาสีเหลืองจ้องตรงไปยังดวงดาราสีน้ำเงินสองดวงทั้งยังเงาตะคุ่มที่ย่างก้าวในถิ่นของตนโดดเดี่ยวอย่างไม่กลัวเกรง ดาวสีน้ำเงินหยุดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหายลับไปหลังต้นไม้ใหญ่ เสือดำตัวเขื่องผุดยืนขึ้นแล้วกระโจนไปยังกิ่งไม้ก้านใหญ่อีกต้นอย่างเงียบกริบ อุ้งเท้าที่ไร้สุ้มเสียงกับร่างสีดำเมี่ยมช่วยกลืนตัวมันให้รอดพ้นจากสายตาสัตว์ที่จะตกเป็นอาหารของมัน เจ้าเสือดำนั้นรู้ดีว่าคราใดที่มันหลบอยู่ในความมืดนั้น

ไม่มีสัตว์ตัวใดรอดชีวิตไปได้!

ร่างสีดำกระโดดลงพื้นดินไร้สุ้มเสียงแล้วย่องไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า เนื่องจากต้นไม้นั้นมีลำต้นที่สูงชะลูดแถมกิ่งแต่ละกิ่งก็สูงเกินกว่าที่จะกระโจนลงมาตะครุบเหยื่อได้ มันจึงเลือกที่จะย่องมาทางหลังต้นไม้ กลิ่นอายแปลกประหลาดลอยเข้าสู่โสตประสาท นี่มันสัตว์ชนิดใดกัน?

เห็นเงาตะคุ่มนั้นราวกับกำลังหมอบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เจ้าเหยื่อที่ตกจะเป็นอาหารอันโอชะของมันในค่ำคืนนี้ยังไม่รู้สึกตัว เจ้าเสือดำกระหยิ่มยิ้มย่องในใจจนระยะใกล้เข้ามา มันคำรามเสียงต่ำกระโจนเข้าใส่เงานั้นอย่างเกรี้ยวกราด เหยื่อผู้โชคร้ายนั้นกลับไม่หวาดผวาตกใจเลยสักนิด

ซวบ!....แทนที่จะเป็นเลือดสาดแต่กลับเป็นใบไม้แตกกระเจิงเข้าปากเจ้าเสือดำไปหลายใบทำให้มันต้องสำลักอย่างน่าอนาถ กิ่งไม้หนามแหลมนั้นทิ่มแทงผ่านเนื้อหนังของมันจนเลือดย้อมขนเหนอะหนะ ขณะที่กำลังพาตัวเองออกจากดงไม้หนามหูแว่วยินเสียงคำรามกร้าวคราหนึ่ง แหงนหน้ามองขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงชะลูดเห็นดวงตาสีน้ำเงินคู่หนึ่งทะยานลงมาพร้อมกับเขี้ยวเล็บที่ส่องประกายสะท้อนในความมืด

ฉึก!...….เขี้ยวคมกริบฝังลงบนคอของเจ้าเสืออย่างไม่ปราณีส่งผลให้เลือดสายหนึ่งกระฉูดออกมาราวกับน้ำพุ เจ้าเสือดำคลุ้มคลั่งเหวี่ยงร่างสีขาวให้พ้นจากตัว ยิ่งเหวี่ยงไปมามากเท่าไหร่ปากแผลยิ่งรั้งให้เลือดไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น ร่างสีดำดิ้นจนหลุดออกมาจากดงไม้หนามสำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากเขี้ยวที่จมลึกอยู่หลังคอตัวเองได้ มันสะบัดตัวไปมาเพื่อจะเหวี่ยงร่างสีขาวออกให้พ้นตัว แต่ร่างนั้นเกาะติดมันเหนียวแน่นเสียยิ่งกว่าตุ๊กแกเกาะต้นไม้ ทำให้ทำอย่างไรก็ไม่สามารถรอดออกจากเขี้ยวคมกริบนี้ได้

เจ้าเสือดำร่างใหญ่หันคอไปงับเข้าที่ขาหน้าของหมาป่าร่างเพียวสีขาวข้างที่บาดเจ็บพอดี เจ้าหมาป่าขาวครางเสียงต่ำด้วยความเจ็บ เจ้าเสือดำเห็นเช่นนั้นรีบเหวี่ยงร่างสีขาวที่แรงเริ่มคลายหลุดลอยละลิ่ว ทำให้หมาป่าสีขาวนั้นกลิ้งกับพื้นไปหลายตลบ

หมาป่าร่างเพรียวผุดลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วยืนสี่ขาแยกเขี้ยวขู่เตรียมรับมือ ฝ่ายเสือดำที่ร่างใหญ่โตกว่าถึงสองเท่าสะบัดคอไปมา ขู่คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว

หนึ่งขาวหนึ่งดำประจัญหน้ากันคนละฝั่งท่ามกลางความมืดและลมโหมรุนแรงยามราตรี ใบไม้ปลิวว่อนกระทบร่าง

ทั้งสองก้าวย่างเป็นวงกลมต่างฝ่ายต่างดูเชิงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สายตาไม่คลาดออกไปจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย จนกระทั่งจังหวะหนึ่งร่างสีดำกระโจนเข้าใส่ร่างสีขาวอย่างว่องไว ทว่าร่างสีขาวที่ควรเป็นหมาป่ากลับกลายเป็นมนุษย์สตรีคนหนึ่งที่ยืนนิ่งด้วยสายตาเย็นชา เจ้าเสือดำผวาเฮือกในใจครู่หนึ่งกลางอากาศพลันรู้สึกถึงไอสังหารบางอย่างที่พุ่งเข้ามาเห็นดวงหน้างดงามดวงตาสีน้ำเงินสดใสถูกย้อมด้วยสีแดงดุจเลือดมุมปากยกขึ้นน้อย ๆ ดูเลือดเย็นราวกับปีศาจ

เจ้าเสือดำเริ่มรับรู้ถึงอันตรายแต่ช้าไปเสียแล้ว กระบี่สีขาวกระจ่างทอแสงคมกล้าถูกวาดขึ้นและฟันฉับลงอย่างรวดเร็ว เสือดำร่างขาดเป็นสองท่อนตายในกระบี่เดียว!!

ปีศาจหมาป่ายังคงมีสีหน้าแน่นิ่งกับเลือดที่สาดกระเซ็นเปรอะใบหน้างาม นางหันมามองร่างที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่อนช้า ๆ แววตากลับคืนเป็นสีน้ำเงินเย็นเยียบเช่นเดิม

นางแปลงกายกลับเป็นหมาป่าแล้วกัดกินอาหารที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความหิวกระหายทำให้นางไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนปิดปากเบิกตาโพลงด้วยความหวาดกลัว กระทั่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งทนยืนดูภาพที่ปรากฎแก่สายตาตรงหน้าไม่ไหวทำให้เป็นลมล้มพับไปก่อให้เกิดเสียงดังขึ้น คนที่เหลือต่างขนทั้งร่างลุกชันเสียวสันหลังวาบนิ่งค้างอยู่กับที่

ซวยแล้ว!!

แน่นอนว่าเสียงนั้นย่อมไม่อาจรอดพ้นหูของปีศาจหมาป่าไปได้ มันเอียงคอไปมองกลุ่มคนที่ยืนแข็งทื่ออยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่คนกลุ่มนั้นกลับไม่เห็นเช่นนั้น ดวงตาเย็นเยียบสีน้ำเงิน เลือดสด ๆ ที่ยังไหลมาตามเขี้ยวแหลมคม และไหลหยดตามขนสีขาวนั้นดูแล้วหวาดกลัวจนสติแตกกระเจิง

"ปีศาจจจจจจจจจ!!!!!!!!"

Next chapter