เบาะแสแรกที่เราได้มาคือเมือง 'แรทฟอร์ต' เมืองทางทิศเหนือจากเดิร์กลิน
แรทฟอร์ตคือเมืองขนาดเล็กที่ถูกโอบรอบด้วยเทือกเขาเกือบทุกด้าน สาเหตุเดียวที่ทำให้ผมและแอนต้องดั้นด้นมาจนถึงเมืองที่อยู่ห่างไกลขนาดนี้ก็เพราะระบบแผนที่ของมิชชันแรกชี้เป้ามานั่นเอง
ถึงมีแผนที่และข้อมูลให้ก็ใช่ว่าการตามหาคนจะง่ายดาย ตำแหน่งที่ระบบชี้บอกเป็นเพียงแค่ตำแหน่งคร่าว ๆ เท่านั้น อีกทั้งระบบไม่ได้แสดงตำแหน่งในปัจจุบันเหมือนกับเครื่องติดตาม รายละเอียดของมิชชันบอกว่าตำแหน่งเป้าหมายที่สามารถตรวจหาบนแผนที่จะถูกอัพเดตเป็นระยะ ดังนั้นที่แจ้งอยู่ว่าคนที่ตามหาอยู่ในเมืองนี้อาจจะเป็นข้อมูลของเมื่อหลายวันก่อนก็เป็นได้
"จะเข้าเมืองทางนี้จริงเหรอคะ" แอนถามผมตอนที่พวกเราเหลืออีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงอุโมงค์ยักษ์ที่เป็นทางเข้าออกสำคัญของเมือง
"กังวลอะไรขึ้นมาเหรอ"
"ไม่เห็นต้องถามเลย เราต้องเดินทะลุอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยซอมบีนี่คะ"
"ช่วยไม่ได้นี่นา ทางเข้าออกเมืองนี้มีทางเดียว ตอนที่เชื้อซอมบีระบาด ทุกคนพยายามหนีจากเมืองแล้วก็มาตายกันที่ปากทางเข้านี่แหละ มีซอมบีเยอะก็ช่วยไม่ได้หรอก"
[แฝดสาม #1: สาวซามูไรส่ายหน้า]
[นักสืบตาเดียวสงสัยเรื่องที่เมืองมีทางเข้าออกเดียวจริงหรือไม่]
[ช่างประปาร่างใหญ่มองอุโมงค์มืดมิดด้วยความหวาดกลัว]
"หา! อะไร! มีปัญหาอะไรเหรอ"
ผมโวยวายใส่มายา จอนและบิลลีซึ่งไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ บางทีผมรู้สึกเบื่อระบบตรงนี้แหละ ถึงจะไม่เรียกคาแรคเตอร์ออกมาเลยแม้แต่คนเดียว พวกนั้นก็ยังจับตาดูอยู่ แถมระบบยังปล่อยให้ข้อความแซวแบบไม่มีประโยชน์ปรากฏขึ้นมาได้เสมอ
ความจริงมีวิธีการที่ทำให้ปิดการมองเห็นของพวกคาแรคเตอร์ได้อยู่หรอก แต่ผมจงใจเปิดเอาไว้ ยกเว้นแค่เวลาทำธุระส่วนตัว เหตุผลก็เพื่อให้ทุกคนรับรู้สถานการณ์ปัจจุบันตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ต้องขอแรงพวกเขาให้ช่วย ทุกคนก็จะเข้าใจได้ในทันทีว่าต้องทำอะไรโดยไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งหรือชี้แจง
"มาลุยกันเถอะ" ผมพูดปลุกใจก่อนที่จะเริ่มเรียกทุกคนออกมา
ซอมบีที่อยู่ในอุโมงค์น่าจะมีถึงหลักพัน ผมไม่แน่ใจเรื่องจำนวนแน่นอน แม้ตอนหลังจะลองคำนวณจากคะแนนก็คิดว่าเลขที่ได้ไม่ใช่จำนวนที่แท้จริง เพราะซอมบีสามารถให้คะแนนสูงผิดปกติปะปนอยู่กับพวกที่อ่อนแอ ผมไม่สามารถนำคะแนนที่ได้มาคำนวณย้อนกลับอย่างตรงไปตรงมาได้เลย
ถ้าเทียบระหว่างการปะทะกับซอมบีในเมืองทั้งใหญ่และเล็ก กับการปะทะกับซอมบีในอุโมงค์ ถือว่าประสบการณ์ในอุโมงค์ยุ่งยากน้อยกว่าในเมืองเล็กน้อย อุโมงค์มีข้อเสียเรื่องของความมืดและพื้นที่จำกัดทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องย่ำไปบนศพที่ถูกจัดการไปแล้ว แต่มันก็มีข้อดีตรงที่เราสามารถบีบให้ศัตรูส่วนใหญ่ต้องมาจากทิศเดียวกัน
โชคดีที่คราวก่อนยอมเสียเวลาไปกับการอัพเกรดและเลเวลอัพคาแรคเตอร์มาเยอะ
อลิซาเบธแข็งแกร่งจนน่าขนลุก ไม่ว่าจะปืนหรือการต่อสู้ประชิด เธอก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีอะไรน่าอุ่นใจไปกว่าการรู้ว่ามีหัวหอกแบบเธออยู่ข้างหน้าสุดในกำลังคนที่ต่อสู้อยู่
ค่าสถานะของจอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากอัพเกรด เป็นไปตามที่ผมคาดเอาไว้ เขาเปลี่ยนจากนักสืบมาดดุที่ยังสู้ได้ไม่เต็มที่มาเป็นสายบู๊แบบเต็มขั้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ยิ่งเมื่อให้เขาทำงานคู่กับน้องชายอย่างบิลลีและญาติผู้น้องแบบชาร์ลี สามคนนี้ที่เข้าขากันดีก็เป็นกำลังสำคัญที่ผมไว้ใจให้อยู่ด้านหน้าสุด
"นี่ไม่ได้ทำเพราะอยากช่วยนักหรอก" มายาสะบัดเสียงใส่ผม
"พี่มายาตั้งใจจะบอกว่า พวกเราสามพี่น้องจะช่วยดูด้านหลังให้เอง" เมย์ขยายความสิ่งที่มายาบอก
ผมปล่อยให้มายา เมย์และไมราค่อยระวังหลังให้ ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากมายากลายเป็นสาวขึ้นจากการอัพเกรด เธอก็ยิ่งแสดงท่าทีต่อต้านการทำในสิ่งที่ผมบอก หรือพูดกำกวมคล้ายกำลังประชดประชัน แบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกกันว่าซึนเดเระ แต่ถึงนิสัยจะน่าปวดหัวมากขึ้น แต่ในเรื่องการต่อสู้ ทั้งสามก็เก่งกาจและแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริง
แฝดสามยิงปืนไม่แม่นยำเท่าอลิซาเบธ แต่ในแง่การต่อสู้ระยะประชิด ทั้งสามนี้แทบไม่ได้แตกต่างจากบอดีการ์ดมืออาชีพ โดยเฉพาะ มายา ขณะที่เมย์และไมราซึ่งโตขึ้นอีกจากการอัพเกรดแล้ว พวกเธอเก่งกาจจนคนทั่วไปเทียบไม่ติด
คะแนนกำลังไหลเข้ามา มากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้นในทุกที
ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะเท่าไรนัก แต่ก็ตัดสินใจเปิดเซอร์ไววัลแพ็ควันไปด้วยระหว่างที่เราถอยมาตั้งหลักที่ด้านหน้าอุโมงค์
[คุณได้รับการ์ดนักเลงกระจอก ระดับ R (แรร์)]
[คุณได้รับการ์ดสาวแกลติดสมาร์ตโฟน ระดับ R (แรร์)]
"เยี่ยม!"
"ว้าว คาแรคเตอร์ใหม่ตั้งสองคน"
ยอมรับว่าเห่ออยากลองของใหม่ ผมตัดสินใจเรียกทั้งคู่ออกมาแม้จะไม่ได้คาดหวังเรื่องกำลังรบ
"ขอดูหน่อยนะคะ" แอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"เฮ้ย"