"จดหมายนี่น่ะ ของเธอใช่ไหม?" เด็กหนุ่มมัธยมปลายหน้าตาดีชูซองจดหมายสีชมพูต่อหน้าคนส่งจดหมายและ...ผู้คนทั้งโรงเรียน "อื้อ ของเราเอง..." เด็กสาวตัวอ้วน ผิวดำ หน้าตาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อยตอบด้วยความขัดเขิน เขารู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอ? ยิ่งต่อหน้าทุกคนแบบนี้ยิ่งประหม่าเป็นที่สุด แคว้ก!! เด็กหนุ่มฉีกซองจดหมายทิ้งพร้อมเหยียดยิ้มให้แก่เธอ เขาเดินไปจับมือเด็กสาวที่มีใบหน้าตาสวยงาม น่ารัก มายืนข้าง ๆ ทำให้เจ้าของจดหมายรู้สึกเจ็บแปลบในใจ คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะเย้ยหยันเธอราวกับว่าตัวเธอนั้นเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจของสังคม "ขอบใจที่รู้สึกดีกับฉันนะ แต่อย่างที่เห็นว่าฉันมีแฟนแล้ว...ถึงไม่มีฉันก็ไม่เลือกเธอหรอก ไปศัลยกรรมมาให้เรียบร้อยก่อนไป้! แล้วค่อยมาส่งจดหมายรักมาอีก จะว่าไปก็สงสารหมอว่ะ! ฮ่าๆ อาจจะทำงานหนักก็ได้กว่าจะทำให้ผีอย่างเธอมาเป็นคน" เด็กหนุ่มคนนั้นพูดจาไม่รู้ถึงจิตใจของอีกฝ่ายว่าจะเจ็บปวดสักเพียงไหน เด็กสาวตัวอ้วนมองเขาแล้วก็น้ำตาไหลออกมา...เพื่อนๆของเธอเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาปลอบใจแล้วต่อว่าคนตรงหน้า ช่างใจร้ายเหลือเกิน... "จะด่าจะว่าอะไรฉันก็ช่าง แต่คนที่ไม่เจียมสารรูปแบบยัยอัปลักษณ์นี่น่ะแม่งน่าขำว่ะ นี่ๆ ก่อนจะไปหาหมอศัลยกรรมน่ะ ลดน้ำหนักลงให้ได้สักกิโลก่อนเถอะ ฮ่าๆ" ใครๆก็ชอบคนสวยคนหล่อด้วยกันทั้งนั้น เด็กสาวตัวอ้วนก็เช่นกัน.. เธอได้แต่มองผู้คนที่หัวเราะเยาะเธอด้วยความเจ็บปวดในใจ ในเมื่อคนบนโลกนี้ต่างให้หน้าตาเป็นตัวชี้วัดในหลายๆสิ่ง นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ เด็กสาวตัดสินใจขอทางบ้านลาออกจากโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อเมริกาโดยติดต่อแค่กลุ่มเพื่อนสนิทที่จริงใจต่อเธอเพียงเท่านั้น ความผิดหวังและการถูกดูหมิ่นจากคนที่เธอแอบปลื้มมานานนั้นสร้างรอยแผลเอาไว้ในใจจนลึกยากที่จะรักษาให้หาย เธอตั้งมั่นไว้ไม่ว่าชายใดบนโลกนี้จะแสนดีหรือรูปหล่อปานเทพบุตรมาจุติ...ก็อย่าได้หวังว่าจะได้ตัวและหัวใจของเธอไปครอบครอง
"จดหมายนี่น่ะ ของเธอใช่ไหม?" เด็กหนุ่มมัธยมปลายหน้าตาดีชูซองจดหมายสีชมพูต่อหน้าคนส่งจดหมายและ...ผู้คนทั้งโรงเรียน
"อื้อ ของเราเอง..." เด็กสาวตัวอ้วน ผิวดำ หน้าตาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อยตอบด้วยความขัดเขิน เขารู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอ? ยิ่งต่อหน้าทุกคนแบบนี้ยิ่งประหม่าเป็นที่สุด
แคว้ก!!
เด็กหนุ่มฉีกซองจดหมายทิ้งพร้อมเหยียดยิ้มให้แก่เธอ เขาเดินไปจับมือเด็กสาวที่มีใบหน้าตาสวยงาม น่ารัก มายืนข้าง ๆ ทำให้เจ้าของจดหมายรู้สึกเจ็บแปลบในใจ คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะเย้ยหยันเธอราวกับว่าตัวเธอนั้นเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจของสังคม
"ขอบใจที่รู้สึกดีกับฉันนะ แต่อย่างที่เห็นว่าฉันมีแฟนแล้ว...ถึงไม่มีฉันก็ไม่เลือกเธอหรอก ไปศัลยกรรมมาซะให้เรียบร้อยก่อนไป้! แล้วค่อยมาส่งจดหมายรักมาอีก จะว่าไปก็สงสารหมอว่ะ! ฮ่าๆ อาจจะทำงานหนักก็ได้กว่าจะทำให้ผีอย่างเธอมาเป็นคน" เด็กหนุ่มคนนั้นพูดจาไม่รู้ถึงจิตใจของอีกฝ่ายว่าจะเจ็บปวดสักเพียงไหน เด็กสาวตัวอ้วนมองเขาแล้วก็น้ำตาไหลออกมา...เพื่อนๆของเธอเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาปลอบใจแล้วต่อว่าคนตรงหน้า
ช่างใจร้ายเหลือเกิน...
"จะด่าจะว่าอะไรฉันก็ช่าง แต่คนที่ไม่เจียมสารรูปแบบยัยอัปลักษณ์นี่น่ะแม่งน่าขำว่ะ นี่ๆ ก่อนจะไปหาหมอศัลยกรรมน่ะ ลดน้ำหนักลงให้ได้สักกิโลก่อนเถอะ ฮ่าๆ"
ใครๆก็ชอบคนสวยคนหล่อด้วยกันทั้งนั้น เด็กสาวตัวอ้วนก็เช่นกัน.. เธอได้แต่มองผู้คนที่หัวเราะเยาะเธอด้วยความเจ็บปวดในใจ ในเมื่อคนบนโลกนี้ต่างให้หน้าตาเป็นตัวชี้วัดในหลายๆสิ่ง นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ
เด็กสาวตัดสินใจขอทางบ้านลาออกจากโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อเมริกาโดยติดต่อแค่กลุ่มเพื่อนสนิทที่จริงใจต่อเธอเพียงเท่านั้น ความผิดหวังและการถูกดูหมิ่นจากคนที่เธอแอบปลื้มมานานนั้นสร้างรอยแผลเอาไว้ในใจจนลึกยากที่จะรักษาให้หาย เธอตั้งมั่นไว้ไม่ว่าชายใดบนโลกนี้จะแสนดีหรือรูปหล่อปานเทพบุตรมาจุติ...ก็อย่าได้หวังว่าจะได้ตัวและหัวใจของเธอไปครอบครอง
8 ปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น...
ร้านอาหารหรูใจกลางกรุงเทพฯ
"ผมรู้สึกยินดีนะครับที่นางแบบตัวท็อปอย่างคุณยอมมาทานข้าวกับผม แต่จะดีกว่านี้นะครับถ้ายอมรับข้อเสนอของผมที่ให้ไป คุณจะไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยเปล่าและนายหน้าที่ติดต่อคุณมาให้กับผม...จะได้ไม่ต้องชวดเงินก้อนที่เขาจะได้" เสี่ยอิทธิผู้มีอิทพลซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในทางด้านมืด เขาพยายามพูดจาหว่านล้อมสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเธอนั้นงดงามแทบจะลืมหายใจแถมยังมีเสน่ห์เย้ายวนเป็นอย่างมาก แม้ชุดที่ใส่ในวันนี้ไม่ได้โชว์เนื้อหนังอะไรเหมือนอย่างที่ถ่าขึ้นปกหนังสือ แต่ดูก็รู้ว่าเธอนั้นเซ็กซี่เป็นที่สุด
หญิงสาวยกน้ำขึ้นดื่มด้วยท่าทางที่นิ่งเฉยและเย็นชา "ขอบคุณเงินจำนวนมากที่เสี่ยเสนอมานะคะ ค้าขายกันแบบนี้จนเคยชินล่ะสิ!?" ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นพร้อมส่งสายตาหว่านเสน่ห์ให้อีกฝ่าย "น่าเสียดายนะคะที่ฉันจะต้องปฏิเสธ"
"หึ! กล้าดีนะ เฮ่อ...สงสัย อะ นี่พวกมึง!! มาจับกูไว้ทำไม!!" เสียงของเสี่ยแก่โวยวายทันทีเมื่อจู่ ๆ ลูกน้องที่ยืนขนาบข้างมาจับตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับ
หญิงสาวตรงหน้ายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะโชว์บัตรเจ้าหน้าที่เขึ้นมาเพื่อเป็นการตอกย้ำความโง่ของเฒ่าตัณหากลับผู้นั้น "เสี่ยอิทธิ เราขอจับกุมข้อหาค้าประเวณี ข่มขืนกระทำชำเราเด็กต่ำว่าสิบห้าปี ค้าอาวุธสงครามและลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เงินนี่น่ะ...เก็บไว้ประกันตัวเองเถอะ!"
"มึง!!! ปล่อยกู!! อย่าคิดว่าคนอย่างกูจะติดคุกง่ายๆ ปล่อยสิเว้ย!!!"
หญิงสาวลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วจ้องมองผู้ต้องหาที่จับกุมได้ด้วยความเย้ยหยัน "แล้วแกคิดว่าใครมันอยากจะมาช่วยแกบ้างล่ะ! พยาน หลักฐาน ทุกอย่างตอนนี้มันมัดตัวแกและพวกจนดิ้นไม่หลุดแล้ว รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้เถอะ!! ขอบใจนะที่ทำให้ทีมของฉันได้ผลงานชิ้นโบแดงเพิ่ม"
มารยาหญิงยังคงทำลายศัตรูได้อย่างดีเยี่ยม นักรบต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องพ่ายแพ้ต่อสตรีไปเสียแทบทุกราย หญิงสาวที่ไม่เคยเปิดใจยอมรับให้กับชายคนไหนนั้นเป็นเป้าหมายอันท้าทายของบุรุษเพศ
เธอคือผู้กองธีรารัตน์ ศุภราชมงคล หรือผู้กองบอมเบย์แห่งหน่วย XIX ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เธอไม่ค่อยชอบให้ใครมาเรียกชื่อเล่นเต็ม ๆ ของเธอสักเท่าไหร่นักแต่ก็อนุโลมให้เป็นบางคน สาวสวยประจำหน่วย XIX ดีกรีหลานสาวของอดีต ผบตร. ที่ปัจจุบันเกษียณอายุไปแล้วแต่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการตำแหน่งของตนเพื่อรอคนที่เหมาะสมมารับช่วงต่อ
ทันทีที่ผู้กองสาวย่างกรายเข้ามายังสำนักงาน สายตาของตำรวจทั้งหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ต่างพากันจ้องมองเธอคอแทบหมุน แต่คนพวกนั้นไม่สามารถสร้างความหวั่นไหวให้แก่เธอได้เลย
ในออฟฟิศของหน่วย XIX...
"ปิดคดี!" สารวัตรภากรหัวหน้าหน่วยปิดแฟ้มคดีความของเสี่ยอิทธิด้วยความสบายใจ ภารกิจส่งท้ายในชีวิตตำรวจของเขาถูกปิดฉากลงอย่างสวยงามเพราะอีกสองวันหลังจากนี้เขาก็จะไม่มีหน้าที่อะไรในสำนักงานแห่งนี้อีกแล้ว เนื่องจากตอนนี้ทางครอบครัวของเขาประสบปัญหาเนื่องจากว่าพ่อของภากรถูกลอบสังหารและน้องชายก็หายสาบสูญ
เหลือเพียงเขาที่ต้องเป็นที่พึ่งให้กับคนที่เหลืออยู่...
"เฮ่อ จะว่าไปก็เสียดายนะคะที่สารวัตรจะลาออก กำลังจะได้เลื่อนยศเป็นผู้กำกับอยู่แล้วเชียว" นวิตาเอ่ยออกมาด้วยเพราะเสียดายในความสามารถของเขา
ธีรารัตน์ยังนั่งนิ่งสีหน้าไร้ความรู้สึก ภากรก็เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่พยายามจะขายขนมจีบให้เธอ...แต่เมื่อปฏิเสธไปก็ยังดีที่เขาไม่ตามตอแยเหมือนคนอื่นๆให้เธออึดอัดใจ และสามารถเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่นับถือกันได้อีกนานแสนนาน "แล้วพี่ภากรรู้หรือยังคะว่าสารวัตรคนใหม่ที่จะย้ายมาในหน่วยเรา เขาเป็นใคร?"
ภากรยิ้ม "เป็นคนที่เธอรู้จักดีเลยล่ะ พรุ่งนี้เขาจะมารายงานตัวและรับตำแหน่งที่นี่ในตอนสายๆ เอาเป็นว่าวันนี้แยกย้ายกันพักผ่อนดีกว่า เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว"
คนที่เธอก็รู้จักดี....?
เขาเป็นใครกันนะ?
########
ในช่วงสายของวันถัดมา...
รถ BMW Z4 สีเหลืองเงางามแล่นเข้ามาจอดยังใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าของรถสวมเครื่องแบบของหน่วยพิเศษมาสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก ร่างสูง ผิวขาว หุ่นของเขาไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะแน่นไปแทบจะทุกสัดส่วน
ใช่แล้ว!!
เขาคือ พ.ต.ต.ณัฐเศรษฐ์ สุวรรณวิเศษ สารวัตรหนุ่มหล่อมากด้วยความสามารถ และเป็นหัวหน้าหน่วยคนใหม่ของหน่วย XIX ที่จะเริ่มปฏิบัติการในวันนี้ นอกจากฝีมือการปราบปรามจะเป็นที่ร่ำลือในวงการแล้วเรื่องผู้หญิงเขาก็ชำนาญไม่แพ้กัน ในขณะที่เขากำลังสำรวจเครื่องแต่งกายในกับกระจกในรถอยู่นั้นก็มี MINI COOPER คันสีขาวมาจอดข้างๆ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่พอเห็นเจ้าของรถลงมาเพียงเท่านั้นเอง
"โห! หุ่นแม่งสุดๆไปเลยว่ะ" ได้แต่อุทานออกมาคนเดียวในรถ หญิงสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินรัดรูปจนเห็นทรวดทรงนาฬิกาทรายช่างน่ามองนั้นคงมาติดต่อราชการธรรมดาเพราะดูจากชุดที่เธอใส่แล้วคงไม่น่าจะใช่เจ้าหน้าที่
แต่รู้สึกคุ้นแปลกๆ
เธอเดินหายเข้าไปด้านในอาคารแล้ว เขาจึงลงจากรถแล้วเดินตามไปห่างๆ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเข้าไปรายงานตัวกับ ผบตร.อยู่ดี แต่ทว่า...เขาเดินตามเธอมาจนถึงห้องทำงานของผู้บัญชาการตำรวจ... ทั้งผู้การสุรเดช ภากรและหญิงสาวคนนั้นก็อยู่รวมกันด้านในด้วย
"นั่งก่อนสิสารวัตร" ชายชราอายุย่างเข้าเจ็ดสิบห้าแล้วยังคงอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของวงการตำรวจกล่าวเชื้อเชิญ สารวัตรหนุ่มรับคำแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ "คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากหรอกนะ ก็...คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว สารวัตรภากรและผู้กองธีรารัตน์...หลานสาวแท้ ๆ ของผม" ประโยคสุดท้ายผู้การสุรเดชเน้นด้วยความหนักแน่น สาเหตุหนึ่งก็เพราะความที่หวงหลานสาวคนสวยมากอีกทั้งผู้มาใหม่ยังจ้องเธอไม่วางตาเหมือนพวกชีกอในสำนักงานนี้
มีหลานสาว (สวย) เท่ากับมีส้วมอยู่หน้าบ้านจริงๆ ยิ่งผู้การสุรเดชมีหลานสาวตั้งสองคน หัวบันไดบ้านแทบไม่เคยแห้ง
"ผู้กอง หลานสาวท่านผู้การ...หรือว่า!!?" เท่าที่จำได้ก็คงหนีไม่พ้นเธอคนนั้น คนที่เขาเคยทำให้เธออับอายต่อหน้าผู้คน "บอมเบย์ ยัยอ้วนนั่นเหรอ?"
"ค่ะ สารวัตร! ถึงจะไม่ยินดีที่จะได้ร่วมงานด้วย แต่ก็ขอต้อนรับนะคะ" ธีรารัตน์รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสัก...ดูดีกว่าเก่าก็จริงแต่นิสัยที่ตัดสินคนจากภายนอกยังคงเหมือนเดิม
ภากรสะกิดรุ่นน้องเขาเบาๆ "มึงอย่าได้คิดลองของเด็ดขาด ขนาดกูยังโดนหักหน้ากลางฝูงชนมาแล้ว"
ณัฐเศรษฐ์หันไปด้วยความสงสัย เพราะหากเป็นเรื่องผู้หญิงมีหรือรุ่นพี่ของเขาจะพลาด "ความจริงดิ!? รุ่นพี่แดกแห้วเหรอ?"
อะแฮ่ม!!
เสียงกระแอมของผู้บัญชาการทำให้สองหนุ่มกลับมาสนใจตรงหน้าอีกครั้ง "ตอนนี้คดีที่ยังหาจุดจบไม่ได้ก็คือคดีของแก๊งไก่ฟ้า ยินดีนะที่ได้คนมีฝีมืออย่างสารวัตรมาช่วย เสียดายก็แต่ภากร...ผมเข้าใจว่ามันเป็นสถานการณ์บังคับ ขอให้เจอตัวน้องชายเร็วๆ"
"ขอบคุณครับท่านผู้การ" ภากรโค้งตัวเล็กน้อย
ชายชราพยักหน้าเบาๆ "ตอนนี้ก็พาสารวัตรณัฐเศรษฐ์ไปเดินดูสำนักงานให้คุ้นชินเส้นทางก่อนเถอะ แล้วบ่ายค่อยประชุมเรื่องภารกิจ"
"ครับ/ค่ะ"
ทั้งสามคนเดินออกมาจากห้องพร้อมกันแล้วตรงไปยังออฟฟิศของหน่วย XIX แน่นอนว่าโต๊ะทำงานของผู้กองสาวนั้นมีช่อดอกไม้หลายสิบช่อ กล่องของขวัญหรือของแบรนด์เนมราคาแพงมาวางกองอยู่ในทุกๆวัน ก็เป็นของตำรวจหนุ่มทั้งน้อยใหญ่ที่หวังจะซื้อใจเธอด้วยสิ่งของเหล่านี้
"ระรินทร์"
"คะ!? ผู้กอง" ผู้หมวดสาวลุกมาจากโต๊ะทำงานของเธอ
ธีรารัตน์หยิบเครื่องบันทึกเสียงออกจากกระเป๋า "เดี๋ยวเอาไฟล์จากเครื่องนี้ออกมาแปลงเสียงและวิเคราะห์ให้เรียบร้อย ส่งให้ฉันเร็วที่สุดได้ก็ยิ่งดี"
"ค่ะ"
"อ้อ แล้วนี่สารวัตรณัฐเศรษฐ์ หัวหน้าหน่วยคนใหม่ของเราแทนสารวัตรภากร" ร่างบางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความรู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย "สารวัตรคะ! นี่หมวดสพลกับหมวดเตวิทย์ สองคนนี้ฉลาดและมีไหวพริบมากคงจะเบาแรงของคุณได้เยอะ ส่วนด้านนี้คือหมวดนวิตาเก่งในเรื่องการเจรจาต่อรอง แล้วก็ด้านนั้นคือหมวดระรินทร์จะเก่งในเรื่องอุปกรณ์และเทคโนโลยี"
"ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน่วยของเรา ค่ะ/ครับ สารวัตร" ลูกทีมของ XIX ต่างกล่าวต้นรับหัวหน้าคนใหม่ของพวกเขา
ณัฐเศรษฐ์ยิ้มยินดี แต่สายตานั้นกลับจ้องไปทางผู้หญิงตรงหน้าไม่ละเว้น ธีรารัตน์ที่รู้ตัวว่าถูกมองก็ทำทีไม่สนใจ เธอเดินไปยังที่โต๊ะทำงานแล้วนำดอกไม้ทั้งหมดให้แม่บ้านไปจัดใส่แจกันให้ทั่วสำนักงานเสีย ส่วนของใช้ราคาแพงก็แจกจ่ายให้กับบรรดาตำรวจสาวๆในนั้น
"ยินดีที่จะได้ร่วมงานกับทุกคนนะ" ชายหนุ่มตอบรับการต้อนรับของทุกคน
ธีรารัตน์หยิบเครื่องแบบของเธอออกมาจากกระเป๋า "พี่ภากรพาเขาไปดูห้องทำงานกับเส้นทางในสำนักงานก่อนเถอะค่ะ ฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน"
ภากรผงกหัวเบาๆ "อ่า! ได้ ไปด้านโน้นกันก่อนเถอะ สพล เตวิทย์...นายสองคนไปเอาแฟ้มเอกสารคดีที่ผ่านๆมาแล้วไปรอฉันที่ห้องประชุม"
"รับทราบครับ!!" สองหมวดขานรับพร้อมกับก่อนจะแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่
ณัฐเศรษฐ์เดินตามภากรมายังห้องที่กำลังจะกลายเป็นห้องทำงานของเขา ภากรแนะนำส่วนต่างๆและอธิบายให้อย่างชัดแจ้ง แต่ดูเหมือนสารวัตรคนใหม่จะยังคงติดตรึงใจกับผู้กองคนสวยเสียมากกว่า สบโอกาสเป็นต้องเอ่ยถามเรื่องเธออยู่บ่อยครั้งจนภากรต้องเอาแฟ้มสำนวนคดีตีหัวแรงๆ
"มึงไม่ต้องไปคาดหวังอะไรเลยเว้ย สาวสวยหนึ่งเดียวของหน่วยไม่มีทางชายตาแลมึงแน่ ๆ" พูดไปก็ยังรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย ภากรนั่งลงกับเก้าอี้ทำงานในขณะที่รุ่นน้องของเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า "ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้บอมเบย์ได้เกินหนึ่งช่วงตัวเลยว่ะ ขนาดกูที่เพียบพร้อมทุกอย่างยกเว้นสันดานยังโดนปฏิเสธเลย แล้วมึง! จงสำเหนียกตัวเองไว้ว่าเคยทำอะไรเอาไว้กับเขา"
ไม่ใช่ไม่รู้เพราะวันที่ณัฐเศรษฐ์ฉีกหน้าธีรารัตน์กลางฝูงชนทั้งโรงเรียน ตอนนั้นภากรก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะกลับไปเยี่ยมอาจารย์ที่สอนเขา ในใจยังเคยนึกสงสารธีรารัตน์อยู่ไม่น้อยแต่ก็ยังดีที่หลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้การทำงานของเขาสดใสเพราะมีสิ่งสวยๆงามๆอยู่ในสำนักงาน
"ก็ช่างเหอะ แต่ผมอาจจะไม่แดกแห้วเหมือนรุ่นพี่ก็ได้ ไม่คิดเลยนะว่าจะไปศัลยกรรมมาจริงๆ"
ภากรดีดเข้าที่หน้าผากของหัวหน้าหน่วยคนใหม่ "ศัลย์เหี้ยอะไร! ที่มึงเห็นทั้งตัวบอมเบย์น่ะของจริงล้วนๆเว้ยไม่มีพลาสติก กูเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กูเริ่มรับราชการแล้วก็กะจองไว้ควง แต่ก็...แดกแห้วอย่างที่มึงว่าแหละ ผู้ชายทั้งโลกก็แดกแห้วทุกคนและต้องรวมมึงไปด้วย" ณัฐเศรษฐ์อึ้งไปสักพัก "เนื้อแท้เป็นคนสวย พอถอดรูปออกมาก็เลยเป็นแบบที่มึงเห็น...อย่าคิดลองของเพราะผู้หญิงคนนี้ คนที่จะได้ไปคงมีแค่เนื้อคู่จริงๆเท่านั้นแหละว่ะ"
สารวัตรหนุ่มยิ้มมุมปาก "อาจจะเป็นผมก็ได้"
#####
หลังจากที่มีการประชุมในห้องประชุมของหน่วย XIX
ณัฐเศรษฐ์ไล่อ่านสำนวนคดีทั้งเก่าและล่าสุดของทีมอย่างละเอียดเพื่อที่จะวางแผนว่าเขาจะต้องสานต่อจากภากรอย่างไร ธีรารัตน์อธิบายในส่วนที่เธอรับผิดชอบเสร็จก็เปลี่ยนหน้าที่ให้คนอื่นจึงไม่ได้ยินเสียงหวานๆของเธออีกเลย
"ตอนนี้พวกแก๊งไก่ฟ้ามีธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ FOXY MODELING ที่มีนางแบบหลายคนหายตัวไปอย่างลึกลับ ตอนนี้ผู้กองบอมปลอมตัวเป็นนางแบบในสังกัดเพื้อสืบหาข้อมูลของนางแบบที่หายตัวไป คงจะถูกนำไปขังไว้ที่ไหนสักที่ก่อนส่งขายไปตามชายแดนและที่สุดท้ายของแต่ละคนที่มีคนพบเห็นคือที่นี่" เตวิทย์อธิบายตามหน้าที่ของแต่ละคนให้เขาเข้าใจ "ส่วนนี่เป็นข้อมูลของผู้ที่หายสาบสูญกับข้อมูลของคนในแก๊งไก่ฟ้าครับ"
"ถ้าให้เดา ตอนนี้มันคงสนใจผู้กองคนสวยของหน่วยเราล่ะสิ!" ณัฐเศรษฐ์หันไปทางหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าหวังจะหาเรื่องพูดคุย แต่กลับแต่ความเงียบและใบหน้าอันแสนเย็นชาตอบกลับมา
นวิตาเห็นท่าไม่ดีจึงยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อตอบคำถามแทนผู้กองสาว "ใช่ค่ะสารวัตร คราวก่อนเราทลายแหล่งซื้อขายขนาดย่อมของพวกมันแล้วช่วยบางส่วนออกมาได้แล้ว พวกมันเลยระวังตัวมากขึ้นถึงยังไม่พาตัวผู้กองไปยังสถานที่ต้องสงสัยว่าพวกนางแบบค่าตัวสูงๆอาจจะถูกขังอยู่ที่นั่น"
"ก็ดี เราต้องปรับแผนกันใหม่ แต่ก่อนอื่นเราจะต้องปิดคดีที่เราสามารถตัดตอนมันออกให้ได้มากที่สุดแล้วค่อยเริ่มแผนใหม่ ซึ่งผมจะลงพื้นที่ไปพร้อมผู้กองธีรารัตน์หลังจากที่จัดการตัวภาระสำคัญไปได้บ้างแล้ว" ตามประสาคนเจ้าชู้ก็ส่งสายตากรุ้มกริ่มโดยไม่คิดจะนึกย้อนในสิ่งที่ตนเองเคยกระทำ ธีรารัตน์หันขวับทันทีแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป เธอจำเป็นจะต้องแยกแยะเรื่องระหว่างหน้าที่และอคติที่อยู่ภายในใจออกไปให้ได้
#####
หลังจากเลี้ยงส่งภากรที่อำลาตำแหน่งไปแล้วและต้อนรับหัวหน้าหน่วยคนใหม่อย่างณัฐเศรษฐ์ที่เข้ามาสานต่อโดยไม่ทำให้รุ่นพี่ของเขาผิดหวัง ตลอดระยะเวลาสามเดือนเขาสามารถนำทีมปิดคดีใหญ่ๆไปได้แล้วห้าคดีด้วยกัน กับเพื่อนร่วมงานก็ไม่มีปัญหาอะไรก็คงมีเพียงแค่ธีรารัตน์แค่คนที่เดียวเท่านั้น ผู้กองคนสวยจะพูดคุยกับเขาเฉพาะในเวลางานแต่นอกเหนือไปจากนั้นก็เหมือนกับคนที่ไม่รู้จักกัน
ออฟฟิศของหน่วย XIX
ณัฐเศรษฐ์เดินเข้ามาไม่เห็นธีรารัตน์ที่โต๊ะทำงานของเธอซึ่งมีเพียงแต่ช่อดอกไม้และของกำนัลวางกองไว้อยู่เช่นเคย แต่กลับเห็นบรรดาลูกน้องหนุ่มๆยืนสุมหัวกันอยู่ที่โต๊ะของสพล เตวิทย์ที่ไม่ได้ร่วมวงก็รีบเดินไปหาเขาทันทีเมื่อเห็นสัญญาณของหัวหน้าหน่วย
"ตำรวจผู้ชายมาทำอะไรที่นี่กันเยอะแยะ" ณัฐเศรษฐ์ถาม
เตวิทย์ถอนหายใจ "นิตยสารฉบับใหม่ที่ผู้กองขึ้นปกวางแผงแล้วครับ แทบทุกเดือนก็จะเป็นแบบนี้กันนั่นแหละ ยิ่งฉบับไหนเป็นผู้กองถ่ายชุด...เอ่อ ชุดชั้นในกับชุดว่ายน้ำก็จะมารวมตัวกันเยอะแบบนี้แหละครับ"
ชุดว่ายน้ำเหรอ?
แค่ในชุดปกติธรรมดาหรืออยู่ในเครื่องแบบก็เซ็กซี่เป็นบ้าอยู่แล้ว อยากเห็นเหมือนกันว่าในชุดวาบหวิวพวกนั้นจะน่าชวนมองขนาดไหน สารวัตรหนุ่มเดินเข้าไปใกล้กลุ่มตำรวจหนุ่มๆที่รายล้อมอยู่ที่โต๊ะทำงานของสพล
"อื้อฮือ! ผู้กองนี่ขาวอวบไปทั้งตัว น่าฟัดสุดๆเลยว่ะ" หนึ่งคนที่กำลังจ้องมองรูปหน้าปกนิตสารกล่าวด้วยสายตาวาววับ "อาหารตาของตำรวจไทยแท้ๆ"
"เฮ้ยๆ เบา ๆ หน่อย เดี๋ยวผู้กองเข้ามาได้ยินก็ซวยกันหมด สวย ๆ แบบนั้นน่ะโหดบรรลัยเลย...ก็รู้กันอยู่ขนาดลูกนายกยังโดนปฏิเสธเลย แล้วอย่างพวกเราจะไปมีความหวังอะไร!!" อีกคนกล่าวด้วยความเสียดาย ธีรารัตน์สร้างกำแพงสูงและหนาเกินไปทำให้พวกเขาไม่สามารถพังทลายมันได้
ณัฐเศรษฐ์แทรกตัวเข้าไปตรงกลางแล้วหยิบนิตยสารฉบับนั้นมาไว้ที่ตัว พอเปิดดูทุกรูปทุกแผ่นก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอไปหลายครั้ง เขาไม่น่าพลาดทำเรื่องเมื่อแปดปีที่แล้วลงไปเลย...หากบอกให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองดีๆ ตอนนี้เขาอาจจะกลายเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดก็ได้
"สะ สารวัตรครับ เก็บอาการหน่อย" สพลสะกิดเตือนหัวหน้าหน่วย
ณัฐเศรษฐ์กวาดมองไปรอบๆตัว "หึ! ผมก็ชายโสดนะ จะมองอาหารตาบ้างไม่ได้หรอ?"
"แหม... อ้าว!! วิตา!!"
พรึ่บ!!
สพลพูดเสียงหลงทันทีที่นวิตาก็เดินแทรกกลุ่มชายหนุ่มเข้ามาแล้วแย่งนิยสารอันล้ำค่าไปอีกแล้ว ผู้หมวดสาวส่งสายตาขุ่นเคืองให้กับสพลก่อนจะซ่อนของในมือไว้ด้านหลัง ระรินทร์ส่ายหัวระอาใจ...ธีรารัตน์ลงปกทีไรออฟฟิศของเธอเป็นต้องครึกครื้นทุกที
นวิตาสูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง "คำสั่งของท่านผู้การค่ะ ห้ามตำรวจนายใดตั้งแต่ยศสารวัตรลงมายังชั้นหัวหมู่เอาเวลางานมาดูรูปของผู้กองธีรารัตน์หลานสาวสุดที่รักของท่านซึ่งท่านหวงแหนมาก หากฝ่าฝืนมีโทษทางวินัยฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ คำสั่งนี้ออกมาเมื่อห้านาทีที่แล้วนี่เองค่ะ"
เสียงโอดครวญดังขึ้นมาเบาๆก่อนที่ทุกคนจะสลายตัวแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตน ณัฐเศรษฐ์ไหวไหล่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ลืมสิ่งที่ตนเองต้องการ "ระรินทร์ ผมขอเบอร์ผู้กองคนสวยหน่อยสิ"
"เอะ!? อยู่ทีมเดียวกัน สารวัตรยังไม่มีอีกหรือคะ?" ระรินทร์ทำหน้าสงสัย
"คงเป็นเพราะสารวัตรแสดงอาการสนใจผู้กองมากไปล่ะมั้งคะ ผู้กองบอมเบย์ของวิตาน่ะเวลาที่มีผู้...มาตามจีบหรือมาทำทีว่าสนใจไม่มีใครได้เบอร์ ได้ไลน์ ไอจีหรือเฟซบุ้คไปหรอกค่ะ คนพวกนั้นแค่หน้าเขาผู้กองก็ไม่มองแล้วค่ะ" นวิตาตั้งแง่ใส่หัวหน้าหน่วยคนใหม่ หลายๆคนที่อยากจะเข้าร่วมกับหน่วย XIX ก็เพราะธีรารัตน์เพียงเท่านั้นไม่มีใครตั้งใจที่จะมาช่วยสะสางคดีแบบจริงๆจังๆ แต่ตลอดสามเดือนที่ทำงานด้วยกันมาถือว่าณัฐเศรษฐ์ไม่ได้ละเลยหน้าที่แม้แต่น้อย "ถ้าให้ไปแล้วสารวัตรอย่าบอกผู้กองนะคะ"
"ผมรับปาก ตอนนี้ผมมีเรื่องด่วนที่จะต้องคุยกับบอม แต่เจตนาอย่างอื่นผมคงไม่ต้องบอก" ใบหน้าคมคายยกยิ้มเจ้าเล่ห์ นวิตายอมฝ่าฝืนคำสั่งก็เพราะเห็นว่าอยู่ทีมเดียวกันก็ควรติดต่อกันเอาไว้ หากมีเรื่องด่วนจะได้ไม่ลำบาก ณัฐเศรษฐ์พอได้เบอร์โทรศัพท์แล้วก็กลับมายังห้องทำงานของตน เขาแอบเจาะสัญญาณโทรศัพท์ของธีรารัตน์จนรู้ที่อยู่ที่แน่ชัดของหญิงสาว "เรื่องในอดีตที่มันไม่น่าจำก็ควรจะลืมมันไปนะคนสวย อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนลูกตื๊อของผมไปได้อีกสักกี่น้ำ"