webnovel

บทที่ 16

"ทำไมมี เปรต หลุดขึ้นมาจากนรกด้วย" อาจารย์ภัทรพูดพลาง เริ่มเดินเอาสายสิญจน์ผูกให้ทุกคน สีหน้าของพวกอาจารย์ตกใจอย่างเห็นได้ชัด

"อีก 5 นาที มันจะทุบลงมาที่พวกเรา กำแพงแก้วจะแตก" สายหมอกพูด ตอนนี้ดวงตาของสายหมอก กลายเป็นสีขาวไม่เห็นนัยน์ตาดำ ผมพึ่งจะเคยเห็นเขาใช้วิชาโหรครั้งแรก

"พวกเราจะล่อมันไปอีกทางเอง จะให้มันโจมตีโดนอาจารย์ภูมิกับพี่คำแก้วไม่ได้" เมฆาออกความเห็น

"ไม่ได้! พวกเธอยังไม่พร้อม" อาจารย์น้ำค้างพยายามห้าม เพราะเธอเป็นห่วง เธอไม่อยากเสียลูกศิษย์ไปเหมือนปีที่แล้ว

พี่วายุ พี่อัคคีและพี่แว่นวิ่งกลับมา เพราะพวกภูตผีต่างขยับตัวไม่ได้ ดินทุรนทุรายอยู่ที่พื้น

"เราถ่วงเวลาไม่ถึงเช้าแน่ คำแก้วเรียกฝนได้เต็มที่แค่ 10 นาที" พี่อัคคีพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"ถ้าเรื่องจำนวน ผมว่าผมสู้ได้ ผมจะจัดการพวกระดับต่ำเอง ทุกคนหาทางทำอะไรกับ ผีเปรตได้ไหมครับ" ผมอาสา ฝูงสัตว์วิญญาณของผมมีความสามารถพิเศษคือ มันสามารถกินวิญญาณได้ ผมได้รู้ตอนเรียนกับอาจารย์น้ำค้าง

แต่หลังจากผมพูดจบ กำแพงแก้วของบุปผาก็พังลง เธอสลบลงไปทันที

ลำธารประคองเพื่อนของเธอไว้ เธอน้ำตาคลอ เพราะสิ่งที่เธอเจอตอนนี้มันน่ากลัวกลัวเหลือเกิน

"ถ้าอย่างนั้นแบ่งเป็น 3 ทีม ทีมสะกดพวกชั้นต่ำ ให้อาจารย์น้ำค้าง พสุธา (พี่แว่น) และพนารับผิดชอบ ทีมหลอกล่อมีวายุ เมฆา อัคคี และทีมป้องกันเป็นผม และสายหมอก ส่วนลำธารเธอดูแลบุปผาทีนะ" อาจารย์ภัทรเริ่มสั่งการ ตอนนี้สีหน้าอาจารย์ภูมิก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าอาคมบงกชจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

"วายุ อัคคี เมฆาโจมตีและหลอกล่อมันไปทางสระบัวหลังตึกใหญ่ ทำให้มันลงไปในสระบัวให้ได้"

"ทำไมละครับ" เมฆาถาม

"เดี๋ยวก็รู้เอง" พี่วายุตอบ

"งั้นเริ่มกันเลย" พี่วายุพูดจบก็วิ่งเข้าหา เปรต เจ้าเปรตตัวนั้นดูไม่สนใจเขาเลย มันมุ่งมาทางพวกเรา แต่พี่วายุ ก็เอามีดหมอแทงไปที่ข้อเท้าข้างซ้ายของมัน ตอนนี้มันหยุดและหันมามองพี่วายุ ปากเล็กแหลมของมันส่งเสียงโหยหวนออกมาไม่หยุด

อัคคีเองก็วิ่งตามไป แต่ออกไปทางด้านขวา เขาใช้กรงเล็บข่วนไปที่ข้อเท้าขวา แต่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลย ผมเดาว่ามันอาจจะแค่รู้สึกคันๆ

เจ้าเปรตหันมองพี่วายุที มองพี่อัคคีที เหมือนมันกำลังสับสนว่าจะทำยังไงกับสองคนนี้ดี

"ผมไปบ้างดีกว่า" เมฆาถอดเสื้อเผยให้เห็นรอยสักหนุมาน

เขาเริ่มพนมมือแล้วสวดคาถา

'นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ หะนุมานะ '

"หนุมานเอ๋ย ไปเล่นกันเถอะ"

แสงสีทองสว่างวาบ อาจารย์ภัทรเดินมาเป่าหน้าผากให้ ในขณะที่เมฆากำลังจะพุ่งออกไป พี่แว่น (แกชื่อพสุธา) ก็วิ่งมาหา

"นายสักหนุมานเหรอ เอานี่ไปด้วย" พี่แว่นหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า มันมีลักษณะคล้ายๆ มีด 3 ง่าม ใบมีดมีอักขระอาคมเต็มไปหมด ด้ามจับเป็นไม้แกะสลัก และมีเพชรสีเขียวแวววาวติดอยู่ที่ท้ายด้าม

"มันคือตรีเพชร ตามตำนานมันเป็นอาวุธของหนุมาน จริงๆ มันเป็นของเพื่อนผมที่ตายไปเมื่อปีที่แล้ว มันน่าจะช่วยนายได้" พี่แว่นส่งอาวุธให้เมฆา เขากระโดดโลดเต้นไปมาคล้ายลิง ควงตรีเพชรอย่างคล่องแคล่ว ราวกับเขาเคยใช้อาวุธนี้มานานมากแล้ว

"ขอบคุณครับ" แล้วเมฆาก็พุ่งไปสมทบกับพี่ชายทันที

ตอนนี้เราต้องแข่งกับเวลา ต้องรีบเก็บกวาดพวกผีชั้นต่ำให้หมดก่อนที่พี่คำแก้วจะไม่ไหว

ผมหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมา รูดซิปเปิดออก หยิบลูกแก้วออกมา แล้วเทตุ๊กตาดินเหนียวทั้งหมดลงมากองไว้บนพื้น

"ว้าวว เคยแต่เห็นในหนังสือ พึ่งเคยเห็นลูกแก้วของท่านเจ้าป่าเจ้าเขา ขอจับหน่อยได้ไหม" พี่แว่นวิ่งมาหาผมด้วยสีหน้าตื่นเต้น ผมรับรู้ได้ทันทีว่าพี่คนนี้น่าจะเป็นพวกคลั่งไคล้เครื่องรางของขลัง

"ตอนนี้น่าจะไม่สะดวกนะครับ พวกภูตผีน่าจะไม่ให้เวลาเราขนาดนั้น" ผมพูดออกไปพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ

ผมเริ่มภาวนาจิต ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ไปทั่วร่างกาย ลูกแก้วค่อยสว่าง มันลอยขึ้นจากมือของผม มีลำแสงเล็กๆ พุ่งออกมาจากลูกแก้วมากมาย แสงเหล่านั้นพุ่งตรงไปที่ตุ๊กตาดินเหนียว

มันค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นสัตว์ต่างๆ

แม่เสือ สิงโต เสือดำ กระทิง เหยี่ยว นกฮูก ฝูงหมาป่า

ทุกตัวต่างร้องคำราม และพุ่งเข้ากัดกินพวกผีที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นเพราะฝนน้ำมนต์

"เรียกมาพร้อมกันขนาดนี้เดี๋ยวก็เป็นลมไปอีกหรอก" อาจารย์น้ำค้างเตือนผม

"ไม่ต้องห่วงครับ ผมยังมีจิตเหลืออีกเยอะ"

ก่อนหน้านี้ผมเคยเรียกพวกสัตว์ออกมาพร้อมกัน ซึ่งมันทำให้ผมสลบไปในทันที

แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน ผมรู้วิธีควบคุม ผมเรียกออกมาเยอะก็จริง แต่ขนาดของพวกมันเล็กกว่าปกติ ทำให้การใช้จิตของผมไม่หมดในทีเดียว

ทางอาจารย์น้ำค้างเองก็เริ่มบ้าง เธอสั่งให้โหงพรายของเธอเข้าต่อสู้ โหงพรายผู้ชายถือดาบลงอาคม เมื่อฟันลงไปภูตผีก็กลายเป็นควันแล้วเข้าไปสถิตในดาบ ผมเดาว่าดาบนั่นคงเป็นดาบที่ใช้สะกดวิญญาณ

ส่วนโหงพรายโรมานอฟ เธอมีมีดลงอาคมเช่นกัน เธอคล่องแคล่วและว่องไวมาก ภายในไม่กี่นาทีพวกเราจัดการพวกภูตผีชั้นต่ำไปได้เกินครึ่งหนึ่งแล้ว

ส่วนทางพี่วายุเองก็หลอกล่อเปรตไปทางสระบัวได้สำเร็จ ตอนนี้มันกำลังไล่ตามเหล่านักรบรอยสักไป หลายครั้งที่มันพยายามจะเอามือตบ พี่วายุและเมฆา แต่ทั้งคู่ต่างก็หลบแบบสบายๆ แถมยังเอาอาวุธแทงใส่ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ส่วนพี่อัคคี ตอนนี้อยู่ที่ต้นขาของผีเปรต แกกำลังกัดขาของมันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่โชคร้ายที่ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว

พี่คำแก้วสลบไปเหมือนบุปผา

พวกผีชั้นต่ำเริ่มลุกขึ้นมา และล้อมพวกเราทุกคนไว้แล้ว...

Next chapter