ทิวทัศน์นอกหน้าต่างวันนี้ก็ยังคงมีแต่ป่าไผ่เช่นเดิม ไม่รู้ว่าฉีอันหนิงอยู่มากับวิวแบบนี้ได้ยังไงมาตั้งสิบหกปี
แต่เธอก็ตาบอดมาตั้งสิบหกปีเหมือนกันนี่นา?...
อย่างน้อยเจ้าของร่างนี้ยังมีดวงตามองเห็น โชคดีขนาดนี้ทำไมไม่ออกไปสำรวจโลกกว้างให้สะใจไปเลย...แต่ฟังเรื่องราวชีวิตของนางมาก็ดูน่าสงสาร เช่นนั้นเฮ่อซินหมิงคนนี้จะออกไปทำสิ่งที่นางไม่เคยได้ทำให้แทนเอง
"คุณหนู!…อาหารมาแล้วเจ้าค่ะ" เสียงสดใสนอกห้องของจินหมิงทำให้ความกระตือรือร้นในใจของสาวน้อยจากต่างภพยิ่งพองฟูขึ้น
"เย่! อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ! ต้องกินให้อิ่มแปล้ไปเล้ย!" เฮ่อซินหมิงรีบไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายอย่างว่องไว จินหมิงชะงักฝีเท้าไปครู่หนึ่งแต่เมื่อเห็นคุณหนูตนกลับไปนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยก็ยิ้มหน้าบาน
"วันนี้สดใสจังเลยเจ้าค่ะ"
"แน่อยู่แล้ว ข้าคิดว่าจะออกไปทางลัดเดิมสักหน่อย" สีหน้าตื่นเต้นนั้นทำเอาจินหมิงใจหดเล็กลง
"ไม่…"
"ทางลัดเดิมคือที่ใดกันหนอ?" เสียงทุ้มสดใสของใครบางคนดังขึ้นที่หน้าห้อง
"อ้าว!…ท่านคุณชายรองไป๋ มาทำอะไรที่นี่กันเนี่ย"
สีหน้ากระตือรือร้นและใสซื่อแบบนั้นทำเอาไป๋เฟิงหัวเราะร่า "เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าต้องรับผิดชอบบทลงโทษของข้า?"
เฮ่อซินหมิงตาลุกวาว "จริงสิ! ข้ากำลังถูกทำโทษ ถ้างั้นเอาไว้หลังกินข้าวก็แล้วกันนะ ตอนนี้หิวจัดจนเดินแทบไม่ไหวแล้ว"
ดูนางไม่เหมือนคนที่สำนึกผิดกับความผิดสักนิด ทั้งยังเอาไว้หลังกินข้าวเสียด้วย ชายหนุ่มส่ายหน้าอ่อน ๆ แล้วก้าวไปนั่งตรงข้ามกับสาวน้อยร่างเล็ก
จินหมิงวางถ้วยชามที่มีข้าวสวยเย็นชืดถ้วยหนึ่งกับต้มจืดและผัดผักลงบนโต๊ะตัวเล็ก เมื่อเฮ่อซินหมิงเห็นก็คว้าชามข้าวแล้วตักทุกอย่างราดข้าวโกยเข้าปากอย่างหิวโหย
ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าเหยเกของชายหนุ่มนางก็เอ่ยถามขึ้น " มีอะไรหรือ? ท่านยังไม่ได้ทานข้าวมาใช่หรือไม่"
ชายหนุ่มหลุดหัวเราะอย่างฝืดเฝือน "อาหารแบบนี้มันอะไรกัน เขาเอาอาหารกระต่ายมาให้เจ้าทานรึ!?!"
"อาหารกระต่ายอะไร? นี่มันอาหารคนชัด ๆ ชาวบ้านเขาก็กินกันแบบนี้แหละ" เฮ่อซินหมิงเถียงกลับ
กำลังจะใช้ตะเกียบโกยข้าวเข้าปากแขนก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะคนตรงหน้ายื่นมือมาจับแขนนางไว้
"ไม่ต้องกินแล้ว ไปกันเลยดีกว่า" ชายหนุ่มดึงร่างนั้นให้ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วลากออกไปจากเรือน
"ไม่!…ยังกินข้าวไม่ทันอิ่มเลย ข้าจะไปไหนไม่ได้! ปล่อยข้านะ!!!" เสียงเริ่มออกไปไกลขึ้นทุกที จินหมิงที่ยืนอึ้งรีบเก็บสำรับแล้ววิ่งตามออกไปทันที
......
"นี่ก็เป็นบทลงโทษใช่ไหม? ไม่ให้กินข้าวเช้าเนี่ย แบบนี้มันจะทารุณกันเกินไปแล้วนะ!"
เสียงแว๊ด ๆ ที่ดังตลอดระยะทางทำให้เขาสุขใจไม่เบา " ก็เจ้าต้องรับผิดชอบ...เจ้าเป็นคนบอกเองว่า เจ้าทำผิดเจ้าจะรับผิดชอบ ไม่ใช่หรือ?"
เสียงนั้นเงียบลงไปสักครู่หนึ่งก็ดังขึ้นอีก "แต่ว่า…"
"หากเจ้ายังพูดต่อ คงพลาดโอกาสชื่นชมวิวตามทางแล้วนะ"
เสียงนั้นเงียบลงไปในทันที ดวงตากลมโตนั้นหันไปมองรอบทิศทางอย่างพิศวง "ที่นี่ที่ไหน?!?"
"ในจวนมหาเสนาบดีนั่นแหละ ต่างกับที่เรือนเจ้าลิบลับใช่หรือไม่" ใบหน้านั้นพยักหงึกหงักอย่างตื่นเต้น สายตากวาดไปมองรอบตัวราวกับเด็กน้อยจะได้ออกไปเที่ยว ดูไม่มีความรู้สึกเศร้าสร้อยน้อยใจเลยสักนิด
"ทำไมถนนถึงลอยบนน้ำได้ล่ะ?"
"ก็สะพานอย่างไรเล่า?" ดูท่านางคงไม่เคยก้าวเท้าออกไปไหนเลยจริง ๆ
"นั่นอะไรลอยอยู่บนผิวน้ำ!?!"
"ดอกบัวกับใบบัว เจ้าไม่รู้จักรึ?"
เฮ่อซินหมิงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าช้า ๆ "ดอกบัวที่เขาว่าเกิดมาจากโคลนตมใต้น้ำ แล้วเติบโตขึ้นจนเหนือผิวน้ำใช่ไหม? ดูเป็นดอกไม้ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลยเนอะ"
ใบหน้าที่ไร้เครื่องประทินโฉมหรือเครื่องประดับหรูหราราคาแพง มีเพียงรอยยิ้มสดใสเท่านั้นที่ประดับอยู่บนใบหน้าแต่กลับเจิดจ้าผุดผ่องยิ่งกว่าสตรีที่เขาเคยพบพานมาเสียอีก
"ถูกต้อง"
ทั้งสองเดินเคียงกันมาโดยมีจินหมิงตามหลังห่างไปสองจั้ง บรรญากาศเช่นนี้จินหมิงเพิ่งจะเคยเห็นกับคุณหนูตนเป็นครั้งแรกจึงยิ้มตามไปด้วย
เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็เริ่มเห็นบ่าวที่เดินผ่านไปมาเข้าออกตามตรอกซอกซอยในจวนที่กว้างขวางแห่งนี้ เฮ่อซินหมิงเห็นท่าทางนอบน้อมก้มหน้าลงต่ำเดินกันอย่างเป็นระเบียบเช่นนี้จึงสงสัย "พวกเขาเป็นอะไรน่ะ?"
"เป็นบ่าวรับใช้อย่างไรเล่า?" เขาตอบด้วยความงุนงง สตรีผู้นี้แปลกพิลึกเกินไปแล้ว ราวกับนางเป็นคนหลังเขามาจากไหนถึงไม่รู้จักแม้กระทั่งดอกบัว ดูท่วงท่าการเดินก็ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด เหมือนเด็กน้อยที่กำลังหัดเดินมากกว่า
เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วมองคนที่เดินนำหน้าไปหนึ่งก้าวอย่างสนอกสนใจ "จวนของบิดาเจ้ากว้างใหญ่มาก หากเราไม่รีบละก็ กว่าจะถึงหน้าประตูจวนคงมืดค่ำกันพอดี"
"ไกลขนาดนั้นเชียว?!" หวา!...ต้องรีบหน่อยซะแล้วสิ
เฮ๋อซินหมิงยกกระโปรงสีเขียวอ่อนขึ้นมาเกือบถึงเข่าแล้วก้าวเท้ายาว ๆ ไปอย่างเร่งรีบ ชายหนุ่มหยุดเดินหัวเราะอย่างขบขัน
"ดูนายของเจ้าสิ นางไม่เคยฝึกเรื่องการทำตัวให้เป็นคุณหนูหรืออย่างไร?"
จินหมิงรีบตอบเต็มเสียง "เคยสิเจ้าคะ คุณหนูของข้าได้เรียนเรื่องมารยาทการวางตัว และคุณหนูก็ทำได้เป็นอย่างดี ดีกว่าคุณหนูคนอื่นด้วยซ้ำ..."
"เจ้าดูเหมือนโกหก แต่ก็ดูไม่ได้พูดปด" เขาเอ่ยอย่างฉงนใจ
จินหมิงหน้าตาเริ่มงุนงงเมื่อมองไปยังนายของตน แต่ก็ตอบชัดถ้อยชัดคำ "ข้าน้อยพูดความจริงเจ้าค่ะ แต่ว่า…ตอนนี้ข้าน้อยก็ไม่รู้แล้ว"
ชายหนุ่มอมยิ้มหน้าบาน 'ดูท่าการพานางไปเดินเที่ยวในเมืองคงสนุกเป็นแน่'