ดวงใจ...เจ้าเฟยหลง
ตอนที่ 7.....อดีตที่ขมขื่น
หลังจากกลับมาจากจวนแม่ทัพของเจ้าเฟยหลง ท่านหญิงเหลี่ยงซู่ก็เก็บตัวอยู่ในห้องหนังสือ ท่านหญิงหยิบหยกสีขาวแกะสลักเป็นตัวหนังสือคำว่า เยว่ ขึ้นมาดูรอบๆตัวอักษรมีการสลักภาพรูปของดวงจันทร์และก้อนเมฆเหมือนกับหยกที่เฉินลู่เหลียนพกติดตัว หยกสลักแบบนี้มีเพียงแค่สามชิ้นเท่านั้น ชิ้นแรกอยู่กับท่านพ่อของนางท่านอ๋องเย่ว ชิ้นที่สองพกติดตัว ส่วนชิ้นที่สามนางให้กับคนๆหนึ่งไป คนๆนั้นคือแม่นมเฉินมารดาของชายผู้เป็นรักแรก แต่ตอนนี้หยกชิ้นที่สามปรากฏขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มันอยู่กับเฉินลู่เหลียน เรื่องราวของสาวใช้นางนั้น ปานแดงที่หลังใบหู หยกสลักรวมทั้งแซ่เฉินทำให้ท่านหญิงน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เรื่องราวในอดีตผุดขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อครั้งที่ท่านหญิงเลี่ยงซู่ยังเป็นธิดาคนเล็กที่มีอายุเพียง 16 ปีของท่านอ๋องเย่วนางได้พบรักกับเฉินหลินบุตรชายของแม่นม เพราะรู้จักและเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก บวกกับความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ความรักผุดขึ้นมากลางหัวใจของสองหนุ่มสาว ความรักครั้งนั้นเต็มไปด้วยความสวยงามและร้อนแรง และเมื่อความรักเรียกร้องเต็มที่ บุตรชายของแม่นมผู้สง่างามกับท่านหญิงผู้สูงศักดิ์จึงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จนกระทั่งก่อเกิดมีชิวิตน้อยๆในครรภ์
แต่แล้วความรักที่หวานปานน้ำผึ้งก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นขมขื่นเมื่อบิดามารดาของท่านทราบเรื่อง ท่านอ๋องเยว่และพระชายาโกรธมากที่ลูกสาวสุดที่รักทำเรื่องที่น่าอับอาย และยิ่งโกรธจัดเมื่อรู้ว่าในอุทรของลูกสาวมีอีกชีวิตอยู่ในนั้น ท่านอ๋องเยว่และชายาจึงตัดสินใจไล่แม่นมเฉินกับลูกชายออกไปจากจวนอ๋อง เป็นการพรากคนรักทั้งสองให้แยกออกจากกัน และพยายามที่จะกำจัดเด็กในครรภ์ของธิดาสาวแต่ทว่าความรักที่มารดามีแต่ลูกจึงไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ท่านหญิงถูกขังเอาไว้ในตำหนัก ไม่ให้พบผู้คน
"ท่านหญิง" เสียงของคนรักที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้ท่านหญิงเลี่ยงซู่ถลามาหาคนรัก
"พี่เฉินหลิน ท่านเข้ามาได้อย่างไร" ท่านหญิงเรียกชื่อคนรักเสียงสั่น น้ำตาไหลออกมามากมายนัก
"ข้าลอบเข้ามาในจวน ประตูห้องของท่านหญิงถูกลงกลอนไว้แน่นหนาเลยทำให้ต้องลอบเข้ามาทางหน้าต่างแทน ท่านหญิงเป็นอย่างไรบ้าง" เฉินหลินถามคนรักด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มกอดหญิงคนรักแน่นคิดถึง เป็นห่วงและสงสารจับหัวใจ
"ข้าไม่เป็นไร พี่ล่ะ พี่เป็นอย่างไรบ้าง แม่นมสบายดีไหม"
"สบายดี ข้ากับท่านแม่สบายดี"
"ข้าคิดถึงท่าน" ท่านหญิงพูดเสียงเครือ น้ำตาไหล คิดถึงคนรักแทบขาดใจ เฉินหลินกอดคนรักแน่น ตนก็คิดถึงนางไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้ามาหา
"ข้าก็คิดถึงท่านหญิง"
"ท่านหญิง ท่านละเมอหรือเจ้าคะ" เสียงของสาวใช้ที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้คู่รักทั้งสองต้องผละออกจากกัน ท่านหญิงเลี่ยงซู่ชี้นิ้วไปยังหลังม่านเพื่อให้คนรักของตนเข้าไปหลบที่นั่น
เมื่อคนรับใช้ออกไปจากห้องแล้ว เฉินหลินก็ออกมาจากที่ซ่อน ชายหนุ่มกอดหญิงอันเป็นที่รักไว้แน่น ถึงเวลาที่จะต้องบอกเรื่องสำคัญแล้ว
" ท่านหญิงฟังนะ ที่ข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญจะบอกกับท่าน"
"พี่เฉินหลินมีอะไรเหรอ"
"ท่านหญิงรักข้าไหม"
"รัก" ท่านหญิงตอบโดยไม่เสียเวลาคิด
"ถ้าอย่างนั้น หนีไปกับข้าได้ไหม" เฉินหลินบอกสิ่งที่ตนต้องการออกมาเสียงเบา เขาต้องทำทุกอย่างให้เงียบและเบาที่สุดเพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและของหญิงอันเป็นที่รักด้วย
"พี่เฉินหลิน"
"ข้ารู้ว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเต็มไปด้วยความลำบาก แต่ข้าสัญญาว่าข้าจะดูแลท่านหญิงให้ดีที่สุด ข้าจะไม่ยอมให้ท่านต้องเหนื่อย ไปกับข้าได้ไหม ข้าพอมีที่นาเพื่อทำมาหากิน ที่นั่นเราจะมีกระท่อมเล็กๆ มีแม่ข้า มีข้า มีท่านหญิงและมีลูกของเราอยู่ที่นั่น ชีวิตอาจจะไม่ได้สุขสบายเหมือนอยู่ในจวนแห่งนี้ แต่ข้าสัญญาว่าจะทำให้ท่านมีความสุขที่สุด ขอเพียงแค่ขยันข้าเชื่อว่าเราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกันได้" ท่านหญิงมองหน้าคนรักน้ำตาไหล
" ข้าจะไปกับพี่ ขอแค่ได้อยู่กับท่าน ต่อให้ลำบากแค่ไหนข้าก็ไม่กลัว และจริงอย่างที่ท่านบอกขอเพียงแค่ขยัน เราต้องรอด ข้าพอจะมีฝีมือเรื่องเย็บปักถักร้อย บางทีสิ่งพวกนี้อาจจะช่วยท่านได้ด้วย" ท่านหญิงบอกคนรัก
"ขอเพียงเราอยู่ด้วยกันเราจะผ่านทุกอย่างไปได้" เฉินหลินพูดด้วยความมั่นคง ส่วนท่านหญิงเลี่ยงซู่พยักหน้าเห็นด้วย
"ขอเพียงได้อยู่กับพี่ ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยากลำบากเพียงไหนข้าก็ไม่กลัว"
"ถ้าอย่างนั้น อีกสามราตรี ข้าจะมารับ ท่านหญิงเตรียมตัวให้ดี" ท่านหญิงพยักหน้ารับรู้
"ข้าจะรอพี่" คู่รักทั้งสองกอดกันแน่น ตอนนี้ทั้งคู่ได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ของเพียงได้อยู่ด้วยกันเท่านั้น
---------------------+
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คู่รักคิดไว้ แผนที่จะหนีไปด้วยกันล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อถูกท่านอ๋องเยว่รู้ทันเสียก่อน ในวันนั้นมารดาของเฉินหลินถูกท่านอ๋องจับเป็นตัวประกัน คู่รักทั้งสองถูกจับได้อีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้โทษของเฉินหลินมีมากเกินกว่าจะอภัย ท่านอ๋องเยว่ลงโทษเนรเทศลูกชายแม่นมให้ไปใช้แรงงานชายแดนที่ทุระกันดาน โดยให้ทหารคุมตัวไปอย่างแน่นหนา ส่วนธิดาสาวท่านอ๋องสั่งกักบริเวณและห้ามให้ใครพบจนกว่าจะคลอด
"พี่เฉินหลิน" ท่านหญิงเรียกคนรักเสียงสั่น ใบหน้าที่สวยหวานมีแต่น้ำตาอยู่เต็มไปหมด ท่านหญิงสะบัดตัวจนหลุดพ้นการจับกุมของสาวใช้และโผเข้าไปกอดคนรักที่ตอนนี้ถูกโบยจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลแน่น ส่วนแม่นมเฉินได้แต่ร้องไห้เพราะช่วยลูกชายไม่ได้เนื่องจากถูกจับกุมไว้แน่นหนา
"ท่านพ่อใจร้าย ท่านพ่อไม่มีหัวใจ" ท่านอ๋องเยว่มองลูกสาวตาเขียว
"เพราะข้ามีหัวใจข้าถึงเป็นเช่นนี้ เจ้าเป็นหัวใจของพ่อ แต่เจ้ากลับทำให้ตัวเองมัวหมอง เท่ากับเจ้าทำลายหัวใจของพ่อ"
"ท่านพ่อ ท่าจะจะตบ จะตี จะด่า จะว่าข้าอย่างไรก็ได้ แต่อย่าเนรเทศพี่เฉินหลินไปเลยนะเจ้าคะ เมืองที่ท่านพ่อให้ไปมันเป็นเมืองชายแดน ทั้งทุระกันดาน ไหนจะมีข้าศึกที่จ้องจะเล่นงานอีกพี่เฉินหลินต้องทรมานแน่ๆ"
"เอาตัวมันไป" ท่านอ๋องสั่งทหารองครักษ์ของตนเสียงเข้ม ไม่สนใจในสิ่งที่ลูกสาวบอก เฉินหลินถูกลากตัวออกไปทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ท่านหญิงพยายามรั้งตัวชายคนรักไว้ แต่ทว่ากลับถูกพระมารดาและสาวใช้แยกตัวออกมา
"ท่านพ่อ"
"น้องหญิง คุมตัวลูกสาวของเจ้าให้ดี เมื่อนางคลอดได้ 1 เดือน นางจะต้องแต่งงานกับท่านอ๋องหวัง นางทำเรื่องเสื่อมเสียมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่นางจะต้องชดใช้ให้เรา" คำสั่งนั้นเหมือนเป็นประกาศิต ท่านหญิงถูกขังให้อยู่แต่ภายในห้องของตน และมีเวรยามเฝ้าอย่างดี
เมื่อถึงกำหนดคลอด ทันทีที่เด็กน้อยลืมตาขึ้นมาดูโลกได้เพียงแค่ สามราตรี แม่กับลูกก็ถูกพรากจากกัน ท่านหญิงร้องไห้ปานจะขาดใจ แต่ไม่มีแรงมากพอที่จะต่อต้าน เนื่องจากท่านอ๋องผู้เป็นบิดาขู่เอาไว้ว่าหากนางขัดขืนลมหายใจของลูกสาวตัวน้อยจะหมดไป นางทำได้เพียงมอบหยกสลัก หยกที่เปรียบเสมือนสิ่งที่ยืนยันความรักของแม่ที่มีต่อลูก และมองลูกน้อยที่ถูกอุ้มหายไปในความมืดปานจะขาดใจเพียงเท่านั้น
สาวใช้คนสนิทบอกเพียงแค่ว่าตอนแรกท่านอ๋องเยว่ต้องการให้สังหารทารกน้อยเสียจะได้หมดเรื่องหมดราว แต่พระชายาขอเอาไว้ ดังนั้นทารกน้อยจึงถูกส่งต่อให้กับแม่นมเฉิน และสองย่าหลานก็ถูกขับออกจากจวนอ๋องสกุลเยว่ในวันนั้นเลย ท่านหญิงไม่ได้ข่าวของทุกคนอีกเลย ตัวท่านเองก็ถูกจับให้แต่งงานกับท่านอ๋องหวัง ท่านอ๋องหวังอายุมากกว่าท่านหญิงร่วม 12 ปี ดังนั้นความเป็นผู้ใหญ่และผ่านโลกมามากกว่าทำให้ท่านเข้าใจและเห็นใจท่านหญิงอยู่มาก ท่านดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่งงานกันได้ไม่ถึง 10 ปีท่านอ๋องผู้เป็นสามีก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ถึงกระนั้นก่อนจะจากไปท่านอ๋องก็ไม่ลืมที่จะฝากฝังบรรดาญาติให้ดูแลท่านหญิงผู้เป็นชายาด้วยก่อนจากไปท่านอ๋องเคยพูดกับท่านว่า
"ข้าอยากให้เจ้ามีความสุข"
"ทุกวันนี้ข้าก็มีความสุขเจ้าค่ะ" ท่านอ๋องยิ้มอ่อนมองหน้าชายาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา
"ข้าป่วยและคงจะอยู่กับเจ้าได้อีกไม่นาน น้องหญิง ระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันเจ้าเป็นชายาที่ดีมาก แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้ายังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่" ท่านหญิงส่ายหน้าช้าๆ
"ไม่มีค่ะ"
"น้องหญิง หลังจากข้าจากไปแล้ว ข้าอยากให้เจ้าทำตามที่ใจของตัวเองปรารถนาบ้าง เจ้าเป็นลูกที่ดีของท่านพ่อท่านแม่ และเจ้าก็เป็นชายาที่ดีของข้า แต่การที่เจ้าเป็นแบบนั้นทำให้ให้เจ้าไม่สามารถทำได้ดังใจปรารถนา ข้ารู้ว่าเจ้านับถือข้า และอยู่กับข้าด้วยใจภักดิ์ หาใช่ด้วยความรักจากหัวใจ"
"ท่านพี่" ท่านหญิงหลบตาสวามีด้วยความรู้สึกผิด
"ข้าเห็นแก่ตัวเกินกว่าที่จะปล่อยเจ้าเป็นอิสระตอนที่ยังมีชีวิต แต่หลังจากที่ข้าตายไปแล้ว ข้าจะขอปลดปล่อยหัวใจของเจ้าด้วย" ท่านหญิงน้ำตาไหลเมื่อฟังจบ รู้สึกผิดต่อบุรุษตรงหน้าอยู่มาก
"ท่านพี่ควรพัก"
"ข้าพูดเรื่องจริงนะ ข้าอยากเห็นเจ้ามีความสุข หลังจากที่ข้าจากไป เจ้าจงตามหาหัวใจที่ขาดหายของตัวเองให้เจอ และใช้ชีวิตหลังจากนั้นให้มีความสุขเถอะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ข้ารู้สึกผิดต่อเจ้าน้อยลง"
"เป็นข้าที่ผิดต่อท่าน เป็นข้าต่างหากเจ้าค่ะ"
ไม่มีใครคาดคิดว่าการพูดคุยกันอย่างเปิดใจในครั้งนั้นจะเป็นการพูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย ทุกวันนี้ท่านเป็นหญิงม่ายที่สุขสบาย มีจวนใหญ่โตและมีรายได้จากการให้เช่าที่นารวมทั้งสมบัติของสามีที่ทิ้งไว้ให้มากมาย แต่ถึงแม้จะสุขสบายแค่ไหน หัวใจก็ไม่เคยลืมชายที่เป็นรักแรกและลูกที่เห็นหน้ากันได้เพียงไม่กี่วันได้เลย และเพราะการที่เป็นถึงชายาท่านอ๋องทำให้ไม่สามารถทำอะไรตามใจตนเองได้ ท่านต้องนึกถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของสามีไว้เสมอ ผ่านมาหลายปี ท่านคิดแล้วว่าชีวิตนี้คงไม่มีเรื่องสะเทือนใจอะไรอีกแล้ว แต่ทว่าวันนี้สิ่งที่ได้พานพบในจวนของเจ้าเฟยหลงทำให้หัวใจที่แสนจะแห้งแล้งรู้สึกมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อคิดถึงตอนนี้น้ำตาของท่านหญิงไหลออกมาไม่ยอมหยุด ทั้งตำหนิที่หลังหูทั้งหยกสลักบอกได้เป็นอย่างดีว่าเฉินลู่เหลียนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกสาวที่พลัดพรากของตนเอง แต่ท่าทางของสาวใช้นางนั้นทำให้หัวใจของท่านสั่นไหว แววตาที่เฉยชาของนางผู้นั้นทำให้ท่านรู้สึกว่าหัวใจเหมือนกำลังถูกบีบแรงๆ