webnovel

แสงตะวันยามอู่

แสงแดดยามกลางวันส่องร้อนแรงหยางเล่ยอี้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาราวยามอู่ (เที่ยงวัน) เป็นเวลาแสงแดดส่องลงตรงกลางกระหม่อมพอดี ไม่รู้ว่าตนเองนอนไม่ได้สติไปกี่ชั่วยามหรือกี่วันกันแน่

หลังจากที่ได้นอนเต็มที่จนตื่นขึ้นมานี้ เขาพบว่าร่างกายตนเองไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรืออยากอาหารมากนัก...ดูผิดปกติไปจากวิสัยเดิมไม่น้อย แม้ว่าปกติแล้วเขาจะไม่ได้กินอิ่มทุกมื้อ หากแต่ผ่านเรื่องราวความเป็นความตายขนาดนี้ย่อมจะต้องแสดงอาการอ่อนเพลียให้เห็นบ้าง

'บางทีนี่อาจเป็นความแข็งแกร่งตามแบบบุรุษผู้กำลังย่างเข้าพิธีสวมกวานเช่นนั้นหรือ'

ขณะที่หยางเล่ยอี้กำลังปล่อยความคิดเรียบเรียงเรื่องราวไปเรื่อย....มือข้างนึงพลางล้วงเข้าไปในอกเสื้อตามความเคยชินพลันสมองของเขาเกิดอาการเย็นวาบเข้าไปจนถึงจุดกลางกระหม่อม

"อะไรกันนี่?"

เสื้อผ้าบนตัวหยางเล่ยอี้ยามนี้จากชุดบัณฑิตธรรมดากลายเป็นเป็นชุดนักโทษสีสกปรก ตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยทำความผิดเลยสักครั้ง แล้วเช่นนี้จะมาสวมชุดนักโทษนี่ได้อย่างไร?

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวอย่างเล่ยอี้ลูกตาเบิกกว้างเพ่งมองมือเท้าตนเอง ที่บัดนี้มีปุ่มนูนด้านสากเห็นได้ชัดคล้ายเป็นมือผู้ฝึกยุทธ!!

"นี่ใช่มือของข้าหรือนี่?...นี่ไม่ใช่มือของข้า!"

นิ้วมือเรียวยาวขาวสะอาด แม้มีร่องรอยบาดแผลน้อยใหญ่อยู่บ้าง แต่ก็ดูผิดไปจากมือของคนใช้แรงงานสามัญ ฝ่ามือทั้งสองข้างมีตุ่มด้านอยู่ทั่วฝ่ามือเหมือนผู้ฝึกยุทธ ไม่ใช่เพียงแค่มือเท่านั้นหากแต่สัดส่วนร่างกายยังแฝงมัดกล้ามกำยำสวยงามได้รูปกว่าร่างเดิมของเขาเสียอีก

"นี่ไม่ใช่ตัวข้าเช่นนั้นหรือ?.....นี่ร่างผู้ใด?"

ในคำภีร์วิญญาณมักมีคำอธิบายเรื่องเวียนว่ายตายเกิด มนุษย์ยามดับสิ้นอายุขัยลงแล้วนั้น...วิญญาณสามารถล่องลอยออกไปจากร่างเดิม.....เตรียมเดินทางสู่ภพภูมิใหม่เมื่อข้ามลำน้ำซานถูจะได้พบสะพานไน่เหอ

สองยมทูติแห่งโลกวิญญาณ "ไป๋อู๋ฉางและเฮยอู๋ฉาง" ทำหน้าที่มารับเอาดวงวิญญาณเหล่านั้นเพื่อใปยังยมโลกตัดสินกรรมดี-กรรมชั่ว ตามแต่บุคคลนั้นได้กระทำ หมดสิ้นกรรมก็ส่งข้ามสะพานไน่เหอเพื่อดื่มน้ำแกงยายเม่งลบความทรงจำเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง

เมื่อตั้งสติคิดได้จนกระจ่างแจ้ง...สองคุณชายที่ได้พบนั้นคือยมทูตประจำโลกวิญญาณและเขาเพิ่งรอดชีวิตกลับมาจากการล่องเรือชมแม่น้ำยมโลก

ร่างจริงของหยางเล่ยอี้วิญญาณคงตายออกจากร่างเดิมไปแล้ว จึงได้พบเจอและร่วมเดินทางไปกับยมทูตทั้งสองที่ล่องเรือผ่านมา....ลิขิตชีวิตของหยางเล่ยอี้ครานี้ไม่ง่ายเสียแล้วราวกับสวรรค์ลิขิตไว้ ทุกความทรงจำทุกอย่างของหยางเล่ยอี้บัณฑิตตกยากจากขุยโจวติดตัวมาด้วย

จับพลัดจับผลูวิญญาณฟื้นมาอยู่ในร่างผู้อื่นเช่นนี้ ซ้ำร้ายบุคคลผู้นี้มีสถานะเป็นนักโทษ!! หากสวรรค์ส่งวิญญาณเขามาผิดร่างเช่นนี้แล้วยามนี้ร่างเดิมของเขาอยู่ที่ใด?

ความคิดอัปลักษณ์อย่างหนึ่งวิ่งผ่านเข้ามาในหัวหยางเล่ยอี้...เช่นนั้นหรือว่าเขาตกลงมาพร้อมสมุนโจรผู้หนึ่งแล้ววิญญาณกลับเข้าร่างผิดไปหรือไม่?

คิดได้ถึงตรงนี้.....หยางเล่ยอี้พลันขนลุกซู่จนเนื้อตัวสั่นสะท้านสองขาออกวิ่งกลับไปที่ลำน้ำหมายจะค้นหาร่างเดิมของตนที่อาจจะจมอยู่ที่ไหนสักแห่งละแวกนี้ ในใจนึกตำหนิตนเองที่ไม่ตั้งสติพิจารณาให้ดีก่อนหลับไปเมื่อคืน หากเป็นไปดังที่ตนคิดไม่แน่ว่าโจรผู้นั้นอาจฟื้นขึ้นมาแล้วขโมยร่างของเขาหนีหายไปเป็นแน่

ยังไม่ทันได้ลงหาในผืนน้ำเบื้องหน้าอย่างที่ตั้งใจ สายตาหยางเล่ยอี้สะดุดเข้ากับภาพสะท้อนบุรุษผู้มีรูปโฉมงดงามดั่งแสงตะวันกลางยามอู่อยู่บนผิวน้ำใสเย็น และบุรุษรูปโฉมงดงามผู้นั้นกำลังสวมใส่ชุดนักโทษ ผิวเนื้อหมดจดใบหน้าคมคายทั้งยังแฝงแววหยิ่งผยอง ดวงตาพยัคฆ์สีดำสนิทคู่นั้นกำลังจ้องมองหยางเล่ยอี้เช่นกัน

ทุกคำตอบพลันแจ่มชัดตรงหน้าจนไม่อาจปฎิเสธความจริงในที่สุด ไม่มีผู้อื่นในสถานที่นี้อีกแล้ว ไม่มีสมุนซ่องโจรคนอื่นอีก มีแต่ตัวเขาผู้เดียวเบื้องล่างอารามซานเป่าเตี้ยน....คิดได้ดังนี้หยางเล่ยอี้ได้แต่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ริมฝั่งน้ำเอาแต่จ้องมองเงาสะท้อนบุรุษเจ้าของรูปโฉมดั่งแสงตะวันยามอู่ผู้นี้เงียบเชียบ

".....แปดส่วน....ท่านเหมือนข้าแปดส่วน อีกสองส่วนที่เหลือข้าไม่ได้เป็นจอมยุทธเหมือนท่านและข้าก็ไม่ได้เป็นนักโทษ"

--------------------------

โปรดติดตาม