เลข 25 ถ้าเป็นเลขธรรมดาก็คงจะไม่มีอะไร แต่ถ้าเป็นเป็นอายุ เขาจะเรียกว่า 'เบญจเพส วัยแห่งความโชคร้าย'
"ใครเขาเชื่อเรื่องพวกนี้กัน" หญิงสาวบนรถหรูละสายตาจากหน้าจอมือถือ พูดคุยกับพลขับและเลขาฯส่วนตัว
"เรื่องอะไรหรือครับ" พลขับถาม
"เบญจเพส วัยแห่งความโชคร้าย" พัฐสุดาตอบพลางปิดแอปพลิเคชันที่ใช้หาข้อมูลในโทรศัพท์แล้วเปลี่ยนเป็นดูตารางงานในปฏิทินแทน
"มันก็แล้วแต่คนนี่คะว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ" เลขาฯสาวที่มีความเชื่อเรื่องนี้แอบท้วงเจ้านาย เจ้านายไม่เชื่อเธอไม่ว่า แต่เธอเชื่อเพราะเคยผ่านมาแล้ว
"เรื่องโชคลางหลายๆ ครั้งเราก็ควบคุมไม่ได้นะครับ" พลขับวัยกลางคนก็มีความเชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน
"เอ๊ะ แต่จะว่าไป คุณพัฐสุดาจะอายุ 25 ปีแล้วนี่คะ" เลขาสาวฯทักเจ้านายผู้จะเป็นเจ้าของวันเกิดในอีก 3 วันข้างหน้า
"วันครบรอบที่คุณพ่อรับฉันมาเลี้ยงต่างหากถึงจะถูก" เจ้านายสาวอายุ 24 ย่างเข้า 25 พูดท้วงขึ้น จริงอยู่ที่วันนั้นจะเป็นวันเกิดเธอ แต่วันเกิดหรือจะสำคัญเท่ากับวันที่ได้ชีวิตใหม่
"ถึงหมู่บ้านแล้วครับคุณหนู" พลขับจอดรถและปลดล็อกประตูรถ ทำให้การสนทนาเมื่อครู่ต้องจบลง
"ขอบคุณที่มาส่งค่ะ" ถึงเธอจะขับรถเป็น แต่หลายๆ ครั้งก็ต้องพึ่งคนขับรถแบบนี้ก็เกรงใจเขาเหมือนกัน
"ด้วยความยินดีครับ แล้วผมจะรออยู่แถวๆ นี้นะครับ" เมื่อพูดจบ เขาก็ขับรถไปที่บริเวณอื่นเพื่อหาที่จอดรถ
สุดาลงมาจากรถพร้อมกับเลขาฯส่วนตัว แต่เลขาฯของเธอดันมีสายเข้า สุดาเลยเดินเข้าไปในงานก่อน
"คุณสุดา สวัสดีค่ะ" หญิงวัยกลางคนเข้ามาไหว้สวัสดีเธอจนเธอแทบจะไหว้กลับไปไม่ทัน
"สวัสดีค่ะ คุณนิดสบายดีนะคะ"
"ค่ะ ช่วงนี้หมู่บ้านเรามีรายได้เยอะขึ้นมากๆ เลยค่ะ นักท่องเที่ยวเข้ามาชมผ้าไหมของเราเยอะมาก ได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยค่ะ" สีหน้าของหล่อนยิ้มแย้ม
"ได้ยินแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อยค่ะ แต่เหมือนทางเข้าหน้าหมู่บ้านจะลำบากไปนิดนึงนะคะ พึ่งซ่อมไปไม่ใช่หรอคะ" ไม่ใช่ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมีการซ่อมถนนหรอ เธอว่าเธอจำไม่ผิดนะ แต่วัสดุที่ใช้ทำก็ค่อนข้างจะ…
"ใช่ค่ะ แต่พอฝนตกน้ำมันก็ท่วมขัง กัดเซาะจนเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างที่เห็นค่ะ"
นั่นไง มันไม่ได้มาตรฐาน
"เดี๋ยวสุดาจ้างช่างมาให้ก็ได้ค่ะ แต่คงต้องเป็นหลังจากช่วงนี้ เพราะถ้าซ่อมก็ต้องปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน" คงต้องเป็นเธออีกละมั้งที่ต้องจัดการ
"เอาตามที่คุณสุดาสะดวกเถอะค่ะ พวกเรายังไงก็ได้ค่ะ" หญิงวัยกลางคนเดินนำสุดาเข้าไปดูร้านรวงต่างๆ ในหมู่บ้านขนาดใหญ่
หมู่บ้านนี้คือหมู่บ้านทอผ้าไหม เป็นหมู่บ้านใหญ่ที่คนจากหลายๆ จังหวัดจะมารวมตัวกันเพื่อทอผ้าไหมในแบบฉบับของคนถิ่นนั้น โดยมีบริษัทของคุณพ่อของสุดาเป็นผู้ถือหุ้นหลักร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาผ้าไทย ส่วนตัวเธอเป็นตัวแทนคุณพ่อคุมงานในช่วงไฮซีซั่น
"คุณกรชวัลสบายดีนะคะ" เมื่อไม่เห็นบุคคลที่กล่าวถึงก็ต้องถามสารทุกข์สุขดิบผ่านลูกสาว
"คุณพ่อสบายดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นสุดาขอตัวไปดูแบบผ้าหน่อยนะคะ สวยๆ ทั้งนั้นเลย" เมื่อเห็นผ้าไทย เธอก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปชมใกล้ๆ
"ตามสบายค่ะ งั้นดิฉันขอตัวไปจัดการปัญหาตรงนั้นก่อนนะคะ" เธอมองและพยักพเยิดไปยังกลุ่มคนต่างชาติที่ดูท่าจะมีปัญหา แต่ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่อะไร
ซื้อไปสักผืนสองผืนจะดีไหมเนี่ย แต่กับเราคงไม่เหมาะ
สุดายืนอยู่หน้าร้านผ้าเจ้าหนึ่ง เธอชื่นชอบผ้าไทยก็จริง แต่ถ้าอยู่บนตัวเธอคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก ถึงจะคิดว่าไม่เหมาะแต่สุดท้ายก็ซื้อกลับไป 2 ผืน
"คุณพ่อคะ วันนี้หนูไปดูงานที่หมู่บ้านมา เลยซื้อผ้ามาฝากค่ะ" สุดาวางห่อผ้าไหมสีเรียบบนโต๊ะทำงานของนายกรชวัล
"อืม ขอบใจ" พูดเพียงเท่านี้เขาก็จิบกาแฟพลางมองตารางงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พ่อของเธอก็ยังเหมือนเดิม คือ พูดน้อยและไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่
สุดาจึงออกมาจากห้องทำงานของเขาเพื่อนำผ้าที่ซื้อในวันนี้ไปให้เพื่อนสนิทของเธอ
"วันนี้จะฝนตกไหมเนี่ย จู่ๆ คุณพัฐสุดาก็มาหา" ขวัญเย้าเพื่อนสนิท คนอย่างสุดาไม่ค่อยมีเวลามาหาเธอหรอก แค่โทรมาก็ไม่ค่อยจะมีเลยด้วย
"แหม ก็ฉันว่างน่ะสิ แล้ววันนี้ฉันก็ไปตรวจงานที่หมู่บ้านผ้าไทยมา ได้ของฝากมาให้เธอผืนนึง" เธอยื่นห่อผ้าให้เพื่อนสนิทได้ดูลายผ้าได้ถนัดตา
"ผ้ามัดหมี่ลายแคนแก่นคูนนี่นา สวยขนาดนี้แล้วเมื่อไหร่ฉันจะมีโอกาสได้ใส่ล่ะ" เพื่อนสาวคลี่ผ้าออกมาดูลายชัดๆ
"มีอยู่แล้ว โอกาสที่เธอจะได้ใส่" สุดานั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ กับที่ขวัญนั่งอยู่
"จริงสิ อีกไม่กี่วันก็วันเกิดเธอแล้ว ฉันมีของขวัญจะให้" พูดจบ หล่อนก็ลุกขึ้นและรีบขึ้นไปชั้นบนก่อนจะกลับลงมาที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว
ขวัญยื่นกล่องกำไลข้อมือยี่ห้อดังให้แก่เพื่อนสนิท
"ขอบคุณนะ สวยมากเลย" สุดาเปิดกล่องกำมะหยี่และหยิบกำไลคริสตัลขึ้นมาดู
"ดีใจที่เธอชอบ" หลังจากที่ขวัญให้ของขวัญกับสุดา หล่อนก็ต้องรีบบินไปดูงานที่อังกฤษทันที
3 วันผ่านไป จนมาถึงวันเกิดของพัฐสุดา เธอไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน แต่ตอนนี้เธอกำลังเดินเข้าไปในห้องทำงานของกรชวัล
'ของสิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิด หวังว่าลูกจะชอบ' บนกระดาษโน้ตสีขาวมีลายลักษณ์อักษรที่เขียนโดยพ่อของเธอวางอยู่
ใกล้ๆ กับกระดาษนั้นปรากฏให้เห็นเป็นหวีเสียบผมดอกนางแย้มประดับด้วยไพลินสีน้ำเงิน
หญิงสาวที่ได้ของขวัญชิ้นใหม่เดินไปยังห้องของเธอเพื่อลองสวมเครื่องประดับชิ้นใหม่บนหัว เธอม้วนผมเป็นมวยอย่างลวกๆ แล้วเสียบหวีลงไป
หากใส่เครื่องประดับชิ้นนี้ในงานเลี้ยงคงจะดีไม่น้อย
แต่สิ่งนั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อนั่นคือครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้ใส่เครื่องประดับชิ้นนี้ ในชาตินี้
เสียงผู้ประกาศข่าวด่วนดังขึ้นมาผ่านทางวิทยุ และโทรทัศน์ของผู้ที่เปิดเพื่อรับฟังข่าว
เกิดเหตุ รถหรูพลัดตกทางด่วน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เจ็บหนัก 1 ราย ตอนนี้ทราบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ คุณพัฐสุดา จิราวรรณ ทายาทคนเดียวของบริษัทจิราวรรณ ตอนนี้ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนกันอย่างเต็มกำลัง ว่าเหตุการณ์นี้คืออุบัติเหตุหรือไม่
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!