webnovel

Risk To Live : พิชิตนรกกู้โลก

Author: E_R_Wolve
Fantasy
Ongoing · 17.9K Views
  • 20 Chs
    Content
  • ratings
  • NO.200+
    SUPPORT
Synopsis

วี หรือ ทวีโชค เด็กหนุ่มอายุสิบแปดเป็นผู้ถูกเลือกในบททดสอบของพระเจ้า ที่มีรางวัลเป็นการมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าล้มเหลวประเทศชาติและประชาชนทั้งหมดจะพบกับกาลอวสาน แถมผู้ถูกเลือกก่อนหน้าถึงห้ารุ่นก็ล้มเหลวและตายไปอย่างน่าผิดหวัง ซ้ำร้ายเวลาที่เหลืออยู่ก่อนวันพิพากษาก็มีแค่หกเดือน ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็มีแต่ความสิ้นหวัง แต่เด็กหนุ่มเลือกที่จะเข้ารับการทดสอบนี้ เพราะระบบที่พระเจ้ามอบให้นั้น มอบพลังอำนาจที่ไม่เคยคาดฝันมาให้เขาด้วย

Chapter 1บทนำ

โลกเปลี่ยนไปแล้ว ความสงบสุขหายไปเหลือไว้เพียงความสิ้นหวัง ที่แม้จะมีคนบอกให้หาหนทางเอาชีวิตรอด และมีความหวังในวันพรุ่งนี้ แต่ความจริงก็โหดร้ายเสมอโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่เคยเตรียมใจยอมรับมัน

และผมเองก็เป็นหนึ่งในหลายร้อยล้านชีวิตที่ไม่ทันได้เตรียมใจ ความจริงอันโหดร้ายก็ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง เริ่มตั้งแต่เรื่องที่ฟังดูเหมือนจะไม่ค่อยสำคัญสำหรับใครหลายคน แต่มันสำคัญกับผมอย่างเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ผมชื่อ ทวีโชค ใจงาม คนไทยโดยกำเนิดและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กับครอบครัวสามชีวิต โดยพ่อกับแม่เป็นพนักงานกินเดือนของบริษัทเอกชนธรรมดา ทำให้รายได้มีไม่มากนัก และไม่สามารถจ่ายค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเอกชนได้

ส่วนสาเหตุก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เป็นเพราะผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลไม่ผ่าน แถมมหาวิทยาลัยที่เปิดรับโดยไม่ต้องสอบผมก็ไม่อยากเข้า ทำให้ต้องตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อสอบใหม่ในปีหน้า

แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นเปิดหนังสือ โลกก็พบกับหายนะครั้งใหญ่ และต้นเหตุก็มาจากตัวตนที่เรียกตัวเองเป็นพระเจ้าเสียด้วย ซึ่งในทีแรกไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งได้พบกับพลังอำนาจที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ มนุษย์ทุกคนบนโลกถึงได้ยอมสยบ

แล้วถ้าถามว่าพระเจ้ามาทำอะไรในตอนที่เทคโนโลยีก้าวหน้าจนออกไปในอวกาศได้แล้วนั้น คำตอบก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แถมยังเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนต้องเคยผ่านหูผ่านตามาแทบทุกคน โดยเฉพาะคนที่นับถือศาสนา

วันพิพากษา วันล้างโลก วันโลกาวินาศ หรือจะวันอะไรก็แล้วแต่ที่มีบันทึกไว้ในทุกศาสนา ว่าเป็นวันที่มนุษย์ทุกคนจะถูกตัดสินพร้อมกับการล้มสลายของอารยธรรม และวันที่ว่าก็มาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว

-ท่านได้รับการฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้ว-

เสียงสังเคราะห์ดังขึ้นพร้อมกับหน้าต่างสีฟ้าใสลอยเด่นอยู่เบื้องหน้าผม ทำให้ผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหลังจากกำจัด หนอนชาเขียว ไปเกือบยี่สิบตัวลุกขึ้นตรวจดูบาดแผลของตัวเอง

"หายดีแล้วแฮะ ไอ้ทักษะ ฟื้นฟูขั้นต้น นี่มันดีจริงๆ คุ้มค่าที่เอาแต้มทักษะไปแลกมา"

ผมได้รับภารกิจจากระบบให้กำจัดสัตว์มายาเป้าหมายในจำนวนที่กำหนด ซึ่งหนอนชาเขียวที่ว่าก็คือหนอนตัวอ้วนขนาดใหญ่เท่าท่อนขา แถมยังพ่นน้ำลายที่เป็นกรดใส่ศัตรูได้ด้วย และด้วยความประมาทมันก็ทำให้ผมได้แผลตามแขนขา

แต่ยังดีที่ผมเก็บแต้มทักษะเอาไว้ ที่ถึงแต้มเริ่มต้นจะมีแค่ร้อยแต้ม และคนที่ถูกเลือกให้เข้าสู่ระบบของพระเจ้า มักจะเลือกทักษะสายต่อสู้หรือป้องกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมก็คิดว่าการเลือกทักษะนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

เพราะแต้มหนึ่งร้อยหน่วยสามารถแลกทักษะเริ่มต้นได้แค่อย่างเดียว การเลือกอย่างรอบคอบจึงจำเป็น โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ตัวแทนประเทศไทยล้มเหลวในการพิชิตบททดสอบของพระเจ้ามาถึงห้าครั้ง

"เป้าหมายของภารกิจที่ระบบให้มาคือห้าสิบตัว แต่ดูยังไงมันเยอะไปสำหรับมือใหม่นะ หรือเพราะเรามีทักษะขี้โกงฟระ"

ผมบ่นหลังจากเรียกดูหน้าต่างสถานะภารกิจจากระบบ ซึ่งตัวเลขเป้าหมายที่ต้องกำจัดยังเหลืออีกสามสิบสองตัว แล้วในตอนนี้ผมมีเลเวลอยู่ที่ห้า และเป้าหมายในวันแรกของการเป็นผู้ถูกเลือกของผมคือไปให้ถึงเลเวลสิบ

โดยสถานที่ในตอนนี้เป็นเหมือนมิติที่พระเจ้าสร้างขึ้น เพื่อใช้สำหรับฝึกฝนผู้ถูกเลือก จะเรียกว่ามิติฝึกหัดก็คงได้ แล้วสัตว์มายาในพื้นที่ก็จะเป็นคู่ต่อสู้ให้คุ้นชินก่อนจะเจอของจริง

เนื่องจากพระเจ้ายังดูเหมือนจะมีเมตตาให้กับมนุษย์ชาติอยู่ ด้วยการให้บททดสอบแห่งความอยู่รอดมาก่อนลงมือล้างโลก ซึ่งบททดสอบที่ว่าก็คือการ พิชิตหุบเหวลึกที่ปรากฏขึ้นใจกลางเมืองหลวงของทุกประเทศ

และหากประเทศไหนทำสำเร็จก็จะได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่หากล้มเหลวก็จะถูกลบหายไปจากโลกใบนี้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเมืองที่สาบสูญในตำนานต่างๆ อย่างเช่นเมืองแอตแลนติส หรือหอคอยบาบิโลน

ซึ่งแน่นอนว่าพระเจ้าไม่ได้ใจดีที่จะยอมให้ใครก็ได้เข้าไปพิชิตหุบเหวนั่น เพราะจะมีแต่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าสู่บททดสอบได้ และสิ่งที่ใช้จำแนกก็คือ ระบบที่พระเจ้าสร้างขึ้น

โดยระบบดังกล่าวจะสนับสนุนผู้ถูกเลือกในหลายๆด้าน ทั้งเพิ่มความสามารถด้วยระบบเลเวลและแต้มทักษะ การมอบหมายภารกิจประจำวัน รวมถึงการสนับสนุนด้านข้อมูล อย่างที่ผมกำลังใช้อยู่ตอนนี้

"หนอนชาเขียวที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปสองร้อยเมตรสินะ"

ผมเดินตรงไปยังเป้าหมายโดยเปิดดูแผนที่จากระบบไปด้วย แล้วรู้สึกว่ามันจะมีทักษะที่ใช้พัฒนาแผนที่ของระบบได้ด้วย แต่กว่าผมจะมีทักษะแบบนั้นได้น่าจะต้องรอจนเลเวลสูงกว่านี้ก่อน เพราะแต้มทักษะจะได้มาเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้น

แต่การเพิ่มหนึ่งเลเวลจะได้แต้มแค่สิบหน่วย ดังนั้นกว่าจะได้แต้มพอแลกทักษะก็ต้องรอถึงเลเวลสิบเป็นอย่างน้อย แถมทักษะระดับที่สูงกว่าขั้นต้นยังใช้แต้มมากกว่าร้อยหน่วย ทำให้การเลือกทักษะต้องรอบคอบเป็นอย่างมาก

"เจอแล้ว"

ฉึก

กี๊ซ

ผมแทงมีดทำครัวยาวสิบนิ้วลงบนหัวของหนอนชาเขียวจนมิดด้าม ก่อนที่ดึงออกมาพร้อมกับมีแสงสีฟ้าที่เหมือนไฟฟ้าสถิตห่อหุ้มอยู่ และนี่คือสาเหตุที่มีดทำครัวธรรมดาสามารถสังหารสัตว์มายาได้

ด้วยความสามารถควบคุมประจุไฟฟ้าในร่างกาย ทำให้ผมใช้มันเพิ่มพลังโจมตีให้กับสิ่งที่ถืออยู่ได้ และมันยังทำได้มากกว่านี้อีกหลายอย่าง เพียงแต่ค่าตอบแทนของความสามารถนี้ก็คือ ทุกครั้งที่ใช้สมองของผมจะได้รับความเสียหาย

และความสามารถนี้ไม่ใช่ทักษะที่ได้มาจากระบบ แต่มันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของผมเอง ซึ่งถ้าจะให้เรียกง่ายๆ มันก็คือพลังจิตของผม ที่รู้สึกจะเรียกด้วยภาษาอังกฤษเท่ๆว่า อิเล็กโทรคิเนซิส

นั่นหมายความว่าผมเป็นผู้มีพลังจิต และผมเป็นแบบนี้ก่อนพระเจ้าจะมาพิพากษาโลกแล้ว แต่ก่อนหน้านี้พลังจิตของผมไม่ได้แข็งแกร่งอะไร ทำได้อย่างมากแค่สร้างไฟฟ้าสถิตที่มีพลังระดับต่ำ ที่ทำให้ขนลุกตั้งชันเท่านั้นเอง

แต่พอผมได้รับระบบมาจากพระเจ้าแล้วกลายเป็นผู้ถูกเลือก ระดับพลังจิตของผมก็สูงขึ้นจนสามารถใช้ในการต่อสู้ได้ แต่ก็แลกมาด้วยอาหารบาดเจ็บของสมอง ดังนั้นผมจึงเลือกทักษะฟื้นฟู เพราะมันจะทำให้ผมใช้พลังจิตได้อย่างไร้ปัญหา

-ท่านทำภารกิจ กำจัดหนอนชาเขียว ห้าสิบตัวสำเร็จ ได้รับดาบหนอนชาเขียวเป็นรางวัล-

ผมได้รับดาบหน้าตาปัญญาอ่อนที่มีด้ามจับเป็นตัวหนอนอ้วนสีเขียว ที่ถึงมันจะจับเหมาะมือดี แต่ให้ใช้สู้ตลอดไปคงไม่ไหว ดังนั้นก็ขอใช้จนกว่าจะได้ของที่ดีกว่ามาแล้วกัน

"เปิดค่าสถานะ"

ผู้ถูกเลือก เลเวล 7

ชื่อ ทวีโชค ใจงาม

สัญชาติ ไทย

พลังชีวิต 100 พลังเวท 10

ความแข็งแกร่ง 10 ความอดทน 15

ความว่องไว 8 ความแม่นยำ 7

พลังโจมตี 5 (+11) พลังป้องกัน 30

แต้มทักษะ 70

แล้วหน้าจอสีฟ้าใสก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับรายละเอียดต่างๆเหมือนเกมแทบทุกอย่าง ตั้งแต่เลเวล ชื่อ สัญชาติ ค่าพลังชีวิต ค่าพลังเวท แล้วก็ค่าสถานะต่างๆอีกหลายอย่าง เพียงแต่การเพิ่มค่าเหล่านี้ไม่ได้เหมือนเกม

ที่แค่เลเวลเพิ่มขึ้นค่าสถานะก็ขึ้นตาม หรือมีแต้มให้ใช้เพิ่มได้ง่ายๆ แต่การเพิ่มค่าสถานะจำเป็นต้องใช้การฝึกฝน และการฝึกฝนจำเป็นต้องใช้เวลา ทว่าเวลาเป็นสิ่งเดียวที่มนุษย์เหลือน้อยเต็มที

"หกเดือน ถ้าบอกว่าเป็นระยะเวลาที่จะต้องฝึกฝนแล้วไปกู้โลก ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็ไม่น่าจะพอ แต่ถึงจะมีเวลาหนึ่งปีเต็มตามที่พระเจ้ากำหนดมาแต่แรกมันก็น้อยไปอยู่ดี"

ผมบ่นกับตัวเองหลังจากต้องมาแบกรับภาระแสนหนักอึ้งอย่างการกอบกู้โลก ที่ตอนแรกพระเจ้าให้เวลาหนึ่งปีสำหรับการพิชิตบททดสอบ แต่ไม่ว่าจะชาติไหนก็ทำไม่สำเร็จสักที แถมยังสูญเสียผู้ถูกเลือกรุ่นก่อนๆไปจนหมดอีก

ทำให้ตอนนี้บรรดาผู้ถูกเลือกเป็นรุ่นที่สองที่สามไปเกือบหมดทุกชนชาติแล้ว แถมประเทศไทยยังเป็นรุ่นที่หกแล้วด้วย เลยทำให้ความหวังของทุกคนช่างเลือนลางเหลือเกิน

เท่านั้นยังไม่พอ เหมือนกับสันดานด้านมืดของมนุษย์จะแสดงออกมาในยามวิกฤต ที่ผู้ถูกเลือกบางคนเลือกที่จะใช้ความสามารถจากระบบของพระเจ้าหาความสุขใส่ตัวก่อนจะตาย

ส่งผลให้ผู้ถูกเลือกคนอื่นที่ยังมีสามัญสำนึกทนไม่ไหวจนต้องออกมากำจัดให้หายไปจากโลกนี้ก่อนกำหนด แล้วหลังจากนั้นสังคมมนุษย์ก็เริ่มวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ จนชักกลัวว่าจะล้มสลายไปเองซะด้วยซ้ำ

"เฮ้อ คิดไร้สาระไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เก็บเลเวลต่อดีกว่า"

ผมถือดาบหนอนชาเขียวเดินลึกเข้าไปในพื้นที่ฝึกหัด ที่ดูยังไงมันก็คือป่าดงดิบชัดๆ แถมดูเหมือนจะไม่ใช่ป่าธรรมดาเสียด้วย เพราะมันมีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนหลุดมาจากนิทานปรัมปรามากมาย

แถมในแผนที่ของระบบยังยืนยันสิ่งที่คิดไว้ว่าถูกต้องอีกด้วย แต่พระเจ้านี่ก็นิสัยขี้เล่นกว่าที่คิดแฮะ ถึงขนาดสร้างมิติที่ถอดแบบมาจากความเชื่อของคนตามวัฒนธรรมและเชื้อชาติเนี่ย

-ท่านเข้าสู่พื้นที่ป่าหิมพานต์-

"ขออย่าให้มีตัวอะไรโหดๆ โผล่มาแต่แรกเหมือนนิยายเลยนะ"

ผมเดินเข้าป่าอย่างกล้าๆกลัวๆ โดยมือขวาถือดาบหนอนชาเขียว ส่วนมือซ้ายก็ถือมีดทำครัวที่ซื้อมาจากแถวบ้านในราคาไม่กี่บาท แถมตอนนี้ยังมีดาบที่สมเป็นอาวุธแล้วด้วย เลยอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว

แต่ผมถูกสอนให้ใช้ของอย่างรู้คุณค่า ดังนั้นจะให้ทิ้งไปเฉยๆมันก็ทำไม่ลง อย่างน้อยก็อยากได้สถานการณ์ที่ต้องใช้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมันก็ไม่แน่ว่ามีดทำครัวนี่อาจจะช่วยชีวิตผมได้สักครั้ง

"จะว่าไป มันมีท่าไม้ตายในการ์ตูนที่อยากลองใช้อยู่เหมือนกัน แต่กลัวว่าใช้ตอนนี้สมองจะสุกซะก่อน ไว้รอได้ทักษะใหม่ค่อยลองละกัน"

-ท่านได้รับภารกิจ กำจัด กบิลปักษาวัยเยาว์ จำนวนห้าตัว-

แล้วระบบก็แสดงภาพของเป้าหมายให้เห็น ว่ามันคือลิงมีปีก หรือเรียกว่าลิงผสมนกก็คงได้ เพราะท่อนล่างมันเป็นเท้านกแถมมีหางเหมือนนกอีก แต่ปัญหาคือไอ้ตัวแบบนี้มันต้องบินได้ แล้วจะให้ล่ายังไงในเมื่อไม่มีอาวุธยิง

"อย่าบอกนะว่าพระเจ้าได้ยินความคิดของผมน่ะ"

ผมอุทานหลังจากคิดถึงวิธีล่าศัตรูที่บินได้ออกหนึ่งอย่าง แถมวิธีนี้ยังต้องใช้มีดทำครัวเป็นหลักอีกด้วย จนมันเหมือนกับว่าพระเจ้ามอบภารกิจนี้มาให้ เพื่อตอบสนองความต้องของผมยังไงชอบกล

"เอาวะ ไหนๆก็ได้ภารกิจมาแล้ว ลองลุยกันสักตั้ง"

แล้วผมก็อาศัยแผนที่ในการหาเป้าหมาย ก่อนจะรีบวิ่งออกจากป่าแทบไม่ทัน เพราะจุดที่แผนที่พาไปนั้น มันเป็นรังของพวกลิงครึ่งนก ที่มีตั้งแต่ตัวลูกจนถึงตัวพ่อแม่ ที่ต่อให้มีเลเวลมากกว่านี้สักสิบเลเวลก็ไม่น่าจะรอดหากฝ่าเข้าไปกลางรัง

"สงสัยต้องหาตัวที่หลงฝูงเอา"

ผมเดินวนเวียนเข้าๆออกๆป่าหิมพานต์เพื่อตามหาเป้าหมายที่อยู่ตัวเดียว แต่หายังไงก็ไม่เจอสักทีจนแทบจะถอดใจ แต่ในระหว่างที่กำลังคิดหาทางออกกับภารกิจที่ได้รับมา โอกาสก็มาหาถึงที่

ลิงครึ่งนกที่ระบบเรียกว่ากบิลปักษาตัวหนึ่งกำลังบินเล่นออกห่างจากฝูงของตัวเอง และดูจะเป็นตัวเด็กที่เป็นเป้าหมายพอดี ดังนั้นเมื่อโอกาสมาถึงแบบนี้แล้ว เรื่องอะไรจะปล่อยให้หลุดมือ

ผมเสียบดาบหนอนชาเขียวไว้กับเข็มขัดก่อนจะเปลี่ยนไปถือมีดทำครัวที่มือขวา ก่อนจะใช้พลังจิตห่อหุ้มไฟฟ้าสถิตลงบนมีด ส่วนผลข้างเคียงที่ถึงจะเริ่มชินแล้ว แต่ความเจ็บปวดเหมือนเข็มทิ่มแทงในหัวก็ยังไม่น่าอภิรมย์อยู่ดี

"ยังดีที่มีทักษะฟื้นฟู ไม่งั้นนี้ได้ตายก่อนกู้โลกแน่"

เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็เล็งเป้าหมายไปที่ลูกลิงครึ่งนก ก่อนจะขว้างมีดทำครัวเสริมพลังไฟฟ้าเต็มแรง ที่ถึงค่าความแม่นยำจะมีแค่เจ็ด แต่ก็มันเพียงพอที่จะทำให้มีดเข้าเป้า

ฉึก

เจี๊ยก

เสียงร้องโหยหวนของลูกลิงครึ่งนกดังก้องไปทั่วป่า จนผมมั่นใจว่าฝูงของมันต้องได้ยินแน่นอน จึงรีบวิ่งไปเก็บมีดแล้วเผ่นออกจากป่าทันที แต่ดูเหมือนผมจะดูถูกลิงครึ่งนกฝูงนี้มากเกินไป

เจี๊ยกๆๆ

เสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าทั้งฝูงกำลังเคียดแค้นผมที่สังหารลูกของพวกมัน แต่ในเมื่อมันเป็นภารกิจจากพระเจ้า แถมสัตว์มายาพวกนี้ก็ถูกสร้างมาเพื่อฝึกฝนผู้ถูกเลือก

จะสร้างให้มันสมจริงไปทำไม นี่คือความคิดของผมระหว่างวิ่งหนีฝูงสัตว์มายาที่บ้าคลั่ง ให้ตายสิ ใครมันจะยอมตายง่ายๆแบบนี้วะ

-ท่านได้รับการฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้ว-

เสียงของระบบทำให้รู้ว่าอาการบาดเจ็บของผมหายเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นก็เหลือแค่หาทางออกในสถานการณ์วิกฤตนี้ ซึ่งทางที่ง่ายที่สุดก็คือวิ่งหนีแบบนี้ไปเรื่อยๆจนพวกมันเลิกตามไปเอง แต่คงยาก

ส่วนอีกทางคือลองเสี่ยงดวงกับพลังจิตของผม ที่ส่วนตัวแล้วก็อยากจะลองท่าไม้ตายในการ์ตูนดูสักครั้ง แต่ความเสี่ยงที่ผลข้างเคียงจะมากจนหมดสติก็มีสูง แถมการหมดสติตอนกำลังหนีฝูงลิงครึ่งนกคลั่งน่าจะศพไม่สวย

"โว๊ย ทำไมมันตามตื้อจังเลยวะ"

เมื่อหันหลังไปมองก็เห็นว่าจำนวนพวกมันไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย แถมยังดูจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ทำให้สถานการณ์ตอนนี้อันตรายถึงขีดสุด เหมือนกับความตายวิ่งไล่หลังมาติดๆเลยทีเดียว

"เอาวะ ในเมื่อมันถูกสร้างให้สมจริง ก็หวังว่ามันจะเหมือนสัตว์ป่าทุกอย่างก็แล้วกัน"

ผมสบถก่อนจะเริ่มใช้พลังจิตรวบรวมพลังงานไฟฟ้ามาไว้ที่แขนทั้งสองข้าง ซึ่งผลข้างเคียงของมันทำให้เลือดเริ่มไหล่ออกจากจมูกก่อน ตามด้วยหูและดวงตา และแน่นอนความเจ็บปวดจนหัวแทบระเบิดย่อมมาพร้อมกัน

แต่ผมต้องกัดฟันทนเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ในตอนนี้ ก่อนที่แขนทั้งสองข้างจะเรืองแสงสีน้ำเงินจากพลังงานไฟฟ้า แล้วเมื่อการเตรียมตัวของผมพร้อม กระสุนที่ผมจะใช้ยิงปืนแม่เหล็กไฟฟ้าแบบรางคู่ขนานก็อยู่ในมือเช่นกัน

"ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์แถมยังช่วยชีวิตด้วย ตรงตามที่อยากได้เป๊ะเลยแฮะ"

ผมหัวเราะกับคำพูดของตัวเองทั้งๆที่ตอนนี้สภาพผมคงอนาถไม่น้อย ด้วยเลือดออกจากตาจมูกแล้วก็หูจนอาบเสื้อเชิ้ตสีขาวให้แดงฉาน พร้อมกับมีฝูงลิงครึ่งนกที่กำลังไล่กวดมาอย่างไม่ลดละ

ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนผมก็คงรอดยาก แต่ไพ่ตายที่ผมกำลังจะใช้มันก็มีพลังรุนแรงพอให้ผมพลิกกลับมาชนะไอ้ลิงครึ่งนกพวกนี้ และมีชีวิตรอดไปอีกวันได้เช่นกัน

"ที่เหลือก็แค่อย่าพลาด ไม่งั้นตายแน่"

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ผมก็หยุดวิ่งแล้วหันไปเผชิญหน้ากับฝูงลิงครึ่งนกที่ตรงเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่แขนทั้งสองจะยกขึ้นคู่ขนานกัน แล้วพลังจิตของผมก็ทำงานอีกครั้งด้วยการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาลออกมา

เปรี้ยง

แล้วมีดทำครัวที่เป็นเหมือนกระสุนก็พุ่งออกไปจากมือทั้งสองข้าง ที่ประคองพลังงานไฟฟ้าไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกไป แล้วพุ่งตรงไปหาฝูงลิงครึ่งนกจนเห็นเป็นลำแสงสีน้ำเงิน ก่อนที่ร่างของพวกมันจะถูกทำลายด้วยความร้อนสูงจนไม่เหลือซาก

และดูเหมือนพลังจิตของผมจะมีพลังมากกว่าที่คิด เพราะฝูงสัตว์มายาหลายสิบตัวถูกทำลายลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว พร้อมกันนั้นเสียงจากระบบก็ดังขึ้นถี่ยิบ เป็นเครื่องยืนยันว่าผมได้สังหารพวกมันไปจริงๆ

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวล-

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวล-

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวล-

-ท่านทำภารกิจ กำจัดกบิลปักษาวัยเยาว์ ห้าตัวสำเร็จ ได้รับสร้อยคอขนหางกบิลปักษา-

ผมที่นอนหอบหายใจแรงอย่างหมดสภาพ พยายามขยับปากพูดเพื่อใช้แต้มทักษะ เพราะทักษะฟื้นฟูขั้นต้นมีความเร็วในการรักษาไม่พอที่จะรักษาชีวิตผม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีชีวิตรอดจากการใช้พลังจิตในปริมาณมากได้

"ใช้…แต้ม…ทักษะ…"

-ระบุทักษะที่ต้องการ-

"ฟื้นฟู…ขั้นกลาง"

-ทักษะฟื้นฟูขั้นกลาง ต้องการแต้มทักษะ 120 หน่วย ยืนยันหรือไม่-

"ยืน…ยัน"

-ท่านได้รับทักษะ ฟื้นฟูขั้นกลาง-

แล้วอาการบาดเจ็บของผมก็ค่อยๆหายไปด้วยความเร็วที่มากขึ้น และในเวลาราวสิบนาทีผมก็สามารถลุกขึ้นนั่งได้ พร้อมกับตรวจดูสภาพร่างกายของตัวเองว่ายังปกติดีรึไม่ และดูเหมือนทักษะฟื้นฟูขั้นกลางจะทำงานได้ดีสมราคา

"แต่นึกไม่ถึงว่าจะเลเวลอัปเป็นยี่สิบรวดเดียวแบบนี้แฮะ"

ผมมองหน้าต่างค่าสถานะตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่แน่นอนว่าความยินดีที่เอาชีวิตรอดได้นั้นย่อมมีมากที่สุด และในเมื่อผมบรรลุเป้าหมายไปไกลกว่าที่ตั้งใจแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ต่อ กลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า

"หวนคืน"

-ทำการส่งผู้ถูกเลือกออกจากมิติปิดกั้น-

แล้วภาพตรงหน้าของผมก็กลายเป็นแสงสีขาวก่อนที่จะรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะ แล้วเมื่อทุกอย่างกลับเป็นปกติ ผมก็กลับมาอยู่ที่ห้องนอนของตัวเองในสภาพโชกเลือด

สงสัยต้องอาบน้ำก่อน ไม่งั้นพ่อกับแม่ช็อกตายกันพอดี

ผู้ถูกเลือก เลเวล 20

ชื่อ ทวีโชค ใจงาม

สัญชาติ ไทย

พลังชีวิต 185 พลังเวท 10

ความแข็งแกร่ง 10 ความอดทน 50

ความว่องไว 10 ความแม่นยำ 9

พลังโจมตี 5 (+10) พลังป้องกัน 100

แต้มทักษะ 80

ทักษะ​ ฟื้นฟู​ขั้นกลาง

ความสามารถ​พิเศษ​ ควบคุมประจุไฟฟ้าในร่างกายและพลังงานไฟฟ้าในอากาศ​

You May Also Like

ราชันเร้นลับ

‘โจวหมิงรุ่ย’ ทำพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาจนได้เดินทางข้ามโลกมาอยู่ในร่างของ ‘ไคลน์ โมเร็ตติ’ ใครจะคิดว่าศีรษะของร่างใหม่นี้ กลับปรากฏรอยกระสุนตรงขมับ เป็นแผลเหวอะหวะน่ากลัว ปืนลูกโม่วางแน่นิ่งอยู่ภายในห้อง ทั้งยังพบข้อความทิ้งไว้บนโต๊ะ ทุกคนต้องตาย รวมถึงเรา เขาฆ่าตัวตายไม่ผิดแน่ แต่ด้วยสาเหตุใดไม่มีใครทราบ บนโลกที่คล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู โลกที่มีพระจันทร์สีเลือดลอยเด่นเหนือท้องฟ้า โจวหมิงรุ่ยกลับพบว่า เขาอาจไม่ใช่ผู้เดียวที่เดินทางข้ามทางโลกมายังที่แห่งนี้ เมื่ออดีตมหาจักรพรรดิของโลกนี้เมื่อร้อยปีก่อนทิ้งไดอารีล้ำค่าที่เขียนเป็นภาษาจีนเอาไว้ ไดอารี่ที่่ไม่มีผู้ใดอ่านออก นอกจากโจวหมิงรุ่ยคนเดียว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้ร่างใหม่กับ ‘ข้อมูลอันล้ำค่า’ นี้สืบหาสาเหตุการฆ่าตัวตาย ไปพร้อมๆ กับพยายามหาหนทางกลับสู่โลกเดิมที่จากมา...

อ้ายเฉียนสุ่ยเตออูเจ๋ย · Fantasy
Not enough ratings
1307 Chs

ครุฑาจอมราชันย์

ครุฑาจอมราชันย์เป็นนวนิยายแนวกำลังภายในแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ไทยในช่วง พ.ศ.2470 คาบเกี่ยวไปถึงห้วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึงตัวเอกที่มีชื่อว่าธีรพล ชายชาวไทยเชื้อสายจีนผู้ได้รับอัตลักษณ์พลังสถิตรูปพญาครุฑนามว่าสุบรรณมาตั้งแต่กำเนิด ในวัยเด็กนั้นเขาได้ถูกไล่ล่าโดยกลุ่มองค์กรลึกลับซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็คือ พรรคภูติราชันย์ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นพรรคผู้ร่วมก่อตั้งของภาคีซันเหอหรือที่ชาวไทยรู้จักกันในนามว่าอั้งยี่ที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมากว่าหนึ่งร้อยสิบแปดปี แต่ด้วยความคิดจะตั้งตนเป็นเจ้าในแผ่นดินสยามจึงได้ถูกพรรคบัวมารมรกต หรืออีกหนึ่งพรรคก่อตั้งตลบหลังให้ความร่วมมืออย่างลับๆกับทางการ จนเป็นผลให้พรรคภูติราชันย์ถูกกวาดล้างไปจากแผ่นดินสยามในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ในเวลาต่อมา แม้ทางภาคีซันเหอจะคาดคิดว่าพรรคภูติราชันย์ได้หายสาบสูญไปสิ้นแล้วก็ตาม แต่เมฆผู้เป็นบิดาของธีรพลก็ได้ไปค้นพบหลักฐานของการดำรงอยู่ของพรรคภูติราชันย์เข้า จนส่งผลให้ทั้งตัวเขารวมไปถึงลี่ผู้เป็นภรรยาและธีรพลในวัยสี่ขวบถูกติดตามฆ่า จนในที่สุดเมฆและลี่ก็ถูกหนึ่งในขุนพลของอีกฝ่ายสังหารลง แต่สำหรับธีรพลที่ได้รับความช่วยเหลือจากทองใบเกลอคนสนิทของเมฆไว้นั้นก็สามารถหลบหนีมาใช้ชีวิตอย่างสงบได้ที่เวียงพิงค์ อีกกว่าสิบห้าปีถัดมา ธีรพลในวัยฉกรรจ์ที่ได้รับการฝึกฝนมวยไทยอย่างหนักจากทองใบก็ต้องพบกับเรื่องราวที่ทำให้เขาได้รู้จักกับพลังงานชีวิต พลังงานธาตุ และอัตลักษณ์พลัง จนนำไปสู่การค้นพบสุบรรณในที่สุดซึ่งก็ทำให้เขาได้พัฒนาฝีมือขึ้นตามลำดับขั้น ด้วยโชคชะตาที่ทำให้ชีวิตเขาต้องเข้าไปผัวพันกับภาคีซันเหอ องค์กรใต้ดินที่มีอิทธิพลสูงสุดในสยามประเทศ ธีรพลก็จึงได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าที่ผิดกฎหมาย และต้องต่อสู้กรุยทางเพื่อสร้างพรรคของตนให้มีอิทธิพลอำนาจสูงขึ้นในภาคีและตามล่าหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การสังหารครอบครัวของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับชะตากรรมของชีวิตผู้คนในพิภพสหัสดาราที่ซึ่งเป็นโลกคู่ขนานต่างมิติกับโลกมนุษย์ ที่ความโกลาหลได้บังเกิดขึ้นทั่วทุกแห่งหนอันสืบเนื่องมาจากพระราชาองค์ปัจจุบันได้สิ้นพระชนม์ลง จึงทำให้บรรดาเผ่ามนุษย์ที่เคยสมัครสมานสามัคคีกันได้แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นแสวงหาอำนาจต้องการตั้งตนเป็นใหญ่ และที่สำคัญที่สุดเผ่าพันธุ์อสูรที่เคยถูกสยบอยู่กว่าสองพันปีก็ได้โอกาสอันดีเริ่มเคลื่อนไหวรุกรานอาณาจักรต่างๆอีกครึ่ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อราชวงศ์ทิตยะ ก็ทำให้ธีรพลได้พบกับแม่ทัพใหญ่อัศวเมธ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้อ้อนวอนขอให้เขาช่วยเหลือตามหาองค์ชายราวินทร์ที่หายสาบสูญไปจากพิภพสหัสดารา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วหลังจากธีรพลออกค้นหาอยู่ภายในโลกมนุษย์ได้สักระยะหนึ่งก็ได้พบกับองค์ชายราวินทร์และช่วยกันกำจัดพรรคภูติล้างวิญญาณซึ่งมีตัวการใหญ่ก็คือจอมเวทย์บุศัยยะ ผู้ที่แฝงตัวเข้ามายังโลกมนุษย์เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานธาตุจากอัตลักษณ์พลัง และที่สำคัญก็คือจอมเวทย์ผู้นี้เองเป็นผู้ที่สั่งการฆ่าครอบครัวของเขา เมื่อไม่มีจอมเวทย์บุศัยยะคอยบงการ พรรคภูติราชันย์จากที่จะสามารถล้มล้างภาคีซันเหอซึ่งเป็นศัตรูสำคัญลงได้และกำลังจะดำเนินแผนการยึดครองสยามประเทศ ก็ได้ถูกธีรพลซึ่งในขณะนั้นได้ขึ้นเป็นผู้นำภาคีพลิกสถานการณ์เข้าจัดการจนสามารถล้มจอมราชันย์ของพรรคลงได้ และทำลายแผนการอันชั่วร้ายของพรรคภูติราชันย์ทั้งหมด จากนั้นธีรพลก็ได้กลับไปยังพิภพสหัสดาราเพื่อช่วยเหลือองค์ชายราวินทร์ รวบรวมคนจากเผ่ามนุษย์ เผ่าปักษา เผ่านาคาและเผ่าสัตว์เทพเข้าต่อกรกับเผ่าอสูรที่จอมเวทย์บุศัยยะบงการอยู่ เพื่อขัดขวางการปลุกชีพจอมมารรามสูรที่เคยอาละวาดเมื่อราวสองพันปีก่อนลง ซึ่งด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่งและความเก่งกาจของธีรพลที่มีอัตลักษณ์พลังสถิตอยู่ด้วยกันถึงห้าตน ก็ทำให้เขาสามารถสังหารจอมเวทย์บุศัยยะผู้เป็นตัวการพรากชีวิตของบิดามารดาเขาลงได้และสามารถช่วยเหลือพิภพสหัสดาราไว้ได้ในที่สุด

Thanakorn_Pinchai · Fantasy
Not enough ratings
23 Chs