ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงสถานการณ์โดยรวม ที่อลิเซียพูดมาก็ไม่ผิดเสียที่เดียว ระดับฝืมือของโจ็กเกอร์ มันไม่ใช่ว่าใครคิดจะทำลายก็ทำลายได้ เขาคนนั้นมันปรากฏตัวมาจากเงามืด เดินทางมาจากดินแดนที่อยู่ท่ามกลางดวงดาว จะทำลายเพลิงของคำสาปที่สุกสกาว ตัวประหลาดอย่างพวกแอสการ์ดที่มีแขนขายาว มีประสิทธิภาพเชิงพลังงานสูงอย่างเหลือเชื่อ และสามารถเรืองแสงในความมืดมิดอออกมาทางดวงตาได้ดวงตาของชาวแอสการดนั้นมันจ้องมองไปเหมือนกับว่าเป็นดวงตะวัน ใครคนนั้นมันปรากฏตัวมาจากความมืด สาบานตัวมาว่าจะไม่อ่อนแออีกต่อไป ถึงหนทางข้างหน้าจะเป็นความมืดหรือหายนะได้ ปรากฏตัวมานั้นเพื่อความยิ่งใหญ่ที่แฝงตัวในหนทาง อวกาศนั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางขั้นต่ำก็หลายหมื่นปีแสง ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันเกินกว่าว่าจะ
ทำลายผู้ปรากฏตัวมานั้นมันสุดไขว่คว้า ร่างของทอร์ที่อยู่กับโจ็กเกอร์ก้เอ่ยคำพูดออกมา พร้อมกับที่ชายผมสีแดงใต้ชุดเกราะประหลาดได้นั่งลง"ไอ้ที่มนุษย์เรียกว่าววิทยาศาสตร์ เดิมที่ก็มาจากการลองผิดลองถูกนั่นละ พอองค์ความรู้สะสมมากขึ้น รู้ว่าทำอะไรแล้วจะได้ผลตอบแทนของการกระทำเป็นอย่างไร ผลลัพธ์ของการลองผิดลองถูกเลยไม่คุ้มค่า" ชายชาวแอสการ์ดพูด ก่อนจะเปิดกระป๋องของถั่วหมักออกมา่กินอย่างรวดเร็ว ผู้ปรากฏตัวมาในเวลานี้นั้นสาบานใว้แล้วว่าจะไม่อ่อนแอ คนอย่างเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อพ่ายแพ้ สาบานกับใครคนหนึ่งที่มาจากฟ้าด้านบนใว้แล้ว ว่าจะไม่อ่อนแอ หรือหลั่งน้ำตา จะวิจัยเชึ้อโรค ยาพิษ หรือแรงดัน ชาวแอสการ์ด จะเดินทาง
ไปนั้นจนกว่าความจริงจะปรากฏ" ตกลงเรื่องที่อยู่ๆ มอบระบบที่เพิ่มพลังงานสะสมให้กับมนุษย์นี่ก็ผลงานพวกคุณรึ" วีรบุรุษร่างสูงที่กายเป็นกล้ามมัดๆ ส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยคำพูดกับชายผมสีดำ ตาสีเขียว" ดูเหมือนทางนั้นมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกมาก ชาวแอสการ์ดเราไม่ใช่ตัวตนประเภทนั้น" เจ้าชายแห่งแอสการ์ดเอ่ยคำพูดทำลายความเงียบขึ้น สีหน้าของเขานั้นแม้สงบนิ่งเหมือนกลางคืน" เราก็แค่ส่งเสริมให้เกิดการคัดเลือก" การคัดเลือกงั้นรึ ชายผู้ถูกเรียกว่าโจ็กเกอร์ชักสีหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วท่าทีของเขามันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ปรากฏตัวมาจากความมืดเป็นหนึ่งไม่มีสอง เดินทางมาจากดินแดนปีศาจนั้นมันเป็นที่สุด ปรากฏตัวมาไม่อ่อนแอและไม่ทรุดต่อหน้าศัตรูใด คำทำนายหรือโชคชะตา
ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความในใจ วีรบุรุษคนหนึ่งจะเดินทางไปไม่คืนมา หมอนั้นมันถึงจะท้าทายความมืดสักกี่ครั้ง จะเดินทางไปตามสายตาที่เพรียกหา ร่างอวตารนั้นมันปรากฏตัวมาไม่คืนมา ขอสาบานมาว่าคนอย่างข้ามันจะไม่หวนกลับไป จะไม่ขออ่อนแออีกเป็นครั้งที่สอง จะไม่ยอมให้หยดเลือดนองทำลายซึ่งความกล้า ควาเปลี่ยนแปลงในที่สุดจะหวนคืนมา ทำลายและเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง" โจ็กเกอร์ที่มีดวงตาสีเขียว แต่กลับมีใบหน้างดงามได้รูป เอ่ยคำพูดออกมาต่อหน้าชาวแอสการ์ดตรงหน้าอย่างไม่กลัวเกรง ปรากฏตัวมาในเวลานี้มันเหมือนกับบทเพลง บทเพลงที่จะบรรเลงไปเพื่อให้ใครคนหนึ่งไม่คืนมา" คนอย่างคุณถือว่ามีฝืมือในระดับที่ไม่ธรรมดา และทางตัวผมก็นับถือคนมีฝืมืออย่างนี้เป็นอย่างมาก" โจ็กเกอร์พยายามอธิบายสถานการณ์ให้ชัดเจน
"แต่ไอ้การทำตัวลับๆล่อๆ ส่งคนของตัวเองมาแฝงตัวกับมนุษย์ โดยอ้างว่ามาเก็บข้อมูล แต่พฤติกรรมเหมือนกับว่าจะให้คนทั้งโลกยอมหมอบราบคาบแก้วนี่มันไม่เกินไปหน่อยรึ" ชายคนนั้นมันยังคงมีสีหน้าที่นิ่งสงบ นิ่งสงบจนเกินไป เหมือนกับว่าเป็นท้องทะเลที่ถูกทำให้หลับไหล ปรากฏตัวมาเพื่อไม่ให้ใครสามารถทำลายได้ เดินทางมาจากความมืดเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ปรากฏตัวมาจากดินแดนอันไร้วิญญาน เดินทางผ่านพ้นสายหมอกของเหล่ามารที่ลวงตา ไม่สามารถถูกทำลายหรือว่าถูกสยบ จะขอผ่านความมืดเพื่อพบกับกาลเวลาอันยิ่งใหญ่ ใครคนนั้นมันจะปรากฏตัวออกมาจากม่านหมอกที่กลืนกินดวงดาวอันแสนใกล เดินทางมาจากความดับสูญใงที่ไม่กลับมา ร่างสูงร่วมเจ็ดฟุตสี่นิ้วส่ายหัว" คุณเองก็ควรรู้ตัวใว้สองเรื่องนะ เรื่องแรกนะคือทางนั้นนะถูกมัดอยู่" ชาวแอสการ์ดผู้ทรงพลังเอ่ยคำพูดขึ้น ก่อนจะตักถั่วหมักเข้าสู่ปากของตนอย่างสบายใจ" ส่วนเรื่องที่สอง"
"ชาวแอสการ์ดเราไม่ได้เป็นคนแจกเลเวล หรือการกลายพันธ์มายังโลกมนุษย์หรอกนะ""ไม่ใช่พวกคุณแล้วจะเป็นใคร อยู่ๆไอ้ดาวเทียมอาบรังสีกับนาโนแมชชันมันปรากฏตัวมาจากความว่างเปล่าไม่ได้หรอกนะ" ร่างของเจ้าชายชาวแอสการ์ดหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังไปแล้วแฝงใว้ด้วยความน่ากลัวในระดับที่ไม่ธรรมดา ปรากฏตัวมาจากความมืดไม่คืนมา เดินทางมาจากหมอกมายาไม่สามารถหวนกลับไป ใครคนนั้นมันเหมือนกับว่าผ่านพ้นอะไรมาเยอะ"ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่าเข้าใจว่าชาวแอสการ์ดเราเป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มาทีดาวคุณนะสิ" บอกตามตรงว่าถ้าทางเราจะฆ่าคุณนะฆ่าได้ไปนานแล้ว พลังควบคุมเงินกับทองคำนะมีประโยชน์มาก และประยุกต์ใช้ได้หลากหลายอันนี้ก็ยอมรับ แต่พลัีงกายกับคอมเขติของพลังปลดปล่อยมันยังต่างกันเกินไป" ทอร์เอ่ย พลางวางกระป๋องถั่วหมักลง
"ไอ้ที่อยู่ในร่างสโนว์ควีนคืออะไร ปฏิสสารรึ" ร่างนั้นเอ่ยคำพูดถามบุรุษผมแดงที่ยืนหยั่ดอย่างไม่เกรงกลัว ร่างกายมีบาดแผลในอดีต แต่ก็รักษาจนหายดีแล้วเป็นส่วนใหญ่ มีแค่มนุษย์ที่ยังไม่ได้ผ่านพ้นขอบเขติเดิเท่านั้น ที่จะยังมีปัญหากับรอยแผลเป็นประเภทนั้นอยู่ สายตานั้นมันบอกมาว่าใครคนหนึ่งปรากฏตัวมาเป็นวีรชนที่ไร้ความกลัว ไม่หวั่นเกรงหรือล่าถอยต่อหน้าหมอกมัวที่จะกัดกินผู้คน ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันไม่หม่นหมองต่อสื่งใด ไม่อ่อนแอและไม่พ่ายแพ้หรือถอยกลับ ปรากฏตัวมาไม่ลาลับด้วยฝืมือของใคร จะทำลายคำสาปของใครต่อใคร จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่มีไปด้วยสุดกำลังที่มี ถ้าใช้ฝืมือและความพยายามอย่างเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจหรือหลั่งน้ำตาในภายหลัง ชายผู้ทรงพลังคิดเช่นนี้ ฟันในปากมีขนาดใหญ่กว่าฟันของ
มนุษย์ปกติ ขากรรไกรที่มีนั้นมันแข็งแกร่ง ออกแบบมาใว้ใช้งานในการบดอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาคนนั้นมันมองภายนอกอาจดูประหลาด แต่ที่ปรากฏตัวมาในเวลานี้แท้จริงมันคือความร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง เดินทางมาผ่านพ้นความมืดมิด ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่ไร้จิตวิญญานไม่เปลี่ยนแปลง ปรากฏตัวมาจากความร้ายกาจอันเป็นที่สุด เดินทางมาพ้นความมืดไม่ทรุดไม่เปลี่ยนแปลง เดินทางมาพ้นความเจ็บปวดจากดินแดนที่ไร้แสง ปรากฏตัวมาไม่อ่อนแอหรือยอมเปลี่ยนแปลงต่อผู้ใด เดินทางมาผ่านพ้นดวงดาวแห่งความมืด ปรากฏตัวมาทางอวกาศผ่านทางยานขนาดใหญ่ ใช้งานปฏิสสารเป็นแหล่งพลังงานใง ยานขนาดใหญ่คือที่อาศัยของผู้ข้าม
ดวงดาว ปรากฏตัวมาจากอวกาศไม่เปลี่ยนแปลง ใครคนนั้นเดินทางมาจากความมืดนั้นมันไร้ที่มา ปรากฏตัวมาจากแดนแดนแห่งความตายไม่คืนมา จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาด้วยตัวเอง ที่อยู่บนดาวแอสการ์ดนั้นมันเป็นผู้วิวัฒนาการต่างออกไป แววตานั้นมันบอกมาว่าใครต่อใครไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายมาเหมือยกับว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง พวกสีปีชีส์นั้นกำเนิดมาหลายพันปี พวกเขาวิวัฒนาการให้มีมือที่ใช้จับข้าวของได้อย่างคล่องแคล่ววิวัฒนาการใช้ภาษาที่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพในการสื่อสาร มาอายุขัยที่ยืนยาวพอที่จะสืบทอดการปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นสู่รุ่น ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันเกินกว่าว่าจะถูกทำลายด้วยกำลังของผู้ใดถึงจะเป็นตัวตน
ที่ใครต่อใครมองว่าแปลกประหลาด ถึงจะไม่ได้วิวัฒนาการขึ้นมาในฐานะผู้ที่ถูกเลือกนี้ ตัวข้าจะขอต่อสู้กับความสิ้นหวังด้วยสุดกำลังที่มี ปรากฏตัวมานี้เหมมือนกับว่าเขาคนนี้มันจะไม่คืนมา แววตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะสามารถย่อยร่างจนสลาย ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าจะไม่ถูกฝังด้วยความแค้น ปรากฏตัวมาเพื่อจะนำพาการเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวง เขาคนนั้นมันคือผู้ที่จะเดินทางมาจากดินแดนที่เลวร้ายไม่หวนคืนมา ปรากฏตัวมาจากเงามืดนั้นมันไม่ใช่เพียงหนึ่ง พืชโครงสร้างง่ายๆจากอวกาศดูดคาร์บอนไป พวกฟีนิกซ์อวกาศที่มีร่างกายบใหญ่โตไม้แพ้่เครื่องบินขนาดยักษ์กำลังโบยบินอยู่ระหว่างดวงดาว ความหิวโหยที่ไม่สิ้นสุด แต่นับวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของเผ่าพันธ์นี้ มันทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมันบินมาข้ามดวงดาวอย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวมานั้นมันเหมือนกับว่าเดินทางมาจากเงามืดนั้นมันไม่มีทางจะดับสูญไปง่ายๆ เป็นอันขาด จนกว่าวิวัฒนาการจะไปถึงที่สุด จะไม่อ่อนแออีกเป็นครั้งที่สอง