webnovel

ดื้อนักก็รักสะเลย

Author: DaoistNJqWVV
LGBT+
Ongoing · 2.8K Views
  • 1 Chs
    Content
  • ratings
  • N/A
    SUPPORT
Synopsis

พระเอกเป็นCEOของบริษัทจัดอีเว้นท์ที่นายเอกกำลังฝึกงานอยู่ซึ่งพระเอกก็มีคู่หมั้นที่ผู้เป็นพ่อได้หาไว้ให้แล้ว แรกๆพระเอกและนายเอกแทบจะตีกันทุกวันถ้าไม่ติดว่านายเอกเป็นลูกของเพื่อนของคุณพ่อพระเอกคงไล่ออกไปแล้ว แต่จู่ๆพระเอกก็เริ่มรู้สึกดีกับนายเอกและเอาใจนายเอกทุกอย่างจนทุกคนเริ่มสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้ของพระเอก

Chapter 1ตอนที่1 ตามมาพบผมที่ห้องทำงาน

" ไม่!!!!..."

05:30 น.

เมื่อสิ้นสุดเสียงของชายหนุ่มร่างเล็กที่ได้ร้องลั่นห้องนอนห้องใหญ่ เขาก็ได้สะดุ้งตื่นพร้อมลุกขึ้นนั่ง มือทั้งสองข้างกำผ้าห่มสีขาวไว้แน่น พร้อมหายใจรัวคล้ายกับคนที่ตกใจกลัวอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าให้เดาเขาคงฝันไม่ค่อยดีนักเท่าไหร่ และเมื่อเขาเริ่มได้สติเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนลิ้นชักไม้ใกล้กับหัวเตียงเพื่อปิดเสียงของนาฬิกาปลุกที่เขาตั้งทิ้งไว้เมื่อตอนหัวค่ำเพื่อให้ปลุกเตือนเขาให้ตื่นในเวลาที่กำหนด

ซึ่งชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าไป๋ ซึ่งไป๋นั้นพึ่งจบจากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ไป๋จะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของคุณอานทีซึ่งคุณอานทีเป็นเพื่อนสนิทของพ่อและแม่ของไป๋ ท่านจึงฝากลูกชายเพียงคนเดียวให้มาฝึกงานกับเพื่อนสนิทเพื่อท่านทั้งสองจะได้สบายใจ

ชายหนุ่มร่างเล็กที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงคล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาค่อยๆหายใจเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อตั้งสติก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมก้าวฝีท้าวเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ..... เขาใช้เวลาไม่นานในการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ จากนั้นร่างเล็กได้บิดกรประตูห้องน้ำออกพร้อมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าคลุมสีขาวเพียงผืนเดียวที่ใช้ในการคลุมตัว ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่เขายืนอยู่

ชายหนุ่มร่างเล็กได้หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกางเกงขายาวสีดำสุภาพและก้มลงไปเปิดลิ้นชักล่างที่อยู่ภายใต้ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเนคไทสีดำในลิ้นชักออกมาเพื่อที่จะนำไปใส่ในวันฝึกงานในวันนี้ จากนั้นเขาก็นำสิ่งที่พึ่งหยิบออกมาทั้งหมดมาวางเรียบไว้กับที่นอนเพื่อรอใส่หลังจากเป่าผมเสร็จ

"ฟู้ววววว...."

เสียงของเครื่องเป่าผมที่ถูกเจ้าของนิ้วเรียวยาวเปิดขึ้นเพื่อใช้ทำหน้าที่ในการเป่าผมของร่างเล็กให้แห้งสนิด ร่างเล็กใช้เวลาไม่นานในการเป่าผมให้แห้งและเมื่อผมแห้งสนิดแล้วเขาจึงเอื้อมมือไปถอดปลั๊กของเครื่องเป่าผมที่ถูกเสียบไว้อยู่ออก ก่อนที่จะก้มลงไปหยิบกางเกงขายาวสีดำที่วางไว้บนเตียงนอนมาใส่ให้เรียบร้อยและก้มลงไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมเนคไทขึ้นมาใส่ตามหลัง

"ตื้ดดด"..... "ตื้ดดด"..... "ตื้ดดด"....

เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนลิ้นชักไม้ข้างหัวเตียงได้ดังขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินอ้อมเตียงใหญ่เข้าไปหยิบขึ้นมาและมองดูรายชื่อที่อยู่บนหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อเขารับรู้แล้วว่าเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ผู้นี้คือใครเขาจึงกดรับสายในทันที

"ครับแม่...." ร่างเล็กกดรับสายพร้อมทักทายผู้เป็นแม่ทันที

"เป็นยังไงบ้างไป๋ไปบริษัทของอานทีรึยัง....."

"ใจเย็นครับแม่....นี้พึ่งจะหกโมงครึ่งเองนะครับ"

ร่างเล็กถือสายพร้อมเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานและหยิบแฟ้มเอกสารสำคัญที่อยู่ข้างกันใส่เข้าไปในกระเป๋า

"ไปทำงานแล้วก็ทำตัวดีๆนะห้ามมีปัญหาเด็ดขาดแม่เกรงใจอานทีเค้า....."

"ครับ....แม่ แม่บอกผมเป็นพันครังแล้วนะ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับผมเดี๋ยวสักพักผมก็ออกไปแล้ว"

เมื่อจบการสนทนาร่างเล็กก็จัดการกดวางสายในทันที และเดินตรงไปที่ห้องครัวพร้อมเปิดตู้เย็นและหยิบขวดนมวัวรสจืดออกมาเปิดฝาและจัดการเทนมใส่แก้วพอประมาณจากนั้นเขาก็เดินเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่พร้อมหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเปิดเพื่อดูข่าวสารต่างๆในยามฟ้าแจ้ง....

"07:00 น."

ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาที่ค่อนข้างที่จะเริ่มสายแล้วสำหรับบริษัทใหญ่อย่างบริษัท อาร์เอส หรือบริษัทของคุณอานทีนั้นเอง ร่างเล็กได้หยิบโทรศัพท์ขนาดหน้าจอ 6.06นิ้ว ขึ้นมาเพื่อเปิดดูเวลา ก่อนที่จะเบิกตากว้างเพราะเขาไม่คิดว่าเวลาจะเดินเร็วขนาดนี้ ซึ่งนมในแก้วของร่างเล็กยังไม่หมดจากแก้วเลยด้วยซ้ำ เขารีบหยิบรีโมทโทรทัศน์ที่วางไว้อยู่ตรงหน้าขึ้นมาเพื่อกดปุ่มปิดและได้วิ่งไปที่โต๊ะทำงานในห้องนอนเพื่อหยิบกระเป๋าเอกสารสีดำ และไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถเก๋งสีดำคู่ใจที่คุณพ่อและคุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 18ปีเต็ม ไปด้วย

ร่างเล็กได้กดลิปที่อยู่ในชั้น14เพื่อลงมา ณ ชั้น1ของคอนโด เมื่อมาถึงเขาไม่รอช้าที่จะวิ่งจ้าไปที่รถเก๋งคันสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากคอนโด เขาใช้เวลาไปเพียง15นาทีในการขับรถเพื่อตรงมาที่ทำงาน

"ขอโทษนะครับ...ตรงนี้จอดรถไม่ได้นะครับ...."

หลังจากที่เขาขับมาถึงที่ทำงานและกำลังจอดรถ แต่จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือที่เรียกว่า รปภ วัยกลางคนได้เดินเข้ามาเพื่อบอกให้ไป๋นั้นเปลี่ยนที่จอด

"ทำไมถึงจะจอดไม่ได้ล่ะครับ...ผมก็เห็นอยู่ว่าว่าง"

ไป๋ได้เอ่ยถาม รปภ ไปด้วยความสงสัยเพราะที่ ๆ เขาจอดอยู่ก็ล้วนแต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางในการจอดรถของพนักงานของบริษัทนี้

"เอ่อ..."

รปภ วัยกลางคนได้แต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมา จนมีรถเก๋งคันสีขาวทะเบียนป้ายแดงได้ขับเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าที่ไป๋และ รปภ วัยกลางคนคนนั้นยืนอยู่พร้อมกับลดกระจกลงต่ำเพื่อมองดูด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

ปี้กกก ๆ ๆ !!!

เสียงของแตรรถเก๋งคันดังกล่าวได้ดังขึ้นมา 2-3 ครั้งก่อนที่เสียงของ รปภ จะรีบกล่าวขอโทษผู้หญิงในรถที่กำลังทำสีหน้าไม่พอใจอยู่ รปภ ได้หันมาขอร้องร่างเล็กอีกครั้งเพราะตนไม่อยากมีปัญหากับคุณพรอยมนว่าที่คู่หมั้นของเจ้าของบริษัทที่เขากำลังทำงานอยู่

ร่างเล็กจ้องมองไปที่ผู้หญิงในรถที่กำลังบีบแตรไม่หยุดเพื่อส่งสัญญานให้ไป๋ไปจอดที่อื่น จนตอนนี้ทุกคนในระแวกใกล้เคียงก็ต่างหันมามองทางต้นเสียงที่ดังขึ้นเป็นระยะไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายหญิงสาวหุ่นดีผิวขาวผมรอนได้เปิดประตูรถเก๋งสีขาวและเดินลงมาหยุดอยู่ต่อหน้า รปภ

"นิ่!!! ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม? ว่าห้ามให้ใครมาจอดในที่ของฉันเด็ดขาด อยากตกงานรึไง!!"

"ขอโทษครับคุณพรอยมน..."

"นิ่!คุณ ช่วยให้เกียรติคุณลุงเค้าด้วยครับ..."

"แล้วนายเป็นใครมีสิทธิอะไรมาสั่งฉัน!!!"

ผมกำลังจะโต้ตอบกลับไปแต่ก็มีชายสูงขาวผมบอนแต่งตัวดูดีดูเข้มหล่อและสุขุมเดินเข้ามาขัดจังหวะไว้สะก่อน ชายคนนี้ก็คือคุณพอร์ชซึ่งเขาเป็นCEOของบริษัทนี้และก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอานทีเพื่อนสนิทของพ่อและแม่ไป๋นั้นเอง

"มีอะไรกัน....."

เสียงเข้มที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทุกคนยืนอยู่ได้ดังขึ้น ทุกคนก็ต่างหันไปมองตามต้นเสียงก่อนที่พนักงานทุกคนจะรีบแยกย้ายกันออกไป ชายคนนี้เดินเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าทั้งสาม เพื่อถามปัญหาที่เกิดขึ้น พรอยมนไม่รอช้าที่จะทำตัวน่าสงสารและเข้าไปเกาะแขนของคนตัวสูงพร้อมเอ่ยคำฟ้องให้แก่คนตัวสูงฟัง

"พอร์ชข๋าา.... ก็เด็กนี้มันมาแย่งที่จอดรถของพรอยอ่ะ พรอยขอร้องดีๆแล้วนะคะแต่เด็กนี้ก็ไม่ยอมถอยรถแถมยังมาว่าพรอยอีกอ่ะ"

"โอ๋โห๋!!... คุณเนี่ยแต่งเรื่องเก่งจังเลยนะครับ ก็เห็น ๆ อยู่ว่าผมมาจอดก่อน ...."

"นิแก!!!...."

ไป๋ขมวดคิ้วพร้อมส่ายหน้าออกมาเบาๆและกำลังจะเดินหนีออกไปแต่ร่างสูงก็ได้เอ่ยคำสั่งให้ไป๋หยุด ก่อนที่จะหันไปพูดกับว่าที่คู่หมั้นของตน

"พรอยมนผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม? ว่าที่จอดรถไม่มีคำว่าของใคร พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนรวมใครมาก่อนก็มาสิทธิ์จอดก่อน"

ร่างเล็กยิ้มมุมปากออกมาอย่างสะใจ อย่างน้อยประธานบริษัทแห่งนี้ก็ไม่ได้เข้าข้างคู่หมั้นตัวเองจนไม่ลืมหูลืมตา

"แต่พอร์ชคะ!!...."

พรอยมนไม่มีโอกาสแม้แต่ที่จะได้พูดต่อให้จบประโยค คุณประธานบริษัทอย่างคุณพอร์ชก็พูดแทรกขึ้นมาสะก่อน

"ส่วนคุณ...ตามมาพบผมที่ห้องทำงานด้วย"

ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แต่ก็เดินตามคุณพอร์ตไปโดยไม่ปฏิเสธ แต่เขาก็มีแอบคิดในใจว่านี้พึ่งมาวันแรกก็จะโดนไล่ออกเลยหรอเนี่ย.... ทั้งสองคนเดินออกไปโดยที่ปล่อยให้หญิงสาวว่าที่คู่หมั่นของท่านประธานยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่คนเดียว.....

ตอนนี้ร่างเล็กที่กำลังเดินตามท่านประธานอย่างคุณพอร์ชเข้ามาในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแผนกไหน ๆ ก็เริ่มสนใจและหันมามองทั้งสองเป็นสายตาเดียว ไป๋ก็ไม่ได้สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้นเค้าได้แต่เดินก้มหน้าก้มตามาตามคุณพอร์ชไปอย่างเงียบ ๆ แต่จู่ ๆ ร่างสูงก็หยุดชะงักขึ้นมาแบบกะทันหันจนร่างเล็กที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัว ได้ชนไปที่แผ่นหลังอันใหญ่ของเขาไปเต็ม ๆ

"ตึ๊ก!!! โอ๊ย.....!!!!" ร่างเล็กได้แต่ลูบหน้าผากของตัวเองไปมาพร้อมขมวดคิ้วท้าชก

"เดินมองทางหน่อยสิ่ไม่ไช่มั่วแต่มองเท้าตัวเอง" คุณท่านประธานพูดออกมาอย่างหน้านิ่ง ๆ

ร่างเล็กได้แต่กัดฟันตัวเองพร้อมเบิกตากว้าง และกำลังที่จะตอบโต้กลับไปแต่คุณพอร์ชก็หันไปพูดกับพนักงานคนนึงสะก่อน

"เอ่อ..คุณทิพย์ช่วยตามผมไปที่ห้องทำงานด้วยนะครับ" ร่างสูงหันไปสนทนากับหญิงวัยกลางคนที่ใส่แว่นปากแดงผมรวบตึงและกำลังนั่งจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเลขาของเขา

" อ๋อ... ได้ค่ะ " หญิงคนที่พึ่งถูกท่านประธานเรียกในเมื่อสักครู่นี้ได้ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมนิ้วเรียวขยับแว่นที่หล่นมาจุกับจมูกโด่งให้เข้าที่และหันมาตอบรับผู้เป็นนายในทันที

จากนั้นทั้งร่างเล็กและพนักงานคนดังกล่าวก็ได้เดินตามร่างสูงเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานห้องใหญ่ของท่านประธาน ร่างเล็กก็จ้องมองไปรอบห้องอย่างกับคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและห้องก็สะอาดตามากๆ ร่างเล็กได้แต่คิดในใจไปว่า ชายสูงที่เดินนำเขามาไม่ได้เป็นคงจัดเองแน่ๆ และถ้าให้เดาอีกก็คงเป็นคุณคู่หมั้นของเขานั้นแหละเป็นคนจัดให้

เมื่อเข้ามาถึงร่างสูงก็ได้เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปนั่งที่เก้าอี้หนังสีดำหรูดูแพงสมกับเป็นเก้าอี้ของCEOบริษัท

"นี้คุณทิพย์เลขาของผม แล้วนี้ไป๋เป็นเด็กฝึกงานใหม่ครับ..." ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังพร้อมใช้แขนเรียวยาวทั้งสองวางเรียบลงมาที่โต๊ะทำงานได้แนะนำระหว่างเลขาของเขาและร่างเล็กให้ทั้งสองรู้จักกัน

"เอ่อ.....สวัสดีครับคุณทิพย์" ร่างเล็กได้หันตัวไปทางที่หญิงวัยกลางคนได้ยืนอยู่และยกมือขึ้นพร้อมก้มหัวไหว้คนตรงหน้าอย่างสุภาพ

"สวัสดีค่ะ.....เอ่อ แต่ทุกครั้งที่เด็กฝึกงานเข้ามาทำงานบอสไม่ได้ให้เข้ามาที่ตึกนี้ไม่ใช่หรอคะ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะที่จริงแล้วเด็กฝึกงานจะอยู่คนละตึกกับพนักงานทั่วไป

"นี้แหละที่ผมจะบอก ผมอยากให้คุณทิพย์ช่วยพาไป๋ไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักและอยากให้คอยสอนงานไป๋หน่อย ได้ไหมครับ"

"เอ่ออ..... " หญิงสาววัยกลางคนอ้ำอึ้งอยู่สักพัก

"คือไป๋เนี่ยเป็นลูกของเพื่อนสนิทป๊า....ผมเลยอยากให้ไป๋อยู่ในความดูแลของผม" ผู้เป็นนายของหญิงวัยกลางคนได้อธิบายต่อให้เขาได้เข้าใจ

"อ๋อค่ะ...แล้วบอสอยากให้น้องฝึกงานที่แผนกไหนคะ..."

" เอาเป็นแผนกอีเว้นท์ก็แล้วกัน"

"ได้ค่ะ....."

หลังจากจบการสนทนาระหว่างบอสและเลขา คุณพอร์ชก็สั่งให้เลขาของเขานั้นออกไปก่อน ก่อนที่จะลากสายตามองร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ต่อหน้า คุณพอร์ชได้ลุกขึ้นออกจากเก้าอี้เขาค่อยๆก้าวเท้าเดินมาใกล้ร่างเล็กอย่างช้าๆ ร่างเล็กค่อยๆใช้สายตาชำเลืองมองก่อนจะเอ่ยถามคุณท่านประธานของเขาออกมาอย่างใจกล้า

ท่านประธานจะทำอะไรครับ?!!!

You May Also Like

บันทึกฝึกสอน

บันทึกฝึกสอน ครั้งที่ 26 วันนี้ก็น้ำตาแตกเหมือนเดิม Past simple tense ที่ผมสอนไปเมื่อวันก่อน ทั้งที่ในคาบแทบจะบอกข้อสอบอยู่แล้ว วันนี้พวกหัวขวดห้องพละก็ยังตกกันระนาว “จารย์จักร ขอซ่อมง่าย ๆ นะจารย์” ให้ตายเถอะ ทำเอาผมท้อจนเกือบจะร้องไห้แน่ะ แต่ ‘พี่เคน’ ครูพี่เลี้ยงก็ลูบหัวปลอบผม แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรน่า ไว้ค่อยปรับการสอนไป ไม่ต้องเครียด” แล้วจะไม่ให้เครียดได้ยังไงกัน ทั้งห้องมี 41 คน ผ่านอยู่คนเดียว โว๊ยยยยยย ผมเอาหน้าซุกอกพี่เคนแล้วปล่อยโฮออกมา หน้าอายชะมัด แต่มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ชีวิตฝึกสอนของผมคงจะทุลักทุเลกว่านี้แน่ ถ้าไม่มีแฟนคนนี้อยู่ข้าง ๆ ละก็... เดี๋ยว...ผมเผลอหลุดไปเหรอ ที่จริงแล้วแฟนของผม…พี่เคน ก็คือครูพี่เลี้ยงของผมนั่นแหละ เพราะงั้น รู้แล้วก็อย่าไปบอกใครนะ ถ้าใครรู้เรื่องความรักต้องห้ามนี้ละก็ ผมซวยแน่ บี จักรวาร

NIMAJNEB · LGBT+
Not enough ratings
4 Chs

Playboy is my Date - Thai BL

คำเตือน: เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่มีจิตใจแจ่มใส มันรุนแรงมากและบางครั้งก็ทำให้หัวใจสลาย เรื่องราวเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษและเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่จากเล่มที่ 2 เล่มที่ 1: แตกหัก โอลิเวอร์อกหักจากรักแรกและสาบานว่าจะไม่ตกหลุมรัก ทำให้วูกัน แบดบอยผู้ไร้กังวลที่มองข้ามโอลิเวอร์เป็นเรื่องยาก Vukan พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแหกกฎของ Oliver ที่ยากจะต้านทาน เล่มที่ 2: พังเกินกว่าจะซ่อมได้ ด้วยการเข้ามาของตัวละครใหม่สองตัวในชีวิตของ Vukan และ Oliver ทำให้ชีวิตพลิกผัน พวกเขาพยายามจัดการกับงาน เพื่อนใหม่ และความหลงใหลของพวกเขาด้วยความยากลำบาก บางครั้งความรักอาจไม่เพียงพอในความสัมพันธ์ เมื่อคู่รักขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เล่มที่ 3: ถูกทิ้ง ในขณะที่ปัญหาใหม่ยังคงดำเนินต่อไป Vukan และ Oliver พยายามเคลียร์ความเข้าใจผิดของพวกเขา สิ่งเดียวคือสายเกินไปที่จะรักษาหัวใจที่บอบช้ำของพวกเขา ใครว่าความรักไม่ใช่เรื่องยาก มันไกลกว่านั้น ความรักจะสวยงามได้เมื่อเจอคนที่ใช่ และอาจเป็นพิษได้หากเกินขีดจำกัด

KallaJ · LGBT+
Not enough ratings
3 Chs

เกิดใหม่มาเป็นเหยื่อของท่านประธานจอมรัท

คำโปรย ได้เกิดใหม่เป็นหนุ่มหน้าใส วัยยี่สิบทายาทไฮโซทั้งที แต่ไหงต้องมาอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มศัตรูคู่อาฆาตด้วย ยัง..เรื่องซวยยังไม่จบ เพราะหนุ่มสุดแซบที่ว่าดันเกิดอาการรัท มีแต่ฮีทของเขาเท่านั้นจะบำบัดได้ เรื่องย่อ คำมร ไฮโซหนุ่มหน้าสวยแต่พฤติกรรมเหลวแหลก เขาคือศัตรูเบอร์หนึ่งของเดวิสประธานหนุ่มรูปหล่อของลาโฮมกรุป คำมรคือคนที่ทำให้ชีวิตของท่านประธานพังจนสิ้นไร้ความสุข เพราะหลายปีก่อนคำมรขับรถโดยประมาท จนทำให้พ่อของเดวิสเสียชีวิต การินคือชายวัยกลางคนผู้มีบาดแผลในใจ จากการสูญเสียลูกและเมียเพราะอุบัติเหตุ เขาทำงานที่ลาโฮมกรุปไปวัน ๆ อย่างไร้เป้าหมาย มีแต่เหล้าเป็นเพื่อน วันหนึ่งมีเหตุอะไรสักอย่างทำให้การินตกตกน้ำเสียชีวิต ปาฏิหาริย์มีจริง การินได้รับโอกาสของชีวิตที่สอง แต่มีคนตั้งเยอะแยะ ดันมาเกิดใหม่ในร่างของคำมรที่นอนเป็นโคม่าเพราะเสพยาเกินขนาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เดวิดลักพาตัวคำมรที่นอนหลับใหล มาเก็บไว้ในที่ซ่อนเพราะจะรอให้ฟื้นแล้วแก้แค้น เรื่องยุ่งเริ่มเกิด การินในร่างคำมรอยู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความฉงนของคนรอบตัว แต่ที่วายป่วงยิ่งกว่าคือเดวิสดันรู้สึกแปลก ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนอาการรัท มันเกิดขึ้นทันทีที่ฟีโรโมนจากตัวของคำมรสัมผัสตัวของเดวิส แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เอาเป็นว่า ตอนนี้เดวิสหักห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว กลิ่นของคำมรช่างยั่วยวนจนยั้งใจไม่อยู่ และเขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง แค่แก้แค้นอย่างเดียวคงไม่พอ... คำแนะนำในการอ่าน 1. ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน วิชาชีพ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทั้งสิ้น 2. บางตัวละครในนิยายอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ในเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง 4. นิยายเรื่องนี้ยืมบางคอนเซปต์ในธีม Omegaverse มาใช้ คือ การรัท การฮีท การกัดคอเพื่อผูกพันธะ แต่ไม่ใช่นิยายธีม Omegaverse เต็ม ๆ 5. พฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้เครื่องป้องกันของตัวละครในเรื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตาม

telltopia · LGBT+
Not enough ratings
17 Chs

ONMYOJI องเมียวจิ

แนะนำตัวละคร อวี้ อันฉี (อัลฟ่า) (184 ซม. / 74 กก.) นักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีนที่ต้องมาอาศัยอยู่กับตระกูลอาคาวะ ถูกคุณปู่ (อาคาวะคนปู่บังคับให้เรียกเพื่อความสนิทสนม) ฝากฝังให้ต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของ ชิโนบุ และ แบล็ก อาคาวะ ชิโนบุ (182 ซม. / 67 กก.) ทายาทตระกูลอาคาวะที่มีชื่อเสียงเป็นตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ในเกียวโต เพราะชีวิตผูกพันอยู่กับเรื่องภูตผีมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยจะกลัวอะไรเหมือนคนอื่นเขาสักเท่าไร อาคาวะ แบล็ก (179 ซม. / 72 กก.) เด็กหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดีที่ตัวติดกับชิโนบุตลอดเวลา เป็นคนที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังยิ้มได้ ยกเว้นเวลาที่โกรธมากจริง ๆ เจ้าตัวมักจะคอยอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้อัลฟ่าฟังอยู่เสมอ

LyLyAiAi · LGBT+
Not enough ratings
34 Chs

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Not enough ratings
56 Chs