ครั้นร่างอรชรเดินออกมาจากห้องสรงก็พบว่านางกำนัลกำลังจัดเตรียมอาภรณ์กับเครื่องประดับรออยู่ก่อนแล้ว
ตาหวานปะทะเข้ากับแมรี่ที่ยืนยิ้มมุมปากอยู่หน้าบานกระจก นางทำหน้าระรื่นราวกับกำลังเยาะเย้ยอะไรบางอย่าง
"พระนาง รัชทายาทรับสั่งให้พวกข้ามาแต่งกายให้ท่าน เสร็จแล้วให้ลงไปทานอาหารเจ้าค่ะ"
หญิงวัยกลางคนที่มาดูแลนางประจำเอ่ยบอก
เซนิตตอบเสียงแผ่ว "จ้ะ"
จากนั้นเหล่านางกำนัลจึงพากันห้อมล้อมเด็กสาว ผัดหน้าและแต่งองค์ทรงเครื่องให้นางอย่างบรรจง
"เมื่อคืนพระนางหลับสบายดีหรือไม่เจ้าคะ" จู่ๆ แมรี่ที่กำลังพันกระโปรงชั้นนอกให้เซนิตก็เอ่ยขึ้น
"อ่อ อืมม...หลับสบายดีจ้ะ" เซนิตที่ถูกถามเช่นนั้นตอบกลับอ้ำๆ อึ้งๆ นางจำได้ว่าเมื่อคืนแมรี่ยืนนัวเนียอยู่กับคลีโอที่ด้านล่างวิมาน ซ้ำยังเห็นนางยืนมองอยู่บนระเบียงด้วย หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้ามาด้านใน
หมายความว่าคนเลวนั่นกับบ่าวสาวคนนี้….ทำเรื่องบัดสีกันก่อนที่เขาจะเข้ามาปลุกปล้ำนาง
เขามันเลวสิ้นดี...
คิดได้ดังนั้นเซนิตก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงบุรุษผู้นั้นเป็นพันเท่า เนื้อตัวของนางตกเป็นของชายมักมากไปแล้ว
นางรู้สึกช้ำใจยิ่งนักที่กลายเป็นของเล่นระบายอารมณ์ของเขา…
"จริงสิแมรี่ เมื่อคืนเจ้าหายไปไหนมา ข้าไปเรียกที่ห้อง เหตุใดจึงไม่เจอ" บ่าวสาวอีกคนเอ่ยถามอย่างสงสัย
แมรี่ได้ยินเช่นนั้นก็ปิดปากหัวเราะเขินอาย บิดตัวเป็นเกลียว "เอ่อ...คือว่า...รัชทายาทเรียกข้าไปน่ะ..." พูดเพียงเท่านั้นหน้าสวยเฉี่ยวก็แดงก่ำแล้วก้มหน้างุด
"ห้ะ!!! จริงหรือ!?" บ่าวสาวคนที่ถามร้องอุทานตกใจ คำตอบของแมรี่ทำให้บรรดาบ่าวสาวพากันตาโตด้วยความอิจฉา
"หุบปาก! เหตุใดถึงเอาเรื่องส่วนตัวของฝ่าบาทมาพูดต่อหน้าธารกำนัล ข้าจะโบยเจ้า!"
"ป้าคริสทีน! จะอะไรกับข้านักหนา ข้าไม่ได้ทำใครตายเสียหน่อย! แค่ทำตามพระประสงค์ ป้าก็รู้นิว่าไม่มีใครขัดได้ อีกอย่าง ข้าก็แค่นอนอยู่เฉยๆ~" แมรี่พูดปิดท้ายหน้าตาลอยชาย
"แม่นี่!!!" คริสทีนเลือดขึ้นหน้า ยัยเด็กคนนี้กำเริบเสิบสานตั้งแต่เล็กจนโต นับวันยิ่งยากจะห้ามปราม
บ่าวสาวที่อยู่ข้างๆ คริสทีนรีบห้ามทัพ "ป้าคริสๆๆ! พอเถิด นางทำตามพระประสงค์ไม่ผิดหรอก แมรี่ คราวหลังเจ้าก็อย่าเอาเรื่องส่วนตัวของรัชทายาทมาพูดอีก!"
เซนิตยืนฟังนิ่งด้วยความสำรวม หน้าจิ้มลิ้มแสดงความกระอักกระอ่วน บ่งบอกว่านางไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้แม้แต่น้อย
"เสร็จแล้วใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าขอตัวนะเจ้าคะ" เด็กสาวพูดจบก็เดินฝ่ากลางวงบรรดาบ่าวออกไป
แมรี่เห็นปฏิกิริยาของเซนิตก็รู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก "หึ"
เมื่อมาถึงห้องเสวย บุรุษหนุ่มที่นางไม่อยากเจอกำลังนั่งทานอาหารอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว หน้าหล่อเรียบนิ่งไม่ไหวติง บรรจงตักอาหารเข้าปากเนิบช้า ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อร่างบางเดินเข้ามา ตาเฉี่ยวคมตวัดไปมองแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าดังเดิม
วันนี้เซนิตงดงามกว่าวันไหนๆ อาภรณ์และเครื่องประดับที่เขาเลือกให้เหมาะกับคนตัวเล็กมาก หน้าสวยประทินโฉมอ่อนๆ ทำให้ดูน่ามองขึ้นไปอีก อาภรณ์สีฟ้าที่เปิดเปลือยเนินอกและเอวคอดเน้นรูปร่างให้ยั่วยวนยิ่งขึ้น ผ้าสีฟ้าตัดกับผิวพรรณของเด็กสาวราวกับเป็นทะเลน้ำนม
"นั่งลง" เสียงทุ้มเอ่ยเชิงออกคำสั่ง
เซนิตเดินหน้าบึ้งไปนั่งเก้าอี้ที่เยื้องถัดจากเขา นางนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนราวกับรูปปั้น
เมื่อนึกถึงภาพเข้าจังหวะของตัวเองและเขาเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนแล้ว แก้มใสก็แดงเห่อลามไปถึงใบหู ทั้งแค้นเคืองทั้งอับอาย
นาง...เสร็จสมบนตัวเขา
คลีโอสัมผัสได้ว่าคนข้างๆ นั่งนิ่งไม่ขยับ ตาคมเหลือบมองไปยังร่างบาง พบว่าเจ้าตัวกำลังนั่งตัวตรง สีหน้าเย็นชาบึ้งตึง ไม่แตะอาหารเลยแม้แต่น้อย
คลีโอ "กิน"
เซนิต "...."
คลีโอ "ข้าบอกให้กิน" เสียงทุ้มเน้นหนักขึ้นเรื่อยๆ
เซนิต "...."
คลีโอ "เซนิต เจ้ากำลังท้าทายข้าอยู่นะ"
เซนิต "..."
ไร้การตอบสนองเช่นเคย
ปัง!!!
มือใหญ่บันดาลโทสะทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น สาวน้อยสะดุ้งโหยง ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"กินเดี๋ยวนี้" เทพหนุ่มพูดพร้อมจ้องนางตาเขม็ง
คนตัวเล็กจึงได้แต่ยอมจำนน มือสั่นระริกตักอาหารเข้าปากอย่างไม่เต็มใจ
อาหารมื้อเช้าดำเนินไปด้วยความอึมครึม ซึ่งต่างจากวันก่อนๆ อย่างผิดหูผิดตา เหล่าธารกำนัลที่ยืนรอรับใช้ต่างก็สังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
มีเพียงแมรี่ที่แสดงอาการแตกต่างจากคนอื่นๆ นางยืนยิ้มสะใจอยู่คนเดียว
"พวกเจ้าออกไปเตรียมราชรถเถิด อีกเดี๋ยวเราจะตามไป" เทพหนุ่มพูดขณะยกจอกไวน์ขึ้นดื่ม
"เพคะ"
จากนั้นเหล่านางกำนัลจึงพากันเดินออกไป เหลือเพียงเขาและสาวน้อยหน้างอที่อยู่ข้างๆ
"กินเสร็จแล้วก็รีบลุก" เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยโดยไม่ชายตาแลแม้แต่ใบหน้านางด้วยซ้ำ
"ท่านจะพาข้าไปไหน" หน้าสวยนิ่วหน้าถาม
"เจ้าไม่มีสิทธิ์ถาม จงจำไว้ว่าตอนนี้เจ้าอยู่ที่นี่ในฐานะเชลยศึก"
เมื่อได้ยินคำนั้นเซนิตก็จุกในอก ตาหวานเริ่มร้อนผ่าว มือเล็กกำช้อนแน่น ปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
เหตุใดโชคชะตาของนางช่างอาภัพนัก เพราะความอ่อนต่อโลกของนางแท้ๆ ถึงได้มองคนผิดถึงเพียงนี้
เชลยศึกอย่างนั้นหรือ…
"อย่ามามีน้ำตา ข้าไม่สงสาร ไปได้แล้ว"
คลีโอเช็ดไม้เช็ดมือเสร็จก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมกริบมองร่างบางที่นั่งอยู่ที่เดิมด้วยอารมณ์เรียบเฉย
"แล้วจงอย่าเปิดเผยตัวตนของเจ้า เพราะข้าจะไม่รับรองความปลอดภัย เข้าใจหรือไม่" ร่างสูงกดหน้าพูดเสียงเข้ม
เซนิตสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วตอบเขาเสียงสั่น "ขะ เข้าใจแล้ว"
คลีโอชักสีหน้า "เราเป็นเพื่อนเล่นเจ้าหรือ อยากให้ย้ำสถานะของเจ้าอีกรอบหรือไม่"
หัวใจดวงน้อยกดดันอย่างหนัก "ขะ เข้าใจแล้วเพคะ"
"ดีมาก" ปากหยักกระตุกยิ้มพอใจ เขาชอบให้นางพูดเพราะๆ เหมือนเดิมมากกว่า
จากนั้นร่างกำยำก็เดินนำออกไปยังลานกว้างนอกวิมาน บนพื้นหญ้าเขียวขจีมีราชรถทรงโดมสีทองที่ประดับด้วยเพชรพลอยระยิบระยับจอดเทียบอยู่ ม้าบินสีขาวสง่าสองตัวถูกคล้องเชือกให้ลากกับตัวรถ โดยมีองครักษ์สองนายนั่งเป็นสารถีอยู่ด้านบน
"ขึ้นมา"
คลีโอก้าวขึ้นไปบนรถ แล้วเอี้ยวตัวยื่นมือกลับมาส่งให้เซนิต เด็กสาวชั่งใจชั่วครู่ แต่ก็ต้องยอมจับเพราะสายตาดุกำลังจ้องมองเชิงบังคับ
เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย เขาจึงแสดงให้คนอื่นเห็นว่านางคือคนสำคัญ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงซาตานที่ตกเป็นเชลยศึกเท่านั้น
เมื่อร่างบางจับมือใหญ่ขึ้นมายังราชรถก็พบว่าด้านในกว้างขวางมาก มีทั้งเตียงนอน ห้องสรง ที่นั่งพักผ่อน และระเบียงชมทิวทัศน์ ผิดกับห้องโดยสารทรงโดมขนาดเล็กที่เห็นด้านนอกลิบลับ
"ออกรถได้" คลีโอส่งเสียงให้สารถี
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น องครักษ์ก็ฟาดแส้ใส่ก้นม้าสองสามครา ม้าสีขาวกางปีกกระพือขึ้นลงแล้วทะยานตัวขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะบินด้วยระดับความสูงและความเร็วคงที่
บรรยากาศในรถม้าเงียบเชียบ ได้ยินเพียงเสียงลมตีกันอยู่ด้านนอก เซนิตนั่งตัวลีบไม่กล้าสบตาคนตัวโต แต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าเขาจะพานางไปไหน จะเอาไปเข่นฆ่าหรือไม่
"ฝ่าบาท ได้โปรดบอกข้า...บอกหม่อมฉันสักนิดเถิดว่าจะไปที่ใด"
"ก็ที่ที่ข้าบอกว่าจะพามาเจ้ามาอย่างไรเล่า"
ที่ใดกัน…. นางไม่เห็นจำได้