ตอนที่ 1110 วัฏจักรแห่งความเป็นความตาย
พลังงานดาบที่บางราวเส้นขนนับไม่ถ้วนทะลวงไปทั่วพื้นที่ ก่อเกิดเป็นตาข่ายที่ไม่สามารถทะลวงได้
…ดาบลับ ตราดารา
ลมกระโชกพัดผ่านเส้นทางมืดมิด
ตาข่ายกันแสงกระจายอยู่ในสายลม มันบิดเบี้ยวและบีบรัดไปทุกทิศทาง
มือ ศีรษะ ช่องอกและอวัยวะภายในจำนวนมากกระจายไปทั่วท้องนภา
ผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งทื่อถูกกวาดออกไปด้วยตาข่ายขนาดใหญ่
ทว่า ผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังรอดไม่สามารถขยับได้
พวกเขายืนอยู่ที่เดิมด้วยสภาพขนลุกขณะมองดาบบินที่อยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“กลายเป็นราชาภูตผีแห่งยมโลกที่ไม่เคยถือกำเนิดมาก่อนนี่เอง” พวกเขากล่าวพร้อมกัน
…ราวกับตัวตนหนึ่งพูดกับกู่ฉิงซานผ่านปากของผู้ฝึกยุทธ์ทุกคน
วินาทีต่อมา
ซากศพเลือดเนื้อที่ถูกตัดศีรษะปลิวไปทั่วก่อนตกลงตรงประตูสีแดงแล้วถูกดูดเข้าไปอย่างเงียบงัน
แสงสีแดงเรืองรองส่องมาจากประตู
เอี๊ยด…
ประตูเปิดออกช้า ๆ
สายลมกำลังพัดพาทุกหนแห่ง
โครงกระดูกสวมเกราะติดอาวุธหลายหลากนับร้อยพุ่งออกมาจากประตู
โครงกระดูกถูกหก้อมล้อมโดยเปลวไฟฟอสฟอรัสก่อนพุ่งลงไปหากู่ฉิงซาน
ทหารภูตผีแห่งยมโลก!
ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นถูกสังหารด้วยดาบของกู่ฉิงซาน พวกเขาผ่านประตูสีแดงบานนี้จนกลับชาติมาเกิดเป็นทหารภูตผีแห่งยมโลกทันที!
ผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังเหลืออยู่ยิ้มแปลกประหลาดก่อนกล่าวพร้อมกันว่า
“มีคำกล่าวว่าราชาภูตผีแห่งยมโลกสามารถควบคุมคนตายทั้งหมดได้ แต่ข้าไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ มา ๆๆ ลองแสดงให้ข้าดูหน่อย”
กู่ฉิงซานไม่ได้ยินอีกฝ่าย ยังคงกวัดแกว่งประกายดาบจันทร์ขาวยักษ์
ภูตผีทั้งหมดคำรามพร้อมกันขณะพุ่งเข้าหาวิชาดาบ
ตึง ๆ ตัง ๆๆๆ ตึง ๆ ตัง ๆ
ประกายดาบฟาดใส่พวกมัน เกิดเป็นเสียงปะทะนับไม่ถ้วน
ทหารภูตผีถูกหยุดด้วยประกายดาบ พลังลมปราณพลันพุ่งพล่านออกจากร่างของเขา
เพียงพริบตา พวกมันกลายเป็นเงา ประกายดาบยักษ์ทะลวงร่างของพวกมันจนพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา
ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ทหารภูตผีเกิดมาเพื่อทะลวงทุกสิ่งในโลก ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะตอบสนองยังไง”
ทันทีที่กล่าวจบ กู่ฉิงซานพลันหายไปพร้อมกับดาบยาวในมือ
เขาปรากฏตัวในสถานที่พลุกพล่านพร้อมกับผู้ฝึกยุทธ์
“รนหาที่ตายแท้ ๆ !” ผู้ฝึกยุทธ์ตะโกนด้วยเสียงคมปลาบ
“อออออ้า…” กู่ฉิงซานพลันแผดเสียงตะโกนดังลั่นออกมา
พายุรุนแรงโหมกระหน่ำจากตัวเขา กลายเป็นกระแสอากาศสีดำที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อนพลันหายไปทุกทิศทาง
พลังของสายเลือดมังกรมาร!
ในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พลังนี้ไปครอบงำคนอื่น กู่ฉิงซานจึงสวมชุดคลุมแห่งความมืดและความเงียบเพื่อปกปิดลมหายใจของตัวเองเอาไว้ตลอด
แต่หลังจากเห็นร่างกายที่บาดเจ็บของซูเสวี่ยเอ้อร์ กู่ฉิงซานจึงบันดาลโทสะและไม่สนใจอะไรอีกต่อไป
นับตั้งแต่เริ่มการเต้นบูชายัญของโลก พลังมหาศาลของมังกรมารยอมจำนนไปนานแล้วขณะกลายเป็นพลังของเขาเองอย่างช้า ๆ
…กู่ฉิงซานสามารถขับเคลื่อนพลังนี้ได้แล้ว!
พวกเขาเห็นกระแสอากาศสีดำทะลวงเข้าสู่ร่างของผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมาก ทำให้สั่นสะท้านไม่มีสิ้นสุด
กลิ่นอายของวิชาจำนวนมากที่อยู่ในมือพวกมันพลันหายไป
พลังมหาศาลของมังกรมารกำลังกัดกร่อนพวกมันจนเปลี่ยนสภาพ
นี่คือพลังที่มหาศาลที่สุดของมังกรมาร!
นี่คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของสิ่งประดิษฐ์วิญญาณของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณ!
ไม่ว่าจะตัวกู่ฉิงซานเองหรือแม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกโบราณ พวกเขาไม่มีหนทางรับมือการกัดกร่อนของพลังนี้ได้ ในท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงพึ่งระบำสังเวยชีพเพื่อกำจัดพวกมันช้า ๆ
แล้วผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้ที่มาจากโลกอื่นจะรู้วิธีรับมือพวกมันได้อย่างไร
สายตาของพวกเขากลับมากระจ่างชัดคนแล้วคนเล่า แต่ไม่ช้าก็ไม่อาจหักห้ามเสียงกรีดร้องที่เป็นผลจากพลังนี้ได้อีกต่อไป
หลังจากผ่านความเจ็บปวดไป พวกเขาอาจจะได้รับเมล็ดพันธุ์แห่งพลังมังกรมารเพื่อเร่งความเร็วการฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว ความสามารถมากมายจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด พละกำลังของพวกเขาจะทะยานขึ้น
แต่พวกเขาไม่มีอนาคตแล้ว
“ตาย!”
กู่ฉิงซานกล่าวคำนั้นออกมา
แสงระยิบระยับเปลี่ยนผัน เงาดาบนับไม่ถ้วนรวมตัวที่ดาบยาวก่อนยิงอสนีน่าขนลุกออกไป
ผู้ฝึกยุทธ์หลายพันคนที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกสังหาร!
แสงและเงานับไม่ถ้วนกลายเป็นหยดน้ำ พวกมันลอยกลับมาเข้าร่างของกู่ฉิงซานทันที
“ฮู่ ๆๆๆๆๆ …”
กู่ฉิงซานหลับตาแล้วแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ยากจะทานทน
ผู้ฝึกยุทธ์ถูกเขากวาดล้างทันทีที่กลายเป็นผู้สืบสายเลือดของมังกรมาร ดังนั้นพลังวิญญาณ พลังจิตวิญญาณ ลมปราณและพลังสายเลือดล้วนถูกดูดกลืนโดยกู่ฉิงซาน
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กรีใหม่อย่างรวดเร็ว
“ท่านฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ไปทั้งสิ้นหนึ่งพันเก้าร้อยหกสิบแปดคน”
“เพราะท่านใช้พลังกัดกร่อนของสายเลือดมังกรมาร ตามกฎของสิ่งประดิษฐ์วิญญาณประเภทมังกร พลังทั้งหมดของพวกมันจึงเป็นของท่าน”
“ท่านได้รับพลังวิญญาณแปดแสนแต้ม”
“พลังประเภทอื่นทั้งหมดเริ่มรวมเข้ากับพลังของมังกรมาร มันจะยังคงพัฒนาพละกำลังของท่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
หลังจากกู่ฉิงซานชำเลืองมอง เขาก้มมองตามข้างล่าง
ทหารภูตผีแห่งยมโลกเหล่านั้นกำลังมาอย่างรวดเร็ว
แต่การก้าวพริบตาของพวกมันนับว่าช้ายิ่งนัก
“ไม่! นั่นมันพละกำลังของข้า!”
เสียงเกรี้ยวกราดเสียงหนึ่งดังมาจากประตูสีแดง
ตามที่กู่ฉิงซานเห็นในตอนนี้ มันต้องดูดกลืนทุกสิ่งจากผู้ฝึกยุทธ์ก่อนถึงจะสามารถเปลี่ยนเป็นทหารภูตผีได้
กู่ฉิงซานเพียงลองใช้ดาบเพื่อกัดกร่อนผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดด้วยพลังของมังกรมาร จากนั้นก็เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นพลังของตัวเอง
กลยุทธ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนประตูสีแดงไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง
ตอนนี้ ประตูสีแดงไม่สามารถได้รับพลังเหล่านั้นอีกต่อไป
“วิญญาณเป็นของยมโลก!”
มีเสียงดังมาจากประตูสีแดง
…สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในบริเวณนั้นคือวิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์
วิญญาณนับพันพุ่งเข้าหาประตูสีแดงด้วยความแตกตื่น
พวกมันไม่แม้แต่จะรู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่ตายได้ยังไง ตอนนี้จึงเป็นธรรมดาที่พวกมันจะต้องหนีจากกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานมองฉากนี้เงียบ ๆ ก่อนกระซิบว่า
“ในเมื่อมีใครบางคนกล้ามาทำร้ายข้า อย่าหวังจะได้เข้าไปในยมโลกเลย”
เขาดึงไม้เท้าราชาภูตผีจองจำออกมา
วิญญาณทั้งหมดหยุดนิ่งในความว่างเปล่าทันที ไม่สามารถขยับได้
คนเหล่านั้นที่ตายไปจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของราชาภูตผีแห่งยมโลก ไม่อย่างนั้นวิญญาณจะสลายไปสิ้น
ประตูสีแดงแผดเสียงคำรามสะเทือนท้องนภาออกมา “ราชาภูตผี เจ้ากล้าทำตัวโอหังเพียงนี้ ดังนั้นเทพภูตผีของข้าจึงอยากให้เจ้าตายในวันนี้!”
ความว่างเปล่าสั่นไหวอย่างรุนแรง
แสงและเงาที่เป็นของทางเดินลับดูเหมือนภาพลวงตาและเอาแน่เอานอนไม่ได้
…ทั้งโลกคือภาพมายา
โลกอีกใบค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
วิชาเทพ วัฏจักรแห่งความเป็นความตาย!
หมู่เมฆมืดครึ้ม วิญญาณภูตผีทะยาน เหนือแม่น้ำหมองหม่น มีเส้นทางขรุขระปรากฏขึ้นมา
ประตูสีแดงยืนอยู่หน้าประตูบานนี้ขณะแผ่สีแดงเจิดจ้าออกมา
“เอาล่ะ ทุกคนจะเข้าสู่ยมโลก ราชาภูตผี เจ้าและคนของเจ้าจะถูกข้าขังไว้นับตั้งแต่วันนี้ ไม่มีอนาคตหลงเหลืออีก!”
เทพและสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนบินมาจากทั้งใกล้ไกล
เขาก้มมองลงไป เห็นซูเสวี่ยเอ้อร์และหลานซิ่วล้วนถูกดึงเข้าสู่เงาของโลกใบนี้
เสียงของดาบพิภพพลันดังขึ้น
“กู่ฉิงซาน รีบคิดหาทางเสีย นี่คือเงาจากการสลับของสองโลก ทันทีที่วิชานี้เสร็จสิ้น เงาของโลกจะกลายเป็นของจริง จากนั้นพวกเราจะอยู่ในโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ข้าเห็นแล้วล่ะ ต้องบอกเลยว่า…”
“มันกล้ามากที่พาข้ากลับมายมโลก…”
บนไม้เท้า เบ้าตาของหัวกะโหลกเขาเดียวมีแสงสีแดงไหลออกมา
กู่ฉิงซานตะโกนเสียงต่ำว่า “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ในเมื่อตอนนี้ปลุกข้าขึ้นมา สงครามของพวกเราก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว”
…จุดกำเนิดแห่งความตาย!
ด้วยพลังนี้ ราชาภูตผีแห่งยมโลกสามารถสื่อสารกับคนตายทั้งหมดได้ สามารถทำให้คนตายที่หลับใหลอยู่ตื่นขึ้นมาในทันทีได้
หลังจากนั้น ในเศษเสี้ยวของยมโลกแห่งนี้ คนตายทั้งหมดที่หลับใหลอยู่ในขุมนรกที่สิบแปดลืมตาขึ้นมาพร้อมกัน
เพียงพริบตา พวกมันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากผ่านมานานนับไม่ถ้วน ในที่สุดนายเหนือหัวแห่งขุมนรกก็ปรากฏตัวขึ้น!
กู่ฉิงซานกวัดแกว่งไม้เท้าราชาภูตผีจองจำอย่างเกรี้ยวกราดขณะแผดเสียงคำรามว่า
“เอาล่ะ ไม่ว่าเจ้าจะถูกปกครองโดยใคร ไม่ว่าจะมีบาปกรรมแค่ไหน นับจากช่วงเวลานี้ไป ขุมนรกอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า!”
…โลกแห่งการจองจำพังทลาย!
นี่คือพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดขุมนรกที่สิบแปด
กลุ่มคนตายจำนวนมากเริ่มปรากฏตัวในยมโลก
พวกมันถูกปล่อยจากขุมนรกที่พังทลายด้วยพลังของไม้เท้าราชาภูตผีจองจำ!
“หากมีใครกล้ามาหยุดข้าล่ะก็…” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา
ไม้เท้าแผ่แสงสีแดงไม่มีสิ้นสุดออกมา ทำให้ทั่วยมโลกเริ่มสั่นไหว
ข้างภูเขาล้อมเหล็กใหญ่และแม่น้ำแห่งการลืมเลือน ปฐพีเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
…หกวิถีแห่งสงคราม!
ขุมนรกเริ่มแยกออกจากยมโลก!
ครืนนนน…
ขุมนรกที่สิบแปดแยกออกจากส่วนลึกของยมโลก
คนตายนับร้อยล้านตนคำรามพร้อมกัน
“ราชาภูตผีจงเจริญ!”
“ไม่มีใครสามารถขัดขืนราชาแห่งนรกได้!”
ในเวลาเดียวกัน
เสียงแตกตื่นของเทพนับไม่ถ้วนดังก้องพร้อมกัน
“รีบหยุดวัฏจักรแห่งความเป็นความตายซะ!”
..............................