อนาตาเซียแม่มดน้อยที่ถูกรับมอบหมายหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่จากราชินีหิมะให้เป็นผู้รวบรวมของวิเศษทั้ง 5 เพื่อกำจัดลูซิเฟอร์ราชาปีศาจ ดังนั้นเธอจึงต้องเดินทางไปยังโลกของคนตายเพื่อตามหาคทาเหนือพิภพที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้
ชีวิตพนักงานแสนธรรมดาของ ‘หงส์’ ต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่ออยู่ๆก็หลุดเข้ามาอยู่ในยุคจีนโบราณที่ระบุช่วงเวลาไม่ได้ เผชิญกับวิบากกรรมต่างๆนานาในบทบาทของ 'จางหงเหยียน' ผู้หญิงปริศนาที่สิ้นลมหายใจต่อหน้าต่อตาก่อนหงส์จะกลายเป็นเธอคนนั้นแทน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเธอคือ 'มารโลหิตแห่งเขาหิมะแดง' ผู้กระหายทำลายล้างยุทธภพเสียอีก!
สำหรับ “ท้องฟ้า” สายฝนคืออ้อมกอดอันอบอุ่น ตั้งแต่เล็กจนโตเธอมักหนีออกไปเล่นน้ำฝนอยู่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่ฝนตก ท้องฟ้าจะรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย ราวกับว่า “ใครบางคน” กำลังโอบกอด ปลอบประโลม และช่วยชะล้างความไม่สบายใจทั้งมวลให้หมดสิ้นไป โดยเฉพาะความเศร้าจากฝันร้ายที่หลอกหลอนเธอมาตั้งแต่เด็ก ภาพหญิงสาวในชุดสีแดงสดเปื้อนเลือดยังติดตาเธออยู่เสมอ ท่ามกลางสายฝนในคืนพระจันทร์เต็มดวง เลือดสาดกระจายไปทุกทิศ แต่หญิงสาวในชุดสีแดงก็ยังคงร่ายรำอยู่ท่ามกลางหยาดเลือดอย่างไม่รู้จักจบสิ้น “ระบำสีเลือด” คือคำที่เธอใช้เรียกความฝันนั้น ความรักที่มีให้ต่อสายฝนและความหวั่นกลัวจากฝันร้ายนี้ผูกพันกับเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ เป็นความผูกพันที่เธอเองก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้ กระทั่งวันหนึ่งสายฝนที่เธอรักก็ไม่ได้มาพร้อมกับเสียงสายฟ้าที่คุ้นชิน แต่กลับมีเสียงบรรเลงลอยคลอมาด้วย ท่วงทำนองประหลาดหากแต่ให้ความรู้สึกแสนคุ้นเคย ท้องฟ้าไม่รู้เลยว่านับตั้งแต่วินาทีนั้นชีวิตของเธอจะไม่อาจเหมือนเดิมได้อีก
“หยุดก่อน.. อย่าเพิ่งไป” “พี่คะ อย่าทิ้งนิดไว้ นิดกลัว” นิรดาร้องเรียกพลางสะอื้นไห้ ร้องเรียกอย่างสิ้นหวัง … “นิดครับ พี่อยู่นี่ นิดไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัว” น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของเดช ทำให้นิรดาพยายามลืมตาอันหนักอึ้งของตนขึ้น ภาพอันเลือนลางเหมือนความฝันปรากฎตรงหน้า นิรดายกมือขึ้นลูบไปที่แก้มสากอย่างอ่อนโยน แล้วก็หมดสติไปเพราะพิษไข้ ความหนาวเหน็บค่อยๆคืบคลานเข้ามา จนเธอพูดเพ้อไม่ได้สรรพ “หนาวเหลือเกิน พ่อค่ะ นิดหนาวเหลือเกิน แม่ข๋า ช่วยนิดด้วย” สิ้นเสียงนิรดา เดชสีหน้าแดงกล้ำ เป็นความผิดของเค้า ถ้าเค้ารู้ว่าร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรงเหมือนทีืเธอชอบแสดงความอวดอ้าง เค้าคงไม่เผลอปล่อยให้เธอตกน้ำ จนล้มป่วยแบบนี้ เค้าต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นเธอได้หนาวตายแน่ “นิดพี่ขอโทษนะ” ไม่พูดเปล่า เดชค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่นิรดาใส่ออกทีละชิ้น จนเหลือแค่บราเซียตัวจิ๋ว ทั้งๆที่พยายามหักห้ามใจแล้ว แต่ผิวขาวอมชมพูราวกับไข่มุกที่ปรากฎตรงหน้า ที่ตอนนี้ซีดเซียวจากการเปียกน้ำเป็นเวลานาน ก็ทำให้เดชแอบกลืนน้ำลาย จากนั้นก็ค่อยๆถอดชุดของตัวเองออกเพื่อหวังว่า ไอความร้อนจากตัวเค้า จะช่วยให้นิรดาอุ่นขึ้น… เดชหลุบสายตาลงแล้วค่อยๆประคองกอดเนื้อแนบเนื้อ ทุกอนูที่ผิวสัมพัสกัน ช่างอุ่น จนนิรดาเผลอขยับเข้าหาร่างหนา นั่นยิ่งทำให้เดชต้องใช้ความอดทนขั้นสุด ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่ามันจะทนได้สักเท่าไหร่กัน
คำว่า เบญจเพส จะปรากฎให้ได้ยินบ่อยครั้งเมื่อคนคนนั้นอายุ 25 ปี เป็นช่วงเวลาที่ชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พัฐสุดา หญิงสาวอายุ 25 ปีบริบูรณ์ในวันเกิดได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่หลังจากตาย เธอได้มาเกิดใหม่เป็นบุตรสาวของขุนนางยศสูงในกรุงเก่าที่ไม่มีอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ไทย แล้วนี่มันเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไปในทางที่ดีหรือร้ายกันแน่!!!