51 ตอนที่ 51 : ผัดกะเพรารวมมิตร – 3

เจเจกลับมาถึงห้องก็เจอปลาวาฬนั่งกินมาม่าอยู่

"ทะเลาะกันเหมือนจะชิงรางวัลนาฏราช ไอ้สัด เล่นใหญ่นะมึงเนี่ย"

ตอนแรกก็เป็นห่วงอยู่ดี ๆ พอเห็นความฉิบหายของเพื่อนขึ้นมาทีนี่อารมณ์ดีเป็นปลากระดี่ได้น้ำ เขาล่ะอยากจะเอาภาพนอนซมเป็นหมาโดนยาเบื่อมาปรินต์แล้วแปะรอบบ้านให้สำนึก ปลาวาฬตอนนี้ส่งสายตาวิบวับมาเป็นการล้อเลียน ท่าทางคงจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยละเอียดแล้ว ทะเลาะกันเสียงดังเสียด้วย

"ไม่อะ กูอยากได้สุพรรณหงส์มากกว่า"

เขาตอบอย่างกวนตีน เรื่องทุกอย่างจบลงตรงที่พนักงานส่งอาหารมาถึง เมธัสเองก็คงจะสุดกลั้นกับอารมณ์สารพันแล้วจึงเดินหนีกลับไป้

"กูชอบฉากขยำกระดาษแล้วเขวี้ยงใส่มึงมาก แต่เสียดายแม่งปาไม่แม่น ชนประตูรั้วกระเด็น อดได้ซีนสวย ๆ เลย แย่ ๆ"

ท่าทางไอ้ปลาวาฬจะไปยืนดูอยู่นานไม่น้อย เพราะตอนที่เมธัสกลับไป ฝ่ายนั้นขยำใบลาออกทิ้งแล้วบอกเสียงดังว่าไม่อนุมัติ แต่ก็อย่างที่ไอ้เพื่อนตัวดีบอก ปาไม่แม่นไปหน่อย ก้อนขยุมก็เลยตกอยู่แถวนอกประตู พนักงานส่งของดูจะอึ้ง ๆ เล็กน้อย เขาเลยบอกไปว่ากำลังถ่ายละครคุณธรรมลงติ๊กต๊อกอยู่

"มึงนี่คิดมากจังวะ"

อยู่ดี ๆ ไอ้ปลาวาฬก็กลายร่างกลับมามีสภาพคืนชีพ เขาหรี่ตามองอย่างสนใจ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เชฟโอบมาง้อมันเหรอ ทำไมดูไม่ค่อยดราม่าแล้ววะ แต่ปากก็ยั้งไว้ทัน ไม่กล้าถาม ถ้าถามไปแล้วกลายร่างกลับไปเป็นซอมบี้แบบเก่าจะกู้ศพยากกว่า ปล่อยให้เป็นสภาพกวนตีนแบบนี้ไปก่อนก็ดี

"ข้าวมาถึงปากแล้วก็แดกไปก่อนปะ ไม่อร่อยก็ไม่ต้องกินต่อ หน้าตาก็หล่อนะเว้ย รวยด้วย ถึงแม้ว่านิสัยจะดูเหี้ย ๆ ไปหน่อยก็ตาม"

ปากหนอปาก นี่ไม่ได้ฟังความในใจพระเอกที่พร่ำพรรณนาไปร้อยแปดพันเก้าเมื่อกี้เลยหรือไง เป็นเพื่อนพระเอกภาษาอะไรไว้ไอ้ปลาวาฬ ห่วยจริง ๆ

"ชอบก็แดกเองสิ นิสัยรวยอะ"

"มาให้กูแดกกูก็แดกหมดอะ"

ปลาวาฬยักไหล่แบบกวนประสาท รู้ดีว่ามันก็แค่พูดไปงั้นแหละ คนอย่างมันมีคนเข้าหาเยอะก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ว่าฟันไม่เลือก ความจริงเขาก็แอบอยากรู้ว่าไอ้ปลาวาฬเนี่ย ถ้าลงเอยกับเชฟโอบแล้วจะฟันหรือโดนฟันกันแน่ แต่ก็อย่างว่า เขาควรจะหยุดเสือกเรื่องบนเตียงของชาวบ้านก่อน

"แล้วนี่เป็นเชี่ยอะไรขึ้นมา เมื่อกี้ยังนอนเป็นผักเน่าคาแผงอยู่เลย อยู่ดี ๆ ก็เสือกลุกขึ้นมาต่อปากต่อคำได้ ไปโดนตัวไหนมา ไหนบอกกูซิ"

เจเจเอื้อมมือไปผลักหัวเพื่อนตัวดีอย่างหมั่นไส้ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ถาม แต่จนแล้วจนรอดก็อดไม่ได้ เผื่อเชฟโอบกลับมาง้อมันจริง ๆ แล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งปลอบใจให้เก้อ

"พอดีเมื่อกี้ไปดูละครเวทีที่รัชดาลัยมาว่ะ ไดอะล็อกแม่งดี ฟังแล้วก็คิดอะไรได้หลายอย่าง คนเขียนบทแม่งใช้ได้อยู่นะ กูนี่นับถือเลย"

ยิ้มนั่นกวนส้นเท้ามาก

"บทเชี่ยไรมึง"

"ก็ไม่มีใครรู้อนาคตไง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอแล้วเปล่าวะ คิดอะไรกับชีวิตเยอะแยะ"

ปลาวาฬยักไหล่ อาการมันดูเหมือนจะคิดได้จริง ๆ เหมือนตอนแรกมันจมน้ำอยู่ แล้วก็มีใครสักคนไปจิกหัวมันขึ้นมามีอากาศหายใจ ท่าทางมันช่างดูปลอดโปร่งเสียเหลือเกิน เออ ถ้าเป็นเพราะเรื่องแค่นี้จริงก็คิดน้อยสมกับเป็นไอ้ปลาวาฬไร้สมองจริง ๆ นั่นแหละ สิ่งที่แปลกคือสภาพดราม่านอนซมมากกว่า นั่นแหละตัวปลอม

"กูดราม่าพอแล้วว่ะ กูว่ากูก็ทำดีที่สุดแล้ว คิดมากไปก็ปวดหัว"

"เออ ไอ้สัด ค่อยสมเป็นปลาวาฬที่กูรู้จักหน่อย"

เขาเดินไปตบไหล่มัน ก่อนจะเลื่อนมือไปโอบไหล่มันไว้ พวกเขาสองคนนั่งกันอยู่บนโซฟายาว ไอ้ปลาวาฬก็ยกมือขึ้นมาโอบไหล่เขาไว้ด้วย ไป ๆ มา ๆ เหมือนจะกลายเป็นต่างฝ่ายต่างปลอบใจกันและกัน เออ ดีว่ะ พอความฉิบหายมาถึง แม่งก็ยังเหลือเพื่อนคอยอยู่ข้าง ๆ

"เอาไงดีวะ ตกงานคู่เลยมึง"

เจเจพูดขึ้นอย่างขำ ๆ แกะข้าวราดหมูทอดทงคัตซึขึ้นมากินกันคนละกล่อง ไอ้ปลาวาฬกินเป็นห่าลง เหมือนมันจะกินเพื่อชดเชยเวลาทั้งหมดที่ขาดความอยากอาหารไปก่อนหน้า ปากของมันถามไม่หยุดว่าจะสั่งอะไรอีกบ้าง มันจะสั่งอาหารเข้ามาเพิ่ม

"สงสารกล้ามมึงบ้างเหอะ จะเหลือแต่พุงแล้วเนี่ย แดกไม่หยุด"

"เอาน่า กูนอนตายซากมาหลายวัน แดกแค่นี้ไม่อ้วนหรอก"

พูดไปก็สวาปามไป แค่ไม่กี่นาทีข้าวทงคตซึก็หมดกล่องเรียบร้อย เขาหันไปมองหน้า ถ้ารู้ว่าจะกินเยอะขนาดนี้ก็สั่งของถูก ๆ มากินสิวะ ข้าวทงคตซึมันแพงนะเว้ย ช่วยกินอย่างพิถีพิถันหน่อย คนยิ่งตกงานอยู่ด้วย

"รู้ตัวด้วยนะว่าตัวเองเป็นศพ ไอ้ห่า"

เจเจด่าแบบขำ ๆ ส่ายหัวไปมา พอจะหายก็หายง่ายหายไวเป็นปลิดทิ้ง สมกับเป็นปลาวาฬเพื่อนรัก สมองน้อย ซับซ้อนไม่มาก

"สรุปจะเอาอะไรไหม ไม่งั้นกูจะกดสั่งละนะ"

เจเจนิ่งไปอย่างยังนึกไม่ออก ความจริงเมื่อกี้ก็คิดอยากกินอะไรหลายอย่างเหมือนกัน แต่พอเจอซีนสุพรรณหงส์ไป ความอยากอาหารหายกลับบ้านเก่าไปหมด เมธัสทำเอาท้องอืดกินอะไรไม่ค่อยจะลงไปเลย เขาจิ๊จ๊ะในปากหลายทีอย่างคิดไม่ออก สุดท้ายก็เลยคิดว่าจะสั่งแบบอีกคนเอา

"แล้วมึงสั่งอะไร ?"

"ผัดกะเพรารวมมิตร"

คนที่นั่งข้างตอบออกมาด้วยท่าทีเฉย ๆ จนเขาต้องหันกลับมาไปมองให้ชัด เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่แล้วผัดกะเพรายังเป็นคำต้องห้ามของมึงอยู่เลย ตกลงมึงเป็นปลาวาฬหรือปรสิตเนี่ย เปลี่ยนสีเปลี่ยนอาการไวเหลือเกิน เสียเวลาปลอบใจฉิบหาย ถ้ารู้ว่าจะหายได้เองแบบนี้ ปล่อยให้นอนตายจมเตียงไปเลยดีกว่า เปลืองน้ำลายจะปลอบ

"ไหนบอกเลิกแดก"

"กะเพราสำคัญกว่าผู้ชายโว้ย" ปลาวาฬพูดพร้อมทำท่าหมายมั่นปั้นมือ "อกหักกี่ร้อยครั้งกูก็จะยังเป็นผัดกะเพราเลิฟเวอร์โว้ย"

ไอ้เพื่อนรักพูดแล้วชูมือขึ้นอย่างกับผู้แข่งขันรายการทีวีแชมเปี้ยน

"เออ ค่อยสมกับเป็นเพื่อนกู"

เขายื่นมือไปขยี้หัวเพื่อนรักอย่างสบายใจ ไม่ว่าอะไรจะผ่านไป ทั้งเขาและมันก็จะอยู่ตรงนี้ซึ่งกันและกันเสมอ โชคดีเหลือเกินที่ไม่ว่าอะไร มันก็ยังคงอยู่

"เผื่อกูกล่องนึงแล้วกัน แดกเป็นเพื่อนมึง ฉลองเพื่อนตัวเองคืนชีพ"

เจเจพูด ปลาวาฬพยักหน้าและกดสั่งรายการอาหารไป ร้านโปรดของมันอยู่แถวจุฬา น่าจะรอสักพักกว่าจะมาถึง ส่วนไอ้ของก่อนหน้าที่สั่งมาก็หมดเกลี้ยงแล้ว

"มึง กูคิดอะไรดี ๆ ออกแล้วว่ะ"

อยู่ดี ๆ ไอ้เพื่อนตัวป่วนก็พูดขึ้นมาเหมือนยูเรก้า เจเจหันไปมองอย่างไม่ค่อยอยากจะไว้ใจนัก คิดอะไรได้แต่ละทีมีแต่เรื่องประหลาดชวนปวดหัว

"อะไร ?"

"งานใหม่ของพวกเราสองคนไง"

"อะไรวะ ?"

เขาตอบไปแบบงง ๆ คนหนึ่งเป็นนายแบบ อีกคนหนึ่งเป็นนักกายภาพบำบัด มันจะมีอะไรมาเป็นส่วนร่วมในการประกอบอาชีพร่วมกันได้

"กูจะเปิดร้านผัดกะเพรา"

"เหี้ยและ

เจเจสบถออกไปโดยกระแสประสาทแทบจะยังไม่ผ่านสมอง นึกภาพเพื่อนตัวเองเป็นเชฟ และประเด็นคือมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย เขาทำอาหารไม่เป็นโว้ย

"วันก่อนกูคุยกับคุณมีน เขาบอกกูนะว่าถึงแม้ว่าร้านซึ่งเป็นอาคารกับที่ดินจะเซ้งให้เมธัสหมดแล้ว แต่สิทธิ์ในชื่อ กะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาว ยังเป็นของกู กูเปิดได้ ไม่ผิดกฎหมาย"

ตอนแรกก็ต่อต้านแบบหัวชนฝา แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนคิดแล้วเขากลับเอะใจอย่างไรบอกไม่ถูก หันไปมองหน้ามันชัด ๆ จ้องลึกไปในแววตา จับให้มั่นคั้นให้เจอความจริงที่ซ่อนไว้

"มึงจงใจใช้ชื่อนี้"

"ใช่"

"ทำไม ?"

"ก็ชื่อมันดังไง เปิดปุ๊บคนจะได้มากินเลย ไม่ต้องเสียเวลาทำการตลาดมากมาย ของมันมีแบรนด์โว้ย มีฐานลูกค้าเก่า"

"อย่าโกหก"

เจเจยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเพื่อนอย่างคาดคั้น ไอ้ปลาวาฬนะไอ้ปลาวาฬ กูคบกับมึงมากี่ปีแล้ว มึงโกหกกูไม่สำเร็จหรอก ไอ้ไก่อ่อน

"ไม่ได้โกหก"

"โอเค ถ้าไม่พูดความจริงกับกู กูไม่ช่วย"

"เออ กูยอมรับก็ได้ กูจะเปิดร้านผัดกะเพรา กูจะทำให้มันดัง กูจะทำให้เชฟเห็นว่ากูไม่ได้ต้องการแค่เงิน แต่กูรักผัดกะเพราจริง ๆ พอใจมึงหรือยังล่ะ ?"

"รักผัดกะเพราหรือรักเชฟ ?"

เขาถามพร้อมเสียงหัวเราะคิก ไอ้ปลาวาฬไม่หน้าแดง แต่หูนี่แทบจะกลายเป็นสีลูกกระดิ่งบนต้นคริสต์มาส เอาวะ เพื่อนเขามันใช่เล่น

"เออ กูก็รักแม่งหมดนั่นแหละ"

avataravatar
Next chapter