webnovel

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์

เรื่่องราวของสาวโสดมนุษย์แม่ลูกสามอายุห้าสิบสองปีที่เธอได้รับพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อเพียรบำเพ็ญศีลและธรรมจนบรรลุตอนอายุสามสิบห้าปี พรคือยิ่งแก่เธอจะยิ่งสาวขึ้น กับพระเอกละครไทยชื่อดังอายุสี่สิบสี่ปีที่ยังโสดเพราะรอคอยรักแท้ หลังจากแม่ของเธอตายเมื่อสองปีก่อนทั้งสองมักฝันว่าอยู่ด้วยกันแบบคู่รักเสมอๆทั้งที่ไม่เคยพบกันพวกเขาจึงไม่สามารถติดตามหากันได้ จนกระทั่งเขาประกาศผ่านสื่อออนไลน์ให้หญิงสาวที่ชอบเขาจีบเขาก่อนได้เขาอยากสร้างครอบครัวแล้ว เธอถูกดวงวิญญาณของแม่ชักนำให้พิมพ์ใบสมัครส่งไปถึงDMส่วนตัวของเขาในคืนฮาโลวีนซึ่งสะดุดตาเขาให้กดอ่านจนจบแล้วตามหาเธอเจอเพจของเธอ โดยเขาคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามีเสน่ห์น่าสนใจมากเขาจึงเฝ้าติดตามดูเธอเงียบๆ ส่วนเธอก็สนทนากับเขาทุกวันโดยการเล่าและบ่นเรื่องต่างๆให้เขาฟังทำให้เขามีความสุขและชอบเธอมากจึงสร้างเพจปลอมเป็นผู้หญิงเพื่อขอเป็นเพื่อนและสนทนาเรื่องเป็นแฟนคลับของเขากับเธอเสมอ เรื่องราวของคนทั้งคู่ที่อยู่คนละมิติสังคมแต่เชื่อมโยงกันได้จริงในเวลานอนหลับลึก แต่กว่าจะได้พบกันผ่านการพิสูจน์รักแท้ที่เชื่อมต่อมาจากอดีตชาติเรื่องชุลมุนวุ่นวายสุดที่จะคาดเดาได้จึงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาใช่คู่แท้ทางจิตวิญญาณที่เฝ้ารอคอยกันจริงหรือไม่โปรดติดตาม,,,,,,

DaoistD7FIet · Fantasy
Not enough ratings
53 Chs

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์ : ตอนที่ 28 แต่เก่าก่อน

" ..เขาค่อยค่อยก้าวย่างอย่างช้าช้า

มองเบื้องหน้าอย่างคาดคะเนหมาย

ทางที่ท่องใช่จะสะดวกดาย

ต้องปีนป่ายสูงชั้นดั้นลงลึก

..ที่เหนื่อยอ่อนรอนแรมมาหนักหน่วง

ที่ถูกถ่วงบ่าไหล่ได้รู้สึก

มันมิอาจเป็นไปดั่งใจนึก

ทั้งวันคืนดื่นดึกในทางเดิน

..เห็นกลุ่มหมอกขาวหม่นแผ่เป็นม่าน

ดอกไม้บานชูช่อข้างโขดเขิน

นกร่อนเริงฟ้าใส- ไกลเหลือเกิน

ณ เหนือเนินลำเนาเพริศเพราตา

..เห็นสายธารเรื่อยไหลในความเงียบ

ยังเย็นเยียบย่ำไปในดงหญ้า

มองย้อนหลังยังย่านที่ผ่านมา

คือวันวัยเวลาอันแน่นอน

..ทอดความหวังวาบลงตรงพรุ่งนี้

เป็นภาพแต่งแต้มสีแต่เก่าก่อน

จักต้องเห็นเป็นจริงทุกบทตอน

สะกัดเหตุรุ่มร้อนอย่างสุดฤทธิ์

..เพื่อและเพื่อคุณค่าซึ่งเสาะค้น

ได้ส่งผลผ่องผุดสุจริต

เป็นรางวัลมอบไว้ให้ชีวิต

สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นสร้างด้วยมือคน "

( จาก บทกวี ของ: อาจารย์ประเสริฐ จันดำ )

ขณะที่เท้าทั้งสองของณนนท์ ก้าวตามหลังพระธุดงค์รูปนี้ไปเรื่อยๆ นั้น

พระเอกหนุ่ม ย้อนคิดถึงบทกวีบทหนึ่งในหนังสือที่เขาพึ่งอ่านเมื่อไม่นานมานี้

" ดูเอาเถิด..... นี่ชีวิตของเราจำเป็นต้องมาขออาศัยญาญบารมี

จากพระธุดงค์ผู้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แน่แท้แล้ว จริงๆ รึนี่? "

เขาถามตัวเองในใจผู้เดียว และมีความรู้สึกเชื่อมั่นอย่างบอกไม่ถูกว่า

: ปริศนาแห่งเหตุการณ์แปลกประหลาดในยามเขานอนหลับสนิทนั้น!!

น่าจะเริ่มมีแสงสว่างให้เขาได้เริ่มเดินคลำทางเพื่อไปพบคำตอบที่แท้จริงของมันจนได้

พระภิกษุผู้เลือกการจาริกเพียงลำพัง ซึ่งเป็นผู้มีความสงบสำรวมอยู่ในทุกอิริยาบท

อย่างน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนักรูปนั้น เดินไม่ช้าไม่ไวไปเรื่อย ๆ ตามหาดทราย

ลัดเลาะไปจนถึงมุมโค้งของพื้นที่บนเกาะเต่า ที่ซึ่งเป็นเนินเขาลูกเล็ก ๆ

สูงขึ้นไปจากชายหาดที่ทอดยาวสุดลูกตา

ท่านเดินขึ้นไปบนเนินเตี้ยๆ พื้นที่ซึ่งมีต้นไม้ขนาดพอดี ๆ สำหรับห้อยกลด

ที่รวบมัดเอาไว้บนกิ่งอันใหญ่แข็งแรงของต้นไม้อย่างเรียบร้อย โดยบริเวณข้างใต้

กลดของท่านนั้น มีที่นั่งซึ่งปูไว้ด้วยผ้าเก่า ๆ สีกลักทรงสี่เหลี่ยม

เมื่อท่านเดินไปถึงกลดของท่าน ๆ ก็เอ่ยวาจาขึ้น

โดยไม่ได้หันหลังกลับมามองดูผู้ที่เดินติดตามท่านมาตลอดทาง ว่า

" นั่งพักก่อนนะโยม อาตมาขอฉันภัตตาหารก่อน แล้วค่อยสนทนากัน "

ณนนท์ รีบนั่งลงคุกเข่าแล้วพนมมือไหว้ท่าน

อย่างรู้มารยาทที่ดีงามของการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี

" เอ่อ.. คงไม่เป็นการรบกวนพระคุณเจ้าใช่ไม๊ขอรับกระผม ? "

พระเอกคนดัง รีบเอ่ยถามอย่างเกรงอกเกรงใจ

" ถ้าเรื่องนั้น มันคือสิ่งที่จะต้องมาหาเรา หลีกหนีไม่พ้น

คำว่ารบกวน ย่อมไม่ใช่เหตุผล มิใช่ดอกรึ! คุณโยม? "

พระสงฆ์ผู้มีจริยาวัตรอันน่าเลื่อมใส ซึ่งคาดเดาอายุของท่าน

จากสายตาไม่ได้รูปนี้ ได้นั่งลงแล้ววางบาตรของท่านไว้ด้านหน้า

ณนนท์ นั่งพับเพียบเรียบร้อยรอ จนกระทั่งพระภิกษุท่านฉันภัตตาหาร

เรียบร้อย หลังการก้มกราบสามครั้ง เมื่อท่านได้ให้พรจบลง

" เอาหละ! คุณโยมมีปัญหาสิ่งใดจะถามก็ถามมาได้ "

พระสงฆ์ เป็นผู้เอ่ยวาจาขึ้นมาก่อน พร้อม ๆ กับจ้องมองมายังชายหนุ่มรูปงาม

ดุจดั่งเทพบุตรกรีกจำแลงกายเพื่อมากราบอยู่ตรงหน้าของท่าน ในบัดนี้

ในดวงตาของท่านผู้เจริญซึ่งมีความสงบ สมถะ สันโดษเป็นเข็มทิศชีวิตอันแน่แท้

มีแววแห่งความรอบรู้หยั่งลึกเข้าไปถึงความคิดในใจของณนนท์

" ขอรับท่าน กระผมฝันแปลกประหลาดมากๆ ขอรับ

ฝันหลายครั้ง ต่างสถานที่ในตอนนอนหลับ เป็นความฝันที่เหมือนความจริงมาก!!

มากจนผมรู้สึกเหมือนไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริงของผมจริง ๆ ขอรับ

แล้ว.. เอ่อ! กระผมยังได้มาพบกับ เอ่อ...ผู้หญิงคนนึง!! เมื่อวานนี้เอง

พบเป็นครั้งแรกที่เกาะเต่านี้อีกด้วยขอรับ คือ... พระคุณเจ้า พอจะมีคำแนะนำใด

แก่กระผมหรือไม่ขอรับ? เช่น กระผมควรต้องทำอย่างไรต่อเหตุการณ์ประหลาดนี้ ขอรับ ?"

" จิตของคนเราเป็นพลังงาน พลังงานคือสิ่งที่ไร้ตัวตน

คือไม่มีรูป แต่จิตมีอยู่จริง! และสามารถเดินทางไปไหนมาไหน

ก็ได้.... คุณโยม เชื่อ.. ในสิ่งนี้หรือไม่? "

พระสงฆ์สมณะรูป ผู้ซึ่งเดาอายุขัยที่แท้จริงของท่านได้ยากยิ่งนัก

หากประเมินจากการมองเห็นด้วยสายตาเพราะท่านดูเหมือนผู้อยู่ในวัยกลางคน

ตอนปลายคือประมาณ 45 ถึง 50 ปี แต่เมื่อสบตาของท่าน พร้อมทั้งสังเกตุ

อากัปกิริยาต่างๆ แล้ว ณนนท์แอบคิดเงียบๆ ว่า ท่านอาจจะมีอายุถึง 60 ปี

ขึ้นไปแล้วก็เป็นได้ เนื่องจากท่านดูมีภูมิความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างลึกซึ้ง

" กระผมเชื่อขอรับ เพราะกระผมชอบอ่านหนังสือและชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์

คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ล้วนเป็นข้อธรรมะ

ที่สามารถทดลองและพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้จริง เช่นกัน

แต่... เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับกระผมนี่สิ! ขอรับ

มันหมายความว่า จิตของผมออกเดินทางไปพบเจอสิ่งเหล่านี้จริงๆ

อย่างนั้นดอกหรือขอรับ ท่าน? "

พระเอกหนุ่ม รีบตั้งคำถามที่ค้างคาในใจของตนทันทีที่มีโอกาสพูด

" อาตมาภาพขอตอบว่า เป็นไปได้เช่นนั้น รวมทั้งเป็นการจดบันทึกของจิต

เป็นพันธะสัญญาแห่งจิตจากอดีตชาติ ที่ยังคงหมุนวนอยู่ในวงจร

แห่งสังสารวัฎฏะนี้ จนกระทั่งได้โคจรมาบรรจบกัน ณ ห้วงเวลาที่พอดีกัน "

พระธุดงค์ ผู้มีท่าทางสำรวมสงบนิ่งจนเป็นปกติวิสัยของท่าน มองสบตา

กับสายตาที่กำลังกระหายใคร่รู้ในคำตอบแห่งปริศนาความฝัน หรือที่ท่าน

เรียกมันว่า : เป็นการเดินทางไปมาของพลังงานคือ จิต!!!!

ก่อนที่ ณนนท์จะได้มีจังหวะเอ่ยปากถามท่าน อีกครั้ง สมณะรูป

ผู้น่าเคารพเลื่อมใสอย่างแท้จริงท่านนี้ ก็เอ่ยต่อไปว่า.....

" คุณโยม ไม่ต้องวิตกกังวลใจใดๆ ให้มากนัก

กับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นและได้พบเห็น อาตมาภาพมีคำแนะนำ

อันไม่เป็นการไปก้าวล่วงต่อเส้นทางแห่งชะตากรรมของผู้ใดในโลกนี้

แก่คุณโยม คือ : ทุกสิ่ง ทุกคน และทุกอย่าง คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากพันธะสัญญา

แห่งความรัก ความผูกพัน สายใยแห่งกุศลความดี ที่เคยเกื้อกูลกันมา

ตั้งแต่ชาติก่อนๆ หรือที่เรียกว่า "กรรม ที่เป็นกุศลกรรม " ก็ได้

คุณโยมจะรู้เอง เห็นเอง และตัดสินใจได้เอง เมื่อถึงเวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่าง

เกิดขึ้น.. ดำเนินไป.... ตามครรลองที่กรรมกำหนดมาแล้ว นั่นเอง "

ณนนท์ รู้สึกถึงพลังงานซาบซ่าน.... บางพลังงาน!! ไหลซู่ ๆ ๆ ๆ....

ลงสู่ต้นคอ เรื่อยลงไปตามบ่าและลำตัวตลอดร่างกายของเขา

เป็นกระแสของความเย็นระรื่นเหมือนมีสายลมพัด แต่ในบริเวณเนินเตี้ยๆ

ที่เขานั่งพับเพียบพนมมือสนทนากับพระสงฆ์ผู้เจริญ อยู่ขณะนั้น

ไม่มีลมพัดใดๆ เพราะยอดหญ้าเล็กๆ ก็ยังสงบนิ่ง ไม่ไหวติง!!

พระเอกละครทีวีชื่อดัง เจ้าของฉายา: ลมหายใจแห่งเอเชีย

มีคำถามมากมายเหลือเกิน อัดแน่นอยู่ในใจและความคิดของเขา

ที่ซึ่งอยากจะเอ่ยถามขึ้นมา แต่แล้ว!! เมื่อเขาสบตาทั้งคู่ เข้ากับดวงตา

อันสงบนิ่ง สำรวม ดูลึกล้ำ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตเมตตาธรรมของพระภิกษู

ที่ไม่เคยรู้จักกัน? ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของกันและกัน??

เขากลับพูดไม่ออก.... บอกไม่ได้ อีกต่อไป...???????

ณนนท์ จึงทำได้เพียงการเปลี่ยนท่านั่งเป็นคุกเข่าขึ้น แล้วก้มลงกราบ

พระสงฆ์ผู้เจริญ 3 ครั้ง อย่างเคารพนอบน้อมต่อพระคุณแห่งพระรัตนตรัย

พระคุณเจ้า ผู้นั่งขัดสมาธิอย่างสง่าผ่าเผยรูปนั้น หัวเราะ หึหึ!! ในลำคอ

ดวงตาของท่านมีประกายความเอ็นดูต่อพระเอกคนดัง เสมือนท่านรู้ถึงความคิด

จิตใจข้างในของเขาจนหมดสิ้น แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอ่ยปากออกมาได้อีก

" จงมีสติอยู่เสมอ จงเลือกทำ ในสิ่งที่ถูกต้อง

ไม่เบียดเบียนผู้ใดรวมทั้งตัวเอง เมื่อศีลห้าของตัวเรา

ได้เพียรระมัดระวังและรักษาให้สะอาดบริสุทธิ์ อยู่เสมอ แล้วนั้น

การตัดสินใจใดๆ ในวันข้างหน้า ทุกสิ่ง ขอให้ซื่อสัตย์ต่อจิตใจของตนเอง

ถึงเวลาได้พบ ก็ต้องพบ ถึงเวลาได้เลือกกระทำ ก็ต้องเลือกกระทำ

กาละย่อมไม่เที่ยง หมุนมาแล้ว ย่อมหมุนจากไป

ผู้รู้จักคุณค่าแห่งกาละ ย่อมกล้าคิดตัดสินใจ

ต่อสิ่งที่เราเองสามารถกำหนดให้ดีที่สุดได้ ในภพชาตินี้ เจริญพร "